spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 371 ไล่พวกเขาออก
ในฐานะที่ฟางฉางเจียงเป็นผู้ช่วยของเสี่ยวม่าน เขาเลยรู้ดีกว่าผมกับเสี่ยวม่านเป็นอะไรกัน
และรู้ความสามารถในการทำงานของผมและเฟิงเฉ่วหาน
ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพระหว่างผมกับเจ้านายของเขา หรือความสามารถของพวกเรา มันก็คุ้มค่าให้เขาคบหา
เนื่องจากถ้าคิดจะก้าวต่อไป เขาก็ต้องพึ่งพาต้นไม้ต้นใหญ่อย่างเสี่ยวม่าน ค่อยๆปีนขึ้นไปจนถึงฝั่งฝัน
และในช่วงชีวิตของคนเรา มันยากที่จะเลี่ยงไม่ให้หากเจอกับของไม่ดีที่ตามองไม่เห็น หรือการดูฮวงจุ้ยของสุสาน และบ้านเป็นต้น
การคบหากับพวกเรา อาจสร้างประโยชน์ในอนาคตให้กับเขา
ดังนั้นพอฟางฉางเจียงได้ยินผมอยากให้เขาช่วย เขาก็แทบไม่ลังเล รีบตอบกลับทันที “ น้องติง นายเกรงใจเกินไปแล้ว มีอะไรก็พูดมาเลย ถ้าฉันฟางฉางเจียงช่วยได้ ก็ต้องช่วยแน่นอน ”
ผมยิ้มอ่อน “ ผู้ช่วยฟางไม่ได้มีอะไรร้ายแรงถึงขนาดนั้นหรอก พวกคุณไม่ได้กำลังจะซื้อรถเหรอ ? แถมที่นี่ก็ให้ราคาถูกที่สุด คุณก็ไม่ต้องไปที่อื่น ซื้อรถที่นี่แหละ ”
ผมพูดตรงๆ ผลลัพธ์เพิ่งพูดจบ เซลล์ทั้งโชว์รูม ก็อึ้งกันทันที
เป็ดที่บินจากไป จะกลับมาอีกครั้งแล้ว
ลูกโป่งเหี่ยวอย่างผู้จัดการใหญ่ช่าย กลับมาร่าเริงอีกครั้ง “ ใช่ครับใช่ครับ ! คุณฟาง ส่วนลดของเราเยอะมาก และพวกเรายังสามารถมอบรถหรูเป็นของสมนาคุณด้วยนะครับ ! ”
ผู้จัดการใหญ่ช่ายพูดออกมาอีกครั้ง พนักงานคนอื่นก็เบิกตากว้าง จ้องฟางฉางเจียง อย่างรอคอยคำตอบ
นี่มันเกี่ยวข้องกับโบนัทสิ้นปีของพวกเขา ไม่มีใครอยากเสียการค้าครังนี้ไป
แต่ฟางฉางเจียงกลับเงียบนิ่ง จากนั้นก็ลากมือผมไปทางด้านหนึ่ง แล้วหันหลังให้พวกเขา “ น้องติง นายจะทำอะไร ? เมื่อกี้พวกมันเกือบทำร้ายนายแล้วนะ นายจะยังให้ฉันซื้อรถที่นี่อีกเหรอ ? ”
ผมโบกมือ “ เรื่องนี้มันไม่สำคัญ แต่คุณต้องซื้อกับเซลล์ผู้หญิงคนนั้นนะ หลังจากนั้นผมยังต้องให้พวกเขาทำตามเงื่อนไขของผมอีกหนึ่งอย่าง ”
ขณะพูด ผมก็กวาดสายตามองเสี่ยวฟางที่ยังทำหน้าเสียใจอยู่
ฟางฉางเจียงตาแดง และดูสับสนเล็กน้อย
แม้จะไม่เข้าใจว่าผมกำลังทำอะไร ! แต่พอเห็นท่าทางจริงจังของผม เขาก็พยักหน้าให้เล็กน้อย
“ ได้ น้องติงว่ายังไง ฉันก็จะทำอย่างงั้น ! ”
“ ดี ! งั้นก็รบกวนผู้ช่วยฟางแล้ว ! ” ผมคลี่ยิ้ม
ต่อจากนั้น ผมและฟางฉางเจียงก็หันหลังกลับ
จากนั้นทุกคนก็ได้ยินฟางฉางเจียงพูดกับผู้จัดการใหญ่ช่ายว่า “ ผู้จัดการใหญ่ช่าย น้องติงของผมใจกว้างไม่ถือสาพวกคุณ การซื้อขายนี้ เรายังคุยกันต่อได้ ! ”
พอคำพูดนี้ดังขึ้น ทุกคนในโชว์รูมก็ดีใจขึ้นมาทันที
เมื่อกี้ยังอยู่ในหุบเขาน้ำแข็ง แต่ในเวลานี้กลับมาอยู่บนท้องฟ้าที่แจ่มใสอีกครั้ง
“ เฮ้อ ! เยี่ยมไปเลย ”
“ ดีสุดๆ ดีสุดๆไปเลย ! ”
“ …… ”
ทุกคนระเบิดเสียงดีใจออกมาทันที แต่ละคนดีใจจนแทบจะกระโดดกอดกันได้ เหมือนเห็นสถานการณ์พลิกกลับมาดีอีกครั้ง
ผู้จัดการหวูและพนักงานขายสามคนนั้นก็ทำหน้าดีใจ ผ่านมาอย่างงงๆ ขอแค่ได้โบนัทก้อนโต พวกเราก็ไม่สนอะไรอีกแล้ว
ผู้จัดการใหญ่ช่ายก็ตื่นเต้น ขอแค่เอาการค้าครั้งนี้มาครองได้ ตำแหน่งผู้จัดการระดับภาคที่ว่างอยู่ก็ต้องเป็นของเขาอย่างแน่นอน
“ ขอบคุณคุณฟางมากครับที่พิจารณา พวกเราต้องดำเนินงานทุกขั้นตอนต่ออย่างถูกต้อง ! ตรงไหนที่ไม่พอใจ พวกเราต้องทำออกมาให้สมบูรณ์แบบอย่างแน่นอนครับ ” ผู้จัดการใหญ่ช่ายพูดด้วยความตื่นเต้น
แต่ฟางฉางเจียงกลับไม่ได้แสดงสีหน้ามากนัก เขาพูดต่อทันที “ ผู้จัดการใหญ่ช่าย อย่าเพิ่งรีบร้อน
ผมจะลงทำการค้าครั้งนี้ก็ได้ แต่ผมจะเซ็นสัญญาซื้อในนามเซลล์ผู้หญิงคนนั้น ! ”
หลังจากพูดจบ ฟางฉางเจียงก็ชี้ไปที่เสี่ยวฟางที่กำลังทำหน้าเสียใจอยู่ไม่ไกล
ทุกคนมองตามนิ้วเขา พอเห็นว่าเป็นเสี่ยวฟาง พวกเขาก็ตะลึงในทันที
“ บัดซบ ยัยเด็กใหม่นั่นงั้นเหรอ ! ”
“ นี่มันเรื่องอะไรกัน ? ทำไมถึงเซ็นสัญญาในนามของเธอ ! ”
“ ทำไมถึงเป็นยัยสถุนนี่ ”
“……”
เซลล์ทุกคนเริ่มนินทากันทันที
ส่วนเสี่ยวฟาง ก็ตะลึงเช่นกัน เธอชี้ที่ตัวเอง “ ฉัน ฉันเหรอ ? ”
ฟางฉางเจียงพยักหน้า “ ใช่ เธอนั่นแหละ ! ”
ยัยผู้หญิงใจดำคนนั้นเหมือนจะอยากต่อว่าเสี่ยวฟางมาก ตอนนี้เธออารมณ์เสียอย่างแรง จึงเดินออกมาพูด พร้อมกับอกขาวอวบที่เด้งไปมา “ คุณฟาง เธอไม่ได้เป็นพนักงานของศูนย์แล้ว คุณเซ็นสัญญาในชื่อของฉันเถอะนะคะ ! ”
คำพูดนี้มันก็ไร้ยางอายพอใช้ได้ แต่เธอกลับไม่หน้าแดงเลยสักนิด
ส่วนผู้จัดการหวูคนนั้นก็ก้าวออกมาเช่นกัน “ ใช่ครับ ใช่ครับ ผมไล่เธอออกแล้วไปครับ ! ”
ฟางฉางเจียงกลับไม่ใส่ใจ เพียงเหลือบมองผู้จัดการใหญ่ช่ายเท่านั้น
ผู้จัดการใหญ่ช่ายก็ไม่รอช้า รีบพูดขึ้นมาทันที “ ผู้จัดการหวู นายบอกว่าไล่ออกก็ต้องออกแล้วเหรอ ?
ถ้างั้นจะมีผู้จัดการใหญ่อย่างฉันไปทำไม เสี่ยวฟางยังเป็นพนักงานของศูนย์เรา ! และตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เธอได้เป็นพนักงานเต็มตัวแล้ว ”
พอเสี่ยวฟางได้ยินคำพูดนี้ ก็ดีใจสุดๆ เธอเอามือขึ้นมาปิดปาก พร้อมทำหน้าไม่อยากจะเชื่อออกมา
เพราะสาเหตุบางอย่าง เสี่ยวฟางเลยต้องการงานนี้มาก
ฟางฉางเจียงพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็พูดต่อทันที “ ผู้จัดการใหญ่ช่าย น้องผมยังมีเงื่อนไขอีกข้อหนึ่ง
ถ้าคุณทำได้ ผมจะเซ็นสัญญาทันที…… ”
พอพูดจบ ฟางฉางเจียงก็มองมาทางผม
ส่วนผู้จัดการใหญ่ช่ายคนนั้นก็หันมาทางผม ด้วยหน้าตาใจดี “ คุณผู้ชาย มีอะไรก็พูดออกมาเลยครับ ศูนย์เราจะพยายามสุดความสามารถ ”
ผมเองก็ไม่ได้อ้อมค้อม เปิดปากพูดกับเขาตรงๆ “ ผู้จัดการใหญ่ช่ายซินะ ! ผมคงไม่พูดอ้อมค้อมแล้ว
คุณไล่เขา เขา เขาแล้วก็เธอรวมเป็นสี่คนออกซะ ทำเป็นว่าพวกเขาไม่เคยทำงานอยู่ที่นี่ก็พอ ! ”
ตอนพูด ผมชี้ไปที่ผู้จัดการหวู และพนักงานขายสามคนนั้น
ถ้าสามคนนี้ยังอยู่ที่นี่ต่อ แม้ผมจะสร้างผลงานให้เสี่ยวฟางแล้ว แต่เธอก็ต้องโดนกดขี่เหมือนเดิมแน่ๆ
และคนพวกนี้ก็ใจดำอย่างกับอะไรดี พวกเขาดูถูกอาชีพพนักงานขายอย่างสุดตัว
พอผู้จัดการหวูและเซลล์สามคนนั้นได้ยินผมพูดแบบนี้ ท่าทางที่ยังดีใจเมื่อกี้ ก็เปลี่ยนเป็นตกตะลึงทันที
เซลล์เตี้ยอ้วนหนึ่งในนั้นพูดกับผู้จัดการใหญ่ช่ายทันที “ ผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการใหญ่ ผมทำงานมาให้คุณสองปีเลยนะครับ ! คุณจะไล่ผมออกไม่ได้นะครับ ! ”
“ ผู้จัดการใหญ่ เมื่อกี้ฉันทุ้มสุดตัวขายรถได้ห้าคันเลยนะคะ คุณก็ไล่ฉันออกไม่ได้นะคะ ! ” ผู้หญิงใจดำก็พูดเช่นกัน
“ ผู้จัดการใหญ่ ผมเป็นผู้ช่วยคุณเลยนะ ” ผู้จัดการหวูก็พูดอย่างกระวนกระวาย
แต่ผู้จัดการใหญ่ช่ายกลับกวาดตามองพวกเขาเท่านั้น สุดท้ายเขาก็พูดอย่างเด็ดขาด “ พวกนายคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าพวกนายทำอะไรไว้ที่นี่บ้าง ? กดหัวเพื่อนร่วมงาน หาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง และที่ร้ายแรงที่สุดก็คือเลือกลูกค้า กินส่วนแบ่งจากร้านอื่น ! ทำให้ลูกค้าออกจากร้านเราโดยไม่มีเหตุผลตั้งเท่าไหร่แล้ว ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พวกนายสี่คนโดนไล่ออก ! อีกเดี๋ยวไปรับเงินก้อนสุดท้ายที่แผนกบัญชีซะ ! ”
เสียงของผู้จัดการใหญ่ช่ายเพิ่งเงียบลง ทั้งสี่คนนั้นก็ยืนนิ่งหน้าเหวอทันที
นี่เป็นงานที่ไม่เลว และอีกเดี๋ยวตอนสิ้นปีก็จะได้โบนัทก้อนโตอยู่แล้ว แต่สุดท้ายละ กลับโดนไล่ออกในเวลาสำคัญอย่างงี้
ผู้จัดการใหญ่ช่ายไม่สนใจท่าทีของพวกเขาเลยสักนิด เขาหันมาพูดกับฟางฉางเจียงแทน “ คุณฟาง ผมคิดจะไล่พนักงานไม่กี่คนนี้ออกนานแล้ว พวกเขาไม่มีทีมเวิร์คและความเป็นมืออาชีพเลยสักนิด ”
ฟางฉางเจียงไม่ได้สนใจว่าเขาจริงใจหรือเปล่า เพียงยิ้มอ่อนเท่านั้น “ เตรียมตัวเซ็นสัญญาเถอะ ! ”
ผู้จัดการใหญ่ช่ายดีใจยิ่งกว่าอะไร เขาไม่สนใจพนักงานที่เพิ่งโดนไล่ออกไม่กี่คนนั้น รีบเดินไปทำเรื่องเซ็นสัญญาทันที
ส่วนพนักงานที่โดนไล่ออกไม่กี่คนนั้น ก็รู้สึกเสียหน้า ต่อคนจำนวนมากขนาดนี้
ผู้จัดการใหญ่ช่ายเพิ่งเดินออกไป ในทางกลับกันพวกเขาก็วิ่งออกไปนอกศูนย์
ผมเห็นว่าทำเรื่องที่ควรทำเสร็จแล้ว เลยคิดว่าอยู่ที่นี่ไปก็ไม่ได้อะไร เลยบอกลาฟางฉางเจียง และเตรียมออกจากที่นี่
ฟางฉางเจียงรั้งเราสองคนให้อยู่ต่อ บอกว่าจะเชิญเราไปทานข้าวเย็น
ผมและเหล่าเฟิงปฏิเสธ จากนั้นก็เดินออกมาจากศูนย์ทันที
ผลลัพธ์เพิ่งเดินออกจากประตูได้ไม่ไกล เสี่ยวฟางก็วิ่งตามออกมา
“ พวกคุณ พวกคุณสองคน ”
พอได้ยินเสียงนี้ ผมและเหล่าเฟิงก็หยุดเดิน “ เสี่ยวฟาง มีเรื่องอะไรอีกหรือเปล่า ? ”
เสี่ยวฟางค่อนข้างทำตัวไม่ถูก “ ขอบคุณ ขอบคุณพวกคุณมากนะคะ แต่ให้พวกผู้จัดการหวูกลับมา
ได้ไหมคะ แบบนี้ แบบนี้มันดูไม่ค่อยดี ”
พอได้ยินคำพูดนี้ ผมและเหล่าเฟิงก็เงียบไปพักหนึ่ง
ผู้หญิงคนนี้เป็นคนดีมาก โดนรังแกถึงขนาดนี้แล้ว ยังคิดจะมาขอร้องให้อีกฝ่ายอีก
ผมคลี่ยิ้ม “ เรื่องนี้เราทำไม่ได้หรอก แต่คนใจดำแบบนั้น ถ้ามีพวกเขาอยู่ เธอก็จะทำงานให้มันออกมาดีไม่ได้นะ ! โอเค ถ้ามีวาสนาค่อยพบกันใหม่ ! ”
หลังจากพูดจบ ผมก็เริ่มเดินต่อ
แต่เสี่ยวฟางกลับพูดขึ้นมาอีก “ เอ่อ เอ่อคือทั้งสองท่าน ไม่ทราบ ไม่ทราบว่ามีนามว่าอะไรเหรอคะ ”
เสี่ยวฟางเป็นพนักงานขายคนหนึ่ง แต่ตอนถามถึงชื่อพวกเรา เธอกลับทำท่าเขินอายออกมา
ผมและเหล่าเฟิงก็ไม่คิดมา ตอบกลับด้วยรอยยิ้มทันที “ ติงฝาน ”
“ เฟิงเฉ่วหาน ”