spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

ตอนที่ 388 ความช่วยเหลือที่แข็งแกร่ง

หลังผมกระตุ้นไฝ เรียกชื่อมู่หลงเหยียนออกมาหนึ่งครั้ง

ผมก็รู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าทันใดนั้นตรงไฝดำมีไอเย็นแพร่ออกมาเล็กน้อย

และไอเย็นนี่ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และแรงขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนกุ่ยซานหยวนตรงหน้า ยัยป้าข้างหลัง และจางจึเทาที่อยู่ข้างๆ ต่างไม่สังเกตเห็นสิ่งนี้

พอกุ่ยซานหยวนเห็นเหล่าเฟิงหยิบกระจกแปดทิศออกมา เขากลับไม่ขยับเคลื่อนไหวเลยสักนิด 

หรือแม้แต่มีสีหน้าดูถูกเราด้วย

“ เจ้านี่ ทำอะไรข้าไม่ได้ ตั้งแต่หลายสิบปีก่อนแล้ว ! ”

“ ฮึ ! ” เหล่าเฟิงไม่สนใจ ยังทำท่าพร้อมสู้ หากใครเข้ามาใกล้ เขาจะโจมตีใครคนนั้นทันที

ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ แอบนับเวลาในใจ

จู่ๆจางจึเทาที่อยู่ด้านข้างก็พูดกับกุ่ยซานหยวนว่า “ ผู้อาวุโสกุ่ย อย่าพูดกับพวกมันเลยครับ ผมว่า เก็บพวกมันเลยดีกว่า เอาวิญญาณพวกมันไปทำเป็นทาสซะ ! ”

“ จึเทา ไม่รีบ รออีกหน่อย ! ” กุ่ยซานหยวนพูดต่อ

ส่วนยัยป้าคนสวยที่อยู่ข้างหลังก็หัวเราะฮ่าๆขึ้นมา “ ใช่ ไม่รีบ ”

ไม่รีบงั้นเหรอ ฮึๆ ไม่รีบก็ดี รอน้องศพออกมาแล้ว เราก็มีโอกาสรอดแล้ว

ผมกำลังคิดในใจแบบนี้ เมื่อถึงเวลาแล้ว ผมก็พูดออกมาอีกครั้ง “ มู่หลงเหยียน ! ”

หลังพูดชื่อมู่หลงเหยียนออกมาเป็นครั้งที่สอง ก็เหลือแค่รออีก 30 วินาทีเท่านั้น

30 วินาทีต่อจากนี้ ขอแค่มู่หลงเหยียนไม่เก็บตัว เธอก็ต้องมาที่นี่ด้วยตัวเองอย่างแน่นอน

กุ่ยซานหยวน ยัยป้าคนสวย และจางจึเทาไม่ขยับไปไหน ยังล้อมเราอยู่อย่างงั้น ท่าทางไม่รีบร้อนลงมือ

ส่วนรอบๆ กลับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน

ผมสัมผัสได้ ไฝดำกำลังปล่อยพลังหยินออกมาไม่หยุด

เหล่าเฟิงที่ยืนอยู่ข้างๆผม ก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติ

แม้รอบๆจะมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น แต่ผมที่อยู่ข้างๆ กลับระเบิดพลังหยินออกมา ทำให้เขางงงวยทันที

เหล่าเฟิงรีบหันมามองผม ด้วยสีหน้าสงสัย

ผมเห็นเหล่าเฟิงมองผม ผมเลยพยักหน้าให้เขา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

แม้เหล่าเฟิงจะไม่รู้ว่าผมกำลังทำอะไร แต่เมื่อเห็นผมพยักหน้า เขาก็ดูเชื่อใจผมมาก หันไปมองรอบๆอย่างระแวดระวังต่อทันที

แต่พี่หลี่กลับทนไม่ไหวแล้ว ในเวลานี้เธอไม่มีพลังชั่วแล้ว เป็นเพียงแค่ผีธรรมดาตัวหนึ่ง

พอเห็นผีร้ายจำนวนมากอยู่ใกล้ๆแบบนี้ และสัมผัสได้ถึงพลังชั่วร้ายที่เข้ามากดดัน เธอก็ตัวสั่นในทันที

ขณะที่พวกเรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด เถ้าแก่ร้านปิ้งย่าง ก็ดูเหมือนจะไม่รู้สึกสนุกอีกต่อไป

เขามองมาตั้งนานขนาดนี้ ย่อมรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ……

สำหรับลูกค้าที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะใต้ร่มไม้ ยังชนแก้วกันต่อไป ดูเหมือนจะดื่มไปเยอะใช้ได้ ตอนนี้ไม่ได้สนใจพวกเราตรงนี้เลยสักนิด

เรามองรอบๆอย่างหวาดระแวง ขณะเดียวกันผมก็นับเวลาไปด้วย

หนึ่ง สอง สิบ ยี่สิบวิ

สนามรบเข้าสู่ความเงียบสงัดชั่วขณะ ในที่สุดก็ถึงสามสิบวิสักที

ผมลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ลังเลแต่อย่างใด

ชี้ไปที่หน้าอก แล้วพูดขึ้นมาทันที “ มู่หลงเหยียน ! ”

เท่านี้ การกระตุ้นก็สมบูรณ์ ชื่อมู่หลงเหยียนถูกพูดออกมาสามครั้งแล้ว

ทันใดนั้นเอง กระแสลมก็โหมกระหน่ำเข้ามา “ ฮูๆๆ ” รอบๆมีเสียงกรีดร้องของสายลมดังขึ้น

ไม่ใช่แค่นี้ ตราดำบนข้อมือ ยังมีหมอกขาวลอยออกมาจำนวนมาก

หมอกขาวออกมาอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันมันก็เริ่มก่อตัวตรงหน้าผมแล้ว

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผมก็ดีใจในทันที

เหล่าเฟิงกลับมองไปรอบๆ สัมผัสได้ถึงอากาศหนาวเย็นที่เข้ามาจากทุกทิศทุกทาง ดูเหมือนจะไม่เห็นหมอกขาว และไม่เห็นว่ามันกำลังก่อตัวเป็นรูปคนข้างหน้าเขา

ในขณะที่ผมกำลังดีใจ กุ่ยซานหยวนที่เงียบมาสักพัก ก็เริ่มพูดออกมาอีกครั้ง “ โห ! มาแล้วงั้นเหรอ ? ”

“ ฮ่าๆๆ ! ใช่ นี่มันกลิ่นลมหายใจของเจ้าคนทรยศนั่น ” ยัยป้าคนสวยที่อยู่ข้างหลังพูดต่อ

เดิมทีผมยังดีใจอยู่ ! แต่ในขณะที่มู่หลงเหยียนกำลังปรากฎตัว ร่างจิตกำลังเข้ารูป

ผมกลับได้ยินกุ่ยซานหยวนและยัยป้าคนสวยพูดแบบนั้น ทันใดนั้นหัวใจผมก็มีเสียงดัง “ กึก ”

หมายความว่ายังไง หรือว่าอีกฝ่ายกำลังรอมู่หลงเหยียนอยู่งั้นเหรอ ผมถูกอีกฝ่ายหลอกใช้เหรอ

เพิ่งคิดถึงตรงนี้ หมอกขาวก็เข้ารูป พร้อมด้วยสาวสวยคนหนึ่ง ก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าของผม

ชุดขาวพลิ้วไหว ผมดำโบกสะบัด ใบหน้าที่ไม่เหมือนใคร ไม่ต่างอะไรกับนางฟ้าลงมาจุติ

ถ้าไม่ใช่มู่หลงเหยียน แล้วจะเป็นใครได้

“ ว้าว ! สวยจัง…… ” พี่หลี่ที่อยู่ข้างๆมองเห็นมู่หลงเหยียน เธออดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา

ส่วนผมเองก็ไม่สนอะไรมากนัก ตะโกนด้วยความดีใจทันที “ น้องศพ ! ”

เสียงผมเพิ่งเงียบลง เหล่าเฟิงกลับตีหน้ามึน “ ฮะ น้องสาว ”

เพราะในสายตาของเหล่าเฟิง เขามองไม่เห็นมู่หลงเหยียน

มู่หลงเหยียน กลับไม่สนใจผม

แต่กวาดสายตามองรอบๆ ใบหน้าเรียบนิ่ง จากนั้นก็พูดออกมาอย่างสบายๆ 

“ นักพรตกุ่ย ยัยป้ามั่นหน้า…… ”

“ ฮ่าๆๆ ! ใช่ข้าเอง ไม่ได้เจอกันนานนะ แม่นางมู่หลงยังสวยไม่ส่าง ! ” กุ่ยซานหยวนพูดด้วยรอยยิ้ม 

เหล่ตามองแล้วมองอีก

ส่วนยัยป้าคนสวยที่อยู่ข้างหลังกลับเค้นเสียงดัง ฮึ “ ยัยคนทรยศ องค์กรดีต่อเจ้าขนาดนั้น แต่เจ้ากลับพาคนอื่นทรยศองค์กร ”

มุมปากมู่หลงเหยียนยกยิ้ม “ ยัยป้ามั่นหน้า หรือเธอยังไม่เข้าใจอีก พวกเรามันก็เป็นได้แค่เครื่องมือของพวกมันเท่านั้น ถ้ายังอยู่ในองค์กรต่อ ก็มีแต่จะต้องดิ่งลงเหวเท่านั้น ! ”

“ พูดจาเหลวไหล แสงแห่งดวงตาศักดิ์สิทธิ์จะส่องสว่างไปทั่วโลก พวกเราทุกคนเป็นคนขององค์กร 

ควรให้ความช่วยเหลือผู้นำ ส่งเสริมองค์กรให้คงอยู่ต่อไป ” ยัยป้าคนสวยพูดต่อ และยังดูค่อนข้างหัวร้อนหน่อยๆด้วย

พอมู่หลงเหยียนได้ยินถึงตรงนี้ เธอก็ทำหน้าดูถูก

ไม่พูดกับยัยป้านั่นต่อ แต่หันมาทางผมแทน “ ยัยป้านี่หมดทางช่วยแล้ว พวกนายไม่เป็นอะไรใช่ไหม ? ”

พอได้ยินมู่หลงเหยียนถาม ผมก็พยักหน้าทันที “ พวกเราไม่เป็นอะไร แต่ครั้งนี้ โดนพวกมันจ้องเล่นงานตั้งแต่แรก เราจนปัญญา เลยต้องเรียกเธอออกมาช่วย ”

มู่หลงเหยียนไม่ได้โมโห หรือแม้แต่ยังฉีกยิ้มให้ผม “ ยังไงมันก็ต้องเกิดขึ้นสักวัน อีกเดี๋ยวหาโอกาสได้แล้ว พวกนายก็หนีออกไปเลยนะ เข้าใจไหม ? ”

พอได้ยินมู่หลงเหยียนพูดแบบนั้น ผมก็พยักหน้าแรงๆ

เพราะมู่หลงเหยียนเคยพูดว่า ถ้าเธอ กุ่ยซานหยวน และยัยป้าคนสวยมาสู้กันจริงๆ เธอก็อาจจะไม่ชนะ

“ แม้นางมู่หลง จะกลับไปกลับพวกเราดีๆ ! หรือจะให้พวกเราทำลายร่างจิตของเธอ หลังจากนั้นก็ฆ่าพวกมัน ทำให้กลายเป็นทาสของเราซะ แล้วค่อยบีบเธอออกมาฮึ ” กุ่ยซานหยวนพูดต่อ

แต่มู่หลงเหยียนกลับไม่กลัวเลยสักนิด “ ฮึ ! ใครจะแพ้ใครจะชนะ ตอนนี้ยังไม่รู้หรอก ! ”

เสียงมู่หลงเหยียนเพิ่งเงียบลง ยัยป้าที่อยู่ข้างหลังพวกเขาก็ตะโกนขึ้นมาดื้อๆ “ งั้นเหรอ ! เข้าไปเลย ! ”

เมื่อเสียงนี้ดึงขึ้น ผีร้ายด้านหลังยัยป้าก็เงยหน้า ลืมตาที่เคยปิดสนิทขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ระหว่างนั้น พลังหยินจำนวนมหาศาลก็ไหลทะลักออกมา

ส่วนผีร้ายหลายสิบตัวนั้น ต่างคำราออกมา และพุ่งมาทางพวกเราทันที

ในเวลาเดียวกัน จางจึเทาที่ยืนเงียบอยู่ตรงปากซอยมาโดยตลอด ก็โบกมืออย่างรวดเร็ว “ ลุย ! ”

เสียงเพิ่งตกลง สัตว์ประหลาดสิบกว่าตัวที่ไม่ใช่คนหรือสัตว์ก็พุ่งออกมา

สัตว์ประหลาดพวกนั้นมีตาที่สามทุกตัว พวกมันแยกเขี้ยว ไม่เหมือนคนหรือสัตว์ ท่าทางดูดุร้ายผิดปกติ

หรือแม้แต่วินาทีแรกที่พวกมันปรากฎตัว ก็พุ่งเข้ามาทางพวกเราอย่างดุดัน และเร็วมากอีกด้วย

แต่ละตัวอ้าปากกว้าง คำรามไม่หยุด มือเท้าติดพื้น

ดวงตาเหมือนจะทะลักออกมา แถมยังเปล่งแสงสีแดงผิดปกติ ดูผิดธรรมชาติสุดๆ

ไม่ใช่แค่นี้ หลังจากทางจางจึเทาเคลื่อนไหว

กุ่ยซานหยวนก็โบกมือ ผีร้ายนับสิบที่อยู่ข้างหลังเขา ก็ยกมือยกแขนขึ้น และอ้าปากกว้างอย่างรวดเร็ว

เล็บและเขี้ยว งอกออกมาอย่างรวดเร็ว และดูท่าจะคมมาก

นี่เป็นศึกใหญ่ที่สุด ตั้งแต่พวกเราเป็นคนปราบสิ่งชั่วร้ายมา

เมื่อเห็นภาพแบบนั้น ผมและเหล่าเฟิงก็เสียวหัวทันที

แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว กลัวไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร

พวกเราเองก็ไม่มีทางเลือกอื่น สิ่งที่พวกเราทำได้ก็มีเพียงเดินบนเส้นทางเปื้อนเลือด……