spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 288 จัดการกับปีศาจสาว
ของสองอย่างที่ผมและเหล่าเฟิงเตรียมเป็นของมีประโยชน์มาก ฟางใช้เป็นคนตัวปลอม ส่วนเชือกแดงเป็นเครื่องหมายคำสัญญาที่ใช้กับผีต้นกล้วย
ถ้าแผนในคืนนี้ล้มเหลว พวกเราก็ยังสามารถใช้เชือกแดง ทำตามแผนสองที่วางเอาไว้ได้
แต่หลังพวกเราออกจากบ้านถึงได้พบว่า สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่หมู่บ้านในชนบท อย่างพูดถึงเชือกแดงเลย แม้แต่ฟางก็มีน้อยมาก
สำหรับเหล่าเฟิงที่เป็นคนหาเชือกแดง ก็ได้แต่ไปถามหาจากร้านขายวัสดุก่อสร้างหรือร้านขายของชำ
เพราะอาจารย์และท่านนักพรตตู๋พูดเอาไว้แล้ว ว่าหาเชือกแดงมาได้เยอะเท่าไหร่ยิ่งดี
ถ้าแผนแรกล้มเหลว เชือกแดงจะเป็นตัวช่วยหาวิญญาณต้นกล้วยตนนั้นได้เร็วและแม่นยำกว่าเดิม
หลังออกจากหมู่บ้าน ผมก็แยกจากเหล่าเฟิง เพราะแถวนี้หาฟางได้ยากจริงๆ จึงต้องไปหาจากร้านที่ขายของงานศพเท่านั้น
ร้านขายของงานศพพวกนี้ พอจะมีฟางอยู่บ้าง เพราะปกติต้องนำมาใช้ “ ปัดฝุ่น ” หรือ “ เผาเพื่อเซ่นไหว้ ”
หลังจากถามคนอื่นมาตลอดทาง ในที่สุดผมก็หาร้านขายของงานศพร้านหนึ่งเจอ
แต่เมื่อมาถึงร้าน พอคนขายได้ยินว่าผมจะมาซื้อฟาง เขาก็ดึงหน้าใส่ทันที
บอกว่าบ้านไม่มีใครตาย จะมาหาร้านพวกเขาทำไม และยังให้ผมรีบไสหัวออกไปจากร้านพวกเขาด้วย
ตอนนั้นผมโมโหขึ้นมาทันที แต่เพราะมีงานต้องทำ ผมก็เลยได้แต่เก็บเอาไว้
พอบอกว่าฟางหนึ่งกำหนึ่งร้อยหยวน เจ้าของร้านนั้นก็เป็นนักพรตชั่วโลภเงิน
เห็นผมมีเงินเข้าหน่อย หน้าก็เปลี่ยนสีทันที ฉีกยิ้มหัวเราะฮ่าๆแล้วก็เอาฟางออกมาให้ผมสามกำ
เงินสามร้อนหยวน ซื้อฟางได้แค่สามกำมือ นี่ฆ่าผมชัดๆ กลับไปแล้วต้องให้สกุลหลงคิดบัญชีให้ผมหน่อย
ตอนซื้อฟางเสร็จ ฟ้าก็มืดแล้ว ผมจึงรีบกลับทันที
เมื่อมาถึงวิลล่า เหล่าเฟิงก็กลับมาแล้วเช่นกัน เขาหาเชือกมาได้ก้อนโต ใหญ่ประมาณสองกำปั้นได้เลย
อาจารย์และคนอื่นๆ กำลังทำยันต์ต่างซ่อนเอาไว้ในบ้าน ในเวลาเดียวกันก็วาดยันต์จำนวนมากไว้บนตัวหลงอ้าวเทียน ทำซะเขามีสภาพไม่ต่างอะไรจากคนโดนสักไปทั้งตัวเลย
แต่เพื่อให้รอดพ้นจากนางตานี ก็ต้องทำแบบนี้เท่านั้น
มีเพียงแค่คุณหลงและคุณนายหลงเท่านั้นที่ไม่ได้ทำอะไร ได้แต่มองพวกเราอย่างโน้นอย่างนี้ แล้วก็อึ้งแล้วอึ้งอีก
อาจารย์เห็นผมเอาฟางกลับมาแล้ว จึงรีบลงมือทันที ทำหุ่นฟางขึ้นมา แล้วมัดด้วยสายอวนอีกที
ขณะเดียวกัน เหล่าฉินก็บดผงชาดเอาไว้มากพอแล้ว ผงชาดพวกนี้ถูกเหล่าฉินและพวกอาจารย์ทาลงในตัวหุ่นฟางทีละนิดๆ จนออกมาละเอียดมาก
เมื่อทำเรื่องพวกนี้เสร็จ ก็เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว
คืนนี้อาจารย์ให้คุณหลงและภรรยาออกไปข้างนอก ทิ้งหลงอ้าวเทียนเอาไว้ที่นี่ก็พอ
คุณหลงและภรรยาไม่ค่อยวางใจ จึงอยากอยู่ด้วย แต่สุดท้ายก็โดนปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นี่คือการจัดการกับปีศาจสาว หากเกิดอะไรบางอย่างขึ้นมา สิ่งที่พวกเราเตรียมเอาไว้
จะสูญเปล่าทั้งหมด
คุณหลงและภรรยาไม่มีทางเลือก ทำได้แค่พูดปลอบหลงอ้าวเทียนสองสามประโยคเท่านั้น หลังจากนั้นก็รีบออกไปอย่างรวดเร็ว
หลงอ้าวเทียนกลัวพอสมควร ถามผมว่าเขาจะตายไหม แต่ผมกลับกลอกตาให้เขา เจ้าหมอนี่กำลังตั้งคำถามกับความสามารถในการทำงานของพวกเราเหรอ ?
ผมบอกให้เขาหยุดคร่ำครวญ ฟังที่พวกเราบอก เราบอกอะไรเขาก็ต้องทำอย่างงั้น
เมื่อทำแบบนี้แล้วไม่เพียงไม่ตาย แต่ยังทำให้เขาหลุดพ้นจากนางตานีอีกด้วย
หลงอ้าวเทียนกลัวจนเสียสติ เพียงตอบกลับ “ อืออือ ” ด้วยความตกใจเท่านั้น
หลังจากหาอะไรกินในบ้านเล็กน้อยแล้ว ช่วงประมาณสี่ทุ่ม อาจารย์ก็ให้หลงอ้าวเทียนหยดเลือดลงบนหุ่นฟางสองสามหยด ในเวลาเดียวกันก็ใช้แผ่นยันต์ เขียนวันเดือนปีเกิดของเขา แล้วนำไปใส่ในหัวหุ่นฟาง
และบอกกับหลงอ้าวเทียนว่า “ เสี่ยวหลง คืนนี้ปีศาจสาวตัวนั้นจะต้องมาแน่นอน ถึงตอนนั้นพอเธอเห็นแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ ! และหุ่นฟางตัวนี้ก็มีวันเดือนปีเกิดของนายอยู่ ตอนเธอมานายแค่ไปหาที่ซ่อนก็พอ
แต่นายต้องจำเอาไว้ให้ดี หุ่นฟางไม่มีชีวิต ไม่สามารถพูดได้ หากนางปีศาจตนนั้นถามอะไร
เธอค่อยตอบให้ดีๆ ห้ามให้เธอเห็นพิรุธเด็ดขาดนะ…… ”
แม้ชื่อหลงอ้าวเทียนจะดูดุดัน แต่เจ้าหมอนี่กลับปอดแหกอย่างกับเป็นแค่หนูตัวเล็กๆ ยอมแพ้ตั้งแต่วินาทีแรกแล้ว
ถามว่าทำได้ไหมกลับไม่ตอบ สุดท้ายเลยต้องพูดด้วยความเย็นชา “ อยากตายก็ไม่ต้องพูด ถ้าอยากอยู่ก็ทำตามที่พวกเราบอก ! ”
หลงอ้าวเทียนไม่ได้ดุดันเหมือนตอนอยู่ในโรงแรมหนานเทียนแล้ว เขามองพวกเราด้วยความตกใจ
กลืนน้ำลายหนึ่งครั้ง แล้วจากนั้นถึงตอบว่า “ ได้ ” ด้วยเสียงที่สั่นเครือ
ต่อจากนั้น พวกเราก็นำหุ่นฟางไปวางไว้ที่โซฟาในห้องรับแขก ส่วนตัวพวกเราก็ซ่อนอยู่รอบๆแถวนั้น
อาจารย์และท่านนักพรตตู๋ให้ผมและเฟิงเฉ่วหานดูหลงอ้าวเทียนเอาไว้ พวกเราซ่อนอยู่ใต้โต๊ะข้างๆโซฟา
ซึ่งมีผ้าคลุมกั้นเอาไว้อีกที และในเวลาเดียวกันก็แปะยันต์เอาไว้ด้วย ถึงปีศาจสาวตัวนั้นจะเข้ามาแล้ว ก็มองไม่เห็นพวกเราอยู่ดี
ขอแค่หลงอ้าวเทียนให้ความร่วมมือ ทำตามที่พวกเราบอก หลอกผีตนนั้น ใช้หุ่นฟางตัวนี้จัดการนางตานีตนนั้นก็น่าจะไม่มีปัญหาใหญ่อะไรตามมาแล้ว……
ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว เหลือเพียงแค่รอให้นางตานีออกมาปรากฎตัวอย่างเงียบๆเท่านั้น
ผมและเหล่าเฟิงไม่เคยเห็นผีตานีมาก่อน จึงตั้งตาคอยอยากดูว่าเจ้าสิ่งนี้มีหน้าตาเป็นยังไง
เวลาค่อยๆเดินไปเรื่อยๆ เพียงชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงเวลาเที่ยงคืนครึ่งแล้ว
ตอนนี้ในบ้านเงียบสนิท แม้แต่เสียงลมพัดผ่านก็ยังไม่มี
แต่ทุกคนไม่มีทีท่าว่าจะง่วงนอน กลับกันยังตั้งสติเต็มร้อย คอยระวังรอบๆอยู่ตลอดเวลา
เวลาไม่แน่นอน ผีตานีตนนั้นอาจปรากฎกายเมื่อไหร่ก็ได้……
หลังจากรออีกประมาณ 20 นาทีกว่าๆ ใกล้จะถึงตอนตีหนึ่ง จู่ๆตรงประตูบ้านก็มีเสียงดัง “ แก๊ก ”
นั่นคือเสียงเปิดประตูบานนั้น
เสียงนี้ไม่ดังมาก แต่ในบ้านที่เงียบสนิท กลับฟังดูดังเป็นพิเศษ
เสียงนี้เพิ่งดังขึ้น สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปทันที ขณะเดียวกันม่านตาก็หดเล็กลงอย่างรวดเร็ว
พวกเราใช้รอยต่อของผ้าที่ซ้อนทับกันเห็น ประตูที่ปิดเอาไว้อย่างแน่นหนา เปิดออกแล้ว
ผมและเหล่าเฟิงเปิดตาแล้ว ดังนั้นจึงมองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่หลงอ้าวเทียนที่โดนเบียดอยู่ตรงกลาง กลับประหม่าจนตัวสั่น กอดเข่าตัวเองไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา
ประตูบ้านถูกเปิดออกทีละนิด ขณะเดียวกันเราก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ค่อยๆเดินเข้ามาในบ้าน
หลังเข้ามาในบ้านแล้ว ก็ไม่ได้ดูรีบร้อนอะไร แต่บิดคอไปมา เลียริมฝีปาก ทำท่าน่าขยะแขยงออกมาก่อน
แต่ ตอนผมและเหล่าเฟิงเห็นหน้าตาของผู้หญิงคนนั้นแล้ว ในใจก็มีเสียงดัง “ กึก ” ตกใจทันที
เพราะพวกเราสองคนเห็น หน้าตาของผู้หญิงคนนั้น เหมือนเสี่ยวม่านเป๊ะ
ถ้าจะพูดถึงความแตกต่างเพียงอย่างเดียว ก็น่าจะเป็นดวงตาคู่นั้นแล้ว
ม่านตาของเสี่ยวม่านเป็นสีดำ แต่เสี่ยวม่านตรงหน้าคนนี้กลับมีม่านตาสีเขียวและยังเป็นสีเขียวเรืองแสงอีกด้วย
ผมและเหล่าเฟิงสูดหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง รู้ดีแก่ใจว่า เสี่ยวม่านคนนี้เป็นตัวปลอม
เป็นผีตานีที่หลงอ้าวเทียนดึงดูดออกมา ตอนเขาดึงผีตานีออกมา ในใจต้องกำลังคิดถึงเสี่ยวม่านแน่ๆ
ดังนั้นพอผีตานีตนนี้ปรากฎตัว เลยมีรูปร่างหน้าตาเหมือนเสี่ยวม่าน
ผมกวาดสายตามองหลงอ้าวเทียนที่กำลังตัวสั่นอยู่ข้างๆแวบหนึ่ง อยากจะถีบเจ้าหมอนี่จริงๆ ครั้งก่อนตอนโดนอัดไม่ให้ลวนลามเสี่ยวม่าน คงเอาไปจำฝั่งใจเลยละซิ
ถึงได้ไปเอาผีตานีที่แปลงกายเป็นเสี่ยวม่านออกมา ช่างน่าขยะแขยงจริงๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นผีตานีปรากฎตัว ผมจะต้องเข้าไปอัดเจ้าหมอนี่สักยกแน่นอน
เหล่าเฟิงเห็นผมอารมณ์เสีย จึงสงสัญญาณให้ผมเก็บอารมณ์เอาไว้ อย่าลืมแผนที่วางเอาไว้
ผมอารมณ์เสีย แต่ก็ไม่ได้ลืมแผน ผมพยักหน้า ส่งสัญญาณว่าตัวเองรู้ดีว่าควรทำยังไง
ในเวลาเดียวกัน พวกเราก็มองผีตานีที่อยู่ในบ้านต่อ
หลังจากผีตานีตนนั้นทำท่าทางน่าขนลุกเสร็จแล้ว ก็เดินด้วยรองเท้าส้นสูง “ ต๊อกต๊อกต๊อก ” ไปทางหุ่นฟางบนโซฟา
ใบหน้าหวานของเธอเปื้อนยิ้ม เข้ามาใกล้โซฟาแล้ว จู่ๆเธอก็พ่นควันสีเขียว ไปตรงหัวหุ่นฟาง
ต่อจากนั้นก็ได้ยินเพียงเสียงหวานหยดย้อย “ พี่อ้าวเทียน อย่าเพิ่งหลับ ควรตื่นมาออกกำลังแล้วนะ…… ”