หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 370 เป็นใคร

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 370 เป็นใคร

ผู้จัดการเพิ่งพูดจบ รปภ.สี่คนนั้นก็ถือกระบองไฟฟ้าเดินเข้ามาหน้าตาดุดัน

ผมและเหล่าเฟิงก็ไม่ได้ตกใจกับท่าทางของพวกเขา พวกเราเดินเองได้ แต่ยังไงก็ไม่มีทางโดนพวกเขาใช้กระบองไฟฟ้าขู่หรือโดนเตะออกไปเด็ดขาด

 

ถึงจะต้องออกไป พวกเราก็ต้องออกไปแบบมีหน้ามีตา

พอเห็นอีกฝ่ายเข้ามาหาเรื่องใกล้ขึ้นเรื่อยๆ  ผมและเหล่าเฟิงก็ไม่ได้ถอยหนีเลยสักนิด เราเตรียมปะทะกับอีกฝ่ายทันที

 

แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆเสียงใครบางคนก็ดังขึ้น “ หยุดเดี๋ยวนี้ ! ”

เสียงดังมาก จากนั้นเราก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาทางพวกเรา

 

พอลองสังเกตดู ผมก็พบว่าพวกเขาไม่ใช่ใครอื่น หนึ่งในนั้นก็คือฟางฉางเจียง ผู้ช่วยของเสี่ยวม่าน

ตอนนี้ฟางฉางเจียงพาคนกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามาทางนี้ พอผู้จัดการคนนั้นเห็นฟางฉางเจียง ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไปทันที “ คุณ คุณฟาง ขอโทษด้วยครับ ที่นี่มีสถุนสองคนมาก่อเรื่อง รบกวนคุณแล้ว เดี๋ยวผมจะให้พวกเขาเตะออกไปเดี๋ยวนี้แหละครับ…… ”

 

หลังจากพูดจบ ผู้จัดการคนนั้นก็พูดกับรปภ.อีกครั้ง “ ยังยืนบื้ออยู่ทำไมฮะ ? รีบลากพวกมันออกไปซะ ! ”

“ ใครกล้าฮะ ? ” จู่ๆฟางฉางเจียงก็ตะโกนออกมา ทำให้โชว์รูมกลับมาเงียบอีกครั้ง

 

ในเวลาเดียวกัน ทุกคนก็เห็นฟางฉางเจียงเดินเข้ามาหาผมกับเหล่าเฟิง

เมื่อเห็นฟางฉางเจียงเดินเข้ามา มุมปากของผมก็ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย

 

ฟางฉางเจียงกลับยื่นมือทั้งสองข้างออกมาอย่างรวดเร็ว “ น้องติง น้องเฟิง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเจอพวกนายที่นี่ ! ”

 

หลังจากพูดจบ ฟางฉางเจียงก็จับมือผมและเหล่าเฟิงอย่างสุภาพ เห็นได้ชัดว่าเขาดูเคารพพวกเราเป็นพิเศษ

ผู้จัดการหวูและเซลล์สามคนที่ทะเลาะกับพวกเราเมื่อกี้ ทำหน้าเหวอทันที

 

“ ผู้ช่วยฟาง ไม่ได้เจอกันมาสักพักจริงๆ ! ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง ? แล้วที่ดินผืนนั้นเป็นยังไงบ้างครับ ? ” 

ผมพูดแบบสบายๆ

 

“ ขอบคุณน้องติงที่ห่วงกัน ผมสบายดี หลังจากวันนั้น เราก็เริ่มทำงานทุกอย่าง บวกกับนโยบายผลักดันของท่านรองผู้จัดการ ทำให้เราทำยอดขายก่อนกำหนดเปิดตัวได้ไม่เลวเลยครับ ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณพวกน้องทั้งสองมากจริงๆ ! ” ฟางฉางเจียงสุภาพมาก เขาไม่ได้เย็นชาเหมือนเมื่อกี้เลย

 

และเพิ่งพูดจบ เขาก็มีใจเป็นห่วงเหล่าเฟิงอีกด้วย “ น้องเฟิง อาการบาดเจ็บของนายดีขึ้นแล้วใช่ไหม ? 

เมื่อหลายวันก่อนท่านรองผู้จัดการยังพูดถึงเรื่องนี้อยู่เลย แต่เพราะงานยุ่ง เราก็เลยไม่ได้ไปเยี่ยมนายสักที ”

 

เฟิงเฉ่วหานเป็นคุณชายเย็นชา เวลานี้เขาแค่ขยับเปลือกตา และตอบกลับอย่างไม่ใยดี “ หายแล้ว ! ”

ฟางฉางเจียงก็ไม่ได้คิดมาก เขายังยิ้มเหมือนเดิม

 

แต่ฉากนี้ กลับทำให้เซลล์ทั้งโชว์รูม และพวกพนักงานจากบริษัทที่อยู่ข้างหลังฟางฉางเจียง ก็อ้าปากตาค้างทันที

คุณฟางของพวกเขาเป็นใครกัน  เขาเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงในบริษัทแม่ที่เป็นผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของเมือง

 

อย่าว่าแต่เขาให้เกียรติคนอื่นเลย คนทั่วไปอยากเจอเขายังไม่ได้เจอเลย

แต่ตอนนี้ กลับกำลังสุภาพกับวัยรุ่นสองคน ท่าทางสนิทสนมกันอีกต่างหาก

 

เด็กสองคนนี้เป็นใคร มีที่มาที่ไปยังไง หรือเป็นลูกชายเจ้าของธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่ไหนเหรอ

ลูกน้องของฟางฉางเจียงทำหน้าสงสัย ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

 

ส่วนผู้จัดการโชว์รูม ยิ่งงงเข้าไปใหญ่

เมื่อกี้ยังกล้าทำตัวหยิ่งยโสใส่พวกเรา มั่นใจว่าผมและเหล่าเฟิงไม่มีใครหนุนหลัง เป็นแค่คนจนธรรมดาคนหนึ่ง

 

แต่เวลานี้กลับเห็นพวกเราและคุณฟางรู้จักกัน เลยรู้สึกไม่อยากเชื่อสายตา ต้องรู้ว่าคุณฟางเป็นลูกค้าระดับสูง พวกเขาเลยไม่อาจทำให้เขาไม่พอใจได้เด็ดขาด

 

ด้วยเหตุนี้ ผู้จัดการหวูเลยหันไปพูดเสียงสั่นกับผู้จัดการใหญ่ “ ผู้ ผู้จัดการใหญ่ เด็ก เด็กสองคนนี้เป็นใครกัน ? ”

ผู้จัดการโชว์รูมก็ไม่รู้ เขาเลยส่ายหัวเบาๆ

 

ในเวลาเดียวกันก็พูดกับนายเฉิงที่อยู่ข้างๆ “ คุณเฉิง ทำไมคุณฟางถึงสุภาพกับเด็กสองคนนี้ขนาดนั้นละ ? ”

นายเฉิงคนนี้ก็ไม่รู้เรื่อง เขาเองก็ไม่รู้จักผมสองคน

 

แต่ถ้าบอกว่าไม่รู้จัก มันก็จะทำให้ตัวเองดูเสียหน้าไปหน่อย เขาเลยหาข้ออ้างแบบลวกๆ “ ยังต้องถามอีกเหรอ เห็นอยู่ชัดๆว่าเป็นคุณชายมีชาติตระกูล ไม่อย่างนั้นคุณฟางของพวกเราจะลดตัวไปอย่างงั้นเหรอ ? ”

 

พอผู้จัดการใหญ่ช่ายได้ยินแบบนั้น ก็ทำหน้าเข้าใจสถานการณ์ทันที

แต่ผู้จัดการหวูและเซลล์อีกสามคนที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับเริ่มใจไม่ดีแล้ว พวกเขาแต่ละคนต่างสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วแอบพูดว่าจบเห่กัน

 

เมื่อกี้ยังดูถูกผมสองคน แต่ตอนนี้ได้ยินแล้วว่าเป็นคุณชายมีชาติตระกูล ก็รู้ได้ทันทีว่าตัวเองไปทำให้คนสูงศักดิ์ไม่พอใจเข้าแล้ว

ในเวลานี้ ฟางฉางเจียงเริ่มพูดกับผมและเหล่าเฟิงอีกครั้ง “ น้องชายทั้งสอง วันนี้โชคดีจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะเจอกันที่นี่ คืนนี้ฉันเลี้ยงเอง ไปกินข้าวกัน ”

 

ผมยิ้ม “ ไม่ดีกว่าครับ ผมได้ยินว่าวันนี้คุณมาซื้อรถนิ ! ”

ฟางฉางเจียงพยักหน้า “ อือ ! เป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะตอนสิ้นปี ท่านรองผู้จัดการบอกว่า ปีนี้จะให้รางวัลพนักงานเป็นรถ ในเวลาเดียวกันบริษัทก็ต้องการซื้อรถไปใช้ติดต่อทำธุรกิจด้วยครับ ดังนั้นผมก็เลยมาดูเอาไว้สักหน่อย ! ”

 

แต่เสียงเขาเพิ่งเงียบลง ฟางฉางเจียงก็เริ่มกวาดสายตามองรปภ.ที่ยังถือกระบองไฟฟ้าอยู่ และผู้จัดการหวูที่เป็นคนออกคำสั่งให้ลงมือกับพวกเขาเมื่อกี้

จากนั้นก็พูดขึ้นมาเสียงดังลั่น “ แต่ตอนนี้ดูเหมือน แผนที่จะซื้อในศูนย์นี้ คงไม่มีอีกแล้วละ ! ”

 

เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น ผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการ รวมถึงพนักงานทุกคนในโชว์รูม ก็ตัวแข็งทื่อในทันที

เมื่อคำพูดนี้ดังขึ้น โบนัสสิ้นปีของพวกเขาก็ไม่เหลือแล้ว

 

ผู้จัดการใหญ่ช่ายนั่งไม่ติดอีกต่อไป พวกเขาคือศูนย์ใหญ่ค้าขายได้โดยตรง

ถ้าเขาได้ลูกค้าคนนี้ หรือการค้านี้ไปครอง ตำแหน่งผู้จัดการประจำภาคที่ว่างอยู่ ก็ต้องเป็นของเขาอย่างแน่นอน

 

แต่เป็ดในมือกำลังจะบินจากไปแล้ว แล้วเขาจะมัวยืนนิ่งอยู่ได้ยังไง

เขารีบพุ่งเข้ามาข้างหน้าทันที “ คุณฟาง เราคุยเรียบร้อยแล้วไม่ใช่เหรอครับ ? สิทธิพิเศษและส่วนลดที่พวกเราให้ ต้องดีที่สุดในเมืองนี้แน่นอน ! ”

 

เสียงเพิ่งเงียบลง นายเฉิงคนนั้นก็เดินเข้ามา แล้วพูดตรงหน้าฟางฉางเจียง “ ใช่ครับคุณฟาง มันทำให้บริษัทเราประหยัดเงินไปเยอะเลยนะครับ ! ”

 

ผลลัพธ์ฟางฉางเจียงกลับพูดอย่างเย็นชา “ ฮึ ! บริษัทเราขาดเงินหรือไง ? ถ้าท่านรองผู้จัดการรู้ว่าผู้จัดการศูนย์นี้ให้รปภ.มาทำร้ายน้องชายทั้งสอง แล้วฉันยังซื้อรถจากที่นี่อีก พวกเราก็รอรับผลที่จะตามมาได้เลย ! นายกับฉันไม่มีวันได้ทำงานบริษัทต่อแน่ ”

 

รองผู้จัดการที่ฟางฉางเจียงพูดถึง ก็คือคุณหนูใหญ่ของบริษัทพวกเขา เสี่ยวม่านนั่นเอง

พอนายเฉิงได้ยินแบบนั้น ในใจก็มีเสียงดัง “ กึก ” จากนั้นก็หันมามองผมและเหล่าเฟิงทันที

 

คิดไม่ถึงว่าผมและเหล่าเฟิงจะมีความเกี่ยวข้องกับคุณหนูใหญ่ของพวกเรา และจากคำพูดของฟางฉางเจียง ท่าทางจะเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาอีกด้วย

 

แล้วเขาจะกล้าพูดต่อได้ยังไง ต้องรู้ว่าคุณหนูใหญ่ก็แค่มาทำงานที่บริษัทลูกนี้ชั่วคราว และสร้างผลงานลวกๆให้คนในบริษัทเห็นเท่านั้น

 

หากคิดจะทำงานให้บริษัทนี้ประเภทนี้ต่อไป นอกจากมีผลงานแล้ว ยังต้องมีเส้นสาย และคนคอยสนับสนุนด้วย

แล้วเขาจะกล้าไปผิดใจกับคุณหนูใหญ่และฟางฉางเจียงคนโปรดของคุณหนูใหญ่ตรงหน้าได้ยังไง

 

สมองของนายเฉินหมุนเร็วมาก เขาเงียบไปคู่หนึ่ง สีหน้าก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ต่อมาเขาก็หมุนตัวไปพูดกับผู้จัดการใหญ่ช่ายว่า “ ผู้จัดการใหญ่ช่าย ผมเชื่อใจคุณขนาดนี้ พาคุณฟางมาดู แต่คุณดูพวกพนักงานของคุณซิ ใช้อำนาจรังแกคนอ่อนแอ ลูกค้าประเภทนี้ ผมละอับอายจริงๆ แผนการซื้อก็ถือเป็นอันยกเลิก ! ”

 

ผู้จัดการใหญ่ช่ายหน้าเปลี่ยนสีอีกรอบ ตัวเขาเหมือนกับลูกโป่งที่ถูกปล่อยลม

ผู้จัดการหวูคนนั้น หน้าซีดและรู้สึกผิดทันที

 

เขาจะรู้ได้ยังไงว่า พวกเราจะมีความเกี่ยวข้องกับลูกค้าระดับสูงครั้งนี้

ส่วนพนักงานขายสามคนนั้น ยืนตัวสั่น ไม่รู้ว่าควรทำอะไรดี

 

แต่ผมกลับไม่ได้สนใจท่าทีของคนพวกนี้ ผมแค่หันไปมองแวบนึง จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปมองด้านข้าง มองเสี่ยวฟางที่กำลังเสียใจเพราะตกงานอยู่

 

ก่อนหน้านี้ไม่มีโอกาส แต่ตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว ผมเลยตัดสินใจจะช่วยเสี่ยวฟางสักครั้ง

ดังนั้นผมเลยพูดกับฟางฉางเจียงว่า “ ผู้ช่วยฟาง คุณช่วยอะไรผมสักอย่างได้ไหม ? ”

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.