spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 303 กระจกหยินหยาง
การโจมตีคราวนี้ของคู่ต่อสู้สร้างความน่าสะพรึงกลัวให้กับพวกเรา พลังปีศาจที่ระเบิดออกมา ทำให้เกิดกระแสลมที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม ใบไม้แห้ง ทราย หรือแม้แต่กรวดต่างปลิวว่อน
เห็นได้ชัด ว่าอีกฝ่ายคิดจะเอาชีวิตเหล่าเฟิง
แต่เมื่อหันไปมองทางเหล่าเฟิง เขาไม่เพียงไม่ถอย แต่ยังก้าวเข้าไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
การกระทำนี้ทำใหผมเกิดความสงสัย แต่ในเวลาเดียวกันผมก็คิดถึงเมื่อกี้ที่เหล่าเฟิงมองตาผม จู่ๆขาก็ขมวดคิ้ว และพูดคำพูดที่รุนแรง
หรือว่าเหล่าเฟิงเห็นผมโดนผีตานีทำร้ายจนบาดเจ็บหนัก เขาก็เลยหัวร้อน คิดจะเข้าไปปลิดชีวิตอีกฝ่าย
เพื่อแก้แค้นให้ผม
ต้องใช่แน่ๆ ถึงปกติเหล่าเฟิงจะไม่ชอบพูด แต่ก็เป็นคนรักเพื่อน
เราสองคนรู้จักกันได้ไม่นาน แต่เคยผ่านความเป็นความตายด้วยกันมาหลายครั้ง และยังชอบพอซึ่งกันและกัน
เหล่าเฟิงต้องเห็นผมบาดเจ็บหนัก เลยโมโหขึ้นมา อยากสังหารผีตานี เพื่อแก้แค้นให้ผม
ผมเลยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอบอุ่นหัวใจ มีเพื่อนแบบนี้ ทำให้ผมมีความสุขจริงๆ
แต่ผมก็กลัวจะเกิดอะไรขึ้นกับเหล่าเฟิง เลยรีบเตือนเขาว่า “ เหล่าเฟิงอย่าวู่วามนะ ! ”
ในเวลาเดียวกันผมก็รีบวิ่งตามไปทันที แต่เหล่าเฟิงไม่ได้ตอบกลับมา เขาจ้องผีตานีตาไม่กระพริบ
เดินขึ้นไปข้างหน้าเรื่อยๆ
ผีตานีทรงพลังมาก พวกเราที่ยืนอยู่นอกวง สัมผัสได้ถึงอันตรายที่จะคุกคามชีวิตทันที
แต่เหล่าเฟิงกลับไม่หวั่นไหว เขายกดาบในมือขึ้นแล้วพุ่งเข้าไปทันที
“ ปัง ” กรงเล็บคู่นั้น เข้ามาปัดดาบ……
เพราะผีตานีมีพละกำลังมหาศาล ด้วยพลังของเหล่าเฟิง ไม่มีทางต้านอยู่อย่างแน่นอน
ขาสองข้างงอลง ตัวเขาลงไปคุกเข่ากับพื้นทันที
แต่เขายังกำดาบเอาไว้แน่น มืออีกข้างหนึ่งดันหลังดาบพยายามสู้กับผีตานีตนนั้นอย่างสุดฤทธิ์
กรงเก็บของมันแข็งมาก ตอนนี้มันกำลังปะทะกับดาบจักรพรรดิของเหล่าเฟิง ส่งเสียง “ อี๊ดอี๊ด ” แสบหู
แต่เหล่าเฟิงกลับไม่มีทีท่าว่าจะถอยหนี เขาคิดจะสู้กับผีตานีให้ตายไปข้างหนึ่ง
พอเห็นเหล่าเฟิงกำลังต้านไม่อยู่แล้ว แต่ทันใดนั้นเองเหล่าเฟิงก็ตะโกนออกมา “ กระจกหยินหยาง หลิน ปิง โต้ว เจอะ เยีย เจิ้น เลี่ย เฉียน ฉิง เปิด ! ”
เสียงนี้ทั้งเบาและเร็ว หลังจากพูดจบ จู่ๆตรงหน้าอกของเหล่าเฟิงก็มีกระจกหยินหยางโผล่ออกมา
และยังมาพร้อมกับประกายแสงสีทอง
ผีตานีอยู่ใกล้แค่เอื้อม กรงเล็บทั้งสองข้างยังถูกดาบกดเอาไว้ ดังนั้นวินาทีที่กระจกออกมา ผีตานียังไม่ทันรู้ตัว มันก็ลอยเข้าไปติดที่หน้าอกเธอแล้ว
กระจกหยินหยางเป็นของธาตุหยาง แต่มันมีความสามารถสยบปีศาจ ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากศพ
ผีตานีตนนั้นรู้สึกร้อนที่หน้าอก พลังหยางแพร่ซานไปทั้งตัว ต่อจากนั้นเสียง “ ซ่าซ่าซ่า ” ของการเผาไหม้ และควันที่ดำก็ตามมาติดๆ
ผีตานีเจ็บหน้าอกมาก แต่ก็โมโหมากกว่า
คิดไม่ถึงว่าการโจมตีครั้งนี้ของตัวเองจะโดนเหล่าเฟิงขัดขวาง และยังโดนอีกฝ่ายเล่นงานด้วย
เธอไม่สนใจที่จะดึงกระจกที่หน้าอกออก แต่คำรามออกมาหนึ่งครั้งด้วยความโมโห จากนั้นก็ตวักกรงเล็บลงอย่างรวดเร็ว เธอคิดจะเอาชีวิตเหล่าเฟิง เพื่อระบายความแค้นให้ตัวเอง
เหล่าเฟิงจะต้านแรงที่มหาศาลของผีตานีได้ยังไง ? ผีตานีเพิ่งออกแรง สันดาบก็กดลงที่ไหล่ของเหล่าเฟิงแล้ว ปลายกรงเล็บที่แหลมคม ได้แทงเข้าไปในหัวไหล่ของเหล่าเฟิงแล้วเช่นกัน เลือดสดๆค่อยๆไหลซึมลงบนเสื้อของเขา
เสี้ยววินาทีต่อมาเสียง “ กึก ” ก็ดังขึ้น ไหล่ของเหล่าเฟิงโดนกดจนไหล่หลุด จะจินตนาการได้ว่าพละกำลังของเธอนั่นเยอะขนาดไหน
ถ้ากดลงไปมากกว่านี้ ไหล่ของเหล่าเฟิงไม่ใช่แค่หลุดแน่ๆ แต่คงขาด หรือแม้แต่ต้องแลกด้วยชีวิตแทน
เรื่องนี้เกิดขึ้นเร็วมาก เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น
ดังนั้นผมและหยางเฉ่ว เลยเข้าไปช่วยเหล่าเฟิงไม่ทัน
แต่ขณะที่ผีตานีตนนั้นกำลังจะโจมตีอีกครั้ง กำลังจะเอาชีวิตเหล่าเฟิง ผมและหยางเฉ่วก็ถือดาบเข้าไป
แต่เหล่าเฟิงที่โดนกดอยู่ ยังไม่ยอมแพ้ เขาพูดขึ้นมาว่า “ เพี้ยง ! ”
เสียงคาถาดังขึ้นอีกครั้ง ทันใดนั้นเอง ประจกหยินหยางก็ส่องประกาย เหมือนกับปล่อยพลังที่มหาศาลออกมา
ส่วนผีตานีตนนั้น ก็กรีดร้องออกมาทันที
เพราะความทรมาน การเคลื่อนไหวของเธอเลยหยุดลง แล้วเปิดช่องโหว่ให้เห็น
“ รีบ รีบฆ่ามันซะ ! ” เหล่าเฟิงรีบพูดขึ้นมา ด้วยเสียงที่อ่อนล้า
เหล่าเฟิงใช้ชีวิตสร้างโอกาสให้พวกเรา จึงเป็นธรรมดาที่พวกเราจะไม่ปล่อยผ่านไปง่ายๆ
ครั้งนี้ไม่เพียงต้องช่วยเหล่าเฟิงอย่างเดียว แต่เรายังต้องเอาชีวิตปีศาจตนนี้ให้ได้
ผมไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบเร่งความเร็ว
ผีตานีตนนั้นทรมานยิ่งกว่าอะไรดี เธอบ้าคลั่งขึ้นมาทันที
เธอตบเหล่าเฟิงทันที เหล่าเฟิงกระเด็นออกไปเหมือนใบไม้ร่วงที่ลอยตามลม ท้ายที่สุดเขาก็ร่วงกระแทกกับพื้นและกลิ้งออกไปอีกสองสามตลบ
ต่อจากนั้น ผีตานีก็รีบหยุดมือ เอื้อมไปดึงกระจกที่หน้าอกตัวเองออก แสงสีทองทำให้เธอทรมานสุดๆ
หรือแม้แต่ทำร้ายจนถึงแก่นพลังปีศาจของเธอ
แต่กระจกหยินหยางก็เหมือนถูกทากาวเอาไว้ แม้ว่าผีตานีจะออกแรงยังไง เธอก็ดึงกระจกออกมาไม่ได้สักที แถมยังแผดเผากรงเล็บของเธออย่างต่อเนื่อง
เธอเพ่งสมาธิทั้งหมดไปที่การดึงกระจก จนไม่ได้สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของพวกเราเลยสักนิด
ผมและหยางเฉ่วคว้าโอกาสนี้ ไม่ได้หันไปสนใจเหล่าเฟิงที่นอนคว่ำอยู่กับพื้น รีบพุ่งเข้าไป เอาดาบไม้ทั้งสองเล่มแทงไปที่หน้าอกของอีกฝ่าย……
ตอนผีตานีสังเกตเห็นผมและหยางเฉ่ว มันก็สายไปแล้ว
ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตกใจ คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะจู่โจมเข้ามาเร็วขนาดนี้
และดาบไม้ในมือพวกเรา ก็ห่างจากเธอไม่ถึงครึ่งเมตร มันกำลังเข้าไปคุกคามชีวิตเธอแล้ว
สถานการณ์ผลิกเร็วมาก นาทีก่อนมันยังได้เปรียบ สร้างแรงกดดันต่างๆนานา โจมตีซะพวกเรารับมือไม่ทัน
แต่นาทีนี้ เหล่าเฟิงกลับแลกด้วยชีวิต เอากระจกหยินหยางออกมาโจมตี ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บจนถึงแก่นพลัง ในเวลาเดียวกันยังสร้างโอกาสสังหารให้พวกเราอีกด้วย
ทำให้ผีตานีที่เคยได้เปรียบ กลับมามีชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย อาจโดนพวกเราปลิดชีวิตได้ตลอดเวลา
ผีตานีหวาดผวา ไม่สนใจดึงกระจกที่หน้าอกอีกต่อไป เดิมทีเธอสามารถหลบได้ แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว
“ ฉึกๆ ” ดาบไม้ในมือผมและหยางเฉ่า แทงทะลุหน้าอกของอีกฝ่าย
เลือดสดๆหยดแล้วหยดเล่า ไหลไปตามปลายดาบ
ตัวผีตานีแข็งทื่อ ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว หรือบางทีเธอเองก็คิดไม่ถึง ว่าตัวเองจะตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกเรา
ผมจ้องใบหน้า ที่ไม่อยากเชื่อของผีตานีอย่างเย็นชา ขณะเดียวกันก็พูดออกมาว่า “ จบกันที ! ”
ขณะพูด ผมก็ขยับดาบไม้ในมือ ทำให้แผลใหญ่กว่าเดิม แล้วจากนั้นก็ยกเท้าถีบอีกฝ่ายทันที
ผีตานีตัวเขียวถูกผมถีบกระเด็นล้มกลิ้งไปเกือบสองเมตร
แต่มันยังไม่จบเท่านั้น แม้ผีตานีจะไม่ใช่ร่างดั่งเดิม แต่เธอก็เอาลำต้นมาแปลงเป็นร่างปีศาจ
ตอนนี้เธอยังพอมีกำลังสู้อยู่
ผมเลยไม่เหลือโอกาสให้อีกฝ่ายได้พักหายใจ ไม่รอให้อีกฝ่ายได้ลุกขึ้น ผมก็พุ่งเข้าไปแล้ว ผมยกดาบขึ้น
เล็งไปที่คอของอีกฝ่าย
เมื่อผีตานีเห็นภาพนี้ ก็ทำหน้าหวาดกลัว ม่านตาขยายใหญ่ ปากร้องออกมาทันที “ อย่า…… ”
แต่ผมกลับไม่ใยดี “ โผ๊ะ ” เสียงร้องของผีตานีเงียบลง และตอนนี้หัวของเธอก็โดนผมตัดเรียบร้อย
เมื่อหยางเฉ่วเห็นฉากนี้ ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพียงเก็บดาบ แล้ววิ่งไปหาเหล่าเฟิงแทน
สำหรับผีตานีที่โดนตัดหัน พลังปีศาจก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว
แล้วสุดท้ายก็ “ ปัง ” เหมือนลูกโป่ง ร่างกายระเบิดกลายเป็นควันสีเขียว เหลือทิ้งเอาไว้เพียงเศษซากต้นกล้วย……