spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 277 วิชาควบคุมผี
จางจึเทามีพลังเยอะกว่าเมื่อก่อนจริงๆ พละกำลังก็อยู่เหนือผม
แต่เจ้าหมอนี่กลับคิดว่า จะชนะผมได้ง่ายๆ แต่มันเป็นแค่สิ่งที่คนปัญญาอ่อนเพ้อฝันถึงทั้งนั้นแหละ
เจ้าหมอนี่คิดจริงๆเหรอว่า ผมมาหาเขาเพียงลำพัง
ขณะที่เสียงของผมดังขึ้น รอบๆตามพุ่มไม้ และภายในอาคารที่มืดมิด ก็มีเสียงฝีเท้าปรากฎขึ้น
เงาตะคุ่มๆ ก็ออกมาปรากฎสู่สายตาพวกเราทั้งคู่
คนที่ออกมาปรากฎตัวคนแรกคือเฟิงเฉ่วหาน เจ้าเด็กนี่ซ่อนตัวอยู่ในอาคารฝั่งตรงข้ามเรามาตลอด
และยังคอยจับตาดูผมทุกฝีเท้า
ผมเพิ่งพูด เหล่าเฟิงก็ไม่ลังเลเลยสักนิด หยิบดาบไม้ออกมา แล้วกระโดดลงมาจากหน้าต่างชั้นสองที่ถูกทิ้งร้างตรงๆ……
ต่อจากนั้น เริ่มมีการเคลื่อนไหวจากในพุ่มไม้ทางด้านซ้ายขวา อาจารย์และท่านนักพรตตู๋คู่กับดาบยาว ออกมาพร้อมจิตสังหาร
ส่วนข้างหลังของพวกเรา ตึกร้างหลังนั้น
หยางเฉ่วไม่รีบร้อน เธอก็ถือดาบไม้ออกมาเหมือนกัน ค่อยๆก้าวเดินออกมาช้าๆ
จู่ๆทั้งสี่ทิศ ก็มีคนสี่คนปรากฎขึ้น
แถมแต่ละคนยังถือดาบไม้เอาไว้ในมือ หน้าตาบูดบึ้ง
เมื่อจางจึเทาเห็นภาพนี้แล้ว ถึงจะโง่ขนาดไหนก็ต้องเข้าใจ เขากลายเป็นหมากของผมแล้ว ผมเองก็พาคนมาด้วยเช่นกัน
ตอนนี้ตัวเขา โดนพวกเราล้อมเอาไว้แล้ว
จางจึเทาขมวดคิ้วแน่น พร้อมมองมาทางผม “ ดีนักนะติงฝาน ถึงกับเรียกคนมาด้วย ! ”
“ เป็นยังไงบ้าง ? ตอนนี้พอเป็นคู่สู้กับแกได้หรือยังละ ? ” ผมยิ้มอ่อน
“ อย่าได้ใจนัก อย่าคิดว่าพวกแกมีคนเยอะกว่า แล้วจะจัดการฉันได้ ! ฉันในตอนนี้ ร้ายกาจกว่าเมื่อก่อนเยอะ ” จางจึเทาพูดอย่างดุดัน และเสียงเพิ่งเงียบลง ตัวของจางจึเทาก็ทำให้เราตกใจอีกครั้ง
ทันใดนั้นเอง ออร่าสีเหลืองจางๆก็กระจายออกมาจากตัวเขา
ส่วนตัวเขาเอง ก็คำรามดัง “ อ้า ! ” ออกมา
เสียงดังลั่น และแสบแก้วหูมาก
ขณะที่เสียงคำรามดังขึ้น ขนสีดำบนตัวเขา ก็ยาวขึ้นอีกครั้ง มันทั้งดำและหนาขึ้นเป็นเท่าตัว
ใบหน้านั้นก็เปลี่ยนเป็นหน้าสัตว์ยิ่งกว่าเดิม เริ่มไม่มีเค้าโครงของมนุษย์เหลือแล้ว
สำหรับมือคู่นั้น ก็เปลี่ยนเป็นอุ้งเท้าสัตว์ที่มีขนยาวๆงอกขึ้นมา
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเห็นจางจึเทาในสภาพนี้ ดังนั้นผมจึงเตรียมพร้อมรับทุกอย่างแล้ว
ผมรู้ดีว่าเจ้าหมอนี่ทำเพื่อให้ตัวเองได้มีชีวิตอยู่ต่อไป ก็เลยเลือกฝึกวิชามารบางอย่าง ทำให้ตัวเองกลายเป็นครึ่งคนครึ่งสัตว์
ด้วยเหตุนี้ หลังจากเห็นอีกฝ่ายกลายเป็นแบบนี้แล้ว ผมก็ทำตัวระแวดระวัง ไม่ได้แสดงอาการใดๆออกมามากนัก
แต่หลังจากอาจารย์และคนอื่นๆเห็นฉากนี้แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ
คนตัวเป็นๆหนึ่งคน จู่ๆก็เปลี่ยนเป็นสัตว์ประหลาด และภายในชั่วพริบตา ยังเปลี่ยนเป็นเหมือนสัตว์ป่ายิ่งกว่าเดิม ฉากนี้จึงทำให้ค่อนข้างรู้สึกสยองขวัญ
“ ติงฝาน ในเมื่อแกคิดจะเป็นศัตรูกับฉัน งั้นก็อย่ามาโทษว่าฉันไม่เห็นแก่ความเป็นเพื่อนนะ ! ” เสียงของจางจึเทาเปลี่ยนเป็นเสียงทุ้มต่ำและแหบเป็นพิเศษแล้ว
“ ดีชั่วอยู่กันคนละทาง ลงมือเถอะ ! ”
หลังจากพูดจบ ผมก็จับมือขึ้นมาถือให้มั่นเตรียมตัวโจมตี
จางจึเทาก็ไม่พูดจาไร้สาระกับผมอีก ออกแรงที่เท้า เหมือนกับคางคก กระโจนเข้ามาหาผมทันที
การเคลื่อนไหวนั้นเร็วสุดๆ กรงเล็บทั้งสองข้างกวาดมาทางหน้าผม
ผมจะกล้าประมาทได้ยังไง ทำได้เพียงใช้ดาบกันเอาไว้ แต่เจ้าหมอนี่แรงเยอะเกินไป และพลังก็เยอะกว่าเมื่อก่อนมาก
กรงเล็บในครั้งนี้ ผมต้านไม่อยู่เลยสักนิด ถูกปัดให้ถอยร่นในทันที บนดาบไม้ก็โดนข่วนเป็นรอยยาว
แต่เจ้าจางจึเทาไม่ปล่อยให้ผมได้พักหายใจเลยสักนิด มันลงมือกับผมอีกครั้ง
“ พรึบ ” กรงเล็บตัดผ่านอากาศ พุ่งตรงมาที่หน้าผมทันที
การเคลื่อนไหวนั่นเร็วเกินไป ผมยังไม่ทันตอบสนอง มันก็เข้ามาใกล้แล้ว
ผมตกใจ แอบพูดในใจว่าซวยแล้ว
แต่ทันใดนั้นเองจู่ๆข้างหลังผมก็มีเสียง และเงาที่งดงามปรากฎขึ้น “ ไอ้นักพรตชั่ว ! ”
เสียงยังไม่ทันเงียบ ดาบไม้เล่มหนึ่งก็โผล่ออกมาจากไหล่ของผม พุ่งตรงไปที่จางจึเทาทันที
คนลงมือไม่ใช่ใครอื่น หยางเฉ่วสาวสวยขาเรียวของเรานั่นเอง
จางจึเทาเห็นดาบพุ่งเข้ามา ก็ไม่กล้าประมาท ทำได้เพียงเอามือต้านเอาไว้เท่านั้น
ในเวลาเดียวก็ถอยหลังไปสองก้าว รักษาความปลอดภัยของตัวเอง
“ ติงฝาน ไม่เป็นอะไรใช่ไหม ? ” หยางเฉ่วถามอย่างร้อนรน
ผมยังรู้สึกกลัวอยู่ “ ไม่เป็นไร อย่าปล่อยให้มันได้พักหายใจเลย ! ”
หยางเฉ่วก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงพยักหน้าและส่งเสียง “ อืม ” ให้ผมเท่านั้น
หลังจากนั้น ผมสองคนก็ประสานดาบคู่ พุ่งตรงไปที่จางจึเทาทันที
ขณะเดียวกัน อาจารย์ ท่านนักพรตตู๋ และเฟิงเฉ่วหานก็พุ่งมาจากทั้งสามทิศ กลายเป็นการโจมตีจางจึเทาจากทั้งสี่ทิศ
จางจึเทาก็ไม่ได้มีความสามารถอะไรมากมาย ใช้วิชามารแปลงกายเป็นสัตว์ของตัวเอง ปัดป้องการโจมตีอย่างหนัก
แน่นอน เขาก็ทำได้เพียงแค่ปัดป้อง
ถึงเจ้าหมอนี่จะร้ายกาจขนาดไหน ก็ทำได้แค่นั้นแหละ ถ้าอยากสู้กับพวกเราห้าคนเดี่ยวๆ เห็นได้ชัดว่าแทบเป็นไปไม่ได้เลย
หลังจากสู้กันมาได้ประมาณสิบกระบวนท่า พวกเราก็ปราบอีกฝ่ายได้อย่างสมบูรณ์
ในเวลาเดียวกันจางจึเทาก็บาดเจ็บเพราะดาบหลายแผลแล้ว เลือดสดๆไหลอาบย้อมขนของเขาแล้ว
จางจึเทาโกรธมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
จากสถานการณ์ในตอนนี้ จางจึเทาได้กลายเป็นเต่าในโถแล้ว คืนนี้เขาอย่าหวังจะหนีไปได้ง่ายๆเลย
แต่ ในเวลานั้นพวกเราประเมินเพื่อนเก่าของผมคนนี้ต่ำไป
นอกจากเขาจะมีความสามารถแปลงกายเป็นสัตว์แล้ว เขายังมีวิชาพิเศษอีกอย่างหนึ่ง “ วิชาควบคุมผี ! ”
จางจึเทาถอยแล้วถอยอีก เขาถูกพวกเราผลักเข้าสู่ความสิ้นหวังแล้ว เขากำลังจะแพ้อย่างย่อยยับแล้ว
แต่ในเวลานี้เอง จู่ๆจางจึเทาก็คำรามขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาแดงก่ำ ปล่อยออร่าสีเหลืองแปลกตาออกมา
ออร่าพวกนั้นเหมือนระลอกคลื่น สั่นสะเทือนในอากาศ
พวกเราไม่รู้ว่ามันคืออะไร จึงได้แต่ถอยออกมาอย่างรวดเร็ว เผื่อมันจะเป็นก๊าซจากศพหรือก๊าซพิษบางอย่าง ถ้าเป็นแบบนั้นเราจะได้ไม่คุ้มเสียแทน
หลังจากนั้น จางจึเทาก็ตบตัวเองอย่างแรงหนึ่งครั้ง
“ อัก ” เขากระอักเลือดออกมาหนึ่งครั้ง
เอ๊ะ ? นี่มันเรื่องอะไรกัน ? เจ้าหมอนี่สู้ไม่ได้ แล้วคิดจะฆ่าตัวตายเหรอ ?
แต่เพิ่งคิดถึงตรงนี้ อุ้งมือข้างหนึ่งของจางจึเทา ก็เริ่มประสานมือ
ดวงตาแดงสด จ้องพวกเราอย่างไม่ละสายตา ทันใดนั้นเองเขาก็ตะโกนออกมาว่า “ วิชาควบคุมผี ผีชั่วทั้งสิบทิศ จงฟังคำสั่งข้า ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้ง เพี้ยง ! ”
เมื่อได้ยินคาถานี้ พวกเราทุกคนก็ตะลึงในทันที
วิชาควบคุมผี มันคือวิชาประเภทไหนเนี่ย ?
แต่ผมเพิ่งคิดถึงตรงนี้ จู่ๆธงดำผืนเล็ก ก็ลอยขึ้นไปข้างบน หลังจากนั้นก็ปล่อยหมอกสีดำออกมาแล้วเลือนหายไปในทันที
ต่อจากนั้น จู่ๆก็เกิดลมกระโชกแรงขึ้นรอบๆ หมอกสีดำพลุ่งพล่าน ร่างสีขาวเริ่มปรากฎขึ้นมาสีทิศ จากนั้นก็พุ่งมาทางพวกเราทันที
เห็นได้ชัดว่า นั่นคือร่างวิญญาณ เป็นผีเร่ร่อนตัวแล้วตัวเล่าที่ปรากฎขึ้น
เมื่อดูจากจำนวน ยังไงก็มีค่อนข้างเยอะ อย่างน้อยก็สิบตนได้
เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนก็ตกใจทันที คิดไม่ถึงว่าเจ้าจางจึเทา จะมีความสามารถแบบนี้ สามารถคุมผีได้จากสิบทิศ
หน้าอาจารย์เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เขาเค้นเสียงดัง ฮึ “ แม่เจ้า เจ้าเด็กนี่ยังมีฝีมืออยู่บ้าง พวกแกสามคนไปขวางผีพวกนั้นเอาไว้ก่อน ฉันกับเหล่าตู๋จะไปกำจัดเจ้านักพรตชั่วนั่นเอง ! ”
หลังจากพูดจบ อาจารย์และท่านนักพรตตู๋ก็ลงมือทันที พุ่งเข้าใส่จางจึเทา
ผม หยางเฉ่ว และเหล่าเฟิงก็ไม่พูดจาไร้สาระ รีบเปลี่ยนรูปแบบ เตรียมตั้งรับการโจมตีของเหล่าผีสิบทิศที่กำลังมาถึง
ในขณะที่ผีพวกนั้นกำลังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ พวกเราพบว่า ใบหน้าผีพวกนั้นที่ดุร้าย บนหน้าผากยังมีรอยสีดำประทับอยู่ รูปร่างคล้ายกับลูกตา
ผมกวาดสายตามองรอบๆ เห็นผีพวกนี้เข้ามาใกล้แล้ว จึงจับดาบไม้ในมือให้แน่น แล้วตะโกนว่า “ มาแล้ว ! ”
หลังจากพูดจบ ผมก็ยกดาบไม้ขึ้นฟาดฟันผีที่แยกเขี้ยวตัวหนึ่ง ผีชุดขาวที่พุ่งเข้ามาตัวแรกโดนแทงในทันที
หยางเฉ่วและเหล่าเฟิงก็ไม่รอช้า แยกย้ายลงมือ ส่วนอาจารย์ ท่านนักพรตตู๋ และจางจึเทาแยกออกไปจากผีพวกนี้
ทำให้อาจารย์และท่านนักพรตตู๋มีโอกาสและเวลาเอาชนะจางจึเทาได้มากขึ้น ขอแค่จัดการเจ้าจางจึเทาได้
ผีพวกนี้ ก็จะไม่โดนควบคุมอีก……