spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 400 ต้นกำเนิดของขุนศึก
ภายใต้ความอยากรู้อยากเห็น ผมค่อยๆเข้าไปใกล้พวกเขา สุดท้ายก็ซ่อนตัวอยู่หลังภูเขาปลอม
ในที่สุด ผมก็ยินว่าพวกเขาคุยอะไรกัน
จู่ๆผมก็เห็นคนที่ทะเลาะกับเจ้าเย่เฟิงชี้หน้าเขา “ ไอ้ขุนศึกชาติหมา อย่าเห็นมันเป็นเรื่องเล่นๆเชียว เย่เฟิงอย่าคิดว่าตัวเองมีชื่อเสียงหน่อยแล้วจะทำตัวโอหังต่อหน้าแม่นางมู่หลงได้นะ รู้เอาไว้ซะ ที่นี่มีแค่แม่นางมู่หลงที่ใหญ่ที่สุด เชื่อไหมฮะข้าจะทำให้เจ้าวิญญาณแตกสลายเดี๋ยวนี้นี่แหละ ”
ชายหนุ่มคนนี้ดูโมโหผิดปกติ ในมือยังมีดาบยาวอีกหนึ่งเล่ม
ถ้าไม่มีคนข้างๆคอยห้ามเอาไว้ เขาคงพุ่งเข้าไปแทงเจ้าเย่เฟิงแล้ว
แต่เจ้าเย่เฟิงนั้นกลับทำหน้าไม่สบอารมณ์ แล้วสะบัดแขนเสื้อใหญ่ๆหนึ่งครั้ง “ คุณชายหลี่ซู่ แม่นางมู่หลงย่อมเป็นใหญ่ในที่นี่อยู่แล้ว แต่คำพูดอื่นอย่าได้พูดจาเหลวไหวเชียว พลังระดับเจ้า ยังกล้าพูดจาโอหังได้อีกเหรอฮะ ? ”
พอพูดถึงประโยคสุดท้าย น้ำเสียงของเย่เฟิงก็เปลี่ยนเป็นทุ่มต่ำขึ้นไม่น้อย
“ โอหังงั้นเหรอ ? แกไม่ลองเข้ามาดู แล้วจะรู้ได้ยังไงฮะ ? ” ผีหนุ่มที่โดนเรียกว่าหลี่ซู่พูดต่อ
“ ฮึ ! เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าหรือไง ? ” เย่เฟิงพูด
หลังจากพูดจบทั้งสองตนก็ระเบิดพลังหยินอันมหาศาลออกมา แล้วคิดจะเข้าไปสู้กันทันที ผลลัพธ์เขากลับโดนผีตนข้างๆหยุดเอาไว้
ในเวลาเดียวกัน ผมก็ได้ยินผีวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆพูดว่า “ คุณชายทั้งสองโปรดระงับโทสะด้วย ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว พวกเราก็ควรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ใช่มาสู้กันเอง ! ”
“ เรื่องนี้ข้ารู้อยู่แล้ว เพียงแค่เจ้าเย่เฟิงมันจองหองเกินไป คิดว่าตัวเองไม่มีใครสู้ได้แล้วหรือยังไง ? ” หลี่ซู่พูดต่อ
“ ฮึ ! อย่างน้อยข้าก็ชนะเจ้า ” เย่เฟิงพูดอย่างโอหัง
“ …… ”
หลังจากแอบฟังอยู่ข้างนอกพักหนึ่ง ผมก็เริ่มเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ผีสองตนนี้ น่าจะมีแค้นกันมาตั้งนานแล้ว ดังนั้นพอเห็นอีกฝ่ายก็จะรู้สึกว่ามันดูขัดหูขัดตาไปหมด
ดูเหมือนจะเป็นเพราะคืนนี้เจ้าเย่เฟิงมาสาย เลยถูกเจ้าคนชื่อหลี่ซู่เยาะเย้ยไปสองสามประโยค
ผลลัพธ์เย่เฟิงก็เลยเริ่มอารมณ์เสีย หลังจากนั้นก็ทำสงครามน้ำลายกัน
สุดท้ายก็กลายเป็นสภาพนี้ ชักดาบออกมา จะสู้กับอีกฝ่ายให้ได้
น่าจะเป็นแบบนี้ ส่วนรายละเอียดในนั้นผมยังไม่รู้เหมือนกัน
แต่ในเวลานี้ผมรู้สึกมีความสุขกับสงครามน้ำลายของทั้งสองคน คนทะเลาะกันผมเห็นมาเยอะ
แต่ผีทะเลาะกัน แถมยังเป็นการทะเลาะกันที่รุนแรงขนาดนี้ ผมเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก และหนึ่งในนั้นยังเป็นเจ้าเย่เฟิงผีที่คิดจะตีท้ายครัวบ้านผมอีกด้วย
ขณะที่ผมกำลังแอบมองอย่างมีความสุข จู่ๆไหล่ผมก็โดนสะกิด
ผมยืนอยู่หลังภูเขาปลอม ตาอีกฝ่ายตาไม่กระพริบ จู่ๆตอนนี้ก็โดนสะกิดที่ไหล่ ผมเลยตกใจ รีบหันกลับไปมองทันที “ ใคร ! ”
แต่เสียงเพิ่งเงียบลง ท่าทางจกใจของผมก็เปลี่ยนเป็นดีใจขึ้นมาเล็กน้อย
เพราะผมพบว่าคนที่สะกิดไหล่ผมคือมู่หลงเหยียน เธอออกมาจากกลุ่มผี แล้วมาอยู่ด้านหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“ น้องศพ ! ” ผมพูดด้วยความดีใจ
มู่หลงเหยียนกลอกตาให้ผม “ นอกจากฉันแล้วจะยังเป็นใครได้อีกละยะ นายก็ใช้ได้เลยนะ ให้รออยู่เรือนข้างๆ นายก็แอบวิ่งมาที่นี่ซะได้ ”
พอได้ยินมู่หลงเหยียนพูดแบบนั้น ผมก็เริ่มเขินเลย ขณะเดียวกันก็หัวเราะ “ แฮะๆ ” “ เอ่อ เอ่อก็ไม่ได้เป็นเพราะเห็นเธอไม่มาซะทีเหรอ ? แถมยังได้ยินเสียงทะเลาะกันแบบนั้น ฉันถึงได้ออกมาดูหน่อยไง !
แต่สองตนนี้ก็เก่งใช้ได้เลยนะ เถียงกันมาตั้งครึ่งชั่วโมงแล้ว ”
พอมู่หลงเหยียนได้ยินผมพูดแบบนั้น เธอก็กลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ “ ฮะ ”
แต่ผ่านไปแค่แป๊บเดียวเธอก็หุบยิ้ม “ พูดจาเหลวไหล ไปตามฉันมา…… ”
“ ไม่ไหน ไม่สนใจพวกเขาแล้วเหรอ ? ” ผมถามอย่างเบื่อหน่าย
“ บอกให้ตามมาก็ตามมาเถอะน่า จะพูดมากทำไม ? หรืออยากโดนอัดอีกละฮะ ? ” มู่หลงเหยียนกดเสียงลงต่ำ ขู่ผมตรงๆ
ผมรู้สึกเย็นวาบ ไม่กล้าอวดดี รีบพยักหน้าแล้วบอกว่าได้ทันที
ผ่านไปไม่นาน มู่หลงเหยียนก็พาผมออกมาจากห้องโถงหลัก ไปถึงเรือนหลังเล็กที่เธอพักอยู่
เพิ่งมาถึงที่นี่ มู่หลงเหยียนก็ดูเหมือนจะผ่อนคลายขึ้นเยอะ หรือแม้แต่ยกมือยืนเส้นยืดสาย “ เฮ้อ ! ในที่สุดก็ได้พักสักที…… ”
พอได้ยินมู่หลงเหยียนพูดแบบนั้น ผมก็รู้สึกสงสัยสุดๆ “ น้องศพ เกิดอะไรขึ้นกันแน่เหรอ ? พวกเธอไม่ได้กำลังปรึกษากันเรื่องไปโจมตีองค์กรตาผีเหรอ ? เจ้าเย่เฟิงกับผีที่ชื่อหลี่ซู่นั่น เคยมีความแค้นกันมาก่อนเหรอ ? ”
มู่หลงเหยียนไม่ค่อยเก็บมาใส่ใจเท่าไหร่ เธอพูดออกมาอย่างสบายๆ “ อือ ! เรากำลังคุยเรื่องสู้กับองค์กรตาผีนั่นแหละ ส่วนเย่เฟิงกับหลี่ซู่ พวกเขาไม่ได้มีความแค้นอะไรกันหรอก เพียงไม่พอใจกันส่วนตัวเท่านั้น ดังนั้นตอนไม่เจอกันก็ดีหน่อย แต่พอเจอกันทีละ ถ้าไม่ทะเลาะกันก็ต้องท้าประลองกันทุกที น่ารำคาญจะตาย ”
ผมทำหน้าตกใจทันที เมื่อก่อนมู่หลงเหยียนเคยพูดว่า
เจ้าเย่เฟิงนี่ไม่ธรรมดา มีพลังสูงสุดๆ และยังมีฉายาว่าเป็นหนึ่งในขุนศึกทั้งห้าอีกด้วย
แม้จะไม่รู้ที่มาของ “ ขุนศึกทั้งห้า ” อะไรนี่ แต่ดูจากชื่อแล้ว น่าจะเป็นผีห้าตัวที่ร้ายกาจสุดๆ
เจ้าผีที่ชื่อหลี่ซู่นี่ สามารถสู้กับเจ้าเย่เฟิงนั้นได้ งั้นมันก็ไม่ได้แปลว่าเขามีพลังสูงเหมือนกันเหรอ
พอคิดถึงตรงนี้ ผมก็ถามเพิ่มอีกหน่อย “ เจ้าผีที่ชื่อหลี่ซู่นี่ร้ายกาจมาก และเป็นหนึ่งในขุนศึกทั้งห้าเหมือนกันเหรอ ? แล้วเขาสู้กับเจ้าแซ่เย่นั้นได้ไหม ? ”
มู่หลงเหยียนเห็นผมค่อนข้างสนใจเรื่องนี้ เธอเลยพูดต่อ “ ร้ายกาจจริงๆนั่นแหละ แต่หลี่ซู่ไม่ใช่ขุนศึกทั้งห้า และความไม่พอใจที่เขามีต่อเย่เฟิง ก็มาจากฉายาขุนศึกทั้งห้านี่แหละ…… ”
“ โห งั้นเธอเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม…… ” ผมทำตาโต ท่าทางอยากรู้อยากเห็นสุดๆ
สำหรับผม โลกของมู่หลงเหยียน คือโลกของเหล่าผี
เพื่อนที่เธอคบหา ล้วนเป็นผีทั้งหมด เป็นโลกหนึ่งใบที่โลดแล่นอยู่ในความมืดมิดของโลกมนุษย์
แต่หนึ่งในผีเหล่านั้น ถ้าไม่ใช่ผีจากหลุมศพไร้ญาติ ก็เป็นผีในป่าช้า หรือไม่ก็ผีที่บำเพ็ญตนในป่ารกร้างบางแห่ง
มู่หลงเหยียนเห็นผมทำท่าอยากรู้มาก เธอเลยกลอกตาให้ผมอีกรอบ “ คิดไม่ถึงว่านายจะเป็นพวกสอดรู้แบบนี้ เอาเถอะฉันจะเล่าให้ฟัง…… ”
หลังจากพูดจบ มู่หลงเหยียนก็เล่าความสัมพันธ์ระหว่างหลี่ซู่กับเย่เฟิง และที่มาของขุนศึกทั้งห้าให้ฟัง
มู่หลงเหยียนบอกว่า หลี่ซู่และเย่เฟิง ล้วนเป็นผีแกร่งในรุ่นพวกเรา
เพราะในสถานที่เดียวกัน มีผีที่ถูกเลือกเพิ่มขึ้นมาอีกตัว ดังนั้นย่อมมีความขัดแย้งตามมา และผลของความขัดแย้งก็คือความโกรธแค้น
แต่ในบรรดาผีที่ถูกเลือก หลี่ซู่เป็นผีที่ชอบอิสระ ชอบเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียว
ส่วนเย่เฟิง กลับชอบมีส่วนร่วมในอำนาจ ถือเป็นหนึ่งในผู้นำผีตนหนึ่ง
ในโลกของผี ทั้งสองตนถือเป็น “ วัยรุ่น ” ที่มีชื่อเสียงของรุ่น
และทุกๆหนึ่งร้อยผี ในโลกของผีบนโลกมนุษย์จะมีการเลือกผีวัยรุ่นขึ้นมาหนึ่งตน แล้วตั้งเป็น “ ขุนศึก ”
ถือเป็นฉายาที่ทรงเกียรติและยอดเยี่ยมที่สุด
เพราะเย่เฟิงและหลี่ซู่เป็นผีที่โดดเด่นทั้งคู่ ดังนั้นฉายา “ ขุนศึก ” ของฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ เลยต้องขึ้นอยู่กับใครคนใดคนหนึ่งในสองคนนี้
ผลลัพธ์ไม่ต้องคิดก็คงรู้กันแล้ว เย่เฟิงเป็นคนชนะ และได้ฉายา “ ขุนศึก ” ไปครอง
แต่เย่เฟิงไม่ได้ชนะด้วยพลัง แต่เป็นอาวุธในมือ
หลี่ซู่สู้กับเย่เฟิงมาชั่วชีวิต จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะรู้สึกไม่พอใจ
และเจ้าเย่เฟิงก็เป็นคนจองหอง ทุกครั้งที่เจอหลี่ซู่ เขาก็จะใช้ฉายา “ ขุนศึก ” เยาะเย้ยหลี่ซู่
ไม่ต้องคิดก็รู้ พอสองผีนี้มาเจอหน้ากันก็เกลียดขี้หน้ากันทันที แค่เจอหน้า ก็มีสงครามน้ำลายเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย
พอได้ยินถึงตรงนี้แล้ว ผมก็อดสูดหายใจเข้าลึกๆไม่ได้ ถึงว่าทำไมมู่หลงเหยียนบอกว่าเย่เฟิงร้ายกาจนัก
ที่แท้เจ้าเย่เฟิงนี่ ก็เป็นผีที่บำเพ็ญตนจากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
และเป็นผีหนุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดในรุ่นนี้
ในเวลาเดียวกันผมก็รู้สึกแปลกใจมาก คิดไม่ถึงว่าในความมืดมิด ก็ยังมีผู้นำของเหล่าผีที่ฝึกตนอยู่ด้วย