หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 300 สัตว์ประหลาดตัวเขียว

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 300 สัตว์ประหลาดตัวเขียว

ในบรรดาสามคนนี้ เหล่าฉินมีพลังน้อยที่สุด

 

แต่เหล่าฉินกลับเป็นคนอารมณ์ร้อนที่สุด ตอนนี้เขาตะโกนเสียงดังลั่น บวกกับอาจารย์และท่านนักพรตตู๋อยู่ขนาบข้าง ทำให้การเข้าแถวนี้ ดูทรงพลังไม่น้อย

 

พอผีตานีตนนั้นได้ยินคำพูดนี้ เดิมก็ทำหน้าตกใจอยู่แล้ว ตอนนี้เธอยังถอยไปอีกสองก้าว 

“ นักพรตปราบ ปราบสิ่งชั่วร้าย ”

 

“ ใช่ ถ้าสำนึกผิดก็เข้ามาตายเอง เราจะเลือกรากพิการเอาไว้ให้แกเส้นหนึ่ง แต่ถ้าไม่ยอม งั้นก็ตายไปทั้งเหง้านั่นแหละ ! ” เหล่าฉินพูดออกมาอีกครั้ง ท่าทางน่าเกรงขามพอดู

 

อาจารย์และท่านนักพรตตู๋ ตัวสั่น โคจรพลังของตัวเอง

 

พวกเขาระเบิดพลังออกมาทันที ขณะเดียวกันมันก็พุ่งไปหาหน้าของอีกฝ่าย

 

พอผีตานี้ตนนั้นสัมผัสได้ถึงพลังของพวกอาจารย์ เธอก็อดตกใจขึ้นมาไม่ได้

 

ตอนนี้เธอกำลังบาดเจ็บอยู่ เธอยังคิดว่ารอให้ถึงเวลาแล้ว ค่อยไปดูดพลังจากหลงอ้าวเทียนอีกสักรอบ

 

แบบนี้ เธอก็จะได้ฟื้นฟูบาดแผลของตัวเอง และหาอาหารบำรุงให้ตัวเองด้วย

 

แต่คิดไม่ถึงว่า พวกเราจะมาถึงก่อน

 

แต่หลังจากผีตานีตกใจ เธอก็กลับมาใจเย็นอีกครั้ง เธอมองไปที่พวกอาจารย์แล้วพูดว่า 

“ น้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง ทำไมพวกแกต้องทำตัวเป็นศัตรูกับฉันด้วย ไม่กลัวฉันลากพวกแกลงนรกไปด้วยเหรอ ? ”

 

“ ฮึ ! เราทำงานแทนสวรรค์ มีศัตรูเป็นเรื่องปกติ อย่าพูดมาก เอาชีวิตมา ! ” เหล่าฉินพูดออกมาอีกครั้ง 

คราวนี้เขาตวัดดาบในมือ

 

ผีตานีเห็นเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว จึงไม่มีอะไรต้องพูดกันอีกต่อไป

 

เธอทำท่าเยือกเย็น พูดออกมาอย่างดุร้าย “ ใช้กำลังข่มคนอื่น ฉันก็ไม่ได้รังแกง่ายๆขนาดนั้นหรอกนะ ! ”

 

เสียงเพิ่งเงียบลง ต่อจากนั้นผีตานีตนนั้นก็คำรามออกมา “ อ้า ”

 

หลังจากเสียงร้องจบลง ก็มีการเปลี่ยนแปลงสุดแปลกเกิดขึ้นกับผีตานีตนนี้

 

จู่ๆร่างกายของเธอ ก็มีควันสีเขียวพวยพุ่งออกมา

 

ต่อจากนั้น เส้นเลือดสีเขียวก็ผุดขึ้นมาบนผิวของเธอ เปลี่ยนสภาพได้น่าสยองสุดๆ

 

สิ่งที่น่าขนลุกยิ่งกว่านั้นคือ แขนขาทั้งสองข้างของเธอ ตอนนี้มันบวมขึ้นหรือจะเรียกว่าโตขึ้นก็ได้

 

เพียงชั่วพริบตาเดียว ใบหน้าของอีกฝ่ายก็เปลี่ยนไปจากเดิม มันยาวกว่าเมื่อกี้อย่างเห็นได้ชัด และใบหน้าที่งดงามเมื่อกี้ ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นสีเขียวและมีเขี้ยวงอกออกมาแล้ว

 

ผมเองก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว ผิวก็กลายเป็นสีเขียวมันเงา และยังดูแข็งแรงมากอีกด้วย

 

บวกกับเส้นเอ็นสีเขียวที่ปูดออกมา สภาพแบบนั้นดูเหมือนเดอะฮัคในหนังอเมริกาไม่มีผิด

 

พวกเราที่อยู่ห่างออกไปมองกันตาค้าง แม้เจ้าผีตานียังมีลูกเล่นนี้ด้วย เธอยังแปลงกายได้อีก

 

ช่วงครึ่งเดือนนี้ หลงอ้าวเทียนนัวเนียกับยัยสัตว์ประหลาดเอ็นปูดนี่มาโดยตลอด

 

ถ้าเจ้านั้นมาเห็นสภาพแบบนี้ จะต้องอ้วกอาหารที่กินมาทั้งชีวิตออกมาแน่……

 

เหล่าฉินอ้าปากเล็กน้อย เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าผีตานีตนนี้จะยังมีรูปร่างแบบนี้

 

หลังแปลงกายเสร็จผีตานีก็ถลึงตาสีเขียวคู่นั้น แล้วเปิดปากพูดกับเหล่าฉินและพวกอาจารย์ 

“ อยากเอาชีวิตฉัน ? งั้นก็เข้ามาซิ ! ”

 

พอพูดจบ เท้าของผีตานีก็เขย่งขึ้น และพุ่งเข้ามาหาพวกเหล่าฉินทันที

 

“ ลงมือ ! ” ท่านนักพรตตู๋ที่มีพลังเยอะที่สุดตอบสนองเป็นคนแรก

 

อาจารย์และเหล่าฉินก็กลืนน้ำลาย ยกดาบไม้ขึ้นแล้ววิ่งเข้าไปปะทะทันที

 

ตอนที่พวกเขาเข้าไปใกล้ มือสองข้างของผีตานีตนนั้น ก็เปลี่ยนเป็นต้นกล้วย กวาดเป็นแนวนอนเข้ามาที่ท่านนักพรตตู๋และอาจารย์

 

เมื่อคืนพวกเราก็โดนท่านี้เล่นงาน ถ้าโดนเข้าไป ก็ไม่มีทางต้านได้เลย เพราะมันแรงมาก

 

ผมกังวลแทนอาจารย์และท่านนักพรตตู๋จนเหงื่อตก แต่ขิงแก่ต้นนี้ยังร้อนแรงอยู่

 

ทั้งสองคนโค้งหลบกันได้อย่างน่าประหลาด ไม่ได้คิดจะต้านท่านี้ตรงๆ แต่เป็นพุ่งเข้าหาผีตานีตนนั้นแทน

 

ผีตานีก็ไม่กล้าให้พวกอาจารย์เข้ามาใกล้เกินไป เธอพ่นควันสีเขียวออกมา จากนั้นก็ถอยออกมาในทันที

 

ขณะที่พวกเขากำลังสู้กัน จู่ๆหยางเฉ่วก็พูดขึ้นมาว่า “ เราก็ควรลงมือได้แล้ว ! ”

 

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ผมถึงได้กลับมามีสติอีกครั้ง

 

เมื่อกี้ผมมองเพลิน จนลืมภารกิจของตัวเองไปเลย

 

ผมและเหล่าเฟิงพยักหน้า ใช้โอกาสที่ผีตานีกำลังสู้เลือดเดือดกับพวกอาจารย์อยู่ เข้าไปหาต้นกล้วยของผีตานีตนนี้อีกครั้ง

 

พวกเขาต่อสู้กันอย่างดุเดือด ผีตานีไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าพวกเรากำลังเข้าใกล้ที่สถิตร่างของเธอ

 

หลังจากนั้นประมาณสองนาที พวกเราก็มาหยุดอยู่ตรงต้นกล้วย

 

ต้นกล้วยต้นนี้เขียวใสผิดปกติ ใหญ่กว่าต้นที่อยู่ข้างๆถึงสองเท่า หัวปลีสีเลือดด้านบน ก็เด่นสะดุดตาสุดๆ

 

ส่วนเชือกแดงของพวกเรา ในเวลานี้กำลังผูกติดอยู่กับลำต้น

 

เราสามคนไม่ได้ลังเลแต่อย่างใด หลังหันมาสบตากัน พวกเราก็เอาพลั่วที่พกติดตัวออกมา เล็งและแทงเข้าไปที่ลำต้นทันที

 

ได้ยินเพียงเสียงดัง “ ฉึก ” พลั่วตัดแทงเข้าลำต้นตรงๆ ทันใดนั้นเองของเหลวสีแดงก็กระเซ็นออกมา 

จากปากแผลของต้นกล้วย พร้อมด้วยกลิ่นเน่าเหม็น

 

ต่อจากนั้นตัวลำต้น ก็เกิดสั่นขึ้นมาสองสามครั้ง

 

ห่างออกไปผีตานีที่กำลังสู้อยู่กับพวกอาจารย์ ก็ร้อง “ อร๊าย ” ขึ้นมาทันที เสี้ยววินาทีต่อมา “ อัก ” 

เธอก็กระอักเลือดตามมาติดๆ และหันมามองทางพวกเราอย่างรวดเร็ว

 

ทันใดนั้นเองใบตองบนหัวพวกเรา ก็สั่นดัง “ พับพับพับ ” ไม่หยุด

 

หลังลงมือเสร็จ เราก็ไม่ได้ลังเลอะไรมากนัก พอยกพลั่วขึ้นได้เราก็แทงซ้ำทันที

 

เมื่อผีตานีที่อยู่ห่างออกไปเห็นแบบนั้น ก็เผยสีหน้าหวาดกลัว แล้วตะโกนออกมาทันที “ อย่านะ ! ”

 

แต่มันสายไปแล้ว พวกเราสามคนร่วมแรงกัน แทงเข้าที่ต้นอีกรอบแล้ว

 

ในเวลาเดียวกัน พวกอาจารย์ก็ใช้ช่องว่างที่ผีตานีกำลังสนใจเรา แยกย้ายกันลงมือ

 

“ ฉึก ” ดาบไม้ของทั้งสามคนแทงทะลุร่างที่บึกบึนของผีตานี

 

“ อร๊าย ! ” ผีตานีกรีดร้องอีกครั้ง คราวนี้เธอสูญเสียพลังรบไปแล้ว

 

ย้อนมองมาทางฝั่งเรา ตอนนี้พวกเราสามคนร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง ตัดต้นกล้วยให้ล้มครืนลงไปกับพื้นได้แล้ว

 

ตำแหน่งที่ขาดออกจากนั้น มีของเหลวสีแดงไหลออกมาไม่หยุด เหมือนกับเลือดสดๆไม่มีผิด เพียงของเหลวชนิดนี้เย็น ไม่อุ่น และยังมีกลิ่นเหม็นเน่า

 

ตอนลำต้นขาดออกจากกัน ผีตานีที่กำลังโดนแทงอยู่ ก็มีเสียงระเบิดดัง “ ตูม ” กลายเป็นหมอกสีเขียว หลังจากนั้นเราก็เห็นแสงสีเขียวลูกหนึ่ง พุ่งเข้ามาหา แล้วสุดท้ายก็ดิ่งลงตรงลำต้นที่เหลือ

 

พวกอาจารย์รีบวิ่งเข้ามา มองต้นกล้วยที่มีของเหลวสีแดงไหลออกมา แล้วก็อดไม่ได้ที่จะเค้นเสียงดึง ฮึ

 

ในเวลาเดียวกันเราก็ได้ยินอาจารย์พูดว่า “ จะเก็บยัยปีศาจนี่เอาไว้ไม่ได้ รีบขุดมันออกจากดิน ทำลายเหง้ามันซะ ! จะได้จัดการมันให้สิ้นซาก ”

 

“ ครับอาจารย์ ! ” ผมขานรับ

 

หลังจากนั้นเราสามคนก็ยกพลั่วเริ่มขุดกันทันที เตรียมทำลายรากเหง้าของยัยนี่ให้สิ้นซาก

 

แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆก็มีเสียงเย็นชา ดังมาจากส่วนลึกของป่ากล้วย “ ใครกล้ามาแตะน้องของเรา ! ”

 

เสียงดังขึ้นอย่างกระทันหัน เหมือนกับเสียงระฆังยักษ์ ที่พุ่งมาทางพวกเราโดยเฉพาะ

 

รอบๆมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น เสียง “ ฮูฮูฮู ” ดังขึ้นไม่หยุด ใบตองที่อยู่รอบๆปลิวไปตามแรงลมดัง 

“ พับพับพับ ”

 

ดูเหมือนกับพายุกำลังเข้ามาใกล้ เมื่อเห็นฉากแบบนี้ ผมก็อดรู้สึกแน่นหน้าอกไม่ได้ ตามหาที่มาของเสียงทันที

 

วินาทีที่เราหันไป กลับพบว่าในความมืดที่อยู่ห่างออกไป จู่ๆมีคนสองคนกำลังเดินเข้ามา

 

พอลองมองให้ดีๆ สองคนนั้นเป็นผู้หญิงทั้งคู่ รูปร่างหน้าตางดงามไม่มีใครเปรียบ แต่บนตัวพวกเธอกลับแพร่จิตสังหารออกมาด้วย

 

ผมรู้ดีแก่ใจ พวกเธอไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นผีนางตานีอีกสองตัว

 

แม้ภายนอกของพวกเธอจะดูเหมือนคน แต่ดวงตาคู่นั้น กลับเหมือนสัตว์ร้าย ภายใต้ความมืดมันเปล่งแสงสีเขียวเรืองแสง

 

ภายใต้ดวงตาสวรรค์ บนตัวพวกเธอยังปล่อยคลื่นไอปีศาจออกมาอย่างน่าสะพรึงกลัว……

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.