หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 260 อัญเชิญกุมารทอง

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 260 อัญเชิญกุมารทอง

ทันใดนั้นทั้งสองสาวที่ได้ยินผมถามแบบนั้นก็ตะลึงงันไป

 

หลังจากนั้น ก็เห็นท่าทางที่ดูกระอักกระอ่วนใจมากของฉิงหมิงเฉ่ว เธอพูดติดอ่างว่า “ ไม่ ไม่มีอะไร ! ”

 

ทันทีที่คำพูดของฉิงหมิงเฉ่วจบลง อู่ฮุ่ยฮุ่ยก็สะกิดเธอ “ จะไม่มีอะไรได้ยังไง ? วันนี้ที่เธอมา ไม่ใช่เพราะว่ามีเรื่องหรือยังไง ? เธอเชื่อฉันสิ ติงฝานกับพวกเขาเป็นคนที่มีวิชาอาคม พวกเขาสามารถช่วยเธอได้แน่นอน ! ”

 

“ แต่ แต่ว่าฉัน ฉันไม่รู้จะเอ่ยปากพูดยังไง ….”

 

ดูเหมือนฉิงหมิงเฉ่วจะดูขี้อายมาก เมื่อเธอพูดถึงคำว่า เอ่ยปาก  เสียงของเธอก็ลดลงไปทันที

 

พวกเราหยุดและจ้องมองไปที่ฉิงหมิงเฉ่วด้วยใบหน้าที่งุนงง

 

เมื่อได้ยินคำพูดชองอู่ฮุ่ยฮุ่ย ดูเหมือนว่าฉิงหมิงเฉ่วจะมีเรื่องอะไรสักอย่าง ดังนั้นอู่ฮุ่ยฮุ่ยจึงใช้ข้ออ้างในการเชิญพวกเรามาทานข้าว อยากจะให้พวกเราออกมาข้างนอกเพื่อที่จะได้ช่วยแก้ปัญหาของฉิงหมิงเฉ่ว

 

แต่อู่ฮุ่ยฮุ่ยเห็นว่าฉิงหมิงเฉ่วรู้สึกเขินอายที่จะพูด  เธอจึงพูดขึ้นด้วยความไม่สบอารมณ์ “ ถ้าเธออายที่จะพูด 

งั้นฉันจะพูดแทนเธอเอง ! ”

 

เมื่อฉิงหมิงเฉ่วได้ยินอู่ฮู่ยฮุ่ยพูดแบบนั้น  ชั่วพริบตาเดียวใบหน้าของเธอก็กลายเป็นสีแดง ดูเหมือนว่าเธอจะอายเอามากๆ

 

พวกเราก็เบนสายตาไปทางอู่ฮุ่ยฮุ่ย อู่ฮุ่ยฮุ่ยก็สูดหายใจเข้าลึกๆ หลังจากนั้นก็พูดกับพวกเราว่า

“ ฉันจะบอกด้วยความจริงใจ วันนี้ที่เชิญทั้งสามคนมาที่นี่ หนึ่งคือฉันอยากจะขอบคุณทั้งสามคนที่เคยช่วยเหลือฉัน อย่างที่สองคือมันก็เกี่ยวกับเรื่องของฉิงหมิงเฉ่วด้วย ! ”

 

“ ฮุ่ยเอ่อร์ มีอะไรก็พูดมาตรงๆ ถ้าหากว่าพวกเราช่วยได้  พวกเราก็จะช่วยเธออย่างแน่นอน ! ” หยางเฉ่วเอ่ยปากพูด

 

อู่ฮุ่ยฮุ่ย พยักหน้าแล้วพูดว่า “ เสี่ยวเฉ่วและฉันเป็นนักแสดงเหมือนกัน แต่ว่าเมื่อสามเดือนก่อน  ฉิงหมิงเฉ่วไม่รู้ว่าไปได้ยินที่ไหนมาว่าถ้าเลี้ยงกุมารทองก็จะสามารถเปลี่ยนโชคชะตาชีวิตได้ ดังนั้นเธอจึงไปเชิญกุมารทองมาเลี้ยงที่บ้านตนหนึ่ง ! ”

 

ทันทีที่เธอคำพูดนี้ออกมา พวกเราทั้งสามคนก็อดไม่ได้ที่จะสะอึกดัง “ กึกๆ ” ออกมา

 

การเลี้ยงกุมารทองไม่ใช่เรื่องเล่นๆ

 

สิ่งนี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ต่อมาก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ 

เพราะว่าสิ่งนี้ได้รับการเลี้ยงดูที่ดี ก็จะสามารถเปลี่ยนโชคชะตาชีวิตของผู้เลี้ยงได้เลย

 

หลายคนให้ความสำคัญกับประเด็นนี้ แต่ไม่เข้าใจถึงผลที่ตามมาหลังจากการเลี้ยงกุมารทอง   ต่างพากันไปหานักบวชไร้ศีลธรรม  หรือไปหาซินหม่าไท่เพื่ออัญเชิญกุมารทอง แม้กระทั่งคนดังหลายคนก็ออกข่าวว่าเลี้ยงกุมารทอง

 

จะเห็นได้ว่าแวดวงการเลี้ยงกุมารทองนั้นเป็นที่นิยม แต่ว่าพวกคนเหล่านั้นกลับไม่รู้ข้อเสียของการเลี้ยงกุมารทองนั้นมีมากกว่าข้อดี

 

ถ้าหากว่าเลี้ยงดีก็ยังพอพูดได้ว่าสามารถเปลี่ยนโชตชะตาได้  หลังจากนั้นไม่กี่ปีจะเลิกเลี้ยง ปัญหามันก็ไม่ใหญ่เท่าไหร่

 

แต่ในกรณีที่ได้เลี้ยงวิญญาณชั่วร้าย  ผลลัพธ์ที่ตามมาจะเลวร้ายจนไม่กล้าคิด ตั้งแต่โรคเรื้อรังรุมเร้า  

จนถึงขั้นร้ายแรงแบบบ้านแตกสาแหรกขาด

 

และจุดที่สำคัญที่สุดคือ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะโชคดีแล้ว แต่มันก็เป็นการเบิกใช้ความโชคดีของวันข้างหน้า อีกทั้งมันยังเพิ่มเป็นสองเท่าเมื่อต้องชดใช้คืน

 

พวกเราสามคนในฐานะที่เป็นคนปราบสิ่งชั่วร้าย ก็เคยได้ยินเรื่องราวประเภทนี้มาไม่น้อย

 

ในตอนนี้ที่ได้ยินเรื่องนี้ผมก็เงียบไม่พูดไม่จา ตั้งใจฟังสิ่งที่อู่ฮุ่ยฮุ่ยเล่าอย่างตั้งใจ

 

“ แต่กุมารทองที่เสี่ยวเฉ่วเลี้ยงไม่ใช่เด็กน้อย แต่ว่าเป็นผีชายวัยกลางคน เสี่ยวเฉ่วบอกว่า ถึงแม้ว่าผีตนนี้จะช่วยให้เธอผ่านการสอบสัมภาษณ์ และได้รับโอกาสรับบทเป็นตัวละครเล็กถึงสองครั้ง แต่ทุกครั้งที่ผีตนนี้เรียกร้องความต้องการที่ไร้เหตุผลและยังเอาเปรียบเธอตลอดเวลา ไม่กี่วันมานี้ ก็ยิ่งเรียกร้องผลประโยชน์มากขึ้นถึงขนาดอยากจะนอนกับเสี่ยวเฉ่ว ตอนนี้เสี่ยวเฉ่วอยากจะหลุดพ้นจากความสัมพันธ์นี้ ! 

ดังนั้นฉันจึงอยากจะเชิญทั้งสามคนมาช่วยเหลือก็คือให้ไล่ผีตนนั้นไปให้พ้นที ”

 

อู่ฮุ่ยฮุ่ยพูดแต่เรื่องราวแต่ละประโยคจบไปแล้ว  เมื่อได้ยินแล้วผมกลับสับสนซะเอง

 

เลี้ยงกุมารทอง  ก็จะต้องเป็นผีเด็กสิถึงจะเรียกว่ากุมารทองได้ ? แต่แล้วทำไมเลี้ยงกุมารทองถึงได้ออกมาเป็นเลี้ยงผีลุงวัยกลางคนล่ะ ?

 

ชัดเจนแล้วว่าฉิงหมิงเฉ่วต้องโดนหลอกอย่างแน่นอน

 

เธอไม่ได้อัญเชิญกุมารทองมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่เป็นการอัญเชิญผีผู้ชายมาเซ่นไหว้บูชาที่บ้านแทน

 

และความประพฤติของผีผู้ชายตนนั้นยังไม่ดีอีกด้วย ทำให้ฉิงหมิงเฉ่วทนไม่ได้

 

ตอนนี้ผีผู้ชายตนนั้นนับวันจะยิ่งมีความกล้ามากขึ้น  คิดไม่ถึงว่าอยากจะทำเรื่องอย่างนั้นกับฉิงหมิงเฉ่วด้วยความตัณหาราคะ

 

ผมทำหน้านิ่งหลังจากนั้นก็พูดกับอู่ฮุ่ยฮุ่ยและฉิงหมิงเฉ่ว “ สบายใจได้ ! เรื่องนี้ฉันจัดการเอง ก็แค่ผีตัณหากลับตนหนึ่งแค่นั้นเอง ! พวกเธอสบายใจเถอะ ตอนบ่ายพวกเราก็จะกลับไปด้วยกัน และในตอนกลางคืนจะได้กำจัดมันออกไป เพื่อจะได้ไม่เป็นอันตรายต่อโลกมนุษย์ ! ”

 

ฉิงหมิงเฉ่วยังคงขี้อายเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ เหมือนเก่า เธอเขินมากจนหน้าแดง

 

ในขณะที่ฟังผมพูดจบแล้ว เธอก็ยกเปลือกตาขึ้นมามองผม แล้วพูดขอบคุณด้วยความเขินอาย

 

ทันทีที่คำพูดของฉิงหมิงเฉ่วจบลง  เหล่าเฟิงก็พูดว่า “ ฉิงหมิงเฉ่ว เธอบอกหน่อยได้ไหมว่า ผีตนนี้ที่เธอไปอัญเชิญมันมาจากที่ไหน ? ”

 

เมื่อได้ยินคำถามที่ออกมาจากเหล่าเฟิง ผมก็สนใจขึ้นมาทันที

 

หากไม่มีใครช่วยฉิงหมิงเฉ่ว เธอก็จะไม่สามารถอัญเชิญมาได้อย่างแน่นอน

 

และคนที่อัญเชิญผีประเภทนี้และหลับหูหลับตาทำแบบนี้ จะต้องได้รับการลงโทษด้วย

 

ไม่อย่างนั้นจะไปทำแบบนี้และเป็นอันตรายต่อคนอื่นมากไปกว่านี้

 

ฉิงหมิงเฉ่วเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆว่า “ มันคือโรงงานปุ๋ยที่ถูกทิ้งร้างแถวชานเมือง ”

 

“ โรงงานปุ๋ย งั้นเธอรู้ไหมว่ามันชื่อว่าอะไร ?  สามารถติดต่อเขาได้ไหม ? ”เฟิงเฉ่วหานถามขึ้นอีกครั้ง

 

ฉิงหมิงเฉ่วพยักหน้า  “ ติดต่อได้ทางวีแชทเท่านั้น ชื่อจริงๆของเขาฉันเองก็ไม่รู้หรอก แต่ว่าเขาให้ฉันเรียกว่าจางเต้าฉาง ! แต่ว่าเขายังอายุน้อยอยู่เลย ประมานยี่สิบต้นๆ….. ”

 

ฉิงหมิงเฉ่วพูดรายละเอียดเกี่ยวกับเขา ว่าเธอรู้จักกับจางเต้าฉางได้ยังไง หลังจากนั้นก็ต่อรองราคากับฝ่ายตรงข้าม สุดท้ายก็ไปถึงขั้นตอนการซื้อผีผู้ชายตนนั้น

 

ส่วนจางเต้าฉาง ? ผมไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน แต่ว่าไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน

 

ผมขอให้ฉิงหมิงเฉ่วเอาวีแชทมาให้ผม และบอกว่าพวกเราจะจัดการเรื่องของเธอโดยการไปเจอกับจางเต้าฉาง

 

พวกเราเป็นคนปราบสิ่งชั่วร้าย มีหน้าที่กำจัดและปกป้องสิ่งชั่วร้าย  เป็นไปได้ว่าเจ้าเด็กนี้เป็นคนดีแต่เขาซื้อขายวิญญาณและแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว

 

ได้ยินมาว่าฉิงหมิงเฉ่วให้เด็กคนนี้อัญเชิญกุมารทองให้ในราคาหนึ่งแสน

 

ฉิงหมิงเฉ่วเป็นนักแสดงผู้ติดตามที่ไม่มีชื่อเสียง  จะมีเงินมากขนาดนั้นเลยเหรอ ? สุดท้ายในการเจรจาต่อรองราคาก็ต้องใช้เงินห้าหมื่นหยวน อีกทั้งยังเป็นเงินกู้ดอกเบี้ยสูงอีกด้วย

 

หากไม่ใช่เพราะอู่ฮุ่ยฮุ่ยเพิ่งจะพบว่าฉิงหมิงเฉ่วถูกทวงหนี้จากเงินกู้ดอกเบี้ยสูง และฉิงหมิงเฉ่วก็ไม่ได้ตั้งใจจะพูดเรื่องนี้ออกมาด้วย

 

ไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะหนังที่อู่ฮุ่ยฮุ่ยแสดง หลังจากเซ็นสัญญาไปหลายฉบับ ถึงได้มีเงินสดสำรองให้เธอไปใช้หนี้

 

ไม่อย่างนั้นฉิงหมิงเฉ่วจะต้องตกระกำลำบากจนไม่มีที่สิ้นสุดไม่มีทางที่จะฟื้นคืนขึ้นมาได้แน่ๆ

 

ไม่เพียงแต่จะถูกผีรบกวน อีกทั้งยังถูกขูดรีดจากเงินกู้ดอกเบี้ยสูงอีก ผลสุดท้ายก็เป็นอย่างนี้แหละ 

พูดแล้วลำบากจริงๆ

 

หลังจากรู้ถึงสาเหตุและผลที่ตามมา ผมก็ใช้แอคเคาน์สำรองเพิ่มจางเต้าฉางและส่งหมายเหตุไปว่าต้องการกุมารทอง ตอนนี้ก็รอเพียงแค่เขาตอบกลับ

 

ในเวลานี้ทุกคนก็ทานกันเกือบจะอิ่มแล้ว และวางแผนที่จะออกจากที่นี่และไปยังที่อยู่ของฉิงหมิงเฉ่วเพื่อลองไปดูผีตนนั้น

 

ดังนั้น ทุกคนจึงถือสิ่งของของตนเองและเตรียมพร้อมที่จะออกเดินทาง

 

แต่เมื่อเดินออกจากห้องส่วนตัว ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังยืนล้อมอยู่ในห้องโถงมุงดูอะไรบางอย่างและกระซิบซาบกันอยู่

 

ฉากนี้ดึงดูดผมจนผมมองแล้วมองอีก

 

ในเวลาเดียวกัน ก็มีเสียงพูดที่อวดดีดังออกมา “ สาวสวย ทำไมไม่ให้เกียรติกันขนาดนี้ ? พี่ชายคนนี้เป็นถึงเจ้าชายของหลงฟากรุ๊ป เธอก็มาติดตามพี่ชายสิ แล้วจะได้อยู่ดีกินดี เป็นไง ? ”

 

“ ใครอยากจะไปก็ไป !  ฉันมีแฟนแล้ว กรุณาออกไปให้ไกลจากฉัน ฉันจะทานข้าว ! ”

 

เมื่อผมได้ยินเสียงนี้  ในใจของผมก็สั่นไหวเล็กน้อย ทำไมเสียงนี้ ทำไมมันถึงได้เหมือนเสียงของเสี่ยวม่านขนาดนี้ ?

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.