หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 379 รับรถ

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 379 รับรถ

หลังจากชายร่มดำหายไป พวกเราก็ลืมเรื่องนี้ไปอย่างรวดเร็ว

พอเราสองคนมาถึงย่านขายรถ เราก็ตรงไปที่ศูนย์ SGMW ทันที

ผ่านไปไม่นาน พวกเราก็มาถึง

 

มองจากที่ไกลๆ เราพบว่าเถ้าแก่เจ้าอ้วนคนนั้นกำลังรอพวกเราอยู่หน้าประตู และกวาดสายตามองไปรอบๆ

ตอนเขาเห็นผมและเหล่าเฟิง เขาก็ฉีกยิ้มออกมา และวิ่งเข้ามาหาพวกเราทันที

“ ท่านนักพรตติง…… ”

 

ผมและเหล่าเฟิงรู้สึกไม่ค่อยดีกับเจ้าหมอนี่เท่าไหร่ เลยไม่ได้แสดงสีหน้าท่าทางอะไรออกมา

ในเวลานี้พอเห็นเขาวิ่งเข้ามา ผมก็แค่ทักทาย และถามว่า “ เจ้าอ้วน รอนานเท่าไหร่แล้ว ? ”

 

“ ไม่นาน ไม่นานครับ ท่านนักพรตติง รถของคุณล้างเสร็จแล้วครับ พวกเราเข้าไปรอในร้านกันเถอะครับ เดี๋ยวผมจะเรียกคนให้ไปขับออกมาให้คุณ ! ” เจ้าอ้วนพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“ ได้ ป่ะเข้าไปกัน ! ” น้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่ในใจผมกลับกำลังตื่นเต้นมาก หรือจะพูดได้ว่าหัวร้อนสุดๆ

ผ่านไปแค่แป๊บเดียวเท่านั้น ผมก็ตามเจ้าอ้วนไปถึงในศูนย์

 

เจ้าอ้วนเรียกให้พนักงานคนหนึ่งไปขับรถออกมา จากนั้นก็หันมาคุยกับผมสองคน “ ท่านนักพรตติง 

พวกคุณเก่งจริงๆเลยครับ ! ตั้งแต่คุณโทรมาบอกว่าจัดการเรียบร้อยแล้ว รถคันนั้นก็ไม่มีเสียงแปลกนั้นดังออกมาอีกเลยครับ ”

 

“ และในรถก็ไม่มีละอองน้ำหรือคราบน้ำที่มันไม่ควรมีเกิดขึ้นอีกเลย ร้านเราก็ถือว่าได้กลับมาสงบเหมือนเดิมแล้วครับ ”

 

พอได้ยินเจ้าอ้วนพูดแบบนั้น ผมก็ทำหน้าสบายๆ ก็ครอบครัวสกุลเหยียนทั้งเจ็ดคนโดนส่งไปหมดแล้วนิ 

จะยังมีอะไรให้ผมพูดมากอีกละ

 

“ คราวนี้ถือว่านายโชคดี ที่ได้มาเจอกับพวกเรา และครอบครัวสกุลเหยียน ก็ไม่ใช่วิญญาณร้ายอะไร 

ไม่อย่างงั้น อย่าว่าแต่ธุรกิจของนายเลย แม้แต่ถ้าคนที่นี่ไม่ตายไปหลายคน เรื่องนี้ต้องไม่จบแน่ๆ ! ”

 

พอเจ้าอ้วนฟังจบ ก็รีบพยักหน้าทันที “ ครับๆๆ ท่านนักพรตติงพูดถูก ! ผมเตรียมจะเอารถคันนั้นไปแยกชิ้นส่วนแล้วครับ ต่อไปไม่กล้าไปแตะรถที่เคยเกิดอุบัติเหตุพวกนี้อีกแล้วครับ ! ”

เสียงของเจ้าอ้วนเพิ่งเงียบลง เหล่าเฟิงที่อยู่ข้างๆก็พูดขึ้นมาทันที “ รถคันนั้นยังอยู่ใช่ไหม ? ”

 

“ ครับ ยังอยู่ ! กำลังจะเอาไปแยกชิ้นส่วนแล้วครับ ! ” เจ้าอ้วนตอบตามจริง

“ อือ งั้นนายขับรถคันนั้นออกมาด้วย ฉันจะดูสักหน่อย ! ” เฟิงเฉ่วหานพูดไม่ช้าและไม่เร็วเกินไป

 

แม้เจ้าอ้วนไม่รู้ว่าเฟิงเฉ่วหานจะทำอะไร แต่เขาก็ทำตามทุกอย่าง

ต่อจากนั้นเขาก็ไม่พูดอะไร บอกให้พนักงานอีกคน ไปขับรถที่เคยเกิดเรื่องคันนั้นออกมา

 

แต่ผมเข้าใจดี เหล่าเฟิงอยากจะดูว่ารถคันนั้นเคยโดนใครแตะต้องมาก่อนหรือเปล่า

จากตอนทำพิธีเรียกวิญญาณ จู่ๆจางจึเทาก็โผล่หัวออกมา

 

ตามที่สกุลเหยียนบอก ตอนมีชีวิตอยู่พวกเขาไม่เคยไปทำให้ใครแค้นมาก่อน ครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุทั้งนั้น

แต่สิ่งที่แปลกคือ ทำไมถึงตกเป็นเป้าของหมอผีอย่างจางจึเทาได้

 

และตอนที่พวกเราทำพิธีเรียกวิญญาณ เขาก็ดันรู้ด้วย

ตอนนั้นอาจารย์และท่านนักพรตตู๋เดาว่า จางจึเทาอาจเคยแปะยันต์เอาไว้ในรถคันนั้น หรือไม่ก็ทำอะไรบางอย่างมาก่อน

 

ดังนั้นที่พวกเรามาครั้งนี้ ไม่เพียงแค่มารับรถเท่านั้น แต่ยังมาดูให้ชัดเจน

ถ้ารถคันนั้นเคยโดนแตะต้องมาก่อนจริงๆ เราก็จะทำให้มันสะอาด ไม่อย่างนั้นอาจมีปัญหาเกิดขึ้นอีก

 

หลังจากรอที่หน้าประตูมาสักพัก รถใหม่ที่เราซื้อก็ออกมา

รถอู่หลิงหงกวงตัวท็อป แม้จะเป็นรถราคาถูก แต่พอได้เห็นมัน ผมกลับรู้สึกว่าไม่ว่าจะมองยังไงมันก็ดูดี

 

ผมรอแทบจะไม่ไหวที่จะขึ้นไปนั่งดูแล้ว ดังนั้นผมเลยถือกุญแจขึ้นไปสัมผัสมันทันที

ในรถยังมีกลิ่นพลาสติกอยู่ บนแผงควบคุม ยังมีพลาสติกคุมอยู่ชั้นหนึ่ง

 

ผมกวาดสายตามองสองสามครั้ง ลูบตรงนี้ ดูตรงโน้น

ผมรู้สึกว่ามันสะดวกสบายมาก หรือแม้แต่ลองสตาร์ทรถพักหนึ่ง

 

ฟังเสียงเครื่องยนต์ “ บรื้นๆ ” ไม่รู้สึกว่ามันเสียงดัง หรือแม้แต่ลองขับวนรอบที่นี่รอบหนึ่ง

หลังจากลองรถเสร็จแล้ว เจ้าอ้วนก็ให้ผมเข้าไปเซ็นยืนยัน

 

ผมให้ความร่วมมือมาก หลังจากทำทุกขั้นตอนเสร็จ ก็เหลือแค่รอป้ายทะเบียนชั่วคราวอีกแป๊บหนึ่ง 

จากนั้นก็ขับรถออกไปได้แล้ว

ระหว่างนี้ รถคันที่เกิดอุบัติเหตุคันนั้นก็ออกมา

 

มันเพิ่งจอด ผมและเหล่าเฟิงเดินเข้าไปหาทันที

เพื่อให้แน่ใจว่าในรถโดนเจ้าจางจึเทาแตะต้อง หรือโดนแปะยันต์เอาไว้ที่ไหนสักแห่งหรือเปล่า พวกเราสองคนเริ่มตรวจสอบรถคันนี้ทั้งด้านในและด้านนอก

 

สุดท้ายที่ตำแหน่งล่างสุดของเบาะข้างๆคนขับ ก็มีคนกระดาษสีดำเจ็ดตัวแปะเอาไว้อย่างที่คาด

คนกระดาษเจ็ดตัวนั้นทำมาจากแผ่นยันต์ อีกด้านหนึ่งเขียนชื่อของคนสกุลเหยียนแต่ละคนเอาไว้

 

ตอนผมหาคนกระดาษเจ็ดตัวนี้เจอ ผมก็พูดกับเหล่าเฟิงทันที “ เหล่าเฟิง นายดูเจ้านี่ซิ ! ”

“ ยันต์กระดาษดำ ! ”

 

“ ใช่ บนนี้ยังมีชื่อของคนสกุลเหยียนด้วย ถึงว่าทำไมเจ้าจางจึเทาถึงรู้ว่าพวกเราทำพิธีเรียกวิญญาณ เหมือนที่อาจารย์ฉันและท่านนักพรตตู๋เดาเอาไว้ไม่มีผิด คนสกุลเหยียนโดนจ้องเป็นเป้ามาตั้งนานแล้ว ตอนพวกเราเรียกวิญญาณ เลยไปโดนคาถาที่มันเสกเอาไว้ ” ผมพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

 

“ อือ ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น เพียงแต่เห็นอยู่ชัดๆว่าสกุลเหยียนทั้งเจ็ดคนต้องมนต์มาก่อน 

แต่ทำไมพวกเขาถึงจำเรื่องเจ้าชั่วนั้นไม่ได้เลยนะ ? ” เหล่าเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงสงสัย

 

แม้ผมจะคิดไม่ตก แต่ครอบครัวสกุลเหยียนจากไปโลกแห่งคนตายแล้ว และเรื่องนี้ก็ไม่มีทางพิสูจน์ได้แล้ว

เท่าที่ผมเดา บางทีคงเป็นเพราะเจ้าจางจึเทาใช้วิชามารบางอย่าง ทำให้คนสกุลเหยียนทำชั่วเวลานั้นไม่ได้

 

ผมสูดหายใจเข้า หยิบไฟแช็กออกมา เผาคนกระดาษทั้งเจ็ดตัวนั้น

จากนั้นก็พูดกับเหล่าเฟิงว่า “ ช่างหัวมัน ไม่ว่ายังไงคนสกุลเหยียนก็ไม่เป็นไรแล้ว พวกเราเผายันต์ดำพวกนี้แล้ว ก็ถือว่าจบเรื่องนี้แล้วละ ! ”

 

พอเหล่าเฟิงได้ยินผมพูดถึงขนาดนั้น เขาก็พยักหน้าให้ แล้วไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก

หลังจากเผายันต์ดำเสร็จ ผมก็คืนกุญแจให้พนักงาน

หลังจากรอมาสักพัก ทะเบียนชั่วคราวก็พิมพ์เสร็จแล้ว

 

ผมเอาป้ายทะเบียนชั่วคราวมาถือ แล้วกำลังจะเดินออกไป

แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆเจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาว่า “ ท่าน ท่านนักพรตติงคุณรอก่อน ! ”

 

ผมหยุดเดิน จากนั้นก็หันไปมองเจ้าอ้วน แล้วพูดว่า “ ผู้จัดการใหญ่มีอะไรอีกหรือเปล่า ? ”

“ เอ่อคือ คือผม ผมยังมีเรื่อง อยาก อยากให้ท่าน ท่านนักพรตติงช่วย ! ” เจ้าอ้วนดูลำบากใจหน่อยๆ

 

ตอนนี้ผมกำลังอารมณ์ดี พอได้ยินคำพูดนี้ ผมก็ถามต่อทันที “ มีเรื่องอะไรก็พุดมาเถอะ ! ”

พอเจ้าอ้วนได้ยินผมตอบแบบนั้น ก็ดีใจ รีบพูดออกมาทันที “ ท่านนักพรตติง เป็นแบบนี้ ผมเพิ่งย้ายบ้านใหม่ ช่วงสองสามวันนี้ ช่วงสองสามวันนี้ผมรู้สึกอยู่แล้วมันไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ ! ”

 

พอพูดถึง เจ้าอ้วนก็ดูเศร้าพอสมควร

ผมและเหล่าเฟิงก็ไม่ได้ขัดคอ เพียงแค่รอฟังต่อ

 

เจ้าอ้วนเงียบไปพักหนึ่ง แล้วถึงพูดต่อ “ ตรงข้ามบ้านผม ตรงข้ามบ้านผมมีสองผัวเมียทะเลาะกัน สุดท้ายผู้ชายคนนั้นโมโห เลยฆ่าเมียของเขาตาย เรื่องนี้มันน่ากลัวมาก ช่วงสองสามวันนี้ตอนพักอยู่ในบ้าน 

ผมยังรู้สึกว่าบรรยากาศมันวังเวงแปลกๆ ตอนกลางคืนช่วงสามวันนี้ ลูกที่บ้านก็ชอบร้องไห้งอแง 

แม่ของผมบอกว่าเด็กๆมักเห็น เห็นของไม่ดี ”

 

“ และท่านนักพรตติงก็มีอำนาจด้านนี้ ดังนั้น ดังนั้นคุณจะ จะช่วยผมแปะยันต์สะกดให้บ้านผม กำจัดเรื่องร้ายๆอะไรพวกนั้นได้ไหมครับ ”

 

เจ้าอ้วนเพิ่งพูดจบ ไม่รอให้พวกเราได้พูด เขาก็พูดต่อทันที “ ท่านนักพรตวางใจได้ ขอแค่ช่วยผมจัดการเรื่องนี้แล้ว เราสามารถคุยเรื่องเงินได้นะครับ ”

เจ้าอ้วนคนนี้เป็นนักธุรกิจหน้าเลือดอย่างแน่นอน

 

แต่ในฐานะคนปราบสิ่งชั่วร้าย ถึงจะเป็นนักธุรกิจหน้าเลือด แต่พวกเราก็มีหน้าที่ที่ต้องปกป้องพวกเขาจากภูติผีปีศาจต่างๆ

และเราก็เพิ่งซื้อรถไป เงินทั้งหมดในบัญชีก็เหลืออยู่ไม่เท่าไหร่แล้ว

 

ตอนนี้งานมาอยู่ตรงหน้าแล้ว ผมจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ

ผมหันไปมองเหล่าเฟิง เหล่าเฟิงเองก็พยักหน้าให้ผม

 

ดังนั้น ผมเลยพูดกับเจ้าอ้วนว่า “ จับปีศาจล่าผี เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของพวกเรา ในเมื่อนายมีปัญหา เราเองก็ยังมีเวลาอยู่ จะตามนายไปดูให้นายหน่อยก็แล้วกัน…… ”

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.