หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 408 ดูดกลืนแสงจันทร์

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 408 ดูดกลืนแสงจันทร์

สาขาย่อยขององค์กรตาผีในเขาเขี้ยวหมาป่า เป็นโรงงานผลิตทาสผีอย่างสมบูรณ์

ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ อดไม่ได้ที่จะตกใจ

 

ในเวลาเดียวกัน พวกเราก็สำรวจรอบๆต่อ เก็บข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อการปฏิบัติการ

เราพบว่า ถึงผีเร่ร่อนและผีต่างๆที่อยู่ข้างล่างจะมีจำนวนเยอะมาก และมีพลังหยินที่แรงมาก

 

แต่สาวกขององค์กรตาผี กลับดูเหมือนจะมีไม่เยอะ

หลังจากสำรวจรอบๆแล้ว เราพบว่าพวกมันมีไม่กี่สิบตนเท่านั้น

 

แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น พวกเราก็ไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย

พระเจ้ารู้ว่าสาวกพวกนี้มีพลังมากขนาดไหน ไม่แน่พวกมันแต่ละคนอาจร้ายกาจเหมือนพวกกุ่ยซานหยวน ถ้าเป็นแบบนั้นเราได้ตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ

 

เรื่องก็เป็นแบบนี้ พวกเราสำรวจเขาเขี้ยวหมาป่าด้านใน จากการมองจากทางรอบนอกตลอดทั้งคืน

จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นมาถึง ทุกคนถึงได้พากันพักผ่อนในถ้ำที่ค่อนข้างเร้นลับ

 

ด้านนอกมีวัชพืชและพืชหนามต่างๆอยู่มากมาย เป็นที่ที่เหมาะแก่การซ่อนตัวมาก

ทุกคนทำงานกันมาทั้งคืน และก็ค่อนข้างเหนื่อย ตอนนี้เลยแยกย้ายเอนตัวพิงหินพักผ่อนกัน

 

แต่ละคนเอาอาหารที่พกติดตัวออกมา แต่มันก็มีไม่เยอะ เลยไม่อาจทำให้อิ่มท้องได้

พวกเราหลับอยู่ในถ้ำหินครึ่งวัน เมื่อยามบ่ายมาถึง พวกเราก็ออกไปสำรวจใจกลางหุบเขานั่นอีกครั้ง

 

ตอนกลางวัน ใจกลางหุบเขาเงียบสงบมาก สระเลือดพวกนั้นก็มีผ้าสีเหลืองปิดเอาไว้

มองเข้าไปแล้วเห็นแต่ความว่างเปล่า ไร่ชีวิตชีวา

 

แต่พวกเรารู้ดี พวกสัตว์ประหลาดทาสผีพวกมัน กำลังซ่อนตัวอยู่ในถ้ำหินข้างๆ

ดังนั้น พวกเรายังต้องรอเวลา

 

รอให้ตกกลางคืน และพวกผีต่างๆออกมาดูดกลืนพลังจากจันทราแล้ว เราถึงจะเริ่มแอบเข้าไป

ดังนั้น เราเลยกลับไปนอนต่อที่ถ้ำหิน

 

แต่เมื่อเข้ายามค่ำคืน ผมก็เริ่มวางแผนในการลงมือ

จากข้อมูลที่สำรวจได้เมื่อคืน ทางเข้าไปในใจกลางหุบเขา มีอยู่ทางเดียว

 

แต่เส้นทางนั้น มีกลิ่นศพลอยหึ่ง ผีอยู่กันอย่างหนาแน่น

ผีศพหรือทาสผีจำนวนมากคอยเฝ้าเอาไว้ พวกเราไม่มีทางเข้าไปได้อย่างแน่นอน

 

ด้วยเหตุนี้ พวกเราเลยได้แต่ใช้เถาวัลย์ ที่ห้อยลงมาจากหุบเขา แล้วค่อยๆหย่อนตัวลงไป

มีเพียงทางนี้ทางเดียว ถึงจะเข้าไปในหุบเขาได้

 

พอถึงข้างในแล้ว ก็ได้แต่คอยระวังไปทีละก้าว คิดวิธีเข้าไปในตัวถ้ำหินนั้นให้ได้

ที่นั้นน่าจะเป็นที่ที่เก็บน้ำลี่ลั่วเอาไว้ และเป็นที่ที่พวกสาวกใช้พักผ่อนกัน

 

หลังจากวางแผนทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็เฝ้ารอให้ถึงเวลาลงมือ

หลังจากรอมาพักใหญ่ เวลาก็ล่วงเลยมาถึงสี่ทุ่มครึ่ง

 

ผมเห็นว่ายังเหลืออีกครึ่งชั่วโมง เลยตัดสินใจเริ่มออกเดินทาง

พวกเรามีเวลาไม่มาก รวมทั้งหมดสองชั่วโมงด้วยกัน

 

เข้าไปและออกมา ต้องใช้เวลาแค่สองชั่วโมงนี้เท่านั้น

ถ้าเลยช่วงเวลานี้ไป พวกเราต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน

 

ในเวลานี้ เจ้าจิ้งจอกน้อยออกจากถ้ำหินก่อนใครแล้ว หลังจากตรวจสอบว่าไม่มีอันตรายอยู่รอบๆ ผ่านสัมผัสที่ว่องไวแล้ว

พวกเราถึงได้เริ่มคลานออกมาจากถ้ำหิน และเริ่มเปิดตาสวรรค์

 

ตอนนี้ ผมมองไปที่ใจกลางหุบเขาแวบหนึ่ง พบว่าด้านล่างมีเงาคนกำลังขยับอยู่ พวกวิญญาณกำลังรวมตัว

นอกจากเจ้าพวกนี้แล้ว ยังมีศพเดินได้ที่เจอเมื่อคืน และพวกผีดิบที่กระโดดตามกันมาติดๆ ตอนนี้พวกมันกำลังไปที่ของตัวเองกันอย่างเป็นระเบียบสุดๆ

 

ดูจากจำนวนแล้ว มีเยอะเลยทีเดียว น่าจะมีร้อยตัวขึ้นไป

และยังมีพวกทาสผีและศพประหลาดมากขึ้นกว่าเดิม ภายใต้คำสั่งของพวกสาวก พวกมันโผล่ขึ้นมาทีละตัว ไม่สร้างความวุ่นวายเลยสักนิด

 

“ ตึกๆ ” หัวใจเต้นแรง ไม่น่าแปลกใจที่มู่หลงเหยียนบอกว่าองค์กรตาผีเป็นบิ๊กบอส

ตอนนี้ดูเหมือน มันจะเป็นแบบนั้นจริงๆ

 

เพียงสาขาย่อยสาขาเดียว ก็มีกำลังรบถึงขนาดนี้แล้ว

ถึงว่ามู่หลงเหยียนถึงได้ตัดสินใจร่วมมือกับผีฝึกตนจำนวนมากขนาดนั้น และวางแผนนานขนาดนี้

 

ตอนนี้ดูเหมือน มันจะสมเหตุสมผลกันแล้ว

แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น หากสู้กันขึ้นมาจริงๆ ก็ยังพูดไม่ได้ว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ

 

ครั้งแรกที่เห็นกองกำลังเยอะขนาดนี้ ผมก็อดไม่ได้ที่จะเครียดขึ้นมา รู้สึกไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

เพราะเมื่อก่อน ผมเคยสู้แต่กับพวกผีร้ายทั่วไป

 

อย่างมากที่สุดก็เป็นวันที่โดนพวกกุ่ยซานหยวนวางแผนเอาชีวิต เลยได้เจอกับผีหลายสิบตัว

แต่ผีหลายสิบตัวกับจำนวนผีที่อยู่ที่นี่ เทียบกันไม่ติดเลยสักนิด มันเหมือนกับมดกองเล็กๆมาเจอกับมดกองมหึมา

 

ผมกดความตื่นกลัวที่อยู่ในใจเอาไว้ และเดินต่อไปยังสถานที่ที่วางแผนเอาไว้

ครึ่งชั่วโมงผ่านไปเพียงแค่พริบตาเดียว เวลาก็ล่วงเลยมาถึงห้าทุ่มอย่างรวดเร็ว และก็เป็นเวลาเริ่มแผนการพอดี

 

เพิ่งมาถึงสถานที่ที่กำหนด ในหุบเขาก็มีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่

“ ฮูฮูฮูฮู ” สายลมกระโชกแรงปรากฎขึ้น คลื่นพลังหยินอันเข้มข้นเริ่มแพร่กระจาย

 

พวกศพ ผีดิบและอื่นๆ เปล่งเสียงลมหายใจที่หนักอึ้งออกมา

ทาสผีพวกนั้น ก็ส่งเสียง “ กรีดร้อง ” ออกมาด้วย

 

เสียงพวกนั้นแสบแก้วหูมาก และฟังดูโหยหวนสุดๆ

นอกจากเสียงกรีดร้องแล้ว พวกมันยังมองไปที่พระจันทร์บนท้องฟ้า เริ่มอ้าปาก ดูดกลืนแสงจันทร์ เพิ่มพลังให้ตัวเอง

 

ทันใดนั้นเอง เหล่าเฟิงก็พูดกับผมว่า “ เหล่าฝาน นายดูตรงนั้นซิ ! ”

หลังจากพูดจบ เหล่าเฟิงก็ชี้ไปยังทิศทางที่ลมพัดเข้ามา

 

ผมมองตามนิ้วเหล่าเฟิง เห็นเพียงตอนนี้ตรงแท่นบูชาในหุบเขา มีคนสองคนนั่งอยู่

อีกคนอยู่ซ้ายอีกคนอยู่ขวา หันหน้าเข้าหากัน

 

ยึดพวกเขาเป็นใจกลาง รอบๆล้อมรอบไปด้วยพวกทาสผีจำนวนมาก

ดูเหมือนเป็นการฝึกอะไรสักอย่าง และยังมีวงเวทย์ที่แปลกตาอีกด้วย

 

พลังหยินพวกนั้น กลายเป็นหมอกสีดำ รวมตัวอยู่บนหัว จากนั้นถึงได้แพร่ออกไปรอบๆ

พวกทาสผีที่อยู่รอบๆ ดูดกลืนหมอกดำนั้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมทำท่าทางเพลิดเพลิน

 

เมื่อเห็นภาพนี้ ผมก็อดขมวดคิ้วไม่ได้

เพราะผมพบว่า เหมือนทั้งสองคนนี้ก็คือกุ่ยซานหยวนและยัยป้ามั่นหน้า

 

“ ดูเหมือนจะเป็นกุ่ยซานหยวนแล้วก็ยัยป้าคนสวย ” ผมพูดด้วยความสงสัย เพราะไกลเกินไปผมจึงไม่มั่นใจ

“ ฉันก็คิดว่าใช่ สองคนนั้นกำลังรวมพลังหยิน ฝึกวิญญาณร้ายที่อยู่รอบๆพวกนั้น ” เหล่าเฟิงพูดออกมาอีกครั้ง

 

พอได้ยินเหล่าเฟิงวิเคราะห์แบบนั้น ผมก็คิดว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ

แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน กุ่ยซานหยวนและยัยป้าคนสวยต่างออกไปฝึกผีข้างนอก

 

ยิ่งทำให้พวกเราแอบเข้าไป ขโมยน้ำลี่ลั่วสะดวกยิ่งกว่าเดิม

ผมเค้นเสียงดัง ฮึ จากนั้นก็พูดออกมาตามตรง “ เป็นแบบนี้ก็ดี แสดงว่าในหุบเขามีช่องโหว่ยิ่งกว่าเดิม 

ขอแค่พวกเราเร็วพอ เข้าไปก่อนที่พวกมันจะกลับเข้าไปในถ้ำ ขโมยน้ำลี่ลั่วออกมาได้ ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ”

 

เหล่าเฟิงพยักหน้าเบาๆ ฉู่ยเฉิงจิงที่อยู่ข้างๆกลับพูดต่อ “ เลิกพูดมากได้แล้ว พวกเราต้องทำเวลานะ ! ”

“ อือ ” ผมพยักหน้า

 

หลังจากนั้นพวกเราก็มาที่ริมหน้าผา ตรงนี้สูงมาก ประมาณสี่สิบห้าสิบเมตรได้ ท่าทางจะชัดน่าดู

ถ้าเกิดพลาดระหว่างปีนขึ้นมา ต้องตกลงไปตายอย่างแน่นอน

 

แต่ในเมื่อมาแล้ว ถึงจะอันตรายขนาดนั้นก็ต้องลงไป

ไม่รอให้พวกเราขยับตัว จิ้งจอกน้อยกลับพูดขึ้นมา “ พวกนายรอก่อน ฉันจะลงไปดูลาดลาวก่อน ! ”

 

หลังจากพูดจบ ไม่รอให้ผมตอบกลับ ผมก็เห็นจิ้งจอกน้อยมองลงไปด้านล่าง แล้วกลายร้างเป็นจิ้งจอกอย่างรวดเร็ว

เธอเลือกก้อนหินและกิ่งไม้ที่ยื่นออกมา ใช้พวกมันเป็นฐานกระโดด จากนั้นก็กระโดดลงไปทันที

 

จิ้งจอกน้อยเคลื่อนไหวว่องไว

หลังจากกระโดดหลายครั้งติด เธอก็ลงไปถึงพื้นอย่างง่ายดาย หน้าผาหลายสิบเมตร เป็นเหมือนพื้นราบไม่มีผิด

 

จิ้งจอกน้อยเพิ่งถึงพื้น เธอก็กลายร่ายเป็นมนุษย์ แล้วกวาดตามองรอบๆ

หลังจากเห็นว่าปลอดภัยแล้ว เธอถึงโบกมือให้พวกเรา “ รีบลงมาเถอะ ! ”

 

เมื่อเห็นจิ้งจอกน้อยส่งสัญญาณ เราก็ทุกคนก็หันมามองหน้ากัน จากนั้นก็จับเถาวัลย์เส้นหนาอันหนึ่ง 

แล้วค่อยๆไต่ลงไป……

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.