spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 368 พนักงานขายเสี่ยวฟาง
พอออกจากศูนย์รถ SGMW แล้ว เราสองคนก็ไม่ได้รีบกลับบ้าน
แต่เดินไปกินอาหารในระแวกนี้ หลังจากนั้นก็คิดจะไปเดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศหน่อย ในเวลาเดียวกันก็จะได้ไปดูสถานที่ที่พวกสกุลเหยียนตายด้วย
จากนั้นจะได้เผากระดาษและเขียนยันต์ติดเอาไว้ เวลาเรียกวิญญาณ จะได้สะดวกขึ้นมาอีกหน่อย
แต่ผมเองก็เพิ่งเคยมาที่นี่แค่สองครั้ง ยังไม่ได้คุ้นเคยเลยซะทีเดียว
ส่วนเหล่าเฟิงก็ไม่เคยมาเลย และสถานที่แห่งนี้ยังสร้างขึ้นมาเพื่อขายรถโดยเฉพาะ
มีรถหลากหลายประเภท ถนนสายหลักแถวนี้ มีศูนย์รถยี่ห้องดังเปิดอยู่มากมาย
ผมและเหล่าเฟิงมองดูเวลา มันยังเช้าอยู่ และก็ไม่ได้รีบไปดูสถานที่เกิดเหตุ พวกเราเลยวางแผนว่าจะไปดูพวกรถหรูสักหน่อย
ถึงจะซื้อไม่ไหว แต่ก็คงดูได้อยู่มั้ง
หลังจาดตัดสินใจเรียบร้อย ผมและเหล่าเฟิงก็เดินไปตามถนนหลัก
ศูนย์แรกก็คือศูนย์ของรถเบนซ์ ตัวศูนย์ใหญ่มากและกว้างมาก
ด้านในมีคนเข้าออกตลอด ร้านแบรนด์ดังแตกต่างจริงๆ ผมและเหล่าเฟิงก็เดินเข้าไปในร้านด้วยท่าทางสบายๆ
แต่คนที่มาเยอะมาก พนักงานในร้านดูแลไม่หมด และอาจเป็นเพราะผมกับเหล่าเฟิงดูเป็นคนจน ซื้อของเขาไม่ไหว ก็เลยไม่มีใครมาต้อนรับพวกเราสักคน
พวกผมเองก็มาเพราะแค่อยากดูผ่านๆตาเท่านั้น เลยไม่มีหน้าไปทักทายพวกเขา
ดังนั้นพอเข้ามาในศูนย์แล้ว เราก็บริการตัวเอง เดินดูรอบๆตามใจนึก
รถในโชว์รูมมีเยอะมาก รถเก๋ง รถสปอร์ต รถลุยป่า ตัวรถสวยมาก แต่ราคาไม่ถูกเลยสักนิด มีแต่เลขศูนย์ที่พวกเราเข้าไม่ถึง
หลังจากเดินดูสักพัก พนักงานสาวหน้าตาหวานสวยคนหนึ่ง ถือแก้วน้ำเดินมาทางพวกเรา
เพิ่งมาถึงตรงหน้าพวกเรา เธอก็พูดอย่างสุภาพ “ ทั้งสองท่าน เชิญดื่มน้ำก่อนค่ะ ฉันเป็นเซลล์ชื่อเสี่ยวฟางค่ะ พวกคุณชอบรถแบบไหนคะ ฉันจะแนะนำให้กับพวกคุณเองค่ะ ! ”
พวกเราสองคนแค่มาเดินดู ไม่ได้คิดจะซื้อเลยสักนิด
พอเห็นสิ่งนี้ ผมก็ไม่คิดจะทำให้เธอเสียเวลา รีบอธิบายทันที “ ขอโทษด้วยคนสวย พวกเราแค่มาดู ไม่ได้คิดจะซื้อรถน่ะ ”
ผมคิดนะ ! แบบนี้ต้องโดนอีกฝ่ายชักสีหน้าใส่แน่ๆ
แต่ผลลัพธ์ เสี่ยวฟางเซลล์สาวคนนี้ไม่เพียงไม่ชักสีหน้าใส่พวกเรา แต่ยังยิ้มให้ด้วย “ มาถึงร้านของพวกเราก็ต้องเป็นลูกค้าที่ชื่นชอบรถเบนซ์อยู่แล้วแหละค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันดูเป็นเพื่อนพวกคุณได้นะคะ ! ”
ผมและเหล่าเฟิงรู้สึกลำบากใจสุดๆ เพราะพวกเราซื้อไม่ไหวจริงๆ
แต่พนักงานสาวคนนี้กลับไม่ใส่ใจ และยังแนะนำให้พวกเราฟังอย่างอดทน
พอเห็นท่าทีที่จริงของพนักงานคนนี้ ผมก็ไม่แปลกใจเลยที่ธุรกิจเขาใหญ่โตได้ถึงขนาดนี้
พอเห็นระดับการพูด ท่าที ความตั้งใจของพนักงาน ผมก็พูดอะไรไม่ออกอีก
ถ้าต่อไปผมมีเงินแล้ว ต้องมาอุดหนุนพนักงานสาวคนนี้แน่ๆ
แต่ตอนนี้คงได้แค่ฝันลมๆแล้งๆเท่านั้น และผมกับเหล่าเฟิงก็ไม่มีหน้าจะเดินดูต่อแล้ว เราคิดว่าควรออกจากที่นี่แล้ว
จากนั้นผมก็พูดกับเซลล์เสี่ยวฟางว่า “ ต้องขอโทษด้วยคนสวย รบกวนเธอมาตั้งนาน พวกเราควรออกไปแล้วน่ะ ! ”
เสี่ยวฟางเห็นพวกเราจะไปแล้ว ก็ยังสงบนิ่งไม่มีทีท่าจะโกรธ เพียงฉีกยิ้มให้กับพวกเราอย่างอบอุ่น
“ อ่อ หวังว่าในอนาคตจะได้บริการพวกคุณทั้งสองอีกนะคะ ! ”
แต่เสียงของเสี่ยวฟางเพิ่งเงียบลง ข้างๆก็มีเสียงฉุนๆของผู้หญิงคนนึงดังขึ้น “ โอ้ ! ตาบอดทำงานมาตั้งนาน ฉันว่า ! ยอดของเดือนนี้ เธอคงทำไม่ถึงนะ ”
พอได้ยินเสียงนี้ผมและเหล่าเฟิง ก็หันไปมองตามสัญชาตญาณ
เห็นเพียงคนพูดเป็นผู้หญิงวัยรุ่น ตอนนี้เธอกำลังทำหน้าตาถากถาง
หน้าเต็มแต่งตัวจัดหนัก ท่าทางไม่กลัวหนาว เผยให้เห็นผิวขาวเนียน ตัวเธอให้ความรู้สึกเหมือนผู้หญิงข้างถนนไม่มีผิด
พอเสี่ยวฟางเห็นแบบนั้น ก็ดึงหน้าลง พูดกับผู้หญิงคนนี้ว่า “ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วยละ ? เอาเวลาไปจัดการตัวเองเถอะ ! ”
“ ฮ่าๆ ! ในช่วงฝึกงานนี่ ฉันขายรถคลาสซีไปได้สี่คันแล้ว เห็นข้างๆนั่นไหม ลูกค้าคนที่ห้าของฉัน กำลังเซ็นสัญญากับผู้จัดการอยู่ แล้วเธอละ ? สามเดือนแล้ว ก็ยังขายไม่ได้สักคัน อย่าคิดใช้เส้นเข้ามาแล้ว จะมีอำนาจล้นพ้นนะยะ ตามกฎของร้านเรา พอหมดเดือนนี้แล้วเธอก็รอโดนไล่ออกเถอะ ! ” ยัยนี่ยังดูถูกอีก
“ ใช่ พวกเราใช้การศึกษา ใช้ความสามารถเข้ามา เธอก็แค่นักเรียนมอปลาย ที่เข้ามาดึงคุณภาพพนักงานขายเบนซ์อย่างพวกเราให้ต่ำลง แต่ก็คงไม่ได้มีแค่เรื่องนี้หรอกมั้ง ! ” พนักงานอ้วนเตี้ยคนหนึ่งพูดขึ้น
“ ใช่ไหมละ ! ไม่มีแววเลยสักนิด เห็นชัดๆว่าเป็นแค่คนบ้านนอกธรรมดาๆสองคน แต่ก็ยังไปเปลืองน้ำลายด้วยตั้งนานสองนาน แถมสุดท้ายยังไม่ได้อะไรกลับมา โชคดีที่เดี๋ยวสิ้นเดือนนี้เธอก็ไปแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเราทุกคนต้องไม่มีเงินกินข้าวแน่ ! ” พนักงานขายอีกคนหนึ่งก็เข้ามาพูดโจมตี
ช่วงครึ่งแรกพนักงานขายคนนี้ต้องพูดถึงผมกับเหล่าเฟิงแน่นอน ใบหน้าดูถูกเหยียดหยาม และวางอำนาจ
ทำให้ผมที่เห็นรู้สึกรังเกียจสุดๆ
พอเห็นถึงตรงนี้ ผมถึงได้เข้าใจ
ดูเหมือนในร้านนี้ นอกจากเสี่ยวฟางที่ดูแลลูกค้าอย่างจริงใจแล้ว ในสายตาคนอื่นก็มีแค่เงินเท่านั้น
และผู้หญิงที่ชื่อเสี่ยวเฟย ตอนนี้เธอกำลังทำท่าทางได้ใจ
เหล่มองผมและเหล่าเฟิงสองสามครั้ง จากนั้นก็หัวเราะ “ ฮ่าๆ ” ออกมา
เธอยังคิดจะใช้ผมสองคนถากถางเสี่ยวฟางต่อ ผลลัพธ์ทันใดนั้นเองก็มีเสียงดังเข้ามา “ เสี่ยวเฟย ไปส่งลูกค้าเร็วเข้า ! ”
คนพูดคือผู้จัดการศูนย์นี้ พอยัยนี่ได้ยินแบบนั้น ก็หน้าเปลี่ยนสีทันที
จากนั้นก็หันไปตอบกลับเสียงดัง “ ได้ผู้จัดการ จะไปเดี๋ยวนี้ ! ”
หลังจากพูดจบ เธอก็หันมาทางเสี่ยวฟางอีกรอบ “ เห็นไหมละ ทำสัญญาเซ็นแล้ว สถุน ! คุยกับลูกค้าของแกต่อไปเถอะ ! ”
ยัยนี่เน้นน้ำเสียงตรงคำว่า “ ลูกค้า ” สองคำนี้หนักๆ เธอไม่เพียงถากถางเสี่ยวฟางเท่านั้น แต่ยังหันมาดูถูกผมกับเหล่าเฟิงอีกด้วย
หลังจากพูดจบ ยัยเสี่ยวเฟยคนนี้ ก็หมุนตัวอย่างหมั่นหน้า เดินตรงไปทางลูกค้าคนนั้น
พนักงานอีกสองคนก็ไม่สนใจเสี่ยวฟางอีก ต่างหมุนตัวออกไปทันที
ส่วนเสี่ยวฟางเธอยังคงยืนอยู่ที่เดิม ตาแดง แต่มันกลับทำให้เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังเศร้าสุดๆ
สุดท้ายเธอก็ทนไม่ไหว นั่งยองๆลงกับพื้นแล้วร้องไห้ออกมาทันที !
ส่วนเพื่อนร่วมงานที่อยู่รอบๆ ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบเสี่ยวฟางเท่าไหร่ ไม่มีใครเข้ามาปลอบเธอสักคน
เรื่องแบบนี้เดิมทีก็ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเราอยู่แล้ว แถมพวกเราเองก็ช่วยอะไรเสี่ยวฟางไม่ได้ด้วย
มันเกินขอบเขตของพวกเราเกินไป
แต่เมื่อกี้เธอต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่น และพวกเราเองก็เป็นสาเหตุ ทำให้เธอต้องมาโดนเพื่อนร่วมงานถากถาง
ตอนนี้เธอร้องไห้แล้ว ผมเองก็รู้สึกไม่ค่อยดีเหมือนกัน
ผมเลยส่งกระดาษทิชชู่ให้เธอ “ เสี่ยวฟาง เสี่ยวฟาง ! ”
เสี่ยวฟางร้องไห้สะอึกสะอื้นสองสามครั้ง เธอตาแดง รับทิชชู่จากมือผมไป แล้วพูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “ ขอบ ขอบคุณ ! ”
เสี่ยวฟางเช็ดน้ำตา ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง จากนั้นก็ฝืนยิ้มให้กับพวกเรา “ ขอบคุณคุณมากค่ะ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว ! เมื่อกี้เพื่อนร่วมงานของฉันพูดแรงไปหน่อย พวกคุณอย่าเก็บไปใส่ใจเลยนะคะ ”
ขณะพูด เสี่ยวฟางคนนี้ก็ฝืนยิ้มต่อ
ผมและเธอไม่ได้สนิทกัน เลยไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี
แต่คำพูดและท่าทีที่เธอมีต่อพวกเรา ผมรู้สึกว่า เธออยากทำงานนี้มาก และเธอจะเป็นพนักงานขายที่ดีมากคนหนึ่ง
แต่พวกเรากลับไม่มีความสามารถที่จะช่วยเธอได้ ดังนั้นจึงได้แต่พยักหน้าให้เธอ แล้วพูดว่า “ สู้ๆนะ ” จากนั้นก็หมุนตัวจะเดินออกไปจากศูนย์
แต่เพิ่งเดินมาถึงหน้าประตู พวกเราสองคนก็เห็นผู้หญิงและผู้ชายไม่กี่คนใส่สูทคู่กับรองเท้าหนังเดินเข้ามา
ผมกวาดสายตามอง พบว่าหนึ่งในคนที่เดินนำ เป็นคนที่ผมรู้จัก
เขาก็คือผู้ช่วยของเสี่ยวม่าน ฟางฉางเจียงคนนั้น
พอเห็นแบบนี้ พนักงานที่อยู่ในศูนย์ก็ตะโกนออกมาทันที “ ผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการ มาแล้วมาแล้ว คุณเฉิงพาคนมาแล้ว ! ”
คำพูดพวกนี้เพิ่งดังขึ้น พนักงานขายทั้งหมดในศูนย์ก็ตะลึงกันทันที ต่างเบียดกันเข้ามาดู
“ มาแล้ว ! มาจริงๆด้วย ! ”
“ โอ้ ลูกค้าระดับสูง ! ”
“ สวรรค์ ! คิดไม่ถึงว่าจะมาจริงๆ…… ”
พวกพนักงานขายคึกคักขึ้นมาทันที ต่างวิ่งมาที่หน้าประตู
บางคนถึงกับทิ้งลูกค้าที่อยู่ข้างๆ แล้วตามไปดูเช่นกัน
ผู้จัดการศูนย์ ผู้จัดการทั่วไป แต่ละคนต่างเต็มไปด้วยพลัง ยื่นหัวออกไปข้างนอก หน้าตาเลิ่กลั่ก กลัวว่าจะไปต้อนรับลูกค้าล่าช้า
ยังไม่รอให้ผมและเหล่าเฟิงได้ออกไป เราก็โดนคนพวกนี้เบียดไปอยู่ข้างๆแล้ว
“ ในที่สุดก็มาสักที ถ้าได้ลูกค้าคนนี้มา โบนัทช่วงสิ้นปีต้องเพิ่มอย่างน้อยสองเท่าแน่ๆ ! ” พนักงานขายคนหนึ่งพูดด้วยความตื่นเต้น
“ ใช่ และผู้จัดการก็บอกเอาไว้แล้ว ถ้าลูกค้านี้ไปอยู่ในมือใคร นอกจากค่าคอมมิชชั่นแล้ว จะได้โบนัทอีกห้าเท่า ! ” พนักงานอีกคนหนึ่งก็พูดขึ้นมา
พอผมและเหล่าเฟิงได้ยินพวกเขาพูดแบบนั้น ก็อดตกใจไม่ได้
สามารถทำให้พนักงานขายหน้าเงินกลุ่มนี้ตื่นเต้นได้ขนาดนี้ จะต้องเป็นลูกค้ารายใหญ่ขนาดไหนนะ
เพราะประตูถูกขวางเอาไว้ พวกเราสองคนเลยออกไปไม่ได้ จึงได้แต่ยืนมองอยู่ที่เดิม
ส่วนผู้จัดการศูนย์คนนั้น ก็พุ่งออกไปข้างนอกแล้ว
ในเวลานี้กำลังพยักหน้าและโค้งคำนับผู้ชายหัวโล้นข้างๆฟางฉางเจียง จากนั้นก็จับมือทักทายกัน
ท่าทางตอนพูดกับนายเฉิงคนนั้น เธอแทบจะเลียเท้าเขาเลยก็ว่าได้
แต่นายเฉิงกลับทำสีหน้าสบายๆ พูดกับผู้จัดการศูนย์ว่า “ ผู้จัดการใหญ่ช่าย ผู้จัดการหวู ท่านนี้คือคุณฟางคนที่คุณหนูใหญ่ของเราส่งมาคุยเรื่องการซื้อขาย ที่ผมพาคุณฟางมาในวันนี้ ก็เพราะอยากฟังสิทธิพิเศษของร้านคุณ…… ”