spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 332 ทำตามสัญญา
ตำบลของเราไม่ใหญ่ บวกกับตอนนี้อากาศหนาวแล้ว ในเวลานี้จึงมีผู้คนเดินอยู่ข้างนอกไม่มากนัก
ตอนผมและอาจารย์มาถึงสุสาน ก็พบว่าเหล่าฉินมารอพวกเราอยู่ที่นี่นานแล้ว
ตอนนี้พอเห็นพวกเราเดินเข้ามา ก็รีบเข้ามารับพวกเราทันที บอกว่าท่านนักพรตตู๋และเหล่าเฟิงยังไม่มา
เลยชวนเรามาดื่มชาก่อน
วันนี้ที่สุสานมีแค่เหล่าฉินคนเดียว รอบๆเลยเงียบสงัดมาก
หลังจากรอมาประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดท่านนักพรตตู๋และเหล่าเฟิงที่พวกเรารอคอยก็มาถึง
ท่านนักพรตตู๋เห็นพวกเรามาถึงหมดแล้ว เลยรีบทักทายทันที “ ขอโทษที เมื่อกี้ที่บ้านมีเรื่องยุ่งนิดหน่อย
เลยทำให้ทุกคนต้องรอนานแล้ว ! ”
“ พวกเราเพิ่งมาถึงไม่นาน ในเมื่อมาถึงกันแล้ว งั้นพวกเราก็รีบเริ่มเลยเถอะ ! ต่อไปเสี่ยวเฟิงจะได้ใช้ชีวิตสงบสุขหน่อย ! ” อาจารย์พูด
ท่านนักพรตตู๋ก็พยักหน้ารับ ที่พวกเรามาในวันนี้ หนึ่งเพื่อเป็นสักขีพยาน สองเพื่อมาเป็นตัวช่วยเผื่อเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นด้วย
เหล่าเฟิงเป็นศิษย์ของท่านนักพรตตู๋แน่นอน แต่พี่เฟิงคนนี้กลับไม่เคยสนใจใยดีท่านนักพรตตู๋เลย
และพลังของพี่เฟิงก็มีไม่น้อยไปกว่าท่านนักพรตตู๋ พวกเราเลยคิดว่าพี่เฟิงอาจก่อเรื่องวุ่นขึ้น
ต่อจากนั้น พวกเราก็เดินไปที่สวนด้านหลัง
ระหว่างทาง ผมถามเหล่าเฟิงว่าร่างกายดีขึ้นบ้างไหม
เหล่าเฟิงยิ้มแล้วตอบว่าไม่เป็นอะไรแล้ว เพียงแค่ยังรู้สึกเจ็บหน้าอกหน่อยๆ
และยังบอกว่าพอผ่านคืนนี้ไปแล้ว เรื่องที่เขากังวลใจมาตลอดก็จะหายไปแล้ว
พอมาถึงที่ ทุกคนก็ยืนอยู่ด้านข้าง ท่านนักพรตตู๋พูดกับเหล่าเฟิงว่า “ เสี่ยวเฟิง เรามาเริ่มกันเถอะ ! มีอาจารย์อยู่ ไม่ต้องกังวลนะ ! ”
เหล่าเฟิงพยักหน้า แล้วบอกว่า “ ได้ ” หลังจากนั้นก็หยิบขวดยาสีดำออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
ทุกคนมองดู แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
พอเทยาออกมาหนึ่งเม็ดแล้ว เหล่าเฟิงก็สูดหายใจเข้าลึกๆ มองทุกคนหนึ่งรอบ แล้วหลังจากนั้นก็กลืนยาลงไป
หลังจากกลืนเข้าไปแล้ว เหล่าเฟิงก็ประสานมือ “ ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้ง เพี้ยง ! ”
หลังจากพูดจบ ตัวเหล่าเฟิงก็สั่นอย่างแรง ทันใดนั้นเองก็มีคลื่นพลังบางอย่างกระจายตัวออกมา
จากนั้นเหล่าเฟิงก็ตาเหลือก และล้มลงไปกับทันที
ท่านนักพรตตู๋พร้อมนานแล้ว เขาเข้าไปรับตัวเหล่าเฟิงเอาไว้ หลังจากนั้นก็พาเขาไปนั่งบนเก้าอี้
สภาพของเหล่าเฟิงไม่ต่างจากครั้งก่อนมากนัก เขายังคงเหมือนคนเป็นลมชัก กระตุกไม่หยุด น้ำลายฟูมปาก
แต่ก็ไม่มีอะไรมาก หลังจากนั้นพักหนึ่ง ร่างกายของเหล่าเฟิงก็หยุดกระตุกขึ้นมาดื้อๆ
ต่อจากนั้น ก็เห็นเพียงเหล่าเฟิงลืมตาขึ้น เหมือนคนเพิ่งตื่น
แต่พวกเรารู้ดี เมื่อเหล่าเฟิงลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็จะไม่ใช่เฟิงเฉ่วหานแล้ว แต่เป็นพี่ชายในร่างของเขา หานเฉ่วเฟิง
หลังจากพี่เฟิงตื่นขึ้นมา เขาไม่ได้ลุกจากเก้าอี้กทันที แต่ขยับคอไปมาสองสามรอบดัง “ กร๊อบกร๊อบกร๊อบ ”
หลังจากนั้นน้ำเสียงก็ต่างไปจากที่เหล่าเฟิงเคยพูด มันเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงของพวกไม่ได้เรื่อง “ ไม่ได้ออกมาตั้งนาน ร่างกายโดนเจ้าขยะนี่เอาไปเล่นจนพังอีกแล้ว ! ”
หลังจากพูดจบ พี่เฟิงก็ลุกขึ้นอย่างช้าๆ ลูบหน้าอกของตัวเองแล้วพูดว่า “ โอ้ย ! เจ็บจริงๆเลย ทำไมเจ้าขยะถึงโดนทำร้ายแบบนี้ได้นะ…… ”
“ เฮ้ยไอ้น้องไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ! ” พี่เฟิงทักทายผม
ผมคลี่ยิ้ม และพยักหน้ารับ
ในขณะที่พี่เฟิงกำลังบ่นพึมพำด้วยคำพูดห้วนๆ ท่านนักพรตตู๋กลับเดินไปข้างหน้าแล้วพูดว่า
“ หานเฉ่วเฟิง ยังจำข้อตกลงของพวกเราได้ไหม ? ”
จู่ๆพี่เฟิงก็ได้ยินเสียงนี้ เขาเลยหันไปมองทันที
เขาใช้สายตาหยาบคายมองท่านนักพรตตู๋ แล้วยกยิ้มมุมปากขึ้น “ ข้อตกลง ! ฉันจำได้อยู่แล้ว ตอนนี้เหลือแค่แก่นหยินแดง เดี๋ยวฉันขอดูเวลาก่อนนะ ! ”
พอพูดจบ พี่เฟิงก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ดูปฏิทินในนั้น
“ พอดีเลย ! วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว ตาแก่ วันนี้ถ้าแกยังไม่เอาแก่นหยินแดงมาแลก ก็อย่ามาโทษว่าฉันยึดร่างเจ้าน้องขยะนี่เลย ” พี่เฟิงพูดจาเด็ดขาด
“ ฮึ ! ที่เจ้าออกมาคืนนี้ ก็เพื่อเรื่องนี้แหละ เจ้าดูให้ดี นี่ก็คือแก่นหยินแดงที่เจ้าต้องการ ” ท่านนักพรตตู๋ทำหน้าตาจริงจัง ยื่นกล่องไม้ออกมา หลังจากเปิดออก มันก็เผยให้เห็นแก่นหยินแดงที่อยู่ด้านใน
ท่านนักพรตตู๋ไม่ลังเล ดึงยันต์ผนึกออกทันที
วินาทีที่ยันต์โดนดึงออก พยังหยินที่อยู่ด้านในก็เริ่มกระจายออกมา
พลังหยินของแก่นพลังนั้นแข็งแกร่งมาก มันทะลักออกมาทันที
ทันใดนั้นท่าทางที่หยาบคาย และไม่คิดว่าท่านนักพรตตู๋จะเอาแก่นหยินแดงออกมาจริงๆ
ก็เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาทันที หรือแม้แต่เผยแววตาตกใจออกมาเลยทีเดียว
แก่นพลังหยินของผีชุดแดงทรงพลังอยู่แล้ว สำหรับคนเป็นอย่างพวกเรา มันไม่มีประโยชน์อะไร
แต่สำหรับสิ่งมีชีวิตธาตุหยิน ถ้าได้เจ้าสิ่งนี้ไปครองมันจะช่วยเพิ่มพลังให้กับตัวเอง
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น และไม่ให้แก่นพลังหยินปล่อยพลังออกมามากเกินไป
หลังจากที่ท่านนักพรตตู๋โชว์แก่นพลังหยินของจริงแล้ว เขาก็รีบใช้ยันต์ผนึก แล้วเก็บเอาไว้ในกล่องทันที
“ แก่น แก่นหยินแดง ! ตาแก่ แกหาเจ้านี่มาจริงๆซินะ ” พี่เฟิงทำหน้าตกใจ เขาไม่อยากเชื่อเท่าไหร่
“ ฮึ ! แน่นอนอยู่แล้ว ” ท่านนักพรตตู๋ตอบกลับอย่างเย็นชา
“ เร็ว ! รีบเอามาให้ฉัน ” หลังจากพูดจบพี่เฟิงก็คิดจะเข้ามาแย่ง
ผลลัพธ์เขาเพิ่งเอื้อมมือออกมา อาจารย์และเหล่าฉินก็ดึงดาบไม้ออกมา แล้วกระโดดเข้าไปขวางเอาไว้ข้างหน้าพี่เฟิงทันที
“ อย่าเพิ่งรีบร้อน ! ก่อนจะเอาแก่นหยินแดงให้เจ้า เจ้าช่วยท่องคำสาบานใหม่อีกรอบจะดีกว่า ! ”
ท่านนักพรตตู๋พูด
พี่เฟิงขมวดคิ้ว “ บ้าเอ้ยเรื่องเยอะจริงๆ ! ”
พี่เฟิงยกมือขึ้นข้างหนึ่ง แล้วพูดคำสาบานออกมา “ ฉันหานเฉ่วเฟิงขอสาบานว่า ขอแค่ฉันได้แก่นหยินแดงมาครอง ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปฉันจะไม่แย่งร่างกับเจ้าขยะ ไม่ ร่างกายของน้องชายฉันเฟิงเฉ่วหานอีกแล้ว
หากผิดคำสาบาน ขอให้ฟ้าผ่า วิญญาณแตกสลาย ”
เสียงเพิ่งเงียบลง พี่เฟิงก็ยื่นมือออกมา “ ตอนนี้พอใจแล้วใช่ไหม ! รีบส่งมาให้ฉันซะซิ ! ”
พี่เฟิงยื่นมือออกมา ไม่มีทีท่าว่าจะเข้าไปแย่ง อาจารย์และเหล่าฉินจึงถอยออกไปสองก้าว ไม่ยืนขวางอีก
ท่านนักพรตตู๋พยักหน้าเล็กน้อย “ ได้ ! ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นข้าก็จะยกแก่นหยินแดงให้เจ้า หวังว่าต่อไปเจ้าจะทำตามที่สาบานไว้ อยู่กับน้องเจ้าอย่างสงบสุข ”
หลังจากพูดจบ ท่านนักพรตตู๋ก็ยื่นมือออกไป กล่องไม้ที่ใส่กล่องหยินแดงเอาไว้ ถูกโยนไปทางพี่เฟิงทันที
พี่เฟิงทำหน้าดีใจ แม้แต่เผยแววตาที่ตื่นเต้นออกมา เขายื่นมือออกไปรับทันที
เราหลงคิดว่าการแลกเปลี่ยนนี้จะจบลงแล้ว แต่ในตอนนั้นเอง เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
ทันใดนั้นเองจู่ๆเงาสีดำเงาหนึ่งก็พุ่งลงมาจากกำแพง ตรงไปที่กล่องไม้กลางอากาศนั้นอย่างไร้ซุ่มไร้เสียง
ไม่รอให้กล่องไม้ตกไปถึงมือพี่เฟิง และไม่รอให้พวกเรารู้ตัวแต่อย่างใด
ปากของเงานั้นก็งับไปที่กล่องไม้นั้นอย่างแรง แล้วหลังจากนั้นก็ใช้ความเร็วแค่ชั่วพริบตา รีบออกห่างพวกเราทันที
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน ทั้งเร็วมาก และเหนือความคาดหมายมาก
“ อะไรน่ะ ! กล้าแย่งแก่นพลังหยินของฉันงั้นเหรอ ! ” พี่เฟิงตอบสนองเร็วที่สุด ในเวลาเดียวกันเขาก็ตะโกนออกมาทันที
และเห็นได้ชัดว่าพวกเราตกใจมาก เรารีบหันไปมองทางเงาสีดำที่พุ่งออกไปทันที
พอหันไปมอง เรากลับพบว่าเจ้าเงาสีดำอันนั้นเป็นแมวแก่ตัวหนึ่ง
ขณะเสียงตะโกนของพี่เฟิงดังขึ้น เจ้าแมวแก่ตัวนั้นก็หันมามองหน้าพวกเรา
เราเห็นเพียงเจ้าแมวแก่ตัวนั้นมีดวงตาสีเขียว ปากคาบกล่องไม้เอาไว้ และบนหน้าของเจ้าแมวตัวนั้นยังเหมือนมีรอยยิ้มน่าขนลุกอยู่ด้วย
ไม่เพียงเท่านี้ ต่อจากนั้นเสียงน่ารักๆของผู้หญิงคนนึงก็ดังขึ้น “ แก่นหยินแดงนี่ ข้าขอรับเอาไว้ละ…… ”
เสียงเพิ่งเงียบลง เจ้าแมวตัวนี้ก็กระโดดขึ้น ไปอยู่บนกำแพงอีกครั้ง
ไม่รอให้พวกเราตามทัน มันก็กระโดดลงจากกำแพง และหายไปจากสายตาของทุกคนทันที……