หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 321 เลื่อนเป็นชุดแดง

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 321 เลื่อนเป็นชุดแดง

ฉากแปลกๆ และการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันนี้ อยู่ในสายตาของพวกเราทั้งหมด

 

พลังหยินไม่จัดว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร ทุกคนรบราฆ่าฟันในสายงานนี้มานานขนาดนั้น ก็ต้องเคยเห็นมาไม่น้อยอยู่แล้ว

 

พลังหยินพวกนี้ อย่างมากที่สุดก็แค่เข้มข้นหน่อย ทรงพลังหน่อยเท่านั้น ไม่ได้มีปัญหาอะไรใหญ่โต

 

แต่ที่มันร้ายแรงกว่านั้นคือ สีชุดของผีผู้หญิงกำลังเปลี่ยนไป

 

มันหมายความว่าอะไรละ มันก็คือระดับพลังของยัยผีตัวนี้กำลังเลื่อนขึ้น

 

หรือจะพูดอีกอย่างว่า ยัยผีตัวนี้กำลังเลื่อนขั้น เดิมทีเธอใส่ชุดสีเหลือง แต่ตอนนี้มันกำลังเปลี่ยนไปเป็นสีแดง

 

เวรละ ! นี่มันอะไรกันวะเนี่ย แค่ชุดเหลืองก็จะสู้ไม่ไหวอยู่แล้ว

 

ถ้าปล่อยให้ยัยผีชุดเหลืองนี่เปลี่ยนเป็นผีชุดแดงได้จริงๆ เราจะยังรับมือได้อีกเหรอ ทุกนาทีต่อจากนี้จะโดยยัยนี่ไล่ฆ่าตลอดเลยเหรอ

 

หลังจากสีแดงดุจเลือดปรากฎขึ้น ผมก็ใจเต้นรัว ในหัวเหมือนมีเสียงฟ้าผ่าตอนกลางวันแสกๆดังขึ้น

 

พวกเราสามคนต่างทำหน้าตกใจ วินาทีนั้นเราหยุดยืนอยู่กับที่ทันที

 

หลังจากนั้นประมาณหนึ่งวิสองวินาที ผมก็ได้สติขึ้นมาอย่างกระทันหัน ขณะนั้นเองผมก็ตะโกนออกมาว่า “ ไม่ดีแล้ว ยัยผีนี่กำลังจะเลื่อนขั้นแล้ว รีบฆ่าเธอเร็วเข้า ! ”

 

เสียงเพิ่งเงียบลง เหล่าเฟิงและหยางเฉ่วก็ได้สติอีกครั้ง

 

ตอนนี้เราจะกล้าชักช้าได้ยังไง หากยัยผีนี่เลื่อนขั้นสำเร็จจริงๆ ผลที่ตามมาก็ต้องเป็นหายนะอย่างแน่นอน

 

พอถึงตอนนั้น กระดิ่งในมือผมจะสะกดเธออยู่หรือเปล่า ผมก็ยังไม่แน่ใจเลย

 

เพราะผมเคยได้ยินอาจารย์บอกว่า หากผีถึงขั้นชุดแดงแล้ว พลังขั้นต่ำที่สุดก็เทียบได้กับขั้นเต้าจวิ้นของคนปราบสิ่งชั่วร้ายอย่างพวกเรา

 

หรือจะพูดอีกแบบคือ เมื่อยัยผีตรงหน้าเปลี่ยนเป็นผีชุดแดงเมื่อไหร่ เธอก็จะมีพลังเยอะกว่าพวกเราในตอนนี้ถึงสองเท่า

 

พวกเราทุกคนต่างเข้าใจเรื่องนี้ดี ดังนั้นทุกคนเลยรู้สึกกังวลมาก

 

ก่อนหน้ายังเป็นแค่การทดลองเข้าใกล้ ในเวลานี้เหล่าเฟิงและหยางเฉ่วต่างกัดฟัน ยกดาบในมือพุ่งเข้าไปข้างหน้า ทำท่าเหมือนคนกำลังจะสู้สุดชีวิต

 

ผมเองก็ไม่ได้ว่างงาน ในมือสั่นกระดิ่งสะกดผีผู้หญิงเอาไว้ ให้เธอไม่มีแรงโต้กลับ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็หยิบยันต์ออกมา เตรียมจะโจมตีเธอทุกเวลา

 

ภายในชั่วพริบตา เหล่าเฟิงและหยางเฉ่วก็เข้าใกล้ผีผู้หญิงแล้ว

 

ยัยผีตนนั้นยังกลิ้งอยู่บนพื้น ไม่รู้ว่ากระดิ่งทำให้เธอทรมานจนกลายเป็นแบบนี้ หรือเป็นเพราะการเลื่อนขั้น ที่ทำให้เธอได้รับความเจ็บปวด

 

ทันใดนั้นเอง ก็ได้ยินแค่เสียงของเหล่าเฟิงตะโกนว่า “ ยัยเดรัจฉานไปตายซะ ! ”

 

พอพูดจบ สองมือก็กำดาบแน่น กระโดดตัวลอย และแทงลงไปที่พื้นทันที

 

หยางเฉ่วเองก็ส่งเสียงออกมาหนึ่งครั้ง ดาบไม้ในมือก็พุ่งเข้าไป โจมตีพร้อมกับเหล่าเฟิงทั้งทางซ้ายขวา เตรียมฆ่ายัยผีตัวนั้นทันที

 

แม้ผีผู้หญิงจะมีท่าทางทรมานผิดปกติ แต่ในเวลานี้เธอก็รับรู้ได้ถึงอันตรายเช่นกัน พอหันมาเห็นเหล่าเฟิงและหยางเฉ่วกำลังเข้ามาฆ่า

 

เธอก็ทำหน้าดุร้าย กลั้นความเจ็บปวดบนร่างกายและแรงสะกดของกระดิ่งเอาไว้ จากนั้นก็ตะคอกออกมาทันที “ ไม่ ฉันไม่มีทางปล่อยให้พวกแกทำสำเร็จ ! ”

 

หลังจากพูดจบ เธอก็ใช้มือทั้งสองข้ายันพื้น ตัวลอยสู่จากพื้นดินไม่กี่เมตร หลังจากนั้นก็ลอยถอยให้ห่างพวกเราทันที

 

ครั้งนี้หยางเฉ่วและเหล่าเฟิง แทงเข้ากับอากาศ ไม่มีใครทำร้ายตัวผีผู้หญิงได้เลย

 

และสีบนชุดของผีผู้หญิง กลับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

 

เมื่อกี้ยังมีสีแดงอยู่แค่มุมเสื้อ แต่ในเวลานี้กลับเปลี่ยนเป็นสีแดงครึ่งชุดแล้ว

 

แถมพลังหยินที่เธอปล่อยออกมา ยังเข้มข้นกว่าเมื่อกี้ไม่น้อย เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติจนน่ากลัว

 

หยางเฉ่วและเหล่าเฟิงไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น พวกเขาไล่ตามไปทันที

 

ส่วนผีผู้หญิงก็ยังทำท่าทางเจ็บปวด ราวกับขณะที่สีพวกนั้นกำลังเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ ตัวเธอก็จะเริ่มอ่อนแอมากขึ้นเท่านั้น

 

ตอนนี้ เธอไม่ร้องตะโกนโวยวายเหมือนในตอนแรกแล้ว

 

ผ่านไปแค่ชั่วพริบตา พวกเราก็เข้ามาถึงรัศมีสังหารอีกครั้ง

 

แต่ผีผู้หญิงตนนั้นกลับไม่สู้กับพวกเรา เธอลอยถอยไปอย่างรวดเร็ว พยายามทิ้งระยะห่างจากพวกเราอย่างต่อเนื่อง

 

ตอนนี้ร่างของเธอเหมือนเป็นลำแสงเส้นหนึ่ง หลังจากหายวับไปสองสามครั้ง เธอก็ปรากฎตัวขึ้นอีกทีบนโครงเหล็กของอาคารที่อยู่ห่างออกไปกว่าสิบเมตร

 

เพราะที่นี่คือไซต์งานก่อสร้าง จึงมีงานก่อสร้างเล็กๆขึ้นแล้ว และพวกงานคอนกรีตเสริมเหล็ก

 

ส่วนผีผู้หญิงตนนั้น ตอนนี้กำลังยืนอยู่บนเสาคอนกรีต

 

ตัวเสาไม่สูงมาก แต่ก็น่าจะประมาณห้าเมตรได้

 

สำหรับผีผู้หญิง การกระโดดขึ้นห้าเมตรไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่สำหรับพวกเราแล้ว มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

 

พวกเรามีพลัง เข้าใจการโคจรพลัง และร่ายคาถาอาคม

 

แต่ในด้านพละกำลังของร่างกาย ตอนโคจรพลัง ร่างกายของเราจะแข็งแรงกว่าคนทั่วไปอยู่สักหน่อย

 

ความสูงห้าเมตร หากคิดจะปีนขึ้นไปเราก็ทำได้ แต่ถ้าคิดจะกระโดดขึ้นไปตรงๆ รีบสู้กับผีผู้หญิงให้จบเรื่อง เห็นทีจะเป็นไปได้ยาก

 

และในเวลานี้เราก็อยู่ในช่วงเร่งด่วน ยึดจากความเร็วนี้ของผีผู้หญิง อย่างมากที่สุดเธอก็น่าจะเหลือเวลาอีกแค่หนึ่งนาที ก็จะเลื่อนขั้นเป็นผีชุดแดงสำเร็จแล้ว

 

แล้วเมื่อถึงเวลานั้น เราจะยังสู้ไหวได้ยังไงละ

 

เพราะเวลาเร่งรีบ ดังนั้นพวกเราสามคนจึงเร่งความเร็วยิ่งกว่าเดิม

 

ตอนมาถึงหน้าเสา และกำลังจะปีนขึ้นไปนั้น

 

ผลลัพธ์กลับออกมาดีเหลือเกิน เรายังปีนขึ้นไปไม่ถึงหนึ่งเมตร มือของยัยผีตัวนั้นก็โบกมืออย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเองผ้าใบกันน้ำด้านนอกตัวอาคาร ก็เข้ามาคลุมพวกเราสามคนเอาไว้ด้านใน

 

จู่ๆก็โดนผ้าใบคลุม พวกเราจึงตกใจ แอบกลัวว่ายัยผีผู้หญิงจะแอบลอบโจมตีขึ้นมาทันที

 

เหล่าเฟิงเป็นคนช่วยเราออกมา เขาดึงดาบออกมา แล้วฟันไปที่ผ้าใบอย่างรวดเร็ว

 

แต่ หลังจากพวกเราออกมาจากผ้าใบแล้ว

 

สิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นที่สุด ก็เกิดขึ้นแล้ว

 

ผีผู้หญิงชุดแดง ปรากฎตัวขึ้นแล้ว

 

พอหันไปมา เห็นเพียงบนเสาคอนกรีตเสริมเหล็กสูงห้าเมตร มีผีผู้หญิงชุดแดงตนหนึ่งยืนอยู่อย่างเด่นสะดุดตาเลยทีเดียว

 

เธอหน้าขาวซีด ผมสีดำโบกสบัด ชุดแดงทั้งตัว ภายใต้คลื่นลม เธอเลื่อนขั้นสำเร็จแล้ว

 

เมื่อเห็นสิ่งนี้ พวกเราก็อึ้งไปพักหนึ่ง จิตใต้สำนึกบอกให้เราหยุดเคลื่อนไหว

 

ส่วนผีผู้หญิงตนนั้น ไม่กรีดร้อง บ้าคลั่งเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว

 

เห็นได้ชัดว่าเธอสงบมาก ไม่ได้ทำหน้าดุร้าย เห็นเพียงใช้ดวงตาปลาตายสีขาวโพลนคู่นั้นจ้องพวกเรา 

หรือแม้แต่ยกยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก

 

“ ออก ออกมาแล้ว ผี ผีชุดแดง ! ” หยางเฉ่วทำหน้าตกใจ เธออดกลืนน้ำลายไม่ได้

 

เหล่าเฟิงไม่ได้พูดอะไร แต่ในสายตาของผม ผมกลับรู้สึกผิด

 

ถ้าไม่ได้เป็นเพราะกระดิ่งในมือ พวกเราก็สู้ผีชุดเหลืองเมื่อกี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วจะมาพูดอะไรกับผีชุดแดงตรงหน้า

 

เพิ่งถึงตรงนี้ ในใจของผมก็มีเสียงดัง “ กึก ” ไม่ถูกซิ ! ชุดแดง ชุดแดง ! เฮ้ยผีชุดแดงนิหว่า พวกเรากำลังตามหาผีชุดแดงอยู่ไม่ใช่เหรอ ?

 

ก่อนหน้านี้เราสู้อย่างดุเดือดมาโดยตลอด ไม่มีเวลาให้คิดเลยสักนิด สมาธิทุกอย่างอยู่กับการต่อสู้ หรือแม้แต่สู้ด้วยใช้จิตใต้สำนึกด้วย

 

เรื่องนี้ทำให้พวกเราลืมเรื่องที่สำคัญมากไปเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือเรื่องของพี่เฟิง

 

พี่เฟิงต้องการแก่นหยินแดงเม็ดหนึ่ง เจ้าแก่นหยินแดงนี้ ก็คือแก่นพลังภายในตัวผีชุดแดง

 

ก่อนหน้านี้พวกเราไม่ได้เป็นทุกข์เป็นร้อนกับการหาเบาะแสของผีชุดแดงไม่เจอเหรอ

 

ตอนนี้ ตรงหน้าของพวกเราไม่ได้มีผีชุดแดงตัวเป็นๆยืนอยู่แล้วเหรอ

 

ขอแค่พวกเราจัดการผีตนนี้ได้ ดึงเอาแก่นพลังหยินในตัวเธอออกมาได้ เรื่องของพี่เฟิงก็ไม่เสร็จสิ้นแล้วเหรอ

 

และจากนี้เป็นต้นไป เหล่าเฟิงก็จะไม่ต้องกังวลว่าจะถูกพี่เฟยแย่งร่างไปอีกแล้วไม่ใช่เหรอ

 

แต่ แต่ตรงหน้าเป็นถึงผีชุดแดงเลยนะ

 

ถ้ามีอาจารย์และคนอื่นๆด้วยก็ว่าไปอย่าง เพราะเวลาทุกคนร่วมมือแล้ว ไม่ว่าผีแบบไหนเราก็โค่นได้ 

และจะได้เก็บแก่นหยินมาครองได้อีกด้วย

 

แต่ปัญหาก็คือ พวกเราสามคนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผีชุดแดงจริงๆ มันไม่ใช่ปัญหาเรื่องจำนวนคน

 

และถ้าเข้าไปปะทะกับเธอ ก็มีแต่เอาชีวิตไปสังเวยเท่านั้น

 

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ผมก็กวาดตามองข้อมือซ้ายตามที่จิตใต้สำนึกบอก

 

ตอนนี้ ผมทำได้เพียงเรียกใครสักคนออกมาช่วยเท่านั้น

 

เชิญเซียนมาประทับร่างไม่ได้แน่นอน เชิญเซียนมาเข้าร่าง อย่างน้อยที่สุดต้องใช้เวลาถึงสองสามนาที

 

ในช่วงเวลานั้น ยัยผีนี่คงฆ่าพวกเราไปเจ็ดแปดครั้งแล้ว มันไม่ทันการแน่ๆ

 

ดังนั้น มีแค่เรียกมู่หลงเหยียนมาออกโรงเท่านั้น

 

แต่ตอนเรียกน้องศพ ก็ต้องใช้เวลาประมาณสามสิบวินาที

 

และต้องตะโกนออกมาสามครั้ง ไฝ่ดำตรงข้อมือถึงจะถูกกระตุ้นอย่างสมบูรณ์

 

แต่เมื่ออยู่ตรงหน้าผีชุดแดงตนนี้ เราจะต้านได้ถึงสามสิบวินาทีจริงไหม หรือจะคิดหาวิธีจัดการเธอให้ได้ภายในสามสิบวินาทีหรือเปล่า

 

ต่อจากนั้น พอยัยผีเมียขี้โมโหของผมมาถึงแล้ว ถึงจะเป็นผีชุดแดงอย่างเธอก็เถอะ สุดท้ายแล้วเดี๋ยวก็จะเหลือแต่ชุดเน่าๆอยู่ดี……

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.