หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 282 ประลองดาบ

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 282 ประลองดาบ

มู่หลงเหยียนพุ่งเข้ามาพร้อมดาบ เธอไม่ให้โอกาสผมได้คิดสักนิด

 

แต่ภายใต้สถานการณ์นี้ ผมเองก็ไม่ลังเล ใช้ดาบในมือ โต้กลับเธอทันที

 

“ ปัง ” ผมต้านการโจมตีของมู่หลงเหยียนเอาไว้

 

แต่มู่หลงเหยียนกลับพูดว่า “ ช้าเกินไป ! ”

 

หลังจากพูดจบ เธอก็โจมตีผมซ้ำ แถมยังเร็วสุดๆด้วย

 

พลังที่ส่งออกมา ก็ค่อนข้างเยอะ อย่ามองว่ามู่หลงเหยียนเป็นผู้หญิง ข้อมือของเธอแข็งแรงจนทำให้หง่ามมือผมชาเลยทีเดียว ดาบในมือ ก็แทบล่วงลงพื้น

 

เมื่อเห็นมู่หลงเหยียนโจมตีเข้ามาอีกครั้ง ผมก็ไม่กล้าอืดอาด รีบโยนดอกเบญจมาศที่อยู่ในมืออีกข้างให้ยายโม่ทันที “ ยายโม่ช่วยเก็บให้ผมแป๊บนึง ! ”

 

ยายโม่คลี่ยิ้ม แล้วหัวเราะ “ ฮึฮึฮึ ” แต่เธอก็รับดอกเบญจมาศป่าเอาไว้ หลังจากนั้นก็ไปยืนจ้องพร้อมหัวเราะผมกับมู่หลงเหยียนอยู่ด้านข้าง

 

ในเวลานี้ผมจับดาบให้มั่น เริ่มรับมือการโจมตีของมู่หลงเหยียนอย่างต่อเนื่อง

 

แต่วิชาดาบของมู่หลงเหยียนร้ายกาจมาก ทุกครั้งที่เข้ามา จะมีลูกเล่นต่างๆตลอด ทำให้ป้องกันได้ยาก

 

แน่นอนว่าผมว่ารู้ดี มู่หลงเหยียนอ่อนให้ผมแล้ว ไม่อย่างนั้นด้วยพลังระดับเธอ ผมคงรับไม่ไหวตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว

 

ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่ผมก็ยิ่งรู้สึกผิดหวังยิ่งกว่าเดิม โดนผู้หญิงคนหนึ่งทุบตี ความรู้สึกแบบนั้นมันช่างแย่จริงๆ

 

แต่หลังจากผมรับมืออย่างรีบร้อนพักหนึ่ง จู่ๆมู่หลงเหยียนก็พูดขึ้นว่า “ พร้อมแล้วใช่ไหม ฉันจะลงมือหนักกว่าเดิมแล้วนะ ! ”

 

เมื่อได้ยินอีกฝ่ายจะลงมือหนักกว่าเดิม ผมก็กัดฟันอย่างแรง ในปากคำรามออกมาครั้งหนึ่ง

 

ไม่รอให้อีกฝ่ายลงมือ ผมก็กำดาบแน่น พุ่งเข้าไปโจมตีมู่หลงเหยียนก่อน

 

มู่หลงเหยียนเห็นผมกระโดดขึ้นกลางอากาศ จึงเผยหน้าไม่สบอารมณ์ออกมาทันที

 

เธอยืนอยู่ที่เดิมพักหนึ่ง สบัดดาบในมือเบาๆ ให้ชี้มาทางดาบของผม ทำให้วิถีดาบของผมคลาดเคลื่อน

 

ผลลัพธ์การโจมตีครั้งนี้ ดาบตัดผ่านตัวเธอไปดื้อๆ

 

ยังไม่จบเท่านั้น หลังจากมู่หลงเหยียนเปลี่ยนวิถีดาบผมแล้ว เธอก็ไม่เกรงใจกับผมเลยสักนิด ยกเท้าถีบผมทันที

 

การเคลื่อนไหวเร็วมาก ถึงผมจะอยากหลบ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ทำ

 

ผมจึงได้แต่รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามา “ ปัง ” ตัวผมกระเด็นออกไป แล้วสุดท้ายก็หล่นลงกระแทกกับพื้นอย่างแรง

 

“ โอ๊ย เจ็บจะตายอยู่แล้ว ! ” ผมกุมท้อง ค่อยๆลุกขึ้นยืน

 

มู่หลงเหยียนกลับกลอกตาใส่ผม “ ยังกล้าบ่นว่าเจ็บ เพลงดาบไม่ได้เรื่อง มีแต่ช่องโหว่ ! ”

 

หลังถูกมู่หลงเหยียนทำร้ายอย่างไร้เยื่อใย ถึงในใจจะรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ผมก็ไม่มีอะไรจะพูด

 

เนื่องจากผมไม่เคยเรียนรู้วิธีใช้ดาบอย่างเป็นจริงเป็นจัง จึงไม่เข้าใจว่าอะไรคือเพลงดาบ

 

ตอนผมถือดาบไปสู้กับพวกผี ก็ใช้วิธีต่อสู้แบบข้างถนน เช่นจะฟันให้โดนอีกฝ่ายยังไง ผมก็ทำตามความคิดทั้งนั้น จะไปรู้จักเพลงดาบอะไรนั่นได้ยังไง

 

สำหรับผม ที่มู่หลงเหยียนมาประลองดาบกับผมครั้งนี้ จะต้องใช้โอกาสนี้มาทำร้ายผมอีกแน่ๆ

 

ไม่อย่างงั้นเมื่อกี้จะถีบผมแรงขนาดนั้นได้ยังไง แถบถีบให้ผมเจ็บภายในด้วยซ้ำ

 

ในเวลาเดียวกัน ยายโม่ก็นำดอกเบญจมาศป่าที่รับไปจากผมยื่นให้มู่หลงเหยียน “ คุณหนู คุณผู้ชายเอามาให้เจ้าค่ะ ! ”

 

มู่หลงเหยียนอึ้งไปพักหนึ่ง มองดอกเบญจมาศแวบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้รับไว้

 

เธอเหลือบมองตัวเองครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็พูดกับผมว่า “ ติงฝาน นายก็โรแมนติกกับเขาเป็นนี่นา ! 

ยังรู้จักเอาดอกไม้มาให้ผู้หญิง ! แต่นายให้ดอกเบญจมาศหมายความว่ายังไง แล้วก็นะ คงไม่ได้เก็บดอกเบญจมาศพวกนี้มาจากหลุมศพข้างนอกหรอกนะ ”

 

เมื่อได้ยินมู่หลงเหยียนพูดถึงขนาดนั้น ผมก็หัวเราะ “ ฮ่าๆ ” “ อากาศไม่ได้หนาวแล้วเหรอ ! ดอกไม้อย่างอื่นไม่มีแล้ว ฉันเห็นดอกเบญจมาศนี่สวยดี ก็เลยเอามาให้เธอ แต่ถ้าเธอไม่ชอบเบญจมาศ งั้นเดี๋ยววันหลังฉันจะเอาอย่างอื่นมาให้เธอนะ ”

 

พอมู่หลงเหยียนเห็นรอยยิ้มซื่อบื้อของผม “ ฮ่า ” เธอก็หัวเราะออกมา “ เอาเถอะ ! เห็นแก่ที่นายจริงใจขนาดนี้ ฉันจะรับเอาไว้ก็แล้วกัน ! ”

 

เมื่อเห็นมู่หลงเหยียนยิ้ม และท่าทางอบอุ่น ใจผมก็เต้น “ ตุบๆ ” ความรู้สึกแบบนั้นมันแปลกและวิเศษมาก……

 

ผมสับสนเล็กน้อย ผ่านไปไม่นานสติผมก็กลับมา  นึกถึงภารกิจของวันนี้ได้พอดี

 

ดังนั้น ผมจึงรีบพูดกับมู่หลงเหยียนว่า “ น้องศพ ที่ฉันมาวันนี้เพราะมีเรื่องจะบอกเธอ ! ”

 

“ อือ ! พูดมาซิ ! ” มู่หลงเหยียนเอาดอกเบญจมาศมาถือ ขณะลูบใบดอกเบญจมาศ เธอก็พูดขึ้นมา 

ท่าทางเหมือนคนกำลังเหม่อลอย

 

ผมเองก็ไม่พูดจาไร้สาระ รีบเล่าเรื่องไปเจอจางจึเทาอีกครั้งให้เธอฟังตั้งแต่ต้นจนจบ

 

ตอนมู่หลงเหยียนได้ยินว่าผมไปหาเรื่ององค์กรตาผีอีกครั้ง เธอก็อดขมวดคิ้วไม่ได้

 

แต่หลังจากนั้นก็คลายออกทันที เธอเงยหน้ามาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงสบายๆ “ ไม่เป็นไร มีเรื่องไปแล้วก็ช่างเถอะ มีฉันอยู่ไม่เป็นอะไรหรอก ! ”

 

เมื่อเห็นมู่หลงเหยียนพูดอย่างเยือกเย็นแบบนั้น มันก็ผิดจากที่ผมจินตนาการเอาไว้

 

เนื่องจากเมื่อหลายวันก่อน มู่หลงเหยียนยังมาคุยกับผมด้วยตัวเอง บอกว่าเวลาเจอสาวกขององค์กรตาผี 

ให้พยายามอยู่ในห่างเข้าไว้ อย่าหาเรื่องใส่ตัว

 

แต่ตอนนี้ มู่หลงเหยียนกลับพูดอย่างสบายๆ ทำให้ผมงงเลยทีเดียว

 

มู่หลงเหยียนเห็นผมทำหน้าสงสัย จึงคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย “ ไม่ต้องกังวลขนาดนั้น หาเรื่องไปแล้วจะทำอะไรได้ ? แถมนายยังเป็นคนบอกเองว่าเจ้าจางจึเทานั่น เดิมทีก็เป็นแค่ลูกกระจ๊อก ฉันเองก็ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ในองค์กรตาผี เพื่อนร่วมชั้นของนายคนนั้นเป็นได้แค่ศิษย์เก้ารุ่นเท่านั้นแหละ พลังของศิษย์เก้ารุ่นน้อยมาก ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก ”

 

“ แถมตอนนี้นายก็เป็นชูหม่าของเผ่าจิ้งจอกแล้ว ยังมีปู่หูลิ่วคอยเฝ้าอยู่ที่ตำบลพวกนาย เจ้านักพรตชั่วที่นายพูดถึง ก็ไม่กล้าทำอะไรนายง่ายๆหรอก ”

 

มู่หลงเหยียนพูดอย่างมีเหตุมีผล ดูท่าไม่กังวลว่าเจ้าจางจึเทาจะมาล้างแค้นผมเลยสักนิด

 

แต่ ผมยังถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัย “ น้องศพ ถ้าเจ้าจางจึเทาไปหาอาจารย์คนนั้นหรือนักพรตที่ร้ายกาจกว่านั้นมาละจะทำยังไง ? แถมถ้าพวกเขามาแล้ว อาจเจอเบาะแสของเธอก็ได้นะ ”

 

หลังมู่หลงเหยียนฟังจบ ก็ยังคงแสดงท่าทางไม่ใส่ใจเหมือนเดิม “ วางใจได้ ที่ฉันเลือกปักหลักอยู่ที่นี่ ก็ต้องมีเหตุผลอยู่แล้ว ยังจำเรื่องที่นายเจอกองทัพผีข้ามแดน ที่เคยเล่าให้ฉันฟังเมื่อครั้งก่อนได้ไหม ? ”

 

ผมอึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าทันที

 

จริงๆตอนนั้นผมไปเอาผงขี้ธูปที่วัดเจ้าเฉิน ตอนขากลับระหว่างทางดันไปเจอกับกองทัพผีข้ามแดน

 

ถ้าไม่ใช่เพราะหยางเฉ่วปรากฎตัวออกมาอย่างกระทันหัน ใช้ยันต์พิเศษของเธอช่วยพวกเราเอาไว้ 

ผมและเหล่าเฟิงคงถูกทหารผีลากวิญญาณไปแล้ว

 

แต่นี่มันเกี่ยวอะไรด้วย ? ผมจึงถามกลับทันที “ อ่อ ตอนนั้นได้เจอครั้งนึง แต่มันช่วยอะไรได้เหรอ ? ”

 

มู่หลงเหยียนคลี่ยิ้มเล็กน้อย “ ภายในรัศมี 25 กิโลเมตรนี้ มีถนนหยินอยู่เส้นหนึ่ง ถึงนักพรตชั่วนั่นจะทำตามอำเภอใจขนาดไหน พวกมันก็ไม่กล้ากระตุกหางเสือหรอก ถ้าพวกมันไม่กลัวตายจริงๆ ถึงตอนนั้นก็แค่ลงมือนิดหน่อย เราก็ไม่ต้องเข้าไปยุ่งแล้ว เพราะเดี๋ยวก็จะมีคนมาจัดการพวกมันเอง…… ”

 

เมื่อได้ยินมู่หลงเหยียนพูดถึงขนาดนั้น ผมก็พยักหน้าอย่างแรง

 

ดีจริงๆ ถึงว่าทำไมมู่หลงเหยียนถึงได้นิ่งได้ขนาดนี้ ที่แท้ก็เก็บไพ่เด็ดเอาไว้นี่เอง

 

แต่ผมก็ลังเลอยู่พักหนึ่ง คิดว่ามันไม่ถูกนิ !

 

ถ้าเป็นแบบนั้น งั้นทำไมมู่หลงเหยียนถึงอยู่ที่นี่มาได้นานขนาดนี้ละ ? แบบนี้มันก็ไม่เป็นอันตรายต่อเธอมากเหรอ

 

“ ถนนหยิน ” คืออะไร ? เป็นถนนจากโลกไปสู่นรกเหรอ ? หรือเป็นเส้นทางเดียวที่ผีด้านล่างจะขึ้นมาจับวิญญาณด้านบนไปได้

 

ถ้าพูดอีกแบบคือ ภายในรัศมี 25 กิโลรอบๆตัวเรา มีถนนแบบนี้อยู่ด้วย แถมที่ตั้งก็อยู่ใกล้วัดเจ้าเฉิน

 

ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ งั้นพวกที่สร้างความก่อกรรมทำชั่ว นักพรตชั่วที่ทำร้ายผู้คน ก็ต้องมีความผิดติดตัวกันสุดๆ พวกเขาคงไม่กล้าเข้าใกล้ถนนหยินเส้นนั้นง่ายๆ

 

ถ้าโดนเจ้าหน้าที่พวกนั้นจับได้ จุดจบคงอนาถแน่ๆ

 

โดนดึงวิญญาณไปไม่ต้องพูดถึง พอลงไปแล้วคงต้องทุกข์ทรมานกับการตกนรก 18 ขุมแน่ๆ……

 

แต่สิ่งที่ผมไม่เข้าใจ ก็คือตรงนี้

 

ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ งั้นมู่หลงเหยียนไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายตลอดเวลาเหรอ ?

 

ระยะห่างระหว่างป่ากุ่ยหม่าแห่งนี้กับวัดเจ้าเฉินที่ผมไปเมื่อครั้งที่แล้ว ใกล้กว่าตัวตำบลชิงฉือของเราอีก

 

เหมือนยายโม่ที่อยู่ด้านข้างจะมองออกว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ เธอจึงหัวเราะ “ ฮ่าๆ ” ขึ้นมาสั้นๆ 

“ คุณผู้ชายสบายใจได้เจ้าค่ะ ถึงถนนหยินจะอยู่ใกล้ๆ แต่สุสานของคุณหนูและข้าก็อยู่ที่นี่ ตราบใดที่พวกเราไม่ปล่อยแรงอาฆาตออกมาแรงเกินไป ก็ไม่เป็นอะไรแล้วเจ้าค่ะ…… ”

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.