spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

ตอนที่ 347 ศิษย์เหมาชาน

จู่ๆสาวน้อยก็พูดแบบนั้นออกมา ทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่ทำท่าทางตกใจในทันที

เธอมองผม ผมก็มองเธอ

แต่ผมกลับไม่ได้สนใจคนพวกนั้น แต่คำนับคารวะกลับ แล้วฉีกยิ้มออกมา “ สหาย ! ผู้กำกับจางคนนี้เป็นเพื่อนของผม เขาเตรียมจะถ่ายหนังที่นี่ เมื่อกี้ล่วงเกินแล้ว ต้องขออภัยด้วย ”

เสียงเพิ่งเงียบลง สาวน้อยคนนั้นก็โบกมือ “ ช่างเถอะ ! ผู้ใหญ่ไม่เอาเรื่องผู้น้อยอยู่แล้ว ในเมื่อเป็นคนในสายงานเดียวกัน งั้นก็ให้พวกเพื่อนของนายรีบออกไปเถอะ ! อีกเดี๋ยวพอฟ้ามืดแล้ว หากมีเรื่องไม่ดีเกิดขั้น 

งั้นมันจะแย่เอานะ ! ”

พอได้ยินคำพูดนี้ ผมก็ไม่ได้พูดกับสาวน้อยต่อ แต่หันมาพูดกับผู้กำกับจางที่อยู่ข้างๆแทน ผมกดเสียงลงต่ำ “ ผู้กำกับจาง เมื่อกี้ที่ผมพูดเป็นภาษาในสายงาน ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นนักพรตเหมือนกัน ที่นี่อาจจะไม่สะอาด พวกคุณช่วยถอยออกไปก่อน ผมจะคุยกับเธออีกหน่อย ”

หลังจากผู้กำกับจางเผชิญกับเรื่องที่คฤหาสน์ เขาก็ปักใจเชื่อเรื่องภูติผีแล้ว

สำหรับความสามารถของผม ในด้านนี้เขาก็ไม่สงสัยเช่นกัน

ในเวลานี้เมื่อเห็นผมคุยกับผู้หญิงคนนั้น และใช้ถ้อยคำเหล่านั้น ยังทำให้เขารู้สึกว่าสาวน้อยคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา

โดยเฉพาะพอได้รับการยืนยันจากผมแล้ว และยังได้ยินว่าที่นี่มีสิ่งสกปรกอยู่ ในใจของเขาก็มีเสียงดัง “ กึก ”

“ ท่าน ท่านนักพรตติง ที่นี่ ที่นี่มี มีจริงๆเหรอ ? ” ผู้กำกับจางกลืนน้ำลาย มองรอบๆอย่างหวาดระแวง

ผมคลี่ยิ้ม “ ผู้กำกับจางไม่ต้องกังวลขนาดนั้น ไม่มีใครอยู่ที่นี่มานาน พลังหยินย่อมแรงเป็นธรรมดา มีสักตัวก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร พวกคุณออกไปก่อนนะ ผมกับสหายท่านนี้จะคุยกันหน่อย ถ้าจัดการได้ 

พวกเราจะรีบจัดการ ไม่ทำให้การถ่ายหนังของพวกคุณล่าช้าอย่างแน่นอน ! ”

เสียงผมไม่ได้ดังมากนัก มีเพียงแค่เราสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน

แต่พวกคนที่ยืนอยู่หน้าประตู กลับเริ่มกระซิบกระซาบกัน เพราะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“ เจ้าเด็กนั้นเป็นใคร ไม่เหมือนคนในวงการของเราเลย ”

“ สุดยอด ดูสนิทกับผู้กำกับจางของพวกเรา หรือว่าเจ้าหมอนั้นจะเป็นเด็กเส้น ”

“ นี่มันชายหนึ่งหญิงหนึ่ง น่าขันจริงๆ ยังบอกว่าเป็นสหาย ยัยนี่คงอ่านนิยายมากเกินไปละซิ ! ”

“ …… ”

ไม่ว่ายังไงก็มีน้ำเสียงทุกรูปแบบ ทุกคนต่างนินทาสนุกปาก

ผู้กำกับจางไม่ได้สนใจ ในเวลานี้พอได้ยินผมพูดแบบนั้น ก็อดหายใจเข้าลึกๆไม่ได้

ต่อจากนั้นก็พยักหน้าให้ผมด้วยความเคารพ “ ครับครับครับ ผมเชื่อคุณท่านนักพรตติง คุณพูดยังไงผมก็จะทำแบบนั้น ผมจะไปบอกให้พวกเขาออกไปก่อนนะครับ ! ”

“ อือ รบกวนด้วยนะ ! ”

ผู้กำกับจางพยักหน้า จากนั้นก็หมุนตัว ดึงหน้าลงในทันที “ ทำอะไรทำอะไรฮะ ? ออกไปได้แล้ว ออกไป…… ”

ขณะพูด ผู้กำกับจางก็ไล่คนทันที

อู่ฮุ่ยฮุ่ยและฉิงหมิงเฉ่วต่างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น อู่ฮุ่ยฮุ่ยขมวดคิ้ว เธอตะโกนมาทางผม “ ติงฝาน…… ”

พอได้ยินเสียงอู่ฮุ่ยฮุ่ย ผมก็หันไปมองทันที

“ มี เรื่องอะไรหรือเปล่า ? ” อู่ฮุ่ยฮุ่ยลองถามหยั่งเชิง

“ นิดหน่อย พวกเธออกไปก่อนนะ ! ฉันจัดการได้ ”

เสียงเพิ่งเงียบลง ผู้กำกับจางก็พูดกับอู่ฮุ่ยฮุ่ยว่า “ ไปเถอะน่าฮุ่ยเอ๋อร์ ท่านนักพรตบอกให้พวกเราออกไป 

เขาก็ต้องมีเหตุผลอยู่แล้ว ! ”

แม้อู่ฮุ่ยฮุ่ยจะสงสัย แต่ก็ยังตามผู้กำกับจางและคนอื่นๆออกไป

คนพวกนี้เพิ่งออกไป สาวน้อยก็ยิ้มหวานให้ผมทันที เธอทำมือคำนับผม “ สหาย คิดไม่ถึงว่าเราจะมาเจอกันที่นี่ ข้าน้อยฉู่ยเฉิงจิงศิษย์สำนักเหมาชาน ไม่ทราบสหายมีนามว่าอะไร ? ”

จู่ๆก็ได้ยินสาวน้อยพูดแบบนั้น ผมเลยตะลึงไปเล็กน้อย

สำนักเหมาชาน เธอบอกว่าตัวเองเป็นศิษย์สำหนักเหมาชาน

สำหนักเหมาชานคืออะไร มันก็คือสำหนักที่โด่งดังในสายงานของพวกเรา หรือแม้แต่เป็นสำนักที่มีชื่อเสียงระดับโลก

และฮ่องกงยังถูกนำไปสร้างภาพยนต์อีกหลายเรื่อง ขอแค่พูดถึงการจับผีล่าปีศาจ ใครก็คิดถึงสำนักเหมาชานทั้งนั้น

เด็กสาวที่ชื่อฉู่ยเฉิงจิงคนนี้ เป็นศิษย์สำนักเหมาชานจริงๆเหรอ

ผมกำลังตกใจ ไม่ได้ตอบกลับทันที

ฉู่ยเฉิงจิงเห็นผมทำตาโตไม่พูดอะไรออกมา เธอเลยพูดด้วยความสงสัย “ สหาย สหาย…… ”

“ อ่อ ! อ่อ ! ฉันชื่อว่าติงฝาน ไม่ ไม่มีสำนัก เป็นแค่นักพรตทั่วไป ไม่มีอาคมอะไรมากนัก…… ” ผมพูดด้วยรอยยิ้ม

ฉู่ยเฉิงจิงกลับไม่สนใจ “ สหายอ่อนน้อมถ่อนตัว ได้เจอกันถือว่ามีวาสนาต่อกัน ฉันจะบอกนายให้นะ ! 

ทางที่ดีนายให้พวกเพื่อนกองถ่ายของนาย ออกไปจากที่นี่ซะ นี่ที่ไม่สะอาด…… ”

ฉู่ยเฉิงจิงทำตาโต พูดอย่างจริงจัง

ผมกำลังอยากถามพอดี ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น ผมเลยถามออกไปตรงๆ “ ฉันเองก็เพิ่งมาถึง บางครั้งก็สัมผัสได้ถึงพลังชั่วร้าย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่ ”

พอฉู่ยเฉิงจิงได้ยินผมพูด เธอก็ตอบตามตรง “ แถวนี้มีตุ๊กตาผีอยู่สองสามตัว ฉันตรวจหามาหลายวัน นี่ก็เพิ่งไล่ตามมาถึงแถวนี้…… ”

ต่อจากนั้นฉู่ยเฉิงจิงก็เล่าสิ่งที่เธอรู้ ให้ผมฟังอย่างละเอียด

เธอบอกว่าเมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอและเพื่อนอีกสองสามคนออกมาร้องคาราโอเกะข้างนอก ตอนออกมาก็ประมาณตีสามแล้ว

แต่ขากลับ ตอนเดินผ่านซอยซอยหนึ่ง เธอกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอสัมผัสได้ถึงพลังชั่วร้าย

สัญชาตญาณของคนปราบสิ่งชั่วร้าย ทำให้ฉู่ยเฉิงจิงที่กำลังเมาอยู่ตื่นตัวขึ้นมาพอสมควร

เธอไม่ลังเลใดๆ เปิดตามองทันที หลังจากนั้นก็เริ่มตามหาที่มาของพลังชั่วร้าย

ผลลัพธ์พอเริ่มตามหา เธอก็เจอตุ๊กตาผีหน้าตาชั่วร้ายสามตัวอยู่ในส่วนลึกของซอยนั้นจริงๆ

ตอนนั้นตุ๊กตาผีทั้งสามกำลังคุกเข่าอยู่ที่พื้น และดูดพลังชีวิตของคนขี้เมาคนหนึ่ง พลังชีวิตของคนขี้เมาคนนั้นไหลออกไปอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าซูบผอม เมื่อฉู่ยเฉิงจิงเห็นแบบนั้นเธอก็ลงมือทันที

เจ้าตุ๊กตาผีสองสามตัวนั้นเพิ่งออกมาเผชิญโลกได้ไม่นาน เลยไม่มีพลังใดๆ แล้วพวกมันจะเป็นคู่ต่อสู้ของ

ฉู่ยเฉิงจิงศิษย์แห่งสำนักเหมาชานผู้นี้ได้ยังไง

ผลลัพธ์หลังจากสู้กันสองสามกระบวนท่า ตุ๊กตาผีสามตัวนั้นก็พ่ายแพ้

เพราะฉู่ยเฉิงจิงไม่ได้เอาอาวุธไปด้วย และยังดื่มเหล้าเข้าไปไม่น้อย แม้จะชนะตุ๊กตาผีทั้งสามตัวได้ 

แต่เธอก็ไม่สามารถจับพวกมันหรือฆ่าพวกมันทิ้งได้

สุดท้ายเจ้าตุ๊กตาผีสามตัวนั้นก็หนีไปได้……

เรื่องนี้ทำให้ฉู่ยเฉิงจิงเดือดปุดๆ พวกเธอคือศิษย์สำนักเหมาชาน เป็นศัตรูกับสิ่งชั่วร้ายมาโดยตลอด

พอฉู่ยเฉิงจิงได้รับความอัปยศครั้งนี้ เธอก็ต้องไม่มีทางปล่อยตุ๊กตาผีสามตัวนี้ไปอย่างแน่นอน เธอใช้วิธีของตัวเอง ค่อยๆหาเบาะแส และตามไล่ล่าพวกมันมาเรื่อยๆ

เธอใช้เวลาถึงครึ่งเดือน ในที่สุดเมื่อคืนนี้เธอก็ตามตุ๊กตาผีชั่วตัวหนึ่งมาจนถึงแถวนี้ และเจอร่องรอยของมันในวิหารวัดร้างแห่งนี้ แถมยังสัมผัสได้ถึงพลังชั่วร้าย

ฉู่ยเฉิงจิงมั่นใจ เจ้าพวกตุ๊กตาผีอาจปักหลักอยู่แถวนี้ และจะมาอยู่ที่วัดร้างแห่งนี้ระยะยาว ไม่อย่างนั้นมันก็คงไม่ทิ้งร่องรอยและพลังชั่วเอาไว้

ด้วยเหตุนี้ วันนี้ฉู่ยเฉิงจิงเลยมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่หัววัน เตรียมซุ่มโจมตีอยู่ที่นี่ รอให้พวกตุ๊กตาผีปรากฎตัวอย่างเงียบๆ

แต่คิดไม่ถึงว่า 20 นาทีก่อน ตุ๊กตาผีที่เธอกลับรอไม่มา แต่เป็นกองถ่ายหนังที่มาแทน

ตอนแรกฉู่ยเฉิงจิงยังแนะนำแบบดีๆ ผลลัพธ์อีกฝ่ายกลับไม่ยอมฟังเลยสักนิด และไม่เชื่อที่เธอพูดด้วย

สุดท้ายก็เริ่มลงมือลงไม้กัน แต่คนธรรมดาพวกนี้ จะเป็นคู่ต่อสู้ของศิษย์สำนักเหมาชานได้ยังไง

ผลลัพธ์ทีมงานสองสามคนโดนอัดที่หน้า แล้วสุดท้ายก็เริ่มทำสงครามน้ำลายกันแทน จนกระทั่งพวกเราปรากฎตัว……

ส่วนตุ๊กตาผีที่ฉู่ยเฉิงจิงพูดถึง ก็คือผีเด็กอายุประมาณสองสามขวบ

แต่ผีเด็กพวกนี้ไม่เหมือนผีทารก ผีทารกฆ่าคน วิญญาณจะค่อยๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

แต่ตุ๊กตาผีทำไม่ได้ พวกเขาจะอายุแค่นี้ตลอดไป หน้าตาดูเหมือนตุ๊กตาตัวน้อย เพราะในตัวมีพลังชั่วร้าย 

เลยกลายเป็นวิญญาณร้าย ดังนั้นผีเด็กพวกนี้ เลยถูกเรียกว่าตุ๊กตาผี

พอได้ยินถึงตรงนี้ ผมก็อดสูดหายใจเข้าลึกๆไม่ได้ หลังจากนั้นก็พูดกับฉู่ยเฉิงจิงว่า “ ในเมื่อเป็นแบบนี้ 

งั้นฉันจะไปคุยกับพวกเขา ให้พวกเขารีบออกไปจากที่นี่ คืนนี้ฉันจะอยู่ที่นี่ด้วย จะอยู่เป็นเพื่อนรอตุ๊กตาผีเป็นเพื่อนเธอ…… ”