หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 403 รวมทีม

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 403 รวมทีม

หลังจากยืนยันให้ฉู่ยเฉิงจิงเข้าร่วมด้วยเรียบร้อย ปัญหาเรื่องยันต์ปิดลมหายใจก็หมดไป

ยันต์ขนิดนี้ “ น่าทึ่ง ” มาก ตอนที่หยางเฉ่วใช้ เธอทำให้พวกเรารอดจากสายตาผีทหารตนหนึ่งได้

 

สามารถจินตนาการได้ ว่ายันต์ขนิดนี้ร้ายกาจขนาดนั้น

มันเอาไว้ใช้ปิดลมหายใจ ซ่อนตัวได้ในช่วงเวลาสำคัญ ถือเป็นของที่สำคัญมาก

 

พอฉู่ยเฉิงจิงมาร่วมด้วย ผมก็บอกเวลานัดกับเธอ ผมวางแผนว่าจะลงมือพรุ่งนี้ ถึงตอนนั้นผมจะขับรถไปรับเธอเอง

หลังวางสาย ผมก็โทรไปหาเหล่าเฟิง

 

เหล่าเฟิงพูดง่ายยิ่งกว่า ผมบอกว่าจะไปขโมยของ อันตรายมาก เกี่ยวข้องกับองค์กรตาผี ห้ามบอกพวกอาจารย์ต้องเก็บเป็นความลับ

ผลลัพธ์เจ้าหมอนี่ไม่ถามรายละเอียดเลยสักนิด ถามแค่ เวลากับสถานที่เท่านั้น

 

ผมบอกตามตรง ว่าจะออกเดินทางพรุ่งนี้ตอนเที่ยง สถานที่ค่อนข้างไกล อยู่ที่เขาเขี้ยวหมาป่า

ผลลัพธ์เสียงผมเพิ่งเงียบ ยังไม่ทันได้พูดต่อ เจ้าหมอนั้นก็กดวางสายผมทันที

 

ผมได้แต่มองโทรศัพท์ คลี่ยิ้มอย่างขมขื่น นี่ก็คือสไตล์ของเหล่าเฟิง

ตอนนี้มีเหล่าเฟิง และฉู่ยเฉิงจิงร่วมด้วยแล้ว ต่อไปผมต้องไปขอให้ปู่หูลิ่วช่วย

 

ในฐานะศิษย์ ปู่หูลิ่วยังได้รับคำสั่งจากนางพญา ให้คอยปกป้อง และจัดการปัญหาต่างๆให้ผมที่นี่

ตอนนี้ผมไปขอให้ปู่หูลิ่วช่วย และคนที่ต้องการความช่วยเหลือยังเป็นมู่หลงเหยียน มู่หลงเหยียนมีความสัมพันธ์อันดีกับนางพญา

 

ผมคิดว่าปู่หูลิ่วไม่มีเหตุผลจะปฏิเสธ เขาต้องรับปากผมอย่างแน่นอน

แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ผมก็ไม่เข้าไปมือเปล่า แต่ออกไปที่ตลาดไก่บนถนน ซื้อไก่ตัวผู้ตัวใหญ่สองตัว 

จากนั้นถึงได้ไปที่ศาลเจ้าหลักเมือง

 

ศาลเจ้าหลักเมืองยังทรุดโทรมเหมือนเดิม ไม่มีใครผ่านเข้ามาแวะเวียน

แต่ผมรู้ดี ว่าที่นี่มีปีศาจอยู่สองตัว และยังเป็นปีศาจจิ้งจอกที่ร้ายกาจมากอีกด้วย

 

ตอนมาถึงศาลเจ้าหลักเมือง ผมไม่ได้เดินเข้าไปทันที

แต่ตะโกนเข้าไปก่อน “ ศิษย์ติงฝาน ขอพบปู่หูลิ่ว ! ”

 

เสียงเพิ่งเงียบลง ก็มีเสียงผู้หญิงดังออกมาจากข้างใน “ เข้ามาเถอะ ! ”

คนผู้นี้ก็คือหลานสาวของปู่หูลิ่ว ยัยจิ้งจอกน้อยตัวนั้น หูเหมย

 

หลังจากได้รับอนุญาตแล้ว ผมก็ถือไก่เข้าไป

เพิ่งเข้ามาข้างใน ผมก็เห็นในก่อหญ้า มีจิ้งจอกสีเพลิงหนึ่งตัวกำลังนอนขดตัวอยู่

 

นี่ก็คือยัยจิ้งจอกน้อย แต่พอลองมองไปรอบๆ นอกจากจิ้งจอกน้อยตัวนี้ ผมก็ไม่เห็นจิ้งจอกเฒ่าสีเหลืองตัวนั้น หรือปู่หูลิ่วเลย

 

จิ้งจอกน้อยค่อยๆเงยหน้ามองผม จากนั้นก็พูดภาษาคนออกมา “ เลิกมองได้แล้ว ปู่ของฉันไม่อยู่ มีเรื่องอะไรบอกฉันก็เหมือนกันนั่นแหละ ! ”

น้ำเสียงจิ้งจอกน้อยฟังดูเย็นชา ไม่อยากต้อนรับผมเท่าไหร่

 

แต่ผมมีเรื่องสำคัญ จึงไม่สนเรื่องอื่น พูดกับยัยจิ้งจอกน้อยทันที “ เสี่ยวเหมย ปู่หูลิ่วไปไหน ? แล้วจะกลับเมื่อไหร่ ? ”

จิ้งจอกน้อยยกเปือกตามองครึ่งหนึ่ง แล้วพูดกับผมอย่างเย็นชา “ ปู่ฉันกลับเขาจิ้งจอก ไม่ถึง 7-8 วันไม่กลับมาหรอก มีเรื่องอะไรก็พูดมา อย่าลีลา…… ”

 

ให้ตายเถอะ เจ็ดแปดวัน แบบนี้จะทำยังไงได้ละ

สาขาย่อยขององค์กรตาผีอาจจะย้ายหินลี่ลั่วในอีกไม่กี่วันนี้ ถ้ารอให้ปู่หูลิ่วกลับมา ก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี

 

ไม่มีทางเลือก ตอนนี้ต้องเปลี่ยนแผนใหม่ ขอให้หูเหมยช่วยแทน

พอคิดได้แบบนั้น ผมก็ฉีกยิ้มออกมา แล้ววางไก่สองตัวเอาไว้ที่พื้น “ เสี่ยวเหมย ฉันเอาไก่ตัวผู้มาให้ เธอลองชิมดูซิ ”

 

หูเหมยเหลือบตามอง จ้องผมแป๊บหนึ่ง “ ยิ้มไร้ยางอายขนาดนั้น ต้องมีเรื่องไม่ดีมาแน่ๆ มีเรื่องอะไร 

ก็พูดมาเถอะ ! ”

ยิ้มไร้ยางอาย ฉันยิ้มแบบส่องประกายสุดๆต่างหาก เธอใช้ “ ไร้ยางอาย ” มาเปรียบเนี่ยนะ

 

ในใจผมอารมณ์เสียมาก แต่ต้องขอความช่วยเหลือ ดังนั้นเลยไม่มีทางเลือก

ผมได้แต่พูดต่อ “ มันเป็นแบบนี้ พรุ่งนี้ฉันวางแผนจะไปขโมยของที่สาขาย่อยองค์กรตาผี ต้องการความช่วยเหลือจากเธอ เพราะพวกเธอเผ่าจิ้งจอกอยู่ในเขา หรือจะเรียกได้ว่าเหมือนได้เดินในบ้านของตัวเอง 

แถมยังคอยตรวจจับศัตรูที่ซุ่มอยู่ได้ ดังนั้นฉันเลยอยากให้เธอช่วยเราหน่อย ”

 

หูเหมยอึ้งไปพักหนึ่ง ดวงตาทั้งสองข้างเผยสีหน้าตกใจออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นทันที

จากที่นอนอยู่ในกอหญ้า ก็กลายร่างออกมาเป็นสาวน้อยใส่ชุดขนจิ้งจอกทันที

 

พอหูเหมยกลายร่างเป็นสาวน้อยแล้ว เธอดูสวยมากๆเลยละ โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น มันดูน่าดึงดูดมาก

ถึงว่าทำไมคนชอบใช้ “ จิ้งจอกจอมเย้ายวน ” มาอธิบายปีศาจจิ้งจอก แต่ผมก็ไม่ได้เห็นร่างมนุษย์ของหูเหมยครั้งแรก เลยไม่ได้รู้สึกแปลกใจใดๆ

 

ส่วนหูเหมยกลับมาหน้าซีเรียส พร้อมพูดกับผมว่า “ นายบอกว่านายจะไปสาขาย่อยขององค์กรตาผี ? ”

“ ใช่ สาขาย่อยองค์กรตาผี ”

“ แถมนายยังจะไปขโมยของอีกด้วย ? ”

 

“ ใช่ ขโมยของ ”

ผมทำหน้าจริงจัง พร้อมตอบกลับตามความจริง

 

แต่หลังจากพูดจบ หูเหมยกลับอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ “ นายคงไม่ได้บ้าไปแล้วหรอกนะ พลังระดับนาย ยังคิดจะไปขโมยของขององค์กรตาผี นายไปรนหาที่ตายเหรอฮะ ? ”

 

เหมือนหูเหมยจะมองผมแบบคนปัญญาอ่อน คิดว่าการกระทำของผม ไม่ต่างอะไรจากการไปตาย

แต่ผมกลับยิ้มอ่อนให้เธอ “ เสี่ยวเหมย ฉันไม่ได้บ้า ฉันจริงจังนะ และของที่จะขโมยในคราวนี้คือน้ำลี่ลั่ว ”

 

“ น้ำลี่ลั่ว มันคืออะไร ? ” หูเหมยไม่เข้าใจ

สำหรับหูเหมย ผมไม่คิดจะปิดบังเธอ

 

เพราะเผาจิ้งจอกรู้เรื่องชีวิตของผมอย่างละเอียด และตัวผมก็เป็นชู่หม่าของเผ่าจิ้งจอก พวกเธอเองก็คงไม่ทำร้ายผม

ด้วยเหตุนี้ ผมเลยเล่าเรื่องน้ำลี่ลั่ว และเรื่องที่จะเอาไปใช้ปลูกหญ้าหยินฉ่าว ให้หูเหมยฟังทั้งหมด

 

และพูดเน้นเรื่องข้อจำกัดพิเศษของสาขาย่อยนั่น และเรื่องพลังขององค์กรตาผี

พลังนี้สร้างข้อจำกัดให้พวกผี ดังนั้นคราวนี้คนที่จะไปขโมยน้ำลี่ลั่ว ต้องเป็นสิ่งมีชีวิตเท่านั้น

 

ในเวลาเดียวกันผมก็บอกเธอว่าหินลี่ลั่วอาจโดนย้ายเร็วๆนี้ ผมเลยต้องรีบลงมือ ไม่อย่างนั้นอาจไม่มีโอกาสอีก

หลังจากหูเหมยตะลึงเสร็จ เธอก็ใช้สายตาแปลกๆมองผม

 

“ นายไม่กลัวอันตรายจริงๆ จะทำเพื่อช่วยเมียผีของนาย และพวกหุ่นเชิดที่เสียที่มาของวิญญาณพวกนั้นเหรอ ? ”

 

จู่ๆก็ได้ยินหูเหมยพูดแบบนั้น ผมเลยอดยิ้มแบบขมขื่นไม่ได้ แต่สุดท้ายก็พยักหน้าให้เธอ “ ใช่ ช่วยเมียผีของฉัน ช่วยพวกที่เสียที่มาของวิญญาณ และพวกผีที่ยอมสู้กับองค์กรตาผีจนถึงที่สุด ”

 

“ แน่นอน ในฐานะคนปราบสิ่งชั่วร้าย หากเป็นเรื่องสู้กับลัทธิหรือปีศาจร้าย ฉันก็ต้องทำอยู่แล้ว ! ”

ผมค่อยๆพูด หูเหมยลังเลอยู่พักหนึ่ง จนสุดท้ายก็พูดออกมาว่า “ ได้ ฉันตกลง คราวนี้ฉันจะไปกับนายด้วย แต่นายจำเอาไว้เรื่องที่พวกนายเผ่าศพพ่อของฉัน ทำให้เขาฝังในเขาจิ้งจอกไม่ได้ มันยังไม่จบหรอกนะ ! ”

 

พอได้ยินคำพูดนี้ ผมก็หมดคำพูดทันที

สาเหตุที่หูเหมยเย็นชาใส่ผมทุกครั้ง ก็น่าจะเป็นเพราะเรื่องศพของพ่อเธอโดนพวกเราเผา

 

ถึงจิ้งจอกตัวแม่และปู่หูลิ่วจะให้อภัยพวกเราแล้ว แต่หูเหมยกลับฝังไว้ในใจมาโดยตลอด

ผมเงียบไปแป๊บหนึ่ง จากนั้นถึงได้โบกมือให้หูเหมย “ เสี่ยวเหมย ตอนนั้นเราไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ถ้าเป็นไปได้ วันหน้าพวกเราต้องใช้วิธีอื่นชดเชยให้พวกเธออย่างแน่นอน…… ”

 

แต่หูเหมยกลับไม่เห็นด้วย “ ฮึ ! ใครสนละ ? นายรีบไสหัวไปได้แล้ว ! พรุ่งนี้ฉันจะไปหานายเอง ”

หลังจากพูดจบ ดวงตาของหูเหมยก็เปล่งประกาย เอื้อมมือออกมาคว้าไก่ตัวผู้ไปทำแบบเดิม ยังไม่ทันดึงขนออก เธอก็อ้าปากกัดคอไก่ตรงๆ……

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.