spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 381 มีผีอยู่ข้างๆ
หลังจากผู้หญิงคนนั้นรู้ฐานะของพวกเรา เธอก็ระบายความในใจออกมาทันที
เธออยากให้ผมและเหล่าเฟิงลงมือ ช่วยดูลูกชายของเธอเดี๋ยวนั้น
ผมและเหล่าเฟิงเป็นคนปราบสิ่งชั่วร้ายมืออาชีพ พวกเราเองก็ให้ความสำคัญกับ “ การสังเกตจากสีหน้าและคำพูด ” เช่นกัน
เมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้เครียดขนาดนี้ ผมก็พยักหน้า ส่งสัญญาณบอกให้เธออย่าเพิ่งใจร้อน
เจ้าอ้วนแซ่จูอยู่ข้างๆ ดังนั้นเลยได้ยินผมพูดกับภรรยาของเจ้าอ้วนว่า “ คุณนายจู อย่าเพิ่งใจร้อน มีอะไรก็ค่อยๆพูด ส่วนเรื่องที่เด็กคนนี้โดนผีตามรังควานจริงหรือเปล่า ตอนนี้เรายังบอกไม่ได้ รอให้เราสำรวจรอบๆเสร็จแล้ว เราถึงจะบอกได้ ”
ที่พูดแบบนี้ เพราะตอนนี้ดูเหมือน เจ้าอ้วนน้อยจะไม่ได้โดนผีตาม ดูจากภายนอก ทุกอย่างดูปกติดี
พอคุณนายจูฟังผมพูดจบ เธอก็ยังร้อนใจเหมือนเดิม
ยังพูดกับผมและเหล่าเฟิงว่า “ ท่านนักพรต ลูกชายของฉันต้องโดนป้าตรงข้ามบ้านตามแน่ๆค่ะ ”
“ โห ทำไมคุณถึงมั่นใจขนาดนั้นละ ? ” จู่ๆเหล่าเฟิงก็พูดออกมา
พอคุณนายจูได้ยิน ก็ดึงหน้าลง แล้วตอบกลับทันที “ นักพรตทั้งสองท่าน พวกคุณคงไม่รู้ ว่าทำไมป้าคนนั้นถึงโดนสามีฆ่า เพราะเธอไม่มีลูก ตอนนี้เธออายุสามสิบห้าสามสิบหกปีแล้ว แต่ก็ไม่เคยท้องเลยสักครั้ง
และตอนที่มีชีวิตอยู่ป้าคนนั้นก็ชอบฮ่าวฮ่าวของเรามาก ยังมาอุ้มฮ่าวฮ่าวบ่อยๆ มีครั้งนึงเธอเคยบอกฉันว่า
ถ้าเธอมีลูกอย่างฮ่าวฮ่าว เธอก็พอใจแล้ว ! ”
พอพูดถึงตรงนี้ คุณนายจูก็เผยสีหน้าโมโหออกมา “ สุดท้ายเป็นไงละ ! นี่เพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน เพราะเรื่องที่เธอไม่มีลูก เธอก็เลยทะเลาะกับสามี จนสุดท้ายก็โดนสามีฟันตาย ”
“ เลือดกระเด็นมาถึงประตูบ้านเรา อัปมงคลจริงๆ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฮ่าวฮ่าวของเราก็ชอบฝันร้าย
ตื่นขึ้นมากลางดึก ! แถมยังบอกว่าเจอป้าหน้าบ้าน ! และยังไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง แม้แต่ตอนกลางวันฉันก็ได้ยินฮ่าวฮ่าวพูดว่า ป้าคนนั้นไม่เพียงหอมแก้มฮ่าวฮ่าวของเรา แต่ยังบอกว่าจะพาเขาไปเล่นด้วย…… ”
คุณนายจูพูดเร็วมาก และดูโมโหมาก แต่ก็พูดออกมาอย่างชัดเจนมาก
ตอนพูดถึงตรงนี่ เจ้าอ้วนที่กำลังเล่นกับลูกอยู่ข้างๆก็รีบหันมาทันที “ เมีย เธอพูดอะไรนะ ? เขาจะพาลูกเราออกไปเล่นงั้นเหรอ ? ”
คุณนายจูทำหน้าจริงจัง “ ก็ใช่นะซิ คุณว่าเขาตายไปแล้ว พา พาลูกเราไปเล่น มันไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าจะทำร้ายลูกเราเหรอ ? ตอนนี้ แค่คิดถึงเรื่องพวกนี้ฉันก็กลัวแล้ว วันนี้ฉันอยู่กับลูกทั้งวัน กลัวว่าลูกจะเป็นอะไรไป ”
หลังจากพูดจบ คุณนายจูก็หันมาอีกครั้ง “ นักพรตทั้งสอง พวกคุณต้องคิดหาวิธี จัดการกับเรื่องนี้นะคะ
ถ้าทำไม่ได้ ฉันจะพาลูกไปอยู่บ้านแม่คืนนี้เลย ! ”
เพราะกังวลเกินไป พอพูดถึงตรงนี้ คุณนายจูก็ดูเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ ตรงหางตายังมีน้ำตาไหลซึมออกมาด้วย
จะเห็นถึงความรัก และความกังวลที่แม่มีต่อลูก
หลังจากผมและเหล่าเฟิงฟังอีกฝ่ายอธิบายจบ เราก็อดสงสัยไม่ได้
เพราะดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ พวกเรามองไม่เห็นอะไรสักอย่าง
ไม่รู้สึกถึงพลังหยินสักนิด เมื่อไม่มีพลังหยิน ก็ไม่มีผี
ถ้าไม่มีผี งั้นก็เป็นเพียงแค่สิ่งที่พวกเขาคิดขึ้นมาเองเท่านั้น
แต่สิ่งที่คุณนายจูพูดกลับฟังดูมีเหตุมีผล และเด็กน้อยก็เพิ่งอายุไม่เท่าไหร่ เขาจะพูดโกหกเป็นงั้นเหรอ
ผมและเหล่าเฟิงเริ่มทำหน้าจริงจัง จากนั้นก็พูดกับคุณนายจูอีกครั้ง “ คุณนายจู วางใจได้ ในเมื่อพวกเรามาแล้ว ก็ต้องจัดการให้เรียบร้อย เอาแบบนี้ก็แล้วกันผมจะไปลองถามอะไรลูกคุณก่อน ส่วนเหล่าเฟิงนายไปดูรอบๆ ! ”
เหล่าเฟิงไม่ได้พูดอะไร เดินตรงไปสำรวจรอบๆบ้านทันที
ส่วนผมก็มาอยู่ตรงหน้าเด็กน้อย ผมเห็นเขากำลังเล่นรถยนต์คันน้อยอยู่ เลยถามเขาเบาๆ
“ ตัวน้อย เธออายุเท่าไหร่แล้ว ? ”
เจ้าอ้วนน้อยน่ารักมาก และไม่กลัวคน
พอได้ยินผมถามแบบนั้น เขาก็ยกนิ้วให้ผมห้านิ้ว “ ผมอายุห้าขวบแล้ว ตอนอยู่โรงเรียน ผมเป็นเด็กดีตั้งใจเรียนนะครับ ! ”
ขณะฟังเสียงที่ไร้เดียงสาของเขา ผมก็ลูบหัวเขา “ เด็กดี ลุงถามเธอหน่อย เธอเจอป้าหน้าบ้านตอนไหนฮึ ? ”
เจ้าอ้วนน้อยทำตาโต ช้อนตาจ้องผม “ เมื่อกี้ คุณป้าบอกว่าผมเป็นเด็กดีมาก ชอบผมมากเลยครับ ”
ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย มองดวงตาที่ใสซื่อของเจ้าตัวน้อย ผมรู้สึกว่าเขาพูดความจริง
ตาของเด็กคนนี้ใสแวววาว อาจเป็นธาตุไฟไม่ได้ทำให้ตาของเขาขุ่นมัว ดังนั้นเขาเลยมองเห็นวิญญาณได้
ในเมื่อเด็กคนนี้มองเห็น ผมก็ถามต่อทันที “ ตัวน้อย ลุงถามอีกหน่อยซิ คุณป้าคนนั้นอยู่ที่ไหนเหรอ ? ”
เจ้าอ้วนน้อยมองผม เขาส่ายหัวไปมา “ ไม่รู้ คุณป้าคงกลับไปกินข้าวมั้ง ”
พอพูดถึงตรงนี้แล้ว เจ้าอ้วนน้อยก็กลับไปเล่นรถของเขาต่อ
ต่อจากนั้นผมยังถามเขาอีกสองสามประโยค แต่ก็ไม่ได้เบาะแสอะไรเลย
แต่จากคำพูดของเจ้าตัวน้อย ผมกลับมั่นใจ
ว่าในตึกแห่งนี้ น่าจะมีผีอยู่หนึ่งตน และผีตนนั้นก็คือผู้หญิงหน้าบ้านที่ถูกฆ่า
ผมค่อยๆลุกขึ้น จากนั้นก็เห็นเหล่าเฟิงสำรวจเสร็จแล้ว เลยถามเขาว่า “ เป็นไงบ้าง ? เจออะไรไหม ? ”
เหล่าเฟิงส่ายหัว “ ไม่มี ! ทุกอย่างปกติดี ! ”
ทุกอย่างปกติดี ไม่มีพลังหยินเลยสักนิด ถ้างั้นพวกเราจะหาผีตัวนี้เจอได้ยังไงละ
ผมครุ่นคิด หาทางออกไม่เจออยู่พักหนึ่ง
ส่วนเจ้าอ้วนและภรรยา กลับดูค่อนข้างร้อนรน
ดวงตาเบิกกว้าง อยากให้ผมและเหล่าเฟิงรีบจัดการเรื่องนี้ให้จบเร็วๆ
ผมและเหล่าเฟิงปรึกษากันพักหนึ่ง ไตร่ตรองสถานการณ์ปัจจุบัน เราตัดสินใจจะไปดูที่บ้านตรงข้าม
แม้จะไม่รู้สึกถึงพลังหยินหรือพลังชั่วร้าย แต่พอเข้าไปในบ้านหลังนั้นแล้ว ก็อาจเจออีกฝ่ายก็ได้
หลังจากตัดสินใจได้แล้ว เหล่าเฟิงก็บอกให้เจ้าอ้วนหาเหล็กเส้นเล็กๆจากในบ้านมาสองเส้น จากนั้นก็หาอุปกรณ์มาให้พวกเรา หลังจากทำขั้นตอนแบบง่ายๆ พวกเราก็ได้แท่งเหล็กและตะขอมาอย่างละอัน
ในเมื่อไม่มีกุญแจ ก็ต้องทำตัวสะเดาะกุญแจขึ้นมาง่ายๆ
เหล่าเฟิงและท่านนักพรตตู๋เคยไปที่ต่างๆมาหลายปี เทคนิคการสะเดาะกุญแจพวกนี้ เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องทำได้ และไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
หลังจากทำอุปกรณ์เสร็จแล้ว ผมก็เดินไปเปิดประตู บานประตูและรูกุญแจ โดนเทปปิดเอาไว้ทั้งหมด
ผมและเหล่าเฟิงไม่สนอะไรมากนัก เพียงยื่นมือไปดึงพวกมันออกทันที
หลังจากเหล่าเฟิงเอาเหล็กเส้นสอดเข้าไปในรูกุญแจได้พักหนึ่ง “ กรึก ” ประตูก็เปิดออก
เจ้าอ้วนและภรรยาเห็นทุกอย่าง พวกเราอดไม่ได้ที่จะเครียดขึ้นมา
โดยเฉพาะตอนที่พวกเราเปิดประตูออก พอเห็นผมและเหล่าเฟิงกำลังจะเข้าไปในบ้าน เขาก็กำหมัดแน่น และกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว
เจ้าอ้วนยังเตือนตามหลังพวกเราเบาๆ บอกให้ผมและเหล่าเฟิงระวังตัวด้วย
แต่ผมและเหล่าเฟิง กลับดูนิ่งมาก
เพียงพยักหน้าให้สองสามีภรรยาคู่นั้น จากนั้นก็เดินเข้าไปทันที
ส่วนเจ้าอ้วนและภรรยา ก็ไม่มีทางกล้ายืนอยู่หน้าบ้านอยู่แล้ว
พวกเราเพิ่งเข้าไปในบ้าน พวกเราสองคนก็เข้าไปข้างในบ้านทันที จากนั้นก็ล็อคประตูอย่างแน่นหนา
ผมและเหล่าเฟิงก็ไม่ได้สนใจ เพียงยืนอยู่ในบ้านที่ถูกปิด เห็นรอบๆมีแต่ความมืด เห็นทุกอย่างเป็นเพียงโครงร่างเท่านั้น
แต่ในบ้านหลังนี้ นอกจากความมืดแล้ว เราก็ไม่รู้สึกถึงพลังหยินเลยสักนิด
หรือจะพูดว่า ในบ้านหลังนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่น
แต่เพื่อความปลอดภัย ผมและเหล่าเฟิงต่างแยกย้ายเปิดตาตัวเอง อยากจะมองดูทุกอย่างในบ้านให้ละเอียด
หลังจากเปิดตาแล้ว บ้านที่มืดมิดก็สว่างขึ้นมาทันตา
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น พวกเราก็ยังไม่เห็นอะไรพิเศษในบ้านอยู่ดี
นอกจากข้าวของกระจัดกระจายและพื้นเปื้อนเลือดแล้ว ทุกอย่างก็ดูปกติดี
เราเดินวนในบ้านสองรอบ พบว่าในบ้านหลังนี้มีเครื่องดนตรีเยอะมาก ท่าทางเหมือนตอนมีชีวิตอยู่เจ้าของบ้านจะชอบดนตรีมาก
ในเวลาเดียวกัน ผมก็ดูรูปแต่งงานที่แขวนอยู่บนผนังเป็นพิเศษ
ผู้หญิงในรูปยิ้มหวานมาก แต่น่าเสียดายที่เธอตายไปแล้ว บ้านหลังนี้ก็แตกเป็นจุลแล้ว
พอเห็นว่าไม่มีอะไร ผมและเหล่าเฟิงก็กำลังจะออกจากบ้าน เพื่อไปดูที่ชั้นล่างหรือชั้นบนต่อไป
ผลลัพธ์ผมสองคนเพิ่งหมุนตัว ทันใดนั้นเองจู่ๆที่ประตูก็มีหมอกสีขาวค่อยๆกระจายตัวให้เห็น ต่อจากนั้นเสียงเพลงเศร้าๆ ก็ลอยผ่านหูของผมและเหล่าเฟิงไป “ ฉันได้แต่รออยู่ในทะเลทรายอย่างเงียบๆรอให้ดอกไม้บาน…… ”