หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 361 แผนจู่โจม

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 361 แผนจู่โจม

เมื่อเห็นใบหน้าที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มของมู่หลงเหยียน และได้ยินคำพูดแบบนั้น ผมก็ขนลุกไปทั้งตัว

ล้อเล่นอะไร แม้แต่เมียตัวเองยังจัดการไม่ได้ แล้วยังคิดจะมีเมียน้อย ผมไม่ได้รนหาที่ตายเหรอแบบนั้น

 

อีกอย่าง ผู้หญิงพวกนั้น เราก็เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น ไม่ได้มีใจคิดเกินเลยกันแม้แต่น้อย

ผมไม่กล้ารอช้า รีบตอบกลับทันที “ น้องศพ เธอนี่ล้อเล่นเก่งจริงๆ ฉันก็มีเธอเป็นเมียทั้งคนแล้วไม่ใช่เหรอ ? มีเมียน้อยอะไร ? ฉันไม่เคยคิดเลยนะ ! ”

 

พอมู่หลงเหยียนได้ยินผมตอบกลับแบบนั้น ก็ทำหน้าดีใจออกมา แต่ชั่วพริบตาเดียว เธอก็ทำหน้าดุขึ้นมาอีกครั้ง

“ รู้ก็ดี ! ก่อนที่ฉันจะหาวิธียุติการแต่งงานนี้ หรือก่อนที่ฉันจะหย่ากับนาย ถ้านายกล้าทำเรื่องสวมเขากับฉัน รอดูเถอะว่าฉันจะ…… ”

 

พอพูดจบ มู่หลงเหยียนก็ทำมือเป็นรูปกรรไกร

ให้ตายเถอะ ! ผมตกใจตัวเย็นวาบทันที

 

จากนิสัยเจ้าอารมณ์ของมู่หลงเหยียน ถ้าผมทำให้เธอโมโหขึ้นมาจริงๆ ผมคิดว่าเธอต้องทำได้ทุกเรื่องแน่ๆ

พอมู่หลงเหยียนเห็นผมทำหน้าหวาดกลัว เธอก็ไม่ขู่ผมต่อ

 

เธอเปลี่ยนหัวข้อ พูดกับผมตามตรง “ ช่วงเวลาที่ฉันเก็บตัว นายก้าวหน้าขึ้นบ้างไหมฮึ ? ”

พอได้ยินมู่หลงเหยียนถามแบบนั้น ผมก็พูดต่อทันที “ เรื่องนี้มีอยู่ ตอนนี้พลังของฉัน ถึงเต้าฉือขั้นสุดแล้ว สามารถเลื่อนไปอีกขั้นได้ตลอดเวลา ”

 

ผมพูดด้วยรอยยิ้ม มู่หลงเหยียนพยักหน้าเล็กน้อย “ อือ ! ไม่เลว ความเร็วในการเลื่อนขั้นของนายเร็วมาก จากระดับความเร็วนี้ ภายในระยะเวลาสองปีก็จะทะลุถึงขั้นเต้าจวินได้แล้ว ! ”

 

พอได้ยินคำว่า “ เต้าจวิน ” สองคำนี้ สีหน้าผมก็เปลี่ยนไปทันที

ขั้นเต้าจวิน ถือเป็นเส้นแบ่งระดับที่สำคัญของสายงานเรา

 

อย่างเช่นอาจารย์และท่านนักพรตตู๋สองคนนี้ พวกเขาฝึกฝนกันมาทั้งชีวิต เป็นคนปราบสิ่งชั่วร้ายมาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่เลื่อนมาถึงขั้นนี้ หยุดอยู่เพียงขั้นเต้าชือเท่านั้น

 

แต่ตอนนี้มู่หลงเหยียนกลับบอกผมว่า ในช่วงระยะเวลาสองปีที่จะถึงนี้ ผมอาจมีหวังก้าวไปถึงขั้นนี้ 

มันทำให้ผมค่อนข้างใจเต้นและตกใจเลยทีเดียว

 

“ ฉัน ฉันจะทำได้จริงๆเหรอ ? สองปีก็เลื่อน เลื่อนถึงขั้นเต้าจวินแล้วจริงเหรอ ? ” ผมค่อนข้างรนราน รู้สึกเหมือนจะพูดไม่ออกแล้ว

มู่หลงเหยียนกลับยิ้มอย่างเยือกเย็น “ ถึงนายจะกาก แต่ในการฝึก นายถือว่าเป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่ดีมาก 

ถ้ายึดตามวิธีฝึกในปัจจุบันต่อไป ฉันคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ ! พอถึงตอนนั้นแล้ว นายก็น่าจะช่วยอะไรได้บ้าง ”

 

พอเห็นมู่หลงเหยียนพูดจริงจังแบบนั้น ผมก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้ มันค่อนข้างประหม่าและตื่นเต้นจริงๆ

แต่ผมก็รู้ดี หลังจากนี้สองปี นอกจากมู่หลงเหยียนต้องใช้หญ้าหยินพิเศษแล้ว เธอยังต้องทำสงครามครั้งใหญ่อีกด้วย

 

ผมพยักหน้า “ วางใจได้เลยน้องศพ ขอแค่ฉันช่วยได้ ฉันต้องช่วยเธอแน่นอน ! อือใช่เมื่อกี้เธอบอกว่าเธอปรึกษากันเรื่องจัดการองค์กรตาผีกับเย่เฟิง หรือว่าพวกเธอมีแผนจะลงมือกับองค์กรตาผีเร็วๆนี้เหรอ ? ”

 

พอมู่หลงเหยียนได้ยินผมถามแบบนั้น เธอก็ทำสีหน้าเคร่งเครียด แล้วพยักหน้าให้ผม “ เรากำลังปรึกษากันอยู่ ! ตอนนี้องค์กรตาผีกำลังกดดันเราจากทุกด้าน เวลาที่เราเหลืออยู่ก็มีน้อยลงเรื่อยๆ ”

 

“ พวกเรากำลังวางแผน ว่าจะโจมตีฐานที่มั่นองค์กรตาผีที่อยู่ในระแวกนี้ อีกอย่างก็เพื่อให้พันธมิตรเราที่อยู่แถวนี้ได้พักหายใจด้วย ! ”

มู่หลงเหยียนพูดอย่างเคร่งขรึม ดูจริงจังมาก

 

ผมได้ยินน้ำเสียงจริงจังของเธอ จึงทำหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา “ กำหนดเวลาหรือยัง ถ้าเป็นไปได้ พวกเราก็ช่วยได้นะ ! คนขององค์กรชั่วพวกนี้ สร้างเรื่องยุ่งให้พวกเราที่นี่เยอะเกินไปแล้ว พวกเราเองก็อยากกำจัดคนชั่วพวกนี้เหมือนกัน ! ”

 

“ โดยเฉพาะกุ่ยซานหยวน และยังมียัยแก่ที่เรียกตัวเองว่าคนสวย พวกมันทำชั่วไปทั่ว เลี้ยงผีทำร้ายคนบริสุทธิ์ ”

 

มู่หลงเหยียนกลับพูดกับผมว่า “ กุ่ยซานหยวนและยัยแก่คนสวยที่นายพูดถึง เป็นเขี้ยวเล็บขององค์กรตาผีทั้งนั้น และยังเป็นผู้นำระดับภูมิถาคที่พวกเราอยู่ด้วย กุ่ยซานหยวนเป็นศัตรูที่ต่อกรด้วยยากมาก แม้ว่าจะเป็นฉัน ก็ยังไม่รู้เลยว่ามันเป็น คน ผี หรือศพ แถมเบื้องล่างของมันยังมีลูกศิษย์ผีอีกมากมาย ”

 

ผมขมวดคิ้ว เผยสีหน้าลำบากใจ

ความร้ายกาจของกุ่ยซานหยวนเป็นของจริง ทุกครั้งที่ปะทะกับเขาก็ไม่ใช่ร่างจริงทั้งนั้น และส่วนใหญ่ 

เขายังชอบสิงร่างศพ ทำเป็นตัวแทน

 

เพิ่งคิดถึงตรงนี้ มู่หลงเหยียนก็พูดขึ้นมาอีก “ ยัยแก่คนสวยที่นายพูดถึง ก็เป็นเหมือนฉัน เป็นดวงวิญญาณ ”

“ เธอเองก็ไม่สมบูรณ์เหมือนกัน ไม่มีที่มาของวิญญาณ ถูกคนระดับสูงในองค์กรตาผีบงการ และพลังของเธอก็น่าตกใจสุดๆ ถ้าฉันกับเธอปะทะกันด้วยร่างจริง ฉันเองก็ยังไม่รู้เลยว่าใครจะแพ้หรือชนะ สำหรับเรื่องเวลาลงมือ ตอนนี้พวกเรายังไม่ได้กำหนด ! ”

 

มู่หลงเหยียนร้ายกาจขนาดไหน เราคงไม่ต้องพูดถึง

พลังที่แท้จริงของเธอ อย่างน้อยก็น่าจะอยู่ในขั้นเต้าจวิน จนถึงขั้นเต้าจง หรือไม่ก็อาจเป็นผีที่บำเพ็ญไปถึงขั้นเต้าจุนแล้ว

 

สามารถเทียบกับเธอได้ จะเห็นได้ว่าร่างจริงของยัยแก่ที่เรียกตัวเองว่าคนสวย มีความร้ายกาจขนาดไหน

แต่ก็จากจุดนี้ เราก็จะเห็นได้ว่าอำนาจขององค์กรตาผีนั้นมีความน่ากลัวขนาดไหน

 

กุ่ยซานหยวนและยัยแก่คนสวย เป็นแค่ผู้นำระดับภาค หรือลูกน้องในองค์กรตาผีเท่านั้น

โลกกว้างใหญ่ขนาดนี้ สวรรค์คงรับรู้ว่าองค์กรตาผีมีลูกน้องที่น่ากลัวแบบนี้กี่คน

และผู้นำโรคจิตพวกนี้ ก็แข็งแกร่งมากอีกด้วย

 

ถ้างั้นระดับสูงขององค์กรตาผี พวกที่คอยควบคุมลัทธิตาผีจริงๆ เช่นพวกผู้อาวุโสอะไรพวกนั้น จะแข็งแกร่งถึงขนาดไหนละ

ผมคิดไม่ออกจริงๆ ว่าองค์กรตาผียิ่งใหญ่ไปถึงระดับไหนแล้ว

 

มู่หลงเหยียนเห็นผมเงียบไม่พูดไม่จา เธอคลี่ยิ้มออกมาอีกครั้ง “ เจ้ากาก นายจะทำหน้าเศร้าขนาดนั้นทำไม ? ถึงองค์กรตาผีจะร้ายกาจ แต่เราก็ยังสู้กับพวกมันมานานขนาดนี้ไม่ใช่เหรอ ? ”

 

“ และในแถบเขาฉินกับเขาต้าปา ก็มีคนและอำนาจหลากหลายปะปนกันยุ่งเหยิง มันเองก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่องค์กรตาผีไม่กล้าเข้าไปยุ่ง เป็นสถานที่ที่พวกมันมีอำนาจน้อยที่สุด ขอแค่พวกเราทำอย่างระมัดระวัง 

อาศัยข้อได้เปรียบจากเส้นทางและประตูนรกของที่นี่ พวกเราก็ไม่ต้องกลัวพวกมันแล้ว ! ”

 

พอได้ยินมู่หลงเหยียนพูดแบบนี้ ผมก็ค่อยๆคลี่ยิ้ม

รู้สึกว่านี่เป็นอีกครั้งที่ได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับองค์กรตาผี พวกมันยิ่งใหญ่ และเกินกว่าที่ผมคิดเอาไว้เมื่อก่อนหน้านี้จริงๆ

 

ต่อจากนั้น ผมก็พูดกับมู่หลงเหยียนอีกครั้ง “ น้องศพ รอให้พวกเธอกำหนดเวลาจะลงมือกับองค์กรตาผีเรียบร้อยแล้ว เธอต้องบอกให้ฉันรู้นะ ฉันจะไปกับเธอด้วย ! ถึงจะช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่ได้ไปช่วยตะโกนแหกปากก็ยังดี ”

 

ผมจริงจัง เพียงแค่กุ่ยซานหยวนและยัยแก่คนสวย ก็ทำร้ายคนไปจำนวนมากแล้ว

และผมก็ยังเคยรับปากกับผีที่โดนพวกเขาทำร้าย ว่าจะช่วยแก้แค้นให้พวกเขา

 

โอกาสแก้แค้นแบบนี้ ผมจะย่อมปล่อยมันไปง่ายๆได้ยังไง

มู่หลงเหยียนเห็นผมทำหน้าจริง เธอเลยเงียบไปพักหนึ่ง แล้วพยักหน้าให้ผม “ ได้ ตอนนี้เราเพิ่งเริ่มวางแผน เร็วที่สุดก็ต้องใช้เวลาครึ่งปี ถึงตอนนั้นนายต้องถึงขั้นเต้าชือแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันไม่กล้าพานายไปตายแน่ๆ ! ว่ายังไงละ ”

 

ผมคิดอยู่พักหนึ่ง ตามความเร็วในการฝึกซ้อมปัจจุบันของผม

การไปถึงขั้นเต้าชือ โดยใช้ระยะเวลาครึ่งปีก็อาจจะเป็นไปได้

 

แน่นอน ผมรู้ว่าต่อไปมันจะยากขึ้นเรื่อยๆ อาจารย์ก็บอกผมแล้วว่าพอถึงปีหน้าแล้วผมอาจเลื่อนไปถึงขั้นนี้

แต่ผมก็ยังไม่อยากโดนมู่หลงเหยียนดูถูก จึงตบปากรับคำกับมู่หลงเหยียน “ ได้ ! เต้าชือก็เต้าชือ ”

 

มู่หลงเหยียนคลี่ยิ้มเล็กน้อย “ งั้นก็เป็นอันตกลง ! ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว นายไปนอนเถอะ ! ฉันยังมีเรื่องต้องไปทำ ต้องไปหาโจวหยุน…… ”

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.