หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 365 บังคับให้ซื้อ

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 365 บังคับให้ซื้อ

พอเห็นสิ่งนี้ ผมก็อดสูดหายใจเข้าไม่ได้

ผมรู้สึกแปลกใจมาก ไม่ว่ายังไงก็คิดไม่ถึง ว่าการออกมาซื้อรถครั้งนี้ จะทำให้ผมมาเจอกับเรื่องแบบนี้

 

ผีในรถ มีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง คนแก่และเด็ก ผมนับได้ทั้งหมด 7 ตน

มองดูจากท่าทางของพวกเขา น่าจะเป็นครอบครัวเดียวกัน

 

แต่ผีครอบครัวนี้ ทำไมถึงมาอยู่บนรถได้ละ แถมยังตัวเปียกโชกอีก

ผมสงสัย แต่ไม่รอให้ผมคุยให้รู้เรื่อง ผีเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 4-5 ขวบด้านใน ก็ยื่นมือขึ้นมาชี้ผม 

“ นายเป็นใคร รีบออกไปจากรถของพวกเรา แสงแดดทำให้พวกเราทรมานมาก ! ”

 

“ รถของพวกเรา ? ” ผมสงสัย มองผีเด็กแวบหนึ่ง ทันใดนั้นเองผมก็เข้าใจทุกอย่าง

พระเจ้า ! นี่มันรถที่เคยเกิดอุบัติเหตุ ครอบครัวผีด้านใน น่าจะเป็นเจ้าของรถคันนี้

 

พอเห็นท่าทางเปียกโชกของพวกเขา ผมก็คิดถึงผีน้ำที่มาเอาชีวิตผมเมื่อตอนนั้น

ผีในรถคันนี้ ตอนมีชีวิตน่าจะขับรถตกน้ำ แล้วก็ตายเพราะจมน้ำทั้งๆแบบนั้น

 

อาจเป็นเพราะหลังตายไปแล้ว ทางครอบครัวจัดการศพไม่ดี หลุมศพหรือทำพิธีไม่ถูกต้อง ทำให้วิญญาณยังอยู่ในรถคันนี้

พอคิดได้แบบนั้น ผมก็ค่อยๆปิดประตู หัวใจเต้นแรง อดไม่ได้ที่จะเผยท่าทางโมโหออกมา

 

เหล่าเฟิงเห็นผมปิดประตู เลยถามออกมาตรงๆ “ เป็นยังไงบ้าง ”

ผมส่ายหัว พูดออกมาเพียงสามคำ “ รถผีสิง ! ”

 

เสียงเพิ่งเงียบลง “ พรึบ ” สีหน้าของเสี่ยวหลี่ก็เปลี่ยนไปทันที เขาเผยท่าทางตกใจและไม่อยากเชื่อ 

หรือแม้แต่สูดหายใจเข้าถึงสองครั้ง

แต่ก็เป็นแค่ชั่วพริบตาเดียว ต่อจากนั้นเจ้าเสี่ยวหลี่คนนี้ก็กลับมาสงบเหมือนเดิม

 

แต่เมื่อเทียบกับท่าทีเมื่อกี้ เขากลับดูเย็นชาขึ้นเยอะ

และเมื่อกี้เขายังพูดสุภาพกับพวกเรา ดูแลพวกเราด้วยรอยยิ้ม แต่ตอนนี้น้ำเสียงกลับสูงขึ้นนิดหน่อย 

“ ในเมื่อทั้งสองท่านดูรถเสร็จแล้ว งั้นก็ช่วยไปเซ็นเอกสารกับผมด้านในด้วย มันเป็นการยืนยันครั้งสุดท้าย ! ”

 

ผมมองเสี่ยวหลี่ จู่ๆก็เห็นท่าทีของเขาเปลี่ยนไป และยังได้ยินน้ำเสียงแบบนี้อีก

ผมเข้าใจแจ่มแจ้งยิ่งกว่าเดิม ดูเหมือนพวกเขาคิดจะเอารถจากอุบัติเหตุคันนี้ มาหลอกขายให้พวกเราตั้งแต่แรกแล้ว

 

พวกเรามาซื้อรถไกลขนาดนี้ แต่เจ้าหมอนี่กลับคิดร้ายกับเรา ขายรถผีสิงให้เรา มันช่างชั่วจริงๆ

เวลานี้ท่าทางของผมก็เปลี่ยนไปเหมือนกัน “ พวกเราคนตรงไม่พูดอ้อมค้อม รถคันนี้เป็นรถที่เคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อน ! เราจะเปลี่ยนคันใหม่ ! ”

 

แต่เสียงเพิ่งเงียบลง เสียงหยาบกระด้างของผู้ชายคนนึงก็ดังมาจากที่ไม่ไกล “ เด็กน้อย นายพูดเหลวไหลอะไร ? รถในร้านพวกเรา เป็นรถใหม่เอี่ยมทั้งนั้น มีรถเคยเกิดอุบัติเหตุอะไรนั่นที่ไหน ? นายดูให้ดีๆ 

ที่นี่ไม่ใช่ร้านขายรถมือสอง เป็นศูนย์ขายรถออกจากโรงงานนะ ! ”

 

เมื่อหันไปทางต้นเสียง ผมก็พบว่าคนพูดก็คือชายอ้วนหูใหญ่วัยกลางคนเมื่อก่อนหน้านี้ ผู้จัดการศูนย์แห่งนี้

ตอนพูด เจ้าหมอนี่เดินเข้ามาพร้อมกับพนังงานชายอีกสี่คน

ทำอะไร ? คิดจะขู่พวกเรางั้นเหรอ ?

 

ผมเค้นเสียงดัง ฮึ ในใจ คิดจะใช้รถผีสิงไปหลอกใครก็ได้ แต่หลอกฉัน แล้วยังกล้าทำตัวอันธพาลแบบนี้อีกเหรอฮะ ?

เหล่าเฟิงที่อยู่ข้างๆทำหน้าตายด้าน แล้วสะบัดคอไปมา

 

ผมรู้ว่า เหล่าเฟิงทำแบบนี้เพราะกำลังจะเข้าไปลุยแล้ว

ผ่านไปไม่นาน อีกฝ่ายก็มาอยู่ตรงหน้าเรา

 

ส่วนเจ้าเสี่ยวหลี่ก็เข้ามาสมทบ ในเวลานี้ยังทำท่ารู้สึกผิด “ ผู้จัดการ พวกมันใส่ร้ายว่ารถของพวกเราเป็น

รถผีสิง แถมยังอยากเปลี่ยนคันอีกด้วย ! ”

 

ชายวัยกลางคนแอบลอบยิ้มให้เสี่ยวหลี่ ในเวลาเดียวกันก็พูดเสียงสูง “ เสี่ยวหลี่ ฉันได้ยินหมดแล้ว 

นายไปอยู่ข้างๆก่อน ”

 

หลังจากพูดจบ ชายวัยกลางคนคนนั้นก็เดินขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว เขย่ามือ ในมือเขามีหนังสือสัญญาญหนึ่งฉบับ

 

ในเวลาเดียวกันก็พูดกับเราว่า “ เจ้าเด็กน้อย เราเป็นร้านค้าถูกกฎหมาย ไม่ใช่ร้านขายรถมือสอง จะเอารถผีสิงมาจากไหน ? แถมเรายังล้างให้นายสะอาดขนาดนี้ มาเซ็นชื่อซะ ทำให้มันจบๆไป ! ”

 

ชายวัยกลางคนทำหน้ายิ้มเหมือนไม่ยิ้ม พนักงานสี่คนด้านหลังเรา ตอนนี้เข้ามาล้อมผมและเหล่าเฟิงเอาไว้แล้ว

มันชัดเจนมาก อีกฝ่ายคิดจะบังคับให้เราซื้อ หลอกขายรถผีสิงคันนี้ให้กับพวกเรา

 

ผมกดความโมโหในใจเอาไว้ แล้วพูดขึ้นมาอีกครั้ง “ ถ้านายไม่เปลี่ยนรถให้พวกเรา งั้นก็…… ”

ผมพูดไม่ทันจบ ชายวัยกลางคนคนนั้นก็พูดแทรกทันที “ งั้นจะทำไมฮะ ? นายจะกินฉันหรือไง ! น่าขำ 

บอกนายตามตรง ฉันต้าโถวจูทำงานนี้มาตั้งนานแล้ว แล้วฉันต้องกลัวแกหรือไง ? ฉันเป็นเจ้าถิ่นโว้ย ”

 

“ ฮึ ! เซ็นสัญญา แล้วก็ขับรถของแกออกไป หรือไม่ฉันก็อัดแกสักยก แล้วขับรถคันนี้ออกไป…… ”

ชายวัยกลางคนทำหน้าหยิ่งยโส ประกาศว่าตัวเองเป็นเจ้าถิ่นที่นี่

 

ผมทนไม่ไหวแล้ว ฉันอุตส่าห์มาซื้อรถอย่างมีความสุข แต่แกดันมาหาเรื่องฉัน ตอนนี้ยังมาหาขู่ฉันอีก

ผมหัวลุกเป็นไฟทนไม่ไหวอีกต่อไป ผมขมวดคิ้ว แล้วต่อยออกไปทันทีหนึ่งหมัด

 

ชายวัยกลางคนคนนั้นไม่ทันป้องกัน โดนผมต่อยหน้าเต็มๆ

ได้ยินเพียงเสียงร้องโอดครวญของเขา ตัวถอยไปข้างหลัง พร้อมเอามือจับหน้าตัวเอง

 

แต่ผมไม่คิดจะปล่อยเขาไป ผมถีบมันอีกรอบ เจ้าหมอนี่ยืนยังไม่ได้ที่ จึงล้มไปกับพื้นทันที

“ เดรัจฉาน ! กล้าทำร้ายผู้จัดการร้านเรางั้นเหรอ ! ”

“ แม่งเอ้ย อัดมันให้ตาย ! ”

“ …… ”

 

พนักงานห้าคนนั้นก็เริ่มเคลื่อนไหว แต่ละคนต่างเข้ามาคิดจะลงมือลงไม้กับผมและเหล่าเฟิง

แต่ผมและเหล่าเฟิงไม่ได้ใจดีขนาดนั้น ด้านนอกพวกเราเป็นถึงคนล่าผี แล้วพวกอันธพาลที่มีเนื้อมีหนังพวกนี้จะมาสู้กับพวกเราแบบมือเปล่าได้ยังไง

 

ผมเดินพลัง ไม่ว่าจะเป็นพละกำลัง หรือความเร็ว ก็พุ่งสูงขึ้นมาทันที

หลังจากสู้กันมาได้ไม่กี่ครั้ง ทั้งหกคนนั้นก็ลงไปนอนกองกับพื้น

 

ผมและเหล่าเฟิงก็ไม่เกรงใจ เข้าไปกระทืบชายวัยกลางคนที่บอกว่าตัวเองเป็นเจ้าถิ่น และ “ ต้าโถวจู ” 

ประจำที่นี่ทันที

 

“ เจ้าถิ่น ต้าโถวจูซินะ อวดดีนักไม่ใช่เหรอ ! แกจะให้ฉันเซ็นสัญญา ! เซ็นสัญญาซินะ ! ” ผมระบายออกมา

เจ้าหมอนี่ก็เป็นคนขี้สำออย ทำได้แต่รังแกคนอ่อนแอทั่วไป

 

พอโดนพวกเราอัดซะขนาดนี้ มันก็เอามือกุมหัวแล้วพูดอ้อนวอนไม่หยุด “ เลิก เลิกเตะได้แล้ว พี่ พี่ชาย 

ผมผิดไปแล้ว เรามาเปลี่ยนคัน เปลี่ยนคัน…… ”

“ เปลี่ยนกะผีนะซิ ตอนนี้ฉันจะเอาเงินคืน ! ” ผมพูดด้วยความโมโห

 

“ คืนคืนคืน พี่ชายอย่าอัดผมเลย ผมจะคืนเดี๋ยวนี้ ! ”

ผมและเหล่าเฟิงมาเพื่อซื้อรถ ไม่ได้มาอัดคน

 

พอได้ยินเจ้าหมอนี่พูดแบบนี้ ผมและเหล่าเฟิงก็หยุดกระทืบ

ชายวัยกลางคนจมูกเขียวหน้าบวม หลังหายใจหอบที่พื้นสองสามครั้ง เขาก็ค่อยๆลุกขึ้นมา

 

สำหรับพวกพนักงานไม่กี่คนนั้น ในเวลานี้ไม่กล้าโผล่หัวออกมาแล้ว

“ พี่ชายทั้งสอง เชิญไปคุยกันด้านในเถอะ ! ” ชายวัยกลางคนเอามือจับหน้า พูดด้วยเสียงสั่นเทา

 

“ ได้ ! เดินไปซิ ! ” ขณะพูด ผมและเหล่าเฟิงก็กำลังจะเดินเข้าไปในศูนย์

แต่เพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ด้านหลังก็มีเสียงทุบกระจกดัง “ ปังปัง ปังปังปัง ! ”

 

พอได้ยินเสียงนี้ พนังงานไม่กี่คนในศูนย์ก็หน้าเปลี่ยนสี หันไปมองตามสัญชาตญาณ

พวกเขาพบว่าเสียงนี้ดังมาจากในรถคันนั้น ทันใดนั้นทุกคนก็อดไม่ได้ที่ถอยห่างจากมัน

 

เพราะในสายตาของพวกเขา ในรถว่างเปล่าไม่มีใครอยู่ แต่กลับมีเสียงเคาะประจกดังขึ้น มันเป็นอะไรที่แปลกมาก

หนึ่งในพนักงานก็กลัวจนเผลอพูดออกมา “ มา มาอีกแล้ว เป็นเสียงนี้อีกแล้ว ! ”

 

แต่ตอนผมหันไปมองรถคันนั้น ผมกลับพบว่าคนที่เคาะกระจกก็คือผีไม่กี่ตนนั้น

พวกเขาทำท่าเคาะกระจกอย่างสุดชีวิต ใบหน้าหวาดกลัว มองผมอย่างประหม่าสุดๆ แววตาเหมือนแฝงไปด้วยการขอร้อง

 

แต่ผมไม่ค่อยได้ยิน เห็นแต่ท่าทางของพวกเขา ผมคิดว่าเหมือนพวกเขามีอะไรบางอย่างอยากจะพูดกับผม

ผมลังเลพักหนึ่ง จากนั้นก็ส่งสัญญาณให้พวกเขารอแป๊บนึง

 

ต่อจากนั้น ผมก็เดินตรงไปที่รถ

ผีไม่กี่ตนนั้นเห็นผมเดินเข้ามา เลยเผยสีหน้าดีใจออกมา

 

สำหรับพนักงานศูนย์ไม่กี่คนนั้น กลับทำหน้าสงสัย จ้องผมอ้าปากค้าง จนน้ำลายจะไหลออกมาได้แล้ว 

พวกเขาไม่เข้าใจว่าผมกำลังจะทำอะไร !

 

เมื่อผมมาถึงตรงหน้ารถ คราวนี้ผมก็ไม่ได้ลังเลอะไรมากนัก เปิดประตูออกตรงๆ จากนั้นก็เดินเข้าไปนั่งดื้อๆอย่างนั้น

เพราะผมรู้ดี ผีไม่กี่ตนนี้เป็นดวงวิญญาณธรรมดา ไม่ใช่วิญญาณร้าย

 

บวกกับตรงที่นั่งยังมีแสงแดดส่องถึง ถึงเข้าไปนั่งก็ไม่มีอันตรายอะไร ดังนั้นผมเลยกล้าทำแบบนี้

ผมเพิ่งเข้ามานั่ง ก็มองไปที่พวกเขาที่เบียดกันอยู่ด้านหลัง พร้อมพูดออกมาว่า “ เหมือนพวกคุณอยากพูดอะไรกับผมนะ ? ”

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.