spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 369 มีเรื่อง
คุณหนูใหญ่ที่นายเฉิงคนนั้นพูดถึง ไม่ต้องคิดผมก็เดาได้ทันที ว่าเขาต้องพูดถึงเสี่ยวม่านอย่างแน่นอน
ต้องรู้ว่าต่อหน้าเสี่ยวม่านฟางฉางเจียงคนนี้ ให้ความเคารพกับเธอขนาดไหน เขาไม่กล้าขัดเธอเลยแม้แต่น้อย
พอผู้จัดการศูนย์และผู้จัดการทั่วไปสองคนนั้นได้ยินคำพูดนี้ ก็ไม่กล้ารอช้า
มันชัดเจนมาก คนที่มาคุยงานในวันนี้ ก็คือคุณฟางตรงหน้าคนนี้
ผู้จัดการศูนย์ฉีกยิ้มออกมาทันที “ คุณฟาง เชิญ เชิญทางนี้ค่ะ คุณวางใจได้เลย ศูนย์ของเรามีสิทธิพิเศษดีที่สุดแน่นอนค่ะ ! ”
“ ใช่ค่ะ ! เชิญทางนี้เลยค่ะ เราไปคุยรายละเอียดกันในศูนย์…… ” ผู้จัดการก็พูดเสริม
ฟางฉางเจียงกลับไม่แสดงสีหน้ามากนัก เขาแค่พยักหน้าเล็กน้อยเท่านั้น
ต่อจากนั้น ผู้จัดการศูนย์ก็พาฟางฉางเจียงและคนอื่นเดินเข้ามาในโชว์รูม
พนักงานที่อยู่รอบๆตื่นเต้นมาก เหมือนกับการซื้อขายครั้งนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาตั้งตารอและสำคัญมากอย่างงั้น
เพราะพวกเราโดนเบียดไปอยู่ข้างๆ ตอนฟางฉางเจียงเข้ามาในโชว์รูมเลยไม่ได้เห็นพวกเรา เขาโดนพาไปด้านในสุดของโชว์รูมทันที
และพนักงานขายพวกนั้น ก็ตามไปล้อมเป็นโขยง
เสี่ยวฟางก็คิดจะตามไปด้วย เพราะเมื่อกี้เธอได้ยินที่พนักงานคนอื่นพูด
ว่าทุกคนมีโอกาสเหมือนกัน ใครได้ลูกค้าคนนี้ไป ก็จะได้โบนัทก้อนโตด้วย
แต่เสี่ยวฟางเพิ่งเดินออกไปไม่กี่ก้าว ยัยใจดำเสี่ยวเฟยเมื่อก่อนหน้านี้ก็เข้ามาขวางเสี่ยวฟางเอาไว้
“ หยุดเดี๋ยวนี้ เธอคิดจะทำอะไรยะ ? ”
“ จะทำอะไรได้ละ ? ก็ไปต้อนรับลูกค้านะซิ ” เสี่ยวฟางตอบกลับ และคิดจะเดินอ้อมไป
ผลลัพธ์ยัยใจดำเสี่ยวเฟยคนนั้น กลับจับตัวเสี่ยวฟางเอาไว้ แล้วออกแรงผลักเธอ
เสี่ยวฟางเซไปตามแรง สุดท้ายก็ทรุดลงไปนั่งกับพื้น
“ สถุน รถคันเดียวยังขายไม่ได้ ยังคิดจะไปต้อนรับลูกค้ารายใหญ่แบบนั้น ไสหัวไปทางโน้นไป ! ” ยัยใจดำเอามือกอดอก พร้อมทำหน้าดูถูก
ดูเหมือนเสี่ยวฟางจะหมดความอดทนแล้ว คราวนี้เธอลุกขึ้นมา จ้องด้วยความโมโห
“ ทำไม ? คิดจะสู้กลับงั้นเหรอ ? ” หลังจากพูดจบ ยัยใจดำก็ผลักเสี่ยวฟางอีกรอบ
“ ใช่วันนี้ฉันจะสู้ ” เสี่ยวฟางพูดด้วยความโมโห ขณะพูดเธอก็กำลังจะผลักยัยใจดำนั่น
ผลลัพธ์มือยังไม่ทันแตะตัวยัยใจดำนั่น พนักงานชายสองคนที่เคยถากถางเสี่ยวฟางเมื่อก่อนหน้านี้ก็โผล่หัวออกมา
หนึ่งในนั้นจับมือของเสี่ยวฟางเอาไว้ “ ทำไม ? คนที่ถ่วงชาวบ้านอย่างเธอ โดนว่านิดๆหน่อยๆไม่ได้เลยหรือไง ? ”
“ ใช่ ไสหัวไปเช็ดรถทางโน้นไป ลูกค้าประเภทนี้ เซลล์มือใหม่ยอดขายเป็นศูนย์อย่างเธอมีสิทธิเข้าใกล้หรือไง ? คนแบบเธอ เหมาะที่จะกลับบ้านไปทำนามากกว่า ” พนักงานขายอีกคนหนึ่งก็พูดถากถางเธอ
ต่อจากนั้น “ ฮ่าๆๆ ” ทั้งสามคนก็พร้อมใจหัวเราะเยาะเย้ยเธอในทันที
ฉากนี้ อยู่ในสายตาของผมและเหล่าเฟิงพอดี เรารู้สึกว่าอีกฝ่ายโดนรังแกเกินไปแล้ว
เธอก็แค่จะเข้าไปดูแลลูกค้าเท่านั้น ถึงกับต้องกีดกันกันขนาดนี้เลยเหรอ ทุเรสเป็นบ้า
และทัศนคติและความกระตือรือร้นในการขายของเสี่ยวฟาง เมื่อกี้ผมกับเหล่าเฟิงก็ได้สัมผัสมากับตัว
ไม่มีอะไรต้องพูดออกมา คนตรงหน้าพวกนี้เทียบไม่ติดเลยสักนิด นั่นเป็นการขายที่รักในอาชีพของตนเอง
เสี่ยวฟางพยายามดิ้นรนพักหนึ่ง แต่แล้วเธอก็พบว่าตัวเองไม่อาจดึงมือกลับได้ จึงหันไปบอกชายเตี้ยอ้วนตามตรง “ ปล่อยฉันนะ ! ”
ขณะพูด เสี่ยวฟางก็ออกแรงดึงตัวไปข้างหลัง
ชายเตี้ยอ้วนกลับฉีกยิ้มอย่างเย็นชา “ ได้ซิ ! ”
ผลลัพธ์การปล่อยที่กระทันหัน ทำให้เสี่ยวฟางเสียหลัก ตัวเซไปข้างหลัง แล้วสุดท้ายก็ล้มลงอีกครั้ง
ผมอยู่ห่างจากเสี่ยวฟางไม่มากนัก พอเห็นเหตุการณ์แบบนี้อีกครั้ง ผมก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
รีบก้าวเข้าไปข้างหน้า เอื้อมมือไปประคองเอวเสี่ยวฟางจากทางด้านหลัง
ในเวลาเดียวกันผมก็พูดกับพนักงานขายนิสัยเสียทั้งสามคนว่า “ พวกนายทำอะไร ? ทำไมต้องรังแกเธอซ้ำแล้วซ้ำอีกด้วย ? ”
ทั้งสามคนเห็นผมเข้ามาประคองเสี่ยวฟางอย่างกระทันหัน เลยคิดว่าผมเข้ามายุ่งเรื่องของชาวบ้าน แต่ละคนต่างขมวดคิ้วกันทันที
ยัยผู้หญิงใจดำคนนั้นทำมือกอดอก พูดกับผมอย่างดูถูก “ โอ้ คนจนก็อยากทำตัวเป็นฮีโร่ช่วยสาวงามกับเขาเหรอ ”
“ ใช่ นี่มันเรื่องในร้านเรา ไม่เกี่ยวกับแก คนจนก็กล้าเสือกเรื่องของร้านเราเหรอฮะ ? ” ผู้ชายตัวเตี้ยเป็นคนพูด
“ ขอบคุณค่ะ ฉันไม่เป็นอะไร พวกคุณไปเถอะ ! ” เสี่ยวฟางรีบยืนขึ้น และพูดขึ้นมาทันที
“ ได้ยินไหมฮะ ? บอกให้แกออกไปน่ะ ! จนแล้วยังไม่เจียม ” ยัยใจดำพูดออกมาอีกครั้ง
ผลลัพธ์เสียงของยัยใจดำเพิ่งเงียบลง เฟิงเฉ่วหานที่อยู่ข้างๆผมกลับดึงหน้าเข้มแล้วเดินเข้าไป
พนักงานขายชายสองคนเห็นเฟิงเฉ่วหานเดินเข้ามา เลยทำหน้าอารมณ์เสีย และรีบเตือนทันที “ แกจะทำอะไร ? คิดจะมีเรื่องเหรอฮะ ? ”
ผลลัพธ์เสียงเพิ่งเงียบลง เหล่าเฟิงก็ปล่อยหมัดออกไป
ไม่รอให้ทั้งสองคนได้ตั้งตัว พนักงานขายตัวสูงก็โดนต่อยจนจมูกมีเลือดไหลทันที
ยังไม่จบเพียงเท่านี้ หลังต่อยเสร็จ เหล่าเฟิงยังยกเท้า เตะเจ้าเตี้ยอ้วนครั้งหนึ่ง
“ โอ๊ย ! ” เขาโดนเหล่าเฟิงเตะจนกลิ้งไปกับพื้น
มันยังไม่จบเท่านี้ ในขณะที่เหล่าเฟิงอัดพนักงานชายเสร็จแล้ว เขาก็มายืนหยุดอยู่ตรงหน้ายัยผู้หญิงใจดำ
เหล่าเฟิงยังคงหน้าเข้ม จู่ๆเขาก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “ สถุน ! ”
หลังจากพูดจบ เขาก็ตบเธอหน้าหัน
“ เพี๊ยะ ” หน้าของผู้หญิงใจดำคนนั้น เป็นรอยฝ่ามือเต็มๆ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน ทำให้เสี่ยวฟางตาค้างในทันที เธอเผยหน้าตกใจออกมา
แม้แต่ผมเอง ก็ยังคิดไม่ถึงว่า เหล่าเฟิงจะลงมืออย่างกระทันหันแบบนี้ ใช้กำลังสั่งสอนเจ้าสามคนนี้ตรงๆ
เพราะพวกเราค่อนข้างเล่นใหญ่ ทำให้ดึงดูดความสนใจของทุกคนในโชว์รูมทันที
หนึ่งในนั้นก็รวมถึงกลุ่มของฟางฉางเจียงที่เพิ่งเข้ามาดูรถในโชว์รูมอีกด้วย ในเวลานี้ทุกคนต่างหันมามองทันที
ผู้จัดการทั่วไปคนนั้นตอบสนองเป็นคนแรก เขารีบวิ่งเข้ามา “ ทำอะไรกันทำอะไรกัน ? ”
“ ผู้ ผู้จัดการ มันทำร้ายผม ! ” ชายร่างผอมสูงที่โดนต่อยเลือดออกจมูกจับจมูกไปพูดไป
“ ผู้จัดการ เป็นมันครับ มันยังเตะผมด้วย ! ” ชายอ้วนเตี้ยกุมท้อง เขายังไม่ทันลุกขึ้นมา
ส่วนยัยผู้หญิงใจดำคนนั้นก็เหมือนได้คนหนุนหลัง ในเวลานี้รีบร้องไห้ออกมาทันที
จากนั้นก็ทำเสียงน่าสงสาร “ ผู้จัดการ ฮือฮือฮือ เจ้าสองคนนี้เป็นคนที่เสี่ยวฟางพามา เมื่อกี้พวกเราพูดกับเสี่ยวฟางแค่สองสามประโยค เสี่ยวฟางก็ให้สองคนนี้มาทำร้ายเรา คุณดูซิ คุณดูหน้าหนูโดนตบจนบวมแล้ว ฮือฮือฮือ…… ”
ขณะพูด ยัยผู้หญิงใจดำคนนั้นก็ใช้หน้าอกไปถูไถแขนผู้จัดการ เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์กันมากกว่านี้
พอผู้จัดการเห็นความขาวโบ๊ะตรงหน้า เขาก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้
จากนั้นก็ไม่ถามให้กระจ่าง หันมาจ้องพวกเราสามคน เหมือนกับจะพ่นไฟออกมาได้ในตอนนั้นเลย
พอเสี่ยวฟางเห็นแบบนั้น ก็รีบอธิบายทันที “ ไม่ใช่นะคะผู้จัดการ มันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด…… ”
“ ฮึ ! เธอมันดาวหายนะ ตอนนี้เธอโดนไล่ออกแล้ว แล้วก็พวกแกสองคน เป็นแค่คนจน ให้พวกแกดูรถก็บุญเท่าไหร่แล้ว ซื้อไม่ไหวแล้วยังก่อเรื่องอีกใช่ไหมฮะ ? รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างงั้นฉันจะเรียกรปภ.ให้มาอัดพวกแกจนลุกไม่ขึ้นอีก…… ” ผู้จัดการคนนี้ท่าทางโกรธจัด จ้องพวกเราอย่างดุร้าย
พอเสี่ยวฟางได้ยินแบบนั้น ก็ตัวแข็งทื่อในทันที
เห็นได้ชัดว่างานนี้ มันสำคัญกับเธอมากๆ
เดิมทีผมและเหล่าเฟิงก็เป็นวัยรุ่นหัวร้อนอยู่แล้ว ตอนนี้โดนเจ้าหมอนี่ดูถูกถึงขนาดนี้ พวกเราเองก็โมโหควันออกหูเหมือนกัน
ผมพูดกับผู้จัดการคนนั้นทันที “ เดรัจฉาน พูดให้มันดีๆหน่อย…… ”
“ ทำไม ? ไม่ยอม ? รปภ. รปภ. …… ” ผู้จัดการตะโกนสองครั้ง
แป๊บเดียวเท่านั้น รปภ. สี่คนก็วิ่งเข้ามา
รปภ.สี่คนนี้ถือกระบองไฟฟ้าเอาไว้ในมือ ในเวลานี้พวกเขาเปิดมันดัง “ แปรบๆ ”
ผู้จัดการเห็นรปภ.เข้ามาแล้ว เลยทำหน้าได้ใจ “ รีบลากเจ้าโง่สองตัวนี้ออกไป ไม่งั้นฉันจะให้พวกเขาอัดพวกแกจนตาย…… ”
พอเห็นผู้จัดการวางอำนาจแบบนั้น ผมและเหล่าเฟิงก็คิดจะให้เขาเห็นพิษสงพวกเราสักหน่อย
ยังไงเราก็เล่นใหญ่ไปแล้ว ไม่ว่าจะมาหนึ่งหรือสองเราก็ต้องสู้อยู่ดี
ผู้จัดการเห็นพวกเราไม่มีทีท่าจะออกไป เขาเลยพูดกับรปภ.สี่คนนั้นว่า “ รปภ. เตะพวกมันออกไป…… ”