หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 366 ช่วยเหลือ

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 366 ช่วยเหลือ

ผมเยือกเย็น นั่งบนรถแบบหน้านิ่ง

ผ่านกระจกมองหลัง ผมสามารถมองเห็นผีเจ็ดตนในรถได้อย่างชัดเจน

 

ผีเจ็ดตนนั้น ก็ตาโต จ้องผมที่อยู่เบาะข้างคนขับ

พวกเขาสงบลงมาไม่น้อย หลังจากนั้นจู่ๆผมก็เห็นผีผู้ชายพูดกับผม “ น้องชาย เธอ เธอเห็นพวกเราจริงๆเหรอ ? ”

 

“ อือ ! ” ผมตอบตรงๆ

พอผีไม่กี่ตนได้ยินผมพูดแบบนั้น ก็เหมือนจะดีใจมาก

 

แต่สุดท้ายผีผู้ชายตนเดิมก็เป็นคนพูดต่อ “ น้องชายขอโทษจริงๆ เมื่อกี้เด็กไม่รู้เรื่อง เลยไม่มีมารยาท ! 

รีบขอโทษคุณลุงเขาเร็ว ”

 

พอได้ยินแบบนี้ ผมก็เหล่ตามองผีเด็กผู้ชายแวบหนึ่ง แต่แล้วก็ไม่ได้สนใจอีก

จากนั้นผมก็มองกระจกมองหลังต่อ “ ไม่เป็นไร มีเรื่องอะไรพวกคุณก็พูดมาเถอะ ! ”

 

ผีผู้ชายทำท่ากลืนน้ำลาย หลังจากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงตึงเครียด “ น้องชาย ใน ในเมื่อเธอเห็นพวกเรา 

งั้น งั้นเธอช่วยพวกเราหน่อยได้ไหม ? ”

“ ช่วยงั้นเหรอ ? ” ผมทำหน้าสงสัย

 

“ ใช่ ช่วยเรา ” ผีผู้ชายยืนยันอีกรอบ หน้าของเขาดูค่อนข้างตั้งตารอ

ผมเห็นอีกฝ่ายไม่ค่อยกล้าพูด เลยโบกมือ ส่งสัญญาณให้พูดต่อ

ตัวผมเอง กำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่หน้ารถ

 

หลังจากผีพวกนั้นหันมามองตากันแล้ว ผมก็ได้ยินเสียงผีผู้ชายพูดต่อ “ น้องชาย เธอช่วย ช่วยหานักพรต 

มาพาพวกเราออกไปจากรถคันนี้ได้ไหม ? ถ้าได้ บ้านเราต้องตอบแทนบุญคุณอย่างแน่นอน ! ”

 

เสียงของผีผู้ชายเพิ่งเงียบลง ผีห้าหกตัวที่อยู่ข้างๆก็เริ่มพูดต่อทันที

“ ใช่แล้วเจ้าหนู เธอช่วยพวกเราเถอะ ! พวกเราต้องตอบแทนเธอแน่ๆ ! ” คุณยายคนหนึ่งพูดขึ้น

 

“ เจ้าหนู พวกเราตายกันแบบไม่ดี ! บ้านเรามีเจ็ดคน ทุกคนจมน้ำตายในรถคันนี้ ทุกวันที่ถึงเวลาจมน้ำตาย พวกเราจะทรมานมาก ขอร้องเธอละช่วยพวกเราทีเถอะ ! ” คุณยายอีกคนหนึ่งพูดเสริมอย่างร้อนรน 

หน้าดูเศร้ามาก เธอแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว

 

“ คุณลุง เมื่อกี้หนูไม่ได้ตั้งใจ ต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ ! ” เด็กผู้หญิงตนนั้นโดนแม่กระตุ้น จนพูดขอโทษผม

พอได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด และเห็นท่าทางของพวกเขา มันก็พิสูจน์สิ่งที่ผมเดาเอาไว้ก่อนหน้านี้

 

บ้านนี้จมน้ำตายในรถอย่างที่คิด ทำให้วิญญาณไปไหนไม่ได้ โดนขังอยู่ที่นี่มาโดยตลอด จนทำให้รถคันนี้กลายเป็นรถผีสิง

 

ผมเป็นคนปราบสิ่งชั่วร้าย จับผีขับไล่สิ่งชั่วร้ายเป็นหน้าที่ของผม การช่วยวิญญาณบริสุทธิ์ข้ามภพ 

ก็เป็นหน้าที่ของผมเหมือนกัน

ตอนนี้เขามาขอร้องถึงที่แล้ว แล้วผมจะปฏิเสธได้ยังไง

 

ผมสูบบุหรี่หนึ่งครั้ง จากนั้นก็มองกระจกหลังแล้วพูดต่อ “ พวกคุณโชคดีแล้ว ที่มาเจอผม ไม่ต้องหานักพรตอะไรหรอก เพราะผมเป็น ! พวกคุณบอกวันเดือนปีเกิด เวลาตายและสถานที่ที่ตายให้ผม ผมจะหาเวลาช่วยพวกคุณ ส่งวิญญาณพวกคุณไปข้างล่างจะได้ไปเกิดใหม่ ”

 

ผมพูดสบายๆ ไม่เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร

จู่ๆผีทั้งเจ็ดตนก็ได้ยินผมตอบกลับแบบนั้น หน้าของพวกเขาเลยเปลี่ยนสีทันที เผยให้เห็นสีหน้าตกใจและดีใจในเวลาเดียวกัน

 

“ จริง จริงเหรอ ? ” ผีผู้ชายพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ

ผมยกยิ้มที่มุมปาก “ หรือผมจะหลอกพวกคุณหรือไง ไม่มีใครที่ไหนเขาเห็นพวกคุณ แล้วยังนั่งคุยแบบนี้ได้หรอกนะ ”

 

“ ใช่ใช่ใช่ พวกเราตาไม่มีแววเอง ! ท่านนักพรต ไม่ทราบว่าควรเรียกท่านว่าอะไร ? หากท่านช่วยครอบครัวพวกเรา บ้านเราต้องตอบแทนบุญคุณให้แน่ๆ ! ” ผีตาแก่ตนนึงพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

ผมไม่ได้สนใจ ว่าจะตอบแทนไหม สำหรับผมมันไม่สำคัญ

 

และพวกเขาก็ตายไปแล้ว จะมาตอบแทนผมได้ยังไง

ผมโบกมือ “ ไม่เป็นไร แค่ได้ออกแรงนิดหน่อย ”

 

หลังจากพูดจบ ผมก็เปิดประตูรถ ตะโกนบอกเจ้าอ้วนที่อยู่นอกรถ “ ไอ้อ้วน ไปเอากระดาษกับปากกามา ! ”

ไอ้อ้วนก็คือผู้จัดการศูนย์ที่สำออยและปอดแหกคนนั้น

 

เมื่อกี้เพิ่งโดนอัดไปหมาดๆ ในเวลานี้เหล่าเฟิงยิ่งกำลังขู่อยู่ข้างๆเขา

ถึงจะไม่รู้ว่าผมเอาไปทำอะไร แต่พอได้ยินผมพูดแบบนั้น เขาก็ยังรีบส่งสัญญาณให้ลูกน้องเอากระดาษและปากกาที่ถืออยู่มาให้เขา

 

หลังจากนั้นก็สะบัดตก้น รีบส่งให้ผม

“ พี่ พี่ชายนี่กระดาษกับปากกาที่พี่ต้องการ ! ”

ผมรับมา แต่ก็ไม่อยากพูดไร้สาระกับเขาต่อ

หลังรับกระดาษและปากกามาแล้ว ก็จดวันเดือนปีเกิด เวลาตาย และสถานที่ที่ตายของผีพวกนี้ลงไปทันที

 

สาเหตุที่พวกเขาต้องติดอยู่ที่นี่ เพราะหลังจากตายไปแล้วงานศพของพวกเขาก็ถูกจัดได้ไม่ดี พิธีทำไม่ถึงขั้น หรืออาจเกิดจากความไม่ตั้งใจทำอะไรรีบร้อนเกินไป เลยเรียกวิญญาณไม่ได้เลยสักตน

ทำให้วิญญาณของพวกเขาไปจากที่นี่ไม่ได้  ได้แต่อยู่ในรถคันนี้เท่านั้น

 

สิ่งที่ผมจดไป เพราะมันสามารถนำไปทำพิธีเรียกวิญญาณได้ พอทำแบบนี้แล้วผมก็จะเรียกวิญญาณพวกเขาออกจากรถคันนี้ แล้วหลังจากนั้นก็ทำพิธีส่งวิญญาณอีกที

พิธีประเภทนี้ผมเห็นอาจารย์ทำมาไม่ต่ำกว่าร้อยครั้งตั้งแต่เล็กจนโต

 

ถึงจะปิดตา ผมก็ยังทำได้สบายๆ

หลังจดข้อมูลพวกนี้เสร็จแล้ว ผมก็กวาดสายตามองครั้งหนึ่ง ครอบครัวนี้แซ่เหยียน มีความสัมพันธ์เป็นพ่อแม่ลูก สามีภรรยาและพ่อตาแม่ยาย

 

หลังจดข้อมูลครบหมดแล้ว ผมก็พูดกับพวกเขาอีกเล็กน้อย “ โอเค ! ผมจดเสร็จแล้ว ตอนนี้พวกคุณรออยู่ในรถไปก่อน ! พอกลับไปแล้ว ผมทำจะทำพิธีเรียกพวกคุณออกมา จากนั้นก็จะส่งพวกคุณลงไป ”

 

“ ขอบคุณขอบคุณ…… ”

“ ท่านนักพรตเป็นผู้มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่ เราต้องตอบแทนท่านอย่างแน่นอน ! ”

“ …… ”

 

ผมไม่ได้คิดอะไร เพียงโบกมือให้ แล้วเปิดประตูลงจากรถเท่านั้น

พอผมมาถึงตรงหน้าเหล่าเฟิงอีกครั้ง เหล่าเฟิงก็เข้าใจทันทีว่าผมไปทำอะไรมา

 

ตอนนี้เขาถามผมอย่างสบายๆ “ นายจะส่งพวกเขาเหรอ ? ”

“ อือ ! เขามาขอถึงที่แล้ว จะปฏิเสธได้ยังไงละ ! ”

 

เหล่าเฟิงเองก็พยักหน้า แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก

แต่พนักงานไม่กี่คนที่อยู่ข้างๆ กลับฟังจนใจเต้นรัว

 

พวกเขารู้ดีแก่ใจ ว่ารถคันนั้นเป็นรถผีสิง ในศูนย์ของพวกเขา รถคันนั้นก่อเรื่องวุ่นมาหลายวันแล้ว

วันนี้พอเห็นผมกับเหล่าเฟิงมาซื้อรถแบบไม่รู้อะไร พวกเขาก็คิดว่าเราสองคนต้องเป็นไอ้หน้าโง่โดนหลอกง่ายแน่ๆ ผลลัพธ์พวกเรากลับรู้ทัน

 

แต่นี่มันยังไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ตอนได้ยินเราพูดว่า “ ขอกับส่ง ”  แววตาของพวกเขาก็ฉายแววหวาดกลัว ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหม่า

เจ้าอ้วนวัยกลางคนคนนั้น พูดติดอ่างทันที “ พี่ชาย พี่ พี่ทำงานอะไรเหรอ ? ”

 

“ นักพรต ! ” ผมตอบกลับห้วนๆ

พอคำพูดนี้ดังขึ้น คนที่อยู่รอบๆก็สูดหายใจเข้าทันที

 

เจ้าอ้วนกลืนน้ำลาย นิ้วสั่นชี้ไปที่กระดาษในมือผม “ พี่ชาย บน บนนั้น เขียน เขียนอะไร ? เอาไว้เหรอครับ ? ”

“ ไม่มีอะไร ก็แค่วันเดือนปีเกิดของครอบครัวสกุลเหยียนทั้งเจ็ดคน ทำไม ? นายอยากดูเหรอ ? ” หลังจากพูดจบ ผมก็ยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ยื่นกระดาษให้เขาตรงๆ

 

พอเจ้าอ้วนได้ยินผมพูดแบบนั้น และเห็นผมยื่นกระดาษมา

“ พรึบ ” สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปทันที ตัวเหมือนกับติดสปริง รีบถอยไปด้านหลังทันที

 

เขาพูดอย่างกระวนกระวาย “ ไม่ไม่ไม่ไม่ ไม่ดูไม่ดู…… ”

น้ำเสียงเขารีบร้อน เห็นได้ชัดว่าตกใจจนผิดปกติ

 

ส่วนพนักงานคนอื่นๆที่อยู่ด้านข้าง ก็ตกใจจนใจเต้นรัว หลังเย็นวาบ

ต้องรู้ว่าคนที่รู้ความลับของรถคันนี้ มีเพียงพวกเขาไม่กี่คนเท่านั้น

 

ผมและเหล่าเฟิงเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก ไม่เพียงดูออกว่านี่เป็นรถผีสิง แต่ยังพูดว่า “ ครอบครัวสกุลเหยียนเจ็ดคน ” ออกมาด้วย

เรื่องนี้ทำให้พวกเขาไม่แค่ตกใจ แต่ยังเชื่อถือผมในฐานะนักพรตอีกด้วย

 

เมื่อเห็นเจ้าอ้วนหวาดกลัวแบบนั้น ผมก็ขี้เกียจเสียเวลากับเจ้าหมอนี่ต่อ

ดังนั้นผมเลยดึงมือกลับ แล้วพูดออกมาแบบคนขี้เกียจ “ โอเค งั้นก็เลิกลีลาได้แล้ว ไปคุยเรื่องเงินข้างใน…… ”

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.