หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 409 ยามผี

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 409 ยามผี

เราไม่กล้าช้าเกินไป เพราะกลัวว่าจะโดนจับได้

ดังนั้นถึงจะเป็นหน้าผาที่สูงสี่สิบห้าสิบเมตร พวกเราก็ต้องเร่งความเร็วยิ่งกว่าเดิม

 

ใช้ช่องว่างหน้าผาและเถาวัลย์เป็นตัวกันชน ไม่อย่างนั้นพวกเราอาจล่วงลงไปได้

แต่อาจเป็นเพราะรีบเกินไป พวกเราเพิ่งไต่ลงไปได้ครึ่งทาง เถาวัลย์ที่ฉู่ยเฉิงจิงจับเอาไว้กลับขาดขึ้นมากลางคัน

 

ฉู่ยเฉิงจิงตกใจ อยากจะคว้าผาหินข้างๆเอาไว้ เผื่อจะช่วยไม่ให้เธอตกลงไปได้

ผลลัพธ์เธอกลับช้าไปครึ่งก้าว ตัวเธอล่วงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว

 

ในวินาทีนั้น ฉู่ยเฉิงจิงตกใจจนหน้าถอดสี เธอกรี๊ดออกมาทันที “ อร๊าย ”

แต่ในช่วงเวลาวิกฤตนั้น ผมเอื้อมมือเข้าไปอย่างรวดเร็ว คว้ามือเธอเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างนึงก็จับเถาวัลย์เอาไว้แน่น

 

วินาทีที่ผมคว้ามือเธอเอาไว้ได้ทัน ฉู่ยเฉิงจิงก็เงยหน้าขึ้นมามองตามสัญชาตญาณ

ตอนเห็นผม เธอกลับพบว่าผมกำลังยิ้มอยู่ ในเวลาเดียวก็พูดออกมาว่า “ ระวังหน่อย มีเถ้าวัลย์ที่ตายแล้วค่อนข้างเยอะ ! ”

 

พอฉู่ยเฉิงจิงได้ยินผมพูดแบบนั้น สีหน้าก็ดีขึ้นมาทันที เธอฉีกยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็เอื้อมมือไปจับเถาวัลย์ข้างๆ “ ขอบใจมาก ”

พอเห็นฉู่ยเฉิงจิงทรงตัวได้แล้ว ผมถึงได้ปล่อยมือจากเธอ

 

เดิมทีคิดว่าไม่มีอะไร แค่ไต่ลงไปตามปกติก็พอ

แต่ใครจะรู้เสียงกรี๊ดของฉู่ยเฉิงจิงเมื่อกี้ กลับดึงดูดซากศพสองตัว

 

ดูเหมือนประสาทการมองเห็นของเจ้าตัวนี้จะไม่ค่อยเท่าไหร่ พวกมันใช้จมูกดมกลิ่น เข้ามาใกล้พวกเราขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันก็ส่งเรียงร้อง “ คาๆๆ ” ออกมาเป็นครั้งคราว

 

เหล่าเฟิงเห็นเหตุการณ์นี้เป็นคนแรก เขารีบพูดกับจิ้งจอกน้อยที่อยู่ข้างล่างทันที “ มีซากศพซ้ายมือ ”

เสียงเหล่าเฟิงไม่ดังมาก แต่หูจิ้งจอกน้อยกลับดีผิดปกติ

 

พอได้ยินเสียงของเหล่าเฟิง เสี่ยวเหมยก็หันไปทางซ้ายอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็เป็นเหมือนลูกธนู 

พุ่งออกไปทันที

มือคนคู่นั้น แปลเปลี่ยนเป็นอุ้งเท้า

 

ไม่รอให้ซากศพสองตนนั้นเห็นเสี่ยวเหมย เสี่ยวเหมยก็กระโดดขึ้น กรงเล็บคู่นั้นเหมือนดาบคมๆเล่มหนึ่ง

“ ฉึกฉึก ” มันตรงเข้าที่หัวของสองศพ

 

ซากศพสองตัวนั้นยังไม่ทันได้ทำอะไร หัวของพวกมันก็แยกออกเหมือนแตงโมที่โดนผ่า

เสี่ยวเหมยเยือกเย็น หลังจากจัดการซากศพทั้งสองตัวเสร็จแล้ว เธอก็เก็บมือ กลับมาเป็นมือคนอีกครั้ง

 

เมื่อเห็นภาพนี้ พวกเราก็อดถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกไม่ได้

จากนั้นพวกเราก็ไต่ลงไปต่อ ผ่านไปประมาณสองนาที พวกเราถึงได้ลงมาอย่างปลอดภัยและตามไปที่

เสี่ยวเหมยอยู่อย่างรวดเร็ว

 

แต่ตอนที่พวกเราไปถึงตรงที่เสี่ยวเหมยอยู่ กลับต้องพบกับเรื่องที่น่าตกใจ

ซากศพสองตนที่เสี่ยวเหมยเพิ่งจัดการไปเมื่อกี้ ตอนนี้กลับมีสภาพที่เปลี่ยนไป

 

พวกมันกลายเป็นซากศพแห้งๆดำๆ บนตัวยังมีขนขาวๆยาวๆงอกออกมา เหมือนกับรากไม้ไม่มีผิด

นอกจากนี้ บนศพพวกนั้น ยังมีแมลงรูปร่างคล้ายหนอนออกมาไต่ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด

 

“ นี่ นี่คือศพสองตัวเมื่อกี้เหรอ ? ” จู่ๆเหล่าเฟิงก็พูดขึ้นมา เขาดูค่อนข้างตกใจ

ผมเองก็ขมวดคิ้ว ไม่เคยเห็นสภาพแบบนี้มาก่อน ตายก็ตายไปซิ ทำไมถึงได้เปลี่ยนสภาพกลายเป็นศพแห้งเร็วขนาดนี้ แถมตรงนี้ใกล้ๆกับพื้นดิน ยังมีของที่รูปร่างคล้ายรากงอกออกมา หรือแม้แต่ยังมีหนอนน่าขนลุกพวกนี้เต็มไปหมด

 

เสี่ยวเหมยพยักหน้า “ ใช่ กลังจากที่พวกมันตายได้ไม่นาน ตัวก็เริ่มแห้ง มีของที่คล้ายรากงอกออกมา แล้วก็มีหนอนพวกนี้ สุดท้ายก็กลายเป็นแบบที่เห็น ! ”

“ น่าขยะแขยงชะมัด ” ฉู่ยเฉิงจิงอดพูดขึ้นมาไม่ได้

 

“ ใช่น่าขยะแขยงจริงๆ เรามีเวลาไม่มาก รีบไปกันเถอะ ! ” ผมพูด แม้จะสงสัย แต่ก็ไม่มีเวลามายืนดูอยู่ตรงนี้

พอได้ยินผมพูดแบบนั้น ทุกคนก็ไม่คิดจะอยู่ต่อ แยกย้ายเดินออกไปจากสองศพนี้ แล้วไปต่อตามแผนทันที

 

ตำแหน่งที่พวกเราอยู่ในตอนนี้ คือป่าแห่งหนึ่งในหุบเขา

หลังจากเดินผ่านป่ามาได้ประมาณ 10 นาที พวกเราก็เห็นสถานที่ผีพวกนั้นมารวมตัวอยู่ไกลออกไป

 

ตรงนั้นมีผีดิบ ศพเดินได้ ผีชุดขาว และยังมีพวกสัตว์ประหลาด

แต่พวกเราไม่กล้าเข้าไปใกล้ เลยต้องเปลี่ยนทาง อ้อมไปอีกด้านหนึ่งของถ้ำ

ผ่านไปไม่นาน พวกเราก็มาถึงปากถ้ำ

 

ตรงปากถ้ำ มีความสูงประมาณสี่ห้าเมตร กว้างประมาณสองสามเมตร ด้านบนสุดมีอักษรสลักเอาไว้สองสามคำ “ ที่พำนักเนตรศักดิ์สิทธิ์แห่งเขาเขี้ยวหมาป่า ”

 

เดิมทีมันก็ไม่มีอะไร แต่เรากลับพบว่า ตรงหน้าปากถ้ำ มีผีสองตัวเฝ้ายามอยู่

พวกมันยังอยู่ในชุดขาว เนื้อตัวขาวซีดตัวแข็งทื่ออย่างกับรูปปั้น

 

เหมือนกับหุ่นไม่มีผิด ยืนอยู่หน้าปากถ้ำไม่ขยับไปไหน

เมื่อเห็นแบบนั้น พวกเราก็ย่อตัวลง ในเวลาเดียวกันก็ได้ยินผมพูดว่า “ นี่น่าจะเป็นทาสผี 

สมุนขององค์กรตาผี ถ้าพวกเราอยากเข้าไป ก็ต้องคิดวิธีจัดการพวกมันก่อน ! ”

 

“ พลังชั่วร้ายของวิญญาณสองตัวนี้ไม่แรงมาก แถมยังอยู่ในชุดขาว จัดการพวกมันไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าพวกเราร่วมมือกัน ต้องจัดการได้ง่ายๆแน่ๆ แต่ถ้าผลีผลามออกไป คงมีเสียงดังไม่น้อย แล้วสุดท้ายก็จะเปิดเผยตำแหน่งของพวกเรา ” ฉู่ยเฉิงจิงพูด เป็นปัญหาที่ค่อนข้างยุ่งยาก

 

เสี่ยวเหมยกลับพูดว่า “ ฉันเข้าใกล้ผีตัวนึงแบบไม่ส่งเสียงได้ และยังจัดการเจ้าตัวนั้นได้อีกด้วย ส่วนอีกตัว พวกนายต้องหาทางจัดการเอง ! ”

 

สำหรับความสามารถของเสี่ยวเหมย พวกเราไม่สงสัยอย่างแน่นอน

แต่เธอจัดการได้ตัวเดียว แล้วอีกตัวละจะทำยังไง

 

ต้องทำยังไงถึงจะเข้าใกล้อีกฝ่ายแบบไม่ส่งเสียงได้ แล้วฆ่ายามอีกตัวได้ในเวลาเดียวกัน

ถ้าเป็นคนก็ว่าไปอย่าง แต่อีกฝ่ายดันเป็นผีนี่ซิ

 

ถึงพวกเราจะใช้ยันต์ปิดลมหายใจ ปิดกั้นลมหายใจและพลังหยางในตัวของพวกเราได้ แต่มันก็มันปิดเสียงฝีเท้าของพวกเราไม่ได้

 

ถ้าพวกเราลงมือฆ่ายามทั้งสองตัวตาย แต่ดันทำให้เกิดเสียงดังขึ้น หรือเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น พวกทาสผีหรือสาวกในฐานนี้ก็จะแตกตื่นมากกว่าเดิม

 

แบบนั้นผลที่ตามมาต้องร้ายแรงอย่างแน่นอน พอถึงเวลานั้นอย่าว่าแต่ขโมยน้ำลี่ลั่วเลย แม้แต่หนีออกไปจากที่นี่ ก็เป็นปัญหาทั้งนั้น

เพื่อคิดวิธีที่รอบคอบ ช่วงเวลานั้น ทุกคนต่างทำหน้าครุ่นคิด

 

ผมดึงหน้าลง ถามตัวเองไม่หยุด ทำยังไง ทำยังไงดี

ทันใดนั้นเอง ก็มีแสงแวบเข้ามาในหัวผม

ถ้าพวกเราเข้าใกล้ไม่ได้ งั้นก็อาจ ให้อีกฝ่ายเข้ามาหาพวกเราแทนซิ

 

แบบนี้ พวกเราก็ไม่ต้องทำให้เกิดเสียง และยังทำให้อีกฝ่ายเข้ามาในรัศมีสังหารของพวกเรา แล้วฆ่ามันได้ตรงๆ

พอคิดได้แบบนี้ ผมก็ดีใจขึ้นมาทันที

 

รีบพูดกับคนอื่นๆว่า “ ในเมื่อพวกเราเข้าไปใกล้ไม่ได้ งั้นก็ให้พวกมันเข้ามาหาพวกเราแทนซิ ”

“ เข้ามาหาพวกเรา ? ” เหล่าเฟิงพูดด้วยความสงสัย

 

“ ใช่ ให้พวกมันเข้ามาหาเราแทน ! ” ผมพูดต่อ

“ ติงฝาน จะเป็นไปได้เหรอ ? อีกฝ่ายจะได้ยินเสียงของเรานะ ” ฉู่ยเฉิงจิงทำหน้าสงสัย เสี่ยวเหมยเองก็มองผมด้วยความสงสัย

 

ผมกลับฉีกยิ้มเบาๆ “ ฉันรับรอง อีกฝ่ายต้องติดกับแน่ แถมยังจะเข้ามาหาพวกเราเองอีกด้วย ”

“ รีบบอกมา มีวิธีอะไรฮะ ? ” ฉู่ยเฉิงจิงรีบถาม

 

ผมเองก็ไม่พูดอ้อมค้อม บอกวิธีที่ตัวเองคิดได้ออกไปทันที “ อีกเดี๋ยวพวกเรานอนนิ่งๆ หลังจากนั้นปล่อยพลังออกมานิดหน่อยก็พอ พอเจ้ายามสองตัวนี้เห็นว่าผิดปกติ พวกมันก็ต้องเดินออกมาดู ถึงตอนนั้นเราก็คว้าโอกาสฆ่ามันเลย”

 

พอทุกคนได้ยินผมพูดแบบนั้น ก็ตบต้นขาทันที วิธีนี้เรียบง่าย และได้ผลแน่

“ ได้ ! ตกลงตามนี้ ” เหล่าเฟิงเห็นด้วย

 

ฉู่ยเฉิงจิงก็พยักหน้า แต่เสี่ยวเหมยกลับพูดว่า “ แล้วถ้าอีกฝ่ายมาแค่ตัวเดียวจะทำยังไง ถึงตอนนั้นพวกเราฆ่าตัวนึง แล้วอีกตัวตกใจ สร้างเรื่องวุ่นขึ้นมาละ ? ”

 

ผมยกยิ้มที่มุมปาก “ ดังนั้นเลยต้องรบกวนเสี่ยวเหมยให้จัดการไง เพื่อระวังเอาไว้ก่อน เธอออกไปซุ่มก่อน ถึงตอนนั้นไม่ว่าจะมาตัวนึงหรือสองตัว พวกเราจะลงมือพร้อมกัน พอยามสองตัวนี้ตาย เราก็จะเข้าไปในถ้ำได้สะดวกแล้ว ”

 

“ อือ เป็นวิธีที่ดี ! งั้นพวกเราก็ลงมือกันเถอะ ! ” ฉู่ยเฉิงจิงพูด

พอเสี่ยวเหมยฟังผมอธิบายแผนจบ เธอก็พยักหน้า จากนั้นก็กลายร่าง เปลี่ยนเป็นจิ้งจอกน้อยอีกครั้ง

 

ส่วนพวกเราสามคน ก็แอบออกไปซุ่มรอบๆ แบ่งเป็นสามมุม

ถ้าอีกฝ่ายเข้ามา พอพวกเราสามคนลงมือพร้อมกัน ยังไงก็ต้องจัดการตัวที่ตกหลุมพลางได้ตั้งแต่วินาทีแรกอย่างแน่นอน

 

หลังจากที่พวกเราซ่อนตัวเสร็จแล้ว เจ้าจิ้งจอกน้อยก็ใช้ความสามารถของตัวเอง และยันต์ปิดกั้นลมหายใจแบบพิเศษ เข้าไปที่ปากถ้ำอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียง พร้อมลงมือตลอดเวลา

 

ผมเห็นตำแหน่งของจิ้งจอกน้อย หลังจากมองหน้าเหล่าเฟิงและฉู่ยเฉิงจิงแล้ว ผมก็ค่อยๆดึงยันต์ปิดลมหายใจที่หน้าอกของตัวเองออก

 

ยันต์ปิดลมหายใจเพิ่งโดนดึงออก พลังหยางและไฟทั้งสามบนตัวผม ก็แพร่ออกมาทันที

ลมหายใจของคนเป็นแบบนั้น ไหลออกมาจากตัวผม

ส่วนยามผีที่เฝ้าปากถ้ำอยู่ก็รับรู้ได้ตั้งแต่วินาทีแรก……

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.