spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 385 พี่หลี่ชุดเหลือง
จู่ๆอากาศก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน ทำให้ผมและเหล่าเฟิงรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ หรือแม้แต่สัมผัสได้ถึงอันตราย
ตอนพลังชั่วร้ายปรากฎขึ้น เหมือนมันจะพุ่งมายังร้านปิ้งย่างที่พวกเราอยู่
นี่มันอะไรกัน มีสิ่งชั่วร้ายอยู่แถวนี้เหรอ แถมมันยังจ้องพวกเราตรงนี้ หรือแม้แต่กำลังขู่พวกเราด้วย
ผมหยิบน้ำตาวัวออกมา ค่อยๆทามันลงบนเปลือกตา จากนั้นก็ส่งให้เหล่าเฟิง เหล่าเฟิงเองก็รีบทาที่เปลือกตาอย่างรวดเร็ว
น้ำตาวัวพิเศษมีกลิ่นเหม็นคาวยิ่งกว่าอะไรดี แต่ลดพลังไฟของตาพวกเราได้
หลังจากเปิดตาขึ้นมาอีกครั้ง ผมและเหล่าเฟิงก็ไม่ลังเล หันไปมองที่มืดตรงปลายถนนทันที
ผลลัพธ์พอหันไปมอง ฉากที่น่าตกใจก็ปรากฎสู่สายตาของพวกเรา
ภายใต้ความมืดมิด มีผู้หญิงคนนึงกำลังยืนอยู่เงียบๆ
ผู้หญิงคนนั้นใส่ชุดสีเหลือง ผมดำพลิ้วไหว ในเวลานี้กำลังยืนจ้องพวกเราอยู่ที่เดิม
มันอยู่ค่อนข้างไกล พวกเรามองไม่เห็นหน้าของอีกฝ่าย
แต่การแต่งตังชุดเหลืองนั้น กลับสะดุดมาก และสามารถบรรยายสถานะของเธอได้พอสมควร
นี่คือผีชุดเหลืองตนหนึ่ง และเธอกำลังจ้องมาที่เราอีกด้วย
“ ผีชุดเหลือง ! ” ผมกดเสียงลงต่ำ
เสียงผมเพิ่งเงียบลง เหล่าเฟิงก็พูดต่อทันที “ มาไม่ดีแน่ ดูท่าคงคิดจะพุ่งมาหาพวกเรา ! ”
ผมพยักหน้า “ สู้เป็นตายกับผีชุดเหลือง คงเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดแน่ๆ ! ”
พลังขั้นต่ำสุดของผีชุดเหลือง สามารถเทียบได้กับเต้าชือขั้นแรก
แต่ผมและเหล่าเฟิงยังอยู่ที่เต้าฉือขั้นสุดเท่านั้น ถ้าปะทะกับผีชุดเหลืองจริงๆ แม้อีกฝ่ายจะอยู่ในขั้นแรก
แต่มันก็ไม่ได้รับมือง่ายๆ
แน่นอนว่า พวกเราสองคนก็ไม่ได้กลัว
นอกจากจะเรียกพี่เฟิงออกมาได้ตลอดเวลาแล้ว ผมยังเชิญเซียนและเมียได้
ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็น่าจะกำราบผีชุดเหลืองตนนี้ได้ทั้งนั้น
แน่นอน ในตัวผมยังมีอาวุธสังหารอีกอย่าง กระดิ่งทองแดง
เจ้านี่สามารถกำราบผีชุดเหลืองได้อยู่หมัด ถ้าสู้ไม่ไหวจริงๆ ผมก็สั่นกระดิ่งแล้วก็จัดการเธอก็สิ้นเรื่องแล้ว
ส่วนเหล่าเฟิงกลับพูดกับผมว่า “ ในเมื่ออีกฝ่ายมาหาเรื่องถึงที่แล้ว งั้นก็ต้องลองดูสักตั้ง ถ้าสู้ไม่ไหว
เราก็ค่อยคิดหาวิธีอีกที ”
เหล่าเฟิงพูดถูก อีกฝ่ายมาหาเรื่องแล้ว ถ้าหนีทั้งแบบนี้ งั้นคนปราบผีอย่างพวกเราจะไม่ดูเสียหน้ามากเลยเหรอ
และถ้าปล่อยผีชุดเหลืองเอาไว้ในสถานที่แบบนี้ ไม่แน่เธออาจจะไปทำร้ายใครเข้าก็ได้
ผมยกยิ้มที่มุมปาก “ ในเมื่อมาเจอแล้ว งั้นคืนนี้ยัยผีนี่ก็อย่าคิดจะหนีไปจากเงื้อมมือพวกเราเลย ! ”
พอพูดถึงตรงนี้ ผมก็ตัดสินใจได้ และเตรียมตัวเตรียมใจจะลงมือ
แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆผีชุดเหลืองที่อยู่ห่างออกไปตัวนั้น ก็ตรงเข้ามาหาพวกเรา
เธอไม่ได้เดิน แต่เป็นลอยตัวเข้ามาแทน
เท้าไม่ติดพื้น ลอยเข้ามาดื้อๆแบบนั้นเลย
จู่ๆก็เห็นอีกฝ่ายขยับ ผมเลยรีบพูดออกมาสั้นๆ “ มาแล้ว ! ”
หลังจากพูดจบ ผมก็ลุกขึ้นยืนทันที
เหล่าเฟิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ “ ปึก ” ลุกขึ้นเช่นกัน
ในเวลาเดียวกัน มือของผมสองคน ก็เอื้อมลงไปลูบยันต์ตามที่จิตใต้สำนึกบอก
แต่ในขณะที่ผีผู้หญิงตนนั้นกำลังเข้ามาใกล้พวกเรา ช่วงที่เธออยู่ห่างจากพวกเราประมาณ 10 เมตร
สีหน้าของผมและเหล่าเฟิงก็เปลี่ยนเป็นตกใจ
เพราะผมและเหล่าเฟิงพบว่า ผีผู้หญิงตนนี้ มีหน้าตาเหมือนพี่หลี่ผีผู้หญิงที่เราเจอก่อนหน้านี้เป๊ะ
“ พี่หลี่ ” ผมทำหน้าเหวอ ไม่ค่อยอยากเชื่อภาพตรงหน้า
แม้พี่หลี่จะเป็นผี แต่เธอก็เป็นผีธรรมดาที่ไม่ได้มีพลังชั่วหรือแรงแค้นอะไร
แต่ตรงหน้า กลับเป็นผีร้ายชุดเหลือง
ทั้งสองตนอยู่ห่างกันคนละขั้น และนี่มันเพิ่งผ่านมานานเท่าไหร่เชียว
มันเพิ่งผ่านไปแค่หนึ่งชั่วโมง พี่หลี่ก็กลายเป็นผีชุดเหลืองได้แล้วงั้นเหรอ
ผมไม่ค่อยอยากเชื่อ แต่สภาพแบบนั้น มันเหมือนเธอไม่มีผิด ไม่มีอะไรที่บอกว่าไม่ใช่
นอกจากผมแล้ว เหล่าเฟิงเองก็ทำหน้าตกใจ เขาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
ส่วนผีผู้หญิงตนนั้น กลับเข้ามาใกล้พวกเราได้ 7-8 เมตร จากนั้นก็หยุดขยับดื้อๆ
ร่างกายของเธอปล่อยพลังชั่วร้ายที่เข้มข้นออกมา ผมดำปลิวไสว ชุดกระโปรงสีเหลืองโบกสะบัด
ใบหน้าเธอขาวซีด เรียบนิ่ง ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ
ดวงตาของเธอเบิกกว้างไร้นัยน์ตาเหมือนตาปลาตาย เธอจ้องพวกเราอยู่แบบนั้น แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา
ผมเห็นเธอจ้องพวกเราไม่ตอบกลับมาสักที ผมเลยถามออกมาอีกครั้ง “ คุณคือพี่หลี่หรือเปล่า ? ”
ผมอ้าปากถาม แต่ก็ไม่ได้ผ่อนคลายจนไม่ระวังตัว
ผีผู้หญิงยังไม่ตอบ เธอเพียงจ้องพวกเราอยู่แบบนั้น
เหล่าเฟิงกลับพูดขึ้นมาเบาๆ “ เหล่าติงเลิกถามได้แล้ว เธอคือพี่หลี่นั่นแหละ นายดูที่หน้าผากซ้ายของเธอซิ ”
พอได้ยินเหล่าเฟิงพูดถึงขนาดนั้น ผมก็เหล่ตามองหน้าผากซ้ายของผีผู้หญิงอย่างละเอียด
ใช่จริงๆ ตรงหน้าผากซ้ายของผีผู้หญิง มีปานสีซีดขาวอยู่หนึ่งแห่ง
ตัวปานเล็กมาก บวกกับผิวผีผู้หญิงซีดมาก เมื่อกี้เลยมองไม่เห็นทันที
ส่วนพี่หลี่ผีผู้หญิงที่เราเจอในตึกเมื่อก่อนหน้านี้ ที่หน้าผากซ้ายของเธอ ก็มีปานสีขาวซีดแบบเดียวกันนี้อยู่เช่นกัน
เมื่อเห็นถึงตรงนี้ ผมก็อดทำหน้าช็อกไม่ได้
นี่มันเรื่องอะไรกัน เพิ่งไม่เจอกันเท่าไหร่เอง ทำไมพี่หลี่ถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ละ
“ พี่หลี่ พี่ไปเจออะไรมา ? ” ผมถามตามที่คิด
แต่ผีผู้หญิงกลับนิ่งเหมือนเดิม เธอยังไม่ยอมพูด
ส่วนเถ้าแก่ร้านปิ้งย่างคนนั้น กำลังมองผมและเหล่าเฟิงด้วยความแปลกใจ
เขามองตรงไปยังที่พวกเรามอง แต่ตรงนั้น ว่างเปล่าไม่มีคนอยู่เลยสักคน ยิ่งไปว่านั้นยังไม่มี “ พี่หลี่ ”
อะไรนั่น
ตอนแรกเขายังคิดว่าผมและเหล่าเฟิงดื่มมากไป กำลังพูดจาเหลวไหลออกมา เลยกลับไปย่างอาหารต่อ……
ส่วนลูกค้าที่นั่งอยู่ใต้ร่มไม้ ก็เอาแต่ดื่มเหล้า ไม่เห็นผมและเหล่าเฟิงอยู่ในสายตา
ผมเห็นผีผู้หญิงตนนี้ไม่ยอมตอบ และบนตัวยังปล่อยพลังชั่วร้ายออกมา จิตสำนึกเลยบอกว่าผมกำลังเจอกับอันตราย
แม้เธอจะเป็นพี่หลี่ แต่เธอในตอนนี้ เป็นผีร้ายชุดเหลืองไปแล้ว
แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆผีผู้หญิงตนนั้นก็ตัวสั่นพักหนึ่ง
ต่อจากนั้น ท่าทีของผีผู้หญิงก็เปลี่ยนไป
หน้าที่เคยเรียบนิ่งของเธอ ตอนนี้เหมือนเป็นใบหน้าดุร้ายแล้ว
ปากยังตะโกน “ โฮก ” ออกมาหนึ่งครั้ง ระหว่างนั้น คลื่นพลังมหาศาลก็ปรากฎขึ้น
เหมือนระลอกคลื่น ที่ซัดมาหาเราไม่หยุด
ในเวลาเดียวกัน มือทั้งสองข้างของผีผู้หญิงก็มีเล็บอันแหลมคมงอกออกมา ปากก็มีเขี้ยวยาว
เธอไม่ลังเลเลยสักนิด เคลื่อนตัว ยกกรงเล็บเข้ามาฟาดฟันผมกับเหล่าเฟิงทันที
พูดตามตรง ผมและเหล่าเฟิงรู้สึกว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ จนถึงตอนนี้ พวกเราก็ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ทำไมจู่ๆพี่หลี่ก็เปลี่ยนเป็นแบบนี้ ทำไมมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ แล้วทำไมถึงมาโจมตีผมกับเหล่าเฟิง
สิ่งที่ไม่เข้าใจยิ่งกว่านั้นคือ ในช่วงเวลาหนึ่งชั่วโมงนี้ พี่หลี่ไปเจอกับเรื่องอะไรมากันแน่
ในใจมีคำถามมากมาย แต่ตอนนี้เมื่อเห็นผีผู้หญิงพุ่งเข้ามา พวกเราก็ไม่มีเวลาให้คิดเยอะ
ระหว่างที่เสียงคำรามดังขึ้น ผมและเหล่าเฟิงก็หยิบยันต์ออกมา แล้วเข้าไปปะทะ……