หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 357 อาหารบูชาตุ๊กตาผี

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 357 อาหารบูชาตุ๊กตาผี

จู่ๆก็ได้ยินท่านนักพรตตู๋พูดแบบนั้น ผมเลยอดสูดหายใจเข้าไม่ได้

ใช้เด็กมาเป็นอาหาร เลี้ยงตุ๊กตาผีสามตัว แบบนี้มันก็โหดร้ายเกินไปหน่อยแล้วมั้ง

 

พอเห็นเด็กน้อยสองคน นอนสลบไม่รู้สึกตัว ใบหน้าซีดขาว

พวกเขาน่าจะโดนทำให้ตกใจไม่น้อย ดังนั้นพวกเราเลยไม่ปลุก แต่ให้พวกเขาพักผ่อนอีกครู่หนึ่ง

 

เนื่องจากที่นี่ทั้งมืดและเงียบ พวกเขาเองก็ไม่รู้จักพวกเรา หากตื่นขึ้นมาทั้งๆแบบนี้ คงทำให้พวกเด็กๆตกใจอีกรอบ แบบนั้นเราคงได้ไม่คุ้มเสีย

 

แต่ผมอยากรู้เรื่องตุ๊กตาผีสามตัวนั้นมาก เลยถามท่านนักพรตตู๋และอาจารย์ว่า “ ลุงตู๋ อาจารย์ ก่อนที่พวกลุงจะมาถึง ที่จริงพวกผมลงมือฆ่าเจ้าตุ๊กตาผีสามตัวนี้ไปแล้ว แต่ผลลัพธ์พอผ่านไปไม่นาน พวกมันก็ฟื้นขึ้นมาอีก ”

 

“ แถมพลังยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตรงหน้าผากก็มีเขาน้อยๆงอกออกมา นี่มันเรื่องอะไรกันเหรอ ? ”

 

พออาจารย์ได้ยินผมพูดถึงขนาดนั้น ก็ตอบกลับทันที “ นี่เป็นสาเหตุที่ฉันยืนกรานจะมาให้ได้ ก็เพราะกลัวแกสู้ไม่ไหว ถึงตุ๊กตาผีจะไม่เหมือนกับผีทารก ไม่ได้ตัวโตกว่าเก่า แต่ตุ๊กตาผีก็มีความสามารถและรูปร่างพิเศษของมัน ด้วยเหตุนี้ การมีอยู่ของพวกมัน จึงกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ตายยาก และตอนที่ตุ๊กตาผีกำลังจะตาย มันจะยิ่งแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม ”

 

“ ถ้าไม่มีวิธีจัดการ และใช้เครื่องมือพิเศษ ผลลัพธ์ที่ตามมาก็จะเป็นเหมือนของพวกแกเมื่อก่อนหน้านี้ 

ไม่เพียงฆ่าอีกฝ่ายไม่ได้ แต่ยังบังคับให้อีกฝ่ายวิวัฒนาการด้วย ! ” อาจารย์พูดทีละประโยค

 

ผมและฉู่ยเฉิงจิงไม่ค่อยรู้เรื่องตุ๊กตาผี ตอนนี้พอฟังจบ ก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง

 

ในเวลาเดียวกัน ท่านนักพรตตู๋ก็พูดเพิ่มอีกหน่อย “ ใช่แล้ว ตุ๊กตาผีก็เป็นวิชาของพวกลัทธิชั่ว เป็นการเลี้ยงผีที่นิยมกันมากที่ชุด ไม่เพียงเลี้ยงง่าย แต่ยังให้แค่กินเลือดและพลังหยางของคนเป็นเท่านั้น กำลังรบของพวกมันก็จะพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว หนึ่งในนั้น พวกเด็กที่นี่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ก็คืออาหารบูชาที่พวกมันชอบกินที่สุด…… ”

 

ท่านนักพรตและตู๋อาจารย์เริ่มอธิบายให้เราฟังต่อทีละประโยค พวกเขาอธิบายถึงลักษณะพิเศษของตุ๊กตาผี รูปแบบการดำรงอยู่แบบพิเศษของพวกมัน และวิธีที่ทำให้วิวัฒนาการ

 

หลังฟังจบ ผมก็ได้ความรู้ใหม่เกี่ยวกับตุ๊กตาผี

ตุ๊กตาผี จะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาตินั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ก็มีตัวตนอยู่จริง

 

แต่ตอนนี้ดูเหมือน ตุ๊กตาผีสามตัวที่พวกเราเจอ น่าจะเป็นของที่นักพรตกุ่ยสร้างขึ้นมา

การปรากฎตัวของมัน ซับซ้อนมาก แต่กลับเลี้ยงง่ายมาก

 

ก่อนอื่นต้องเลือกวิญญาณเด็กอายุประมาณ 3-5 ขวบ ยิ่งเยอะยิ่งดี ต่อจากนั้นก็นำไปวางในห้องปิดตายพิเศษ ใช้วิชามารบางอย่าง เซ่นสังเวยดวงวิญญาณ ให้อาหารบูชาทุกวัน ทำให้แรงแค้นในตัวพวกมันมีเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นวิญญาณร้าย

 

หลังจากเปลี่ยนเป็นวิญญาณร้ายแล้ว ก็ให้พวกมันฆ่ากันเอง ตัวเดียวที่เหลือรอดในนั้น ก็จะกลายเป็นตุ๊กตาผีที่ชั่วร้าย

แต่ตุ๊กตาผีประเภทนี้ เป็นแค่ประเภทที่ธรรมดาที่สุด หรือ “ จุดเริ่มต้น ” ที่ดั่งเดิมที่สุดเท่านั้น

 

ต่อจากนั้น ตุ๊กตาผีที่มีชีวิตอยู่ต่อพวกนี้ จะถูกถ่ายเข้าไปในร่างของเด็ก

และตุ๊กตาผีพวกนี้ก็ยังกัดกินวิญญาณเด็กเป็นอาหาร ทีละนิดๆ จนกระทั่งผ่านไป 49 วัน

 

ในวันที่ 49 ตุ๊กตาผีก็จะออกมา ส่วนเด็กเจ้าของร่างคนนั้น ก็จะสิ้นใจ ตั้งแต่นั้นขั้นพื้นฐานก็จะมาถึงขั้นที่

ดุร้ายที่สุด หรืออาจข้ามขั้นเลื่อนไปสูงกว่านั้นก็ได้

 

หลังจากนั้นพวกหมอผีก็จะเลี้ยงตุ๊กตาผีพวกนี้ต่อ ให้อาหารทุกวัน เลี้ยงด้วยอาหารบูชา

ก็เหมือนกับเด็กน้อยตรงหน้าพวกเรา ขอแค่มีอาหารเลี้ยงมากพอ พวกตุ๊กตาผีพวกนี้ก็จะพัฒนาไปเรื่อยๆ

 

นี่ก็มีเขางอกออกมาแล้วไม่ใช่เหรอ หลังจากนั้นผิวก็จะเปลี่ยนสี เริ่มต้นตั้งแต่สีขาว เหมือนกับอันดับขั้นของผีนั่นแหละ

 

ถ้าเลี้ยงขนมีผิวสีแดง พลังที่ได้ก็จะไม่ธรรมดาอีกต่อไป แม้แต่ผีชุดแดงที่อยู่ในระดับเดียวกันมันก็สามารถสยบได้

 

สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือ มันฆ่ายากมาก เหมือนกับแมลงสาบที่ไม่ยอมตายสักที

และหลังจากที่อาจารย์รู้ว่าผมสู้กับตุ๊กตาผี เขาก็รีบติดต่อท่านนักพรตตู๋ และยังทาผงชาดลงบนดาบไม้และมือเอาไว้ล่วงหน้า

 

วิธีนี้ ใช้ต่อกรกับตุ๊กตาผีระดับต่ำได้

และตอนปะทะกันครั้งแรก ผมก็ไม่รู้ว่าทั้งสามคนเอาผงชาดไปโรยใส่บนตัวตุ๊กตาผีสามตัวนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ มันเลยไประงับความสามารถของพวกมัน

 

ไม่อย่างงั้นหากอยากคิดจะฆ่าเจ้าตุ๊กตาผีสามตัวนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนี้หรอก

พอได้ยินถึงตรงนี้ ผมและฉู่ยเฉิงจิงถึงคิดขึ้นมาได้

 

ถึงว่าก่อนนี้พวกเราสู้อยู่ตั้งนานสองนาน ไม่เพียงฆ่าอีกฝ่ายไม่ได้ อีกฝ่ายยังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ที่แท้ก็เป็นเพราะกินอาหารบูชา และเกี่ยวกับความสามารถของพวกมันนี่เอง

 

ส่วนอาจารย์ทำยังไงถึงได้ตามมาทันพอดีนั้น ก็พึ่งเสียงร้องตะโกนจากการทรมานของหมอกดำของ

เจ้ากุ่ยซานหยวนทั้งนั้น

 

เสียงร้องของผมทะลุออกไปนอกวัด ทำให้พวกอาจารย์ที่อยู่แถวนี้ได้ยินเข้า พวกเขาถึงได้ตามมาถึงต้นเสียง

ไม่อย่างนั้น ผมก็คงตายด้วยเงื้อมมือมันแล้ว

 

พอคิดถึงเหตุการณ์เมื่อก่อนหน้านี้ ผมก็ยังรู้สึกกลัวไม่หาย

ตอนนี้ ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปแล้ว

 

ตุ๊กตาผีโดนกำจัด กุ่ยซานหยวนถอยหนี และเรายังช่วยเด็กเอาไว้ได้อีกสองคน

ทุกคนพักผ่อนกันครู่หนึ่ง จากนั้นก็เตรียมจะออกไปจากที่นี่

 

แต่ปัญหาใหม่ก็มาถึง แล้วเราจะทำยังไงกับเด็กสองคนนี้

จะเอาไปส่งโรงพัก เขาจะไม่สงสัยว่าเราเป็นพวกค้ามนุษย์เหรอ

 

ถึงตอนนั้นจะอธิบายยังไง บอกว่าพวกเราไปจัดการผีข้างนอก แล้วบังเอิญเจอเด็กพวกนี้เข้าพอดีเหรอ

พอคิดไปคิดมา เราก็คิดว่าให้เด็กสองคนนี้กลับไปเองดีกว่า หรือไม่ก็ไปส่งไว้ที่หน้าโรงพัก ให้พวกตำรวจพากลับบ้านเอง

 

แบบนี้พวกเราก็จะไม่หาเรื่องยุ่งเข้าตัวแล้ว และยังทำภารกิจส่งเด็กๆสำเร็จอีกด้วย

 

แน่นอน สำหรับพวกเจ้าหนี้หน้าเลือดที่จับพวกเขามา และผู้นำอย่างพี่หูคนนั้น เราก็ไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปแน่ๆ

 

พี่หูโดนยันต์ของผมเข้าไป ขอแค่ยันต์แผ่นนั้นออกฤทธิ์ เจ้าหมอนั้นก็จะเห็นผีทุกวัน เป็นโรคประสาทอ่อนๆ

ผมทิ้งที่อยู่เอาไว้ให้เขา ผมไม่เชื่อว่าเขาจะไม่มาหาผม

 

รอให้เจ้าหมอนั้นมาหาผมแล้ว ผมก็จะหาวิธีให้มันสารภาพ และคายเงินของผมออกมา

เงินพวกนั้นเป็นเงินที่ผมหามาด้วยความยากลำบาก ใช้ชีวิตของตัวเองแลกมา

 

หลังจากมีแผนนี้แล้ว พวกเราก็เดินทางมุ่งหน้าเข้าเมือง

เรื่องส่งตัวเด็กๆ ผมและเหล่าเฟิงเป็นคนจัดการ พอฉู่ยเฉิงจิงเห็นแบบนั้น เธอก็บอกจะตามมาให้ได้

 

ดังนั้นหลังจากออกจากวัดร้างแล้ว พวกเรากับอาจารย์และท่านนักพรตตู๋ก็แยกกันระหว่างทาง

พวกเราไปหาโรงแรมแถวนี้ ส่วนพวกเราก็ใช้แผนที่ในมือถือ หาสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด

 

ถึงทุกคนจะเพิ่งรู้จักกัน แต่ก็เป็นคนปราบสิ่งชั่วร้ายทั้งนั้น บรรยากาศเลยเป็นไปด้วยดี ยิ้ม หัวเราะ พูดคุย และยังแลกช่องทางการติดต่อกัน

 

ระหว่างทางพวกเรายังเจอวิญญาณเร่ร่อนสองตัวด้วย แต่พวกเขาไม่มีพลังชั่วร้าย เพียงมองพวกเราจากที่ห่างไกลเท่านั้น

 

พวกเราเองก็ไม่ได้สนใจ เพียงเดินต่อไปข้างหน้าเท่านั้น

พวกเราใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็เดินไปตามทางเล็กๆมาจนถึงหน้าโรงพัก

 

สถานที่แห่งนี้เหมือนกำลังอยู่ในขั้นตอนรื้อถอน ค่อนข้างห่างไกลผู้คน และไม่มีกล้องวงจรปิด

แบบนี้ เราก็สามารถซ่อนร่องรอยตัวเอง หลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมาได้พอดี

 

หลังจากสังเกตอยู่ครู่หนึ่ง พบว่าไม่มีคนอยู่รอบๆแล้ว ผมและเหล่าเฟิงก็อุ้มเด็กทั้งสองคน วิ่งไปวางไว้ที่หน้าโรงพัก

 

สิ่งที่พวกเราทำได้ ก็มีเพียงเท่านี้

สำหรับเรื่องต่อจากนี้ พวกเราทำอะไรไม่ได้แล้ว

 

หลังจากนั้น พวกเราก็เพิ่มความเร็ว กลับไปรวมตัวกับอาจารย์และท่านนักพรตตู๋ที่โรงแรม

คืนนี้ก็เหนื่อยกันมาพอสมควร หลังจากเข้าห้องหัวถึงหมอนแล้วผมก็หลับไปในทันที จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น……

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.