spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 412 ให้อาหาร
เสียงจางจึเทาเพิ่งเงียบลง เราก็ได้ยินแค่เสียงดัง “ ปัง ”
จู่ๆในสระเลือดแห่งนั้นก็มีสัตว์ประหลาดตัวยักษ์โผล่ออกมา เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วทุกสารทิศ
เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนั้นสูงประมาณสองเมตร ทรงกระบอก ไม่มีตาไม่มีจมูก ตัวดำเหมือนท่อนไม้ไม่มีผิด
มันเพิ่งพุ่งออกมาจากสระเลือด หัวก็แยกออก หลังจากนั้นเราก็เห็นเถาวัลย์หนามสีดำเส้นเล็กๆพุ่งตามมาติดๆ
เถาวัลย์พวกนั้นเล็งไปที่กวางซีกาสองตัว ที่กำลังดิ้นอยู่ในสระเลือด
เถาสีดำเล็กๆเหล่านั้นมีขนาดเล็กกว่านิ้วก้อย แต่สิ่งที่แปลกคือ พวกมันกลับเหมือนงูพิษ พอเข้าไปใกล้
มันก็อ้าปากออกมา หรือแม้แต่แยกเขี้ยวให้เห็นอีกด้วย
เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว เถาวัลย์ปีศาจพวกนั้น ก็พันรอบตัวกวางซีกาแล้ว
เถ้าวัลย์ปีศาจแต่ละเส้นต่างอ้าปากออกมา แล้วกัดกินร่างกวางซีกาแบบเต็มปากเต็มคำ เพิ่งผ่านไปแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น ตัวกวางซีกาก็โดนกัดกินจนเป็นรูหลายพันรูแล้ว
เถาวัลย์ปีศาจพวกนั้น เข้าไปในตัวกวางซีกาผ่านจมูกของพวกมัน เป็นภาพที่น่าสยองสุดๆ
พวกเราทุกคนต่างตกตะลึง ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
นี่มันตัวบ้าอะไร พืชเหรอ หรือจะเป็นงู
ผมไม่เคยเห็นเจ้าตัวนี้มาก่อน หรือแม้แต่ไม่เคยได้ยินเรื่องราวของมัน
ในเวลาเดียวกัน ผมก็เริ่มกลัวขึ้นมา
เมื่อกี้ผมยังอยากเข้าไปทำลายเจ้าดอกไม้ประหลาดนั้นอยู่เลย แต่ตอนนี้ดูเหมือน มันจะไม่ง่ายอย่างที่ผมคิดแล้ว
ก่อนอื่น ต้องปลดผนึกรูปปั้นหินนั้นก่อน จากนั้นยังต้องเผชิญหน้ากับเถาวัลย์ปีศาจพวกนี้อีก
ในขณะที่ผมกำลังตกใจและสงสัย จางจึเทากลับหัวเราะ “ ฮ่าๆๆ ” ออกมา ทำหน้าตื่นเต้น จากนั้นก็โบกมืออีกครั้ง
พอสมุนผอมดำที่อยู่ข้างหลังเห็นสัญญาณนั้น เขาก็พูดกับสหายที่อยู่ข้างๆว่า “ คายมนต์ให้พวกมัน แล้วโยนลงไปซะ ”
“ ครับ ! ”
สาวกไม่กี่คนขานรับ จากนั้นก็แยกย้ายคลายคาถาให้คนเหล่านั้น
คนพวกนั้นเพิ่งโดนประทับฝ่ามือลงไป ตาที่เคยดูพร่ามัว ก็ค่อยๆกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
“ ที่ ที่นี่ที่ไหน ? ” หนึ่งในคนที่ได้สติคนแรกพูดขึ้น
แต่ไม่รอให้เขาเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น สาวกคนนึงก็ถีบมาที่ตัวเขา “ ลงไปเดี๋ยวแกก็รู้เอง ! ”
“ อ้า ” ใครคนนั้นกรีดร้องออกมา เขาตกลงไปในสระเลือด
เพิ่งโผล่หัวขึ้นมาได้ เถาวัลย์ปีศาจสีดำพวกนั้นก็เล็งไปที่ใครคนนั้น แล้วพุ่งเข้าใส่เขาทันที
ยังไม่ทันได้ร้องออกมา เขาก็โดนเถาวัลย์รัดตัว ยกขึ้นไปบนฟ้า แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นอาหารของเถ้าวัลย์ปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วน
พอคนอื่นที่โดนคลายมนต์สะกดแล้วเห็นภาพนี้ ก็มีปฏิกิริยาเช่นกัน
พวกเขาแต่ละคนร้อง “ กรี๊ด/เฮ้ย ” ออกมาทันที หนึ่งในนั้นมีผู้หญิงด้วย เธอตกใจจนทรุดตัวนั่งลงกับพื้น
“ ปี ปีศาจ ! ”
“ หนี หนีเร็ว ! ”
คนธรรมดาพวกนั้นตื่นตัวขึ้นมาทันที พอเห็นเหตุการณ์น่าสยดสยองแบบนี้ มันก็ทำให้พวกเขาตกใจหนักมาก
แต่พวกเขาจะหนีจากเงื้อมมือหมอผีพวกนี้ได้เหรอ ผลลัพธ์เพิ่งวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว พวกเขาก็โดนจับกลับมาแล้ว
พวกเขารู้ดีแก่ใจ คนพวกนี้ต้องโยนพวกเขาลงไปในสระเลือด ให้เจ้าเถาวัลย์ปีศาจนั้นกินแน่ๆ
แต่ละคนหวาดกลัวสุดขีด หรือแม้แต่ร้องขอชีวิตอย่างต่อเนื่อง แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร
พอเห็นภาพแบบนี้ ผมก็กัดฟันอย่างแรง อยากจะออกไปช่วย หรือแม้แต่มือที่กำลังกำดาบไม้อยู่ ก็มีเส้นเลือดปูดออกมาให้เห็น
เหมือนเหล่าเฟิงที่อยู่ข้างๆจะรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ เขาก็เลยเอื้อมมือมาจับมือผมเอาไว้
ผมเห็นเหล่าเฟิงจับมือผม ผมเลยหันไปมองเขา
เหล่าเฟิงกลับทำหน้าตาจริงจัง และยังส่ายหน้าให้ผม
เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ผมเข้าใจดีว่าเขาต้องการบอกอะไร
เหล่าเฟิงกำลังเตือนผมว่าใจเย็นเข้าไว้ อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม
สถานการณ์ในตอนนี้ หากพวกเราโดนจับได้ อย่าว่าแต่เอาน้ำลี่ลั่วออกไปเลย ตัวเองจะเอาชีวิตรอดได้หรือเปล่า ก็ยังไม่รู้เลย
พอถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่ช่วยคนพวกนี้เลย แม้แต่ตัวเองก็อาจจะโดนผลักลงไปด้วย
ผมเข้าใจเรื่องนี้ดี ดังนั้นเลยได้แต่อดทน ข่มไฟโทสะในใจเอาไว้
นอกจากผม ฉู่ยเฉิงจิงที่อยู่ข้างๆก็มีอาการเดียวกัน เธอมีสีหน้าแย่สุดๆ
ในฐานะศิษย์ของสำนักฝ่ายธรรมะ พวกเขาย่อมต้องโดนปลูกฝังให้กำจัดปีศาจ ปกป้องชีวิตผู้คน
ตอนนี้คนธรรมดาตรงหน้ากำลังโดนหมอผีชั่วทำร้าย แต่กลับออกไปช่วยไม่ได้ ความรู้สึกแบบนั้นเลยแผดเผาทรมานเธอสุดๆ
แต่ ทุกคนก็ทรมานแล้วทรมานเล่า และโมโหแล้วโมโหอีก
ขณะเดียวกัน กลับยังมีสติหลงเหลืออยู่ ทุกคนเข้าใจดีว่าตอนนี้ต้องอดทนเท่านั้น ออกไปเปิดเผยตัวตนไม่ได้เด็ดขาด
ผ่านไปไม่นาน คนที่เหลือก็โดนสาวกพวกนั้นโยนลงไปในสระเลือด
เถาวัลย์ปีศาจพวกนั้นยังคง กอดรัด กัดกิน สูบเลือดในร่างของพวกเขาทุกหยด
ท้ายที่สุด แม้แต่กระดูกของคนพวกนั้น ก็โดนกลืนกินจนหมด พวกมันกินจนไม่เหลือซาก
ฉากที่สยดสยอง อยู่ในสายตาของพวกเราตั้งแต่ต้นจนจบ เราตัดสินใจจะกำจัดองค์กรตาผีให้สิ้นซาก
นี่ยังเป็นแค่สาขาย่อยสาขาใหม่ขององค์กรตาผีเท่านั้น และเรายังเจอเป็นครั้งคราว
พระเจ้าทรงรู้ว่าองค์กรชั่วนี้ มีสาขาย่อยเท่าไหร่ มีวิธีทำร้ายคนแบบนี้เท่าไหร่ และพวกมันฆ่าคนตายไปกี่คนแล้ว
การมีอยู่ขององค์กรชั่วพวกนี้ เป็นการแหกกฎของสวรรค์ และเป็นหายนะของผู้คน
หลังจากเถาวัลย์ปีศาจนั่นกินเสร็จ มันก็กลับไปที่เดิม หลังจากเจ้าแท่งนั้นกลับลงไปในก้นสระเลือด
ต่อจากนั้น เหมือนตัวดอกไม้จะสั่นสองสามครั้ง ท่าทางเหมือนจะสบายตัวมาก จากนั้นก็มีควันสีขาวโพยพุ่งออกมาจากเหนือหัวของมัน
ในเวลาเดียวกัน สระเลือดที่เคยสั่นไหว ก็กลับมาสงบอีกครั้ง
แต่ใครจะรู้ สมุนตัวผอมดำที่อยู่ข้างๆจางจึเทา กลับเอาธงเรียกวิญญาณออกมา
เขาทำพิธีในถ้ำ “ กลับมากลับมา อย่าคิดว่าจะได้ออกไปไหนทั้งนั้น วิญญาณอย่างพวกแก เป็นขยะที่ใช้งานได้ อีกเดี๋ยวฉันจะเอาพวกแกไปสังเวยลงในสระผีข้างนอกอีกรอบ ไม่แน่เราอาจโชคดี ได้พวกแกมาเป็นทาสผีตัวใหม่ก็ได้ ”
สมุนผอมดำคนนั้นสะบัดธงไปพูดไป เห็นได้ชัดว่ากำลังได้ใจสุดๆ
ส่วนพวกคนที่โดนกินไปก่อนหน้านี้ ก็กลายเป็นวิญญาณมายืนอยู่ข้างๆเขา
ตอนนี้พวกเขา เหมือนขาดจิตวิญญาณ ไม่แสดงสีหน้าใดๆทั้งสิ้น
พอจางจึเทาเห็นแบบนั้น ก็ไม่ได้สนใจ
เพียงพูดกับคนสองคนที่ทำพิธีเปิดวงเวทย์ว่า “ พอแล้ว ปิดวงเวทย์ได้ ”
พอทั้งสี่คนได้ยินคำพูดนี้ ก็เริ่มเสกคาถาอีกครั้ง แล้วพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกัน “ หลิน ปิง โต้ว เจอะ เจีย เจิ้น เลี่ย เฉียน ฉิง ปิด ! ”
หลังจากพูดจบ ดวงตาของรูปปั้นสัตว์ประหลาดหินทั้งสี่ตัว ก็มีแสงประหลาดสว่างขึ้นอีกครั้ง
หลังจากนั้น ม่านแสงก็ปรากฎขึ้นอีกครั้ง
หลังจากม่านแสงปรากฎขึ้น แสงตรงดวงตาของรูปปั้นหินก็หายไป
ต่อจากนั้นตรงหน้าอกของรูปปั้นหิน ก็มีอักษรคำว่า “ ผนึก ” สีดำปรากฎขึ้น
หลังจากคำว่า “ ผนึก ” ปรากฎขึ้น สมุนทั้งสี่คนนั้นถึงได้ชี้นิ้วไปที่ท้องของรูปปั้น
นิ้วเพิ่งออกจากตัวรูปปั้น อักษร “ ผนึก ” สีดำนั้นก็เริ่มจางลง และเลือนหายไปจากสายตาทุกคน
ม่านแสงจางๆนั่น ก็หายไปเช่นกัน
พอจางจึเทาเห็นแบบนั้น ก็ทำท่าสูดหายใจเหมือนคนเป็น “ โอเค ดอกไม้วิเศษกินอิ่มแล้ว พวกเราออกไปดูข้างนอกกันเถอะ ”
หลังจากพูดจบ เขาก็กำลังจะหมุนตัวออกไป
แต่เพิ่งหมุนตัวกลับ เขาก็หยุดนิ่งอยู่กับที่ พร้อมพูดกับเจ้าผอมดำข้างๆว่า “ อือใช่ เรื่องขนหินลี่ลั่วไปยังแท่นบูชาหลักพรุ่งนี้ เตรียมการเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือยัง ? ”
“ นายน้อยวางใจได้ขอรับ จัดการเรียบร้อยหมดแล้ว ตอนนี้ข้าน้อยเก็บเอาไว้ในถ้ำชั้นที่สาม และยังมีคนเฝ้าอย่างแน่นหนา ไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอนครับ ” สมุนผอมดำตอบกลับทันที
จางจึเทาพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ ดีมาก หินลี่ลั่วเป็นหินมหัศจรรย์ น้ำลี่ลั่วที่สกัดออกมาก็เป็นของล้ำค่ามาก ฉันไม่อยากให้เกิดปัญหากับเจ้าของสิ่งนี้เลยสักนิด ”
“ นายน้อยกังวลเกินไปครับ ที่นี่มียามเฝ้าอย่างเข้มงวด ใครจะกล้าเข้ามาละครับ และใครจะไปรู้ว่าเรามีหินลี่ลั่วอยู่ ” สมุนผอมดำพูดต่อ
หลังจางจึเทาได้ยิน ก็เผยสีหน้าพอใจออกมา แล้วพยักหน้าเล็กน้อย “ ก็จริง…… ”