หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 359 ยันต์ฉีฟู๋

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 359 ยันต์ฉีฟู๋

หลังจากผมและเฟิงเฉ่วหานออกมาจากวัดร้างแล้ว ก็ตรงกลับตำบลชิงฉือทันที

พอกลับมาถึงบ้าน ก็ดึกมากแล้ว

 

ตอนแยกกัน เหล่าเฟิงกลับเตือนผมสั้นๆ

บอกให้ผมอย่าลืมกระตุ้นยันต์ เจ้าหนี้หน้าเลือดที่ลักพาตัวเด็กแบบนั้น ห้ามปล่อยไปเด็ดขาด

 

ไม่ต้องให้เหล่าเฟิงบอก ผมก็รู้ดีแก่ใจ คนพันนั้นน่ารังเกียจจริงๆนั่นแหละ

 

บ้านไหนไม่มีเด็กบ้างละ แกกลับไปขโมยเด็กบ้านคนอื่น นี่ไม่ได้แค่ทำลายเด็กตัวเล็กๆ แต่มันยังทำร้ายอีกหลายครอบครัวในทางอ้อม ทิ้งความเจ็บปวดและความเสียใจเอาไว้กับพวกเขาตลอดชีวิต

 

ผมพยักหน้า บอกให้เหล่าเฟิงวางใจ พอกลับไปแล้วผมจะจุดธูปทำพิธีข้ามคืน ทำให้เจ้าหมอนั้นได้อยู่ไม่เป็นสุขนับตั้งแต่คืนนี้

 

พอเหล่าเฟิงได้ยินผมตอบรับแบบนั้น ก็ไม่ถามอะไรอีก เดินตรงกลับร้านไป๋ฉ่าวทันที

พอผมกลับมาถึงร้าน ก็เห็นอาจารย์กำลังดูทีวีอยู่

 

ในเวลานี้เมื่อเห็นผมกลับมา ก็ไม่ได้สนใจผมเท่าไหร่ เพียงแค่เตือนผมว่าอย่าลืมจุดธูปให้มู่หลงเหยียน

 

เรื่องนี้กลายเป็นความเคยชินของผมแล้ว ผมหยิบธูปขึ้นมา จุดให้มู่หลงเหยียนและเผ่าจิ้งจอก หลังจากนั้นก็กินอะไรอีกนิดหน่อย แล้วเดินไปหยิบกระดาษเหลือง เตรียมจะเอามาเขียนยันต์

 

เรื่องพี่หูพวกค้ามนุษย์คนนั้น เมื่อคืนผมเคยพูดถึงแล้ว หรือก็คือบอกว่าผมแอบเสกคาถาใส่เขาเอาไว้

 

อาจารย์เห็นผมวาดยันต์ เลยพูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย  “ เสี่ยวฝาน คนแบบนี้อย่างไปเกรงใจ อีกเดี๋ยวตอนโกวฟู๋ต่าน ใช้พู่กันทองเขียนตามังกรไปด้วย แบบนี้ เวลาคาถาเริ่มทำงานจะได้ทรงพลังยิ่งกว่าเดิม คาถาที่อยู่บนตัวเจ้าค้ามนุษย์นั่น จะได้ออกฤทธิ์มากกว่าเดิม พอถึงตอนนั้นมันจะได้ทรมาน ไปทำเรื่องชั่วๆไม่ได้อีก ! ”

 

พอได้ยินอาจารย์พูดถึงขนาดนั้น ผมก็ไม่เกรงใจ

ทำตามที่อาจารย์ชี้แนะ ตอนจะวาด “ ยันต์ฉีฟู๋ ” เสร็จ ผมก็ใช้พู่กันทองเขียนตามังกรลงไปด้วย

 

เมื่อเห็นยันต์เสร็จแล้ว ผมก็ไม่รอช้า เอากะละมังใส่น้ำ มาวางไว้ต่อหน้าอาจารย์

 

ในกะละมังมีข้าวหยินหนึ่งกำมือ ข้าวหยินถูกต้มสุกแล้ว ดังนั้นเมื่อเข้าไปอยู่ในน้ำแล้ว มันก็ไม่ทำให้น้ำขุ่น น้ำยังคงใสเหมือนเดิม

 

หลังจากนั้นผมก็ตัดคนกระดาษขึ้นมาอีกหนึ่งตัว นำคนกระดาษใส่ลงไปในน้ำ

จากนั้นก็จุดธูปหอมขึ้นมาหนึ่งดอก แล้ววางเอาไว้ตรงด้านหน้ากะละมัง

 

ตรงนี้มีคำกล่าวว่า ข้าวจมคนลอย ฟ้าดินบรรจบ

ในเวลาเดียวกัน ผมก็ยกมือสองข้างขึ้นมาประสาน ปากพึมพำคาถาไม่หยุด

 

อาจารย์เห็นผมทำทุกอย่างเสร็จในครั้งเดียว และท่องคาถาอย่างคล่องแคล่ว

เขาก็อดพยักหน้าไม่ได้ หลังจากนั้นก็ไม่สนใจผมอีก หันไปดูทีวีของแกต่อไป

 

ต่อจากนั้นผมก็ท่องคาถาเรื่อง ข้าวหยินในกะละมัง เริ่มลอยขึ้นมา บางครั้งก็มีฟองออกมา

ส่วนคนกระดาษตัวนั้น กลับค่อยๆจมลงไป

 

ขอแค่ข้าวหยินทั้งหมดทำให้น้ำขุ่น คนกระดาษจมลงไปอยู่ก้นกะละมัง ความหมายก็คือ 

“ หยินหยางย้อนกลับ ” การเชื่อมต่อกับคาถาทางนั้นก็จะสำเร็จ

 

พอถึงตอนนั้น ก็จะสามารถเริ่มใช้ “ ยันต์ฉีฟู๋ ” ได้

เมื่อยันต์ฉีฟู๋เริ่มทำงาน คาถาบนร่างพี่หูก็จะถูกกระตุ้น

 

พอถึงเวลาที่กำหนด ไฟสามดวงบนร่างพี่หูก็จะมอดจนถึงขีดต่ำสุด หากไฟในตัวคนอ่อนแรง เราก็จะรู้สึกไม่สบาย นอกจากไม่สบายตัวแล้ว จิตใจก็จะสับสนวุ่นวาย ทำให้เจอกับสิ่งไม่ดีได้ง่าย

 

แม้พี่หูจะร้ายกาจขนาดไหน แต่สุดท้ายก็เป็นแค่คนธรรมดา

ขอแค่ทำให้เขาอยู่ภายใต้สถานการณ์นี้สักสองสามวัน เขาจะต้องขวัญหนีดีฝ่อ

 

นึกถึงคำพูดที่ผมบอกกับเขาเมื่อตอนนั้น แล้วรีบสะบัดก้นมาหาผมอย่างแน่นอน

ขอแค่เขาปรากฎตัว ผมไม่เพียงจะให้เจ้าหมอนี่เอาเงินมาคืนผม แต่ยังทำให้เขาต้องเสียเลือด 

และได้รับบทลงโทษที่สมควรจะได้

 

การกระตุ้นยันต์ประเภทนี้ผมเรียนได้นานแล้ว เพียงแต่ยังไม่เคยทำจริงๆเท่านั้น

ตอนนี้เมื่อเริ่มทำ มันกลับไม่ได้ง่ายเหมือนที่คิดเอาไว้

ไม่เพียงต้องใช้พลังมาก แต่ยังเหนื่อยมากอีกด้วย

 

ผ่านไปแค่สิบนาที หน้าผากของผมก็เต็มไปด้วยเหงื่อ เริ่มหายใจหอบเหนื่อย มือที่ประสานอยู่ก็เริ่มสั่น 

ผมรู้สึกว่ามันค่อนข้างลำบากพอสมควร

 

แต่ข้าวหยินในกะละมัง กลับเริ่มลอยขึ้นมามากกว่าครึ่งแล้ว

ผมทนต่อไป และท่องคาถาต่อ……

 

ผ่านไปอีกห้านาที ข้าวหยินเกือบลอยขึ้นมาหมดแล้ว และเจ้าคนกระดาษตัวนั้นกลับจมลงไปแล้ว

พอเห็นสิ่งนี้ ผมก็ดีใจ รู้ว่าถึงเวลาแล้ว

 

ผมไม่ลังเล บิด “ ยันต์ฉีฟู๋ ” ด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วพูดต่อทันที “ กล่าวถึงสามชิง ไม่ดับสูญ ดึงปีศาจเข้ามาลดทอนพลัง เรียกหยินนับตั้งแต่วันนี้ ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้ง เพี้ยง ! ”

 

หลังจากพูดจบ ผมก็นำยันต์หย่อนลงไปในกะละมัง

“ ตูม ” ทันใดนั้นเปลวไฟสีเขียวก็ลุกโชนไปตามยันต์ มันกลายเป็นขี้เถ้าทันที

 

ขี้เถ้าพวกนั้นหล่นลงในกะละมัง ทันใดนั้นฉากแปลกๆก็เกิดขึ้นทันที

น้ำที่เคยใสสะอาด กลับกลายเป็นสีโคลน เหมือนหยดน้ำหมึกลงไปอย่างงั้น

 

ข้าวหยินที่ลอยอยู่พวกนั้น ก็ค่อยๆเปลี่ยนสี มันค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีดำ เหมือนกับก้อนถ่านสีดำๆที่ลอยอยู่

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผมก็ดีใจขึ้นมาทันที สำเร็จแล้ว

 

อาจารย์ปลายตามองผมอย่างอัตโนมัติ เขาอดไม่ได้ที่จะตกใจ

ขณะเดียวกันก็บ่นพึมพำออกมาว่า เจ้าเด็กนี่ร้ายกาจใช่ย่อย กระตุ้นคาถาครั้งแรกก็ได้ระดับนี้แล้ว……

 

ผมได้ยินอาจารย์พูดเบาๆ จึงอดหันไปมองอาจารย์ไม่ได้ “ ฮ่าๆๆ ! อาจารย์ ผมใช้ได้ใช่ไหมละ ! 

วิชาที่อาจารย์สอน ผมเรียนได้ดีเห็นไหมละ ! ”

 

อาจารย์เห็นผมทำหน้าได้ใจ จึงดึงสีหน้าลงทันที แล้วลุกขึ้นยืน “ อย่าดีใจให้มันเร็วเกินไป ถ้าเทียบกับอาจารย์ แกยังห่างชั้นอีกไกล ”

 

“ ปีนั้นตอนอาจารย์กระตุ้นคาถาเป็นครั้งแรก น้ำถึงกับเดือดเลยเฮอะ ใช่ น้ำเดือดสุดๆเลยละ 

เห็นความสามารถของอาจารย์ในตอนนั้นเลยใช่ไหมละ แกดูซิ ของแกมีฟองแค่เนี่ย ยังห่างชั้นอีกไกล ! ”

 

อาจารย์หน้าไม่แดง เขาพูดอย่างมั่นใจ

ผมที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับได้ยินแล้วทำหน้าเลิ่กลั่กทันที

อาจารย์อาจจะรู้ตัวว่าขี้โม้เกินไป เขาเลยกระแอมออกมาสองครั้ง “ โอเค อาจารย์ง่วงแล้ว ไปนอนก่อนละ ”

 

หลังจากพูดจบ อาจารย์ก็หยิบกระบอกสูบยาคู่ใจเข้าไปในห้อง

พอเห็นอาจารย์ไปแล้ว ผมก็ยิ้มออกมาอย่างคนทำอะไรไม่ถูก อาจารย์เป็นตาแก่ที่รักหน้าตาหรือศักดิ์ศรีของตัวเอง สำหรับเรื่องนี้ ผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์

 

แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งสำคัญก็คือ ผมอยากรู้จริงๆว่าตอนนี้เจ้าคนที่เรียกตัวเองว่าพี่หูจะเป็นยังไงบ้าง

แน่นอน ผมคิดว่าไม่เกินห้าวัน เขาจะต้องรีบมาหาผมที่นี่แน่ๆ

 

ต่อจากนั้น ผมก็เดินไปล้างหน้าอาบน้ำ หลังจากนั้นก็เข้าไปในห้อง เตรียมตัวนอน

ผลลัพธ์เพิ่งเข้ามาในห้อง ยังไม่ทันถอดเสื้อผ้า ผมก็รู้สึกเย็นที่หลัง ทันใดนั้นเองสายลมอันเยือกเย็นก็พัดเข้ามา

 

ไม่รอให้ผมได้ตอบสนองใดๆ ผมก็รู้สึกว่าโดนถีบที่หลัง

“ ไอโยว ! ”

ตัวผมล้มลงไปบนเตียง รู้สึกเหมือนโดนเตะอีกรอบ

 

แต่ไม่รอให้ผมได้พลิกตัวกลับมา ร่างของใครบางคนก็ขึ้นมาทับหลังผม จับแขนทั้งสองข้างของผม 

บิดไปด้านหลังอย่างแรง

 

ความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามา ทำให้ผมแทบจะตายในทันที

ผมยังไม่ทันเอ่ยปากถาม เสียงใสของผู้หญิงที่คุ้นหูก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังผม “ ไอ้กาก ช่วงสองวันนี้มีความสุขมากซินะ ! ”

 

แม้เสียงจะใส แต่มันก็ปนไปด้วยความโกรธ

แต่สำหรับผม เสียงนี้คุ้นหูยิ่งกว่าอะไรดี

ไม่ต้องพูดถึง คนที่ถีบผม บิดแขนผม เธอไม่ใช่ใครอื่น เธอก็คือเมียเจ้าอารมณ์ของผม มู่หลงเหยียน

 

“ น้อง น้องศพ เป็นเธอเหรอ ? โอ๊ย ! เจ็บ เบา เบาหน่อย…… ” ผมรีบพูด ให้มู่หลงเหยียนเบามือ ไม่อย่างนั้นแขนผมได้หักแน่ๆ

 

ผลลัพธ์มู่หลงเหยียนไม่เพียงไม่เบามือ กลับกันยังใช้แรงมากกว่าเดิม “ ฮึ ! ไอ้กาก ฉันเก็บตัวไม่กี่วัน 

นายก็ไม่กลัวฟ้าดิน กล้าออกไปเกี้ยวสาวข้างนอกแล้วใช่ไหมฮะ ? บอกมา ผู้หญิงเมื่อคืนคือใคร ได้ยินว่าพวกนายคุยกันกระหนุงกระหนิงตลอดทั้งทางเลยนิ มีความสุขมากใช่ไหมฮะ ! ”

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.