หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 242 เรื่องอื้อฉาวในครอบครัว

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 242 เรื่องอื้อฉาวในครอบครัว

อาจารย์เห็นผมมองเขา และนิ่งไปพักหนึ่ง เพราะจะพูดเรื่องนี้ออกมาสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้

 

ถ้าพูดออกมา ความสัมพันธ์ระหว่างคุณฉีกับภรรยา อาจจบลงตรงนี้

 

แต่ผู้อาวุโสฉีกลับจ้องผม “ พูดเลย พูดให้เจ้าอกตัญญูนี่ได้รู้ ทำให้มันตาสว่าง ทำเลวก็ต้องเจอกับเรื่องเลวๆ ทำให้มันรู้ว่าสิ่งที่มันทำลงไป หรือผลของเงินชั่วๆที่ได้มามันเป็นยังไง ! ”

 

เมื่อได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสฉี ผมก็คิดว่าเขาพูดถูก

 

ผมจึงกลืนน้ำลาย “ ผู้อาวุโส จะให้พูดจริงๆเหรอครับ ? ”

 

“ จริงซิ ฉันอยากให้เจ้าอกตัญญูนี่ตาสว่าง ว่าชั่วชีวิตนี้มันล้มเหลวมามากขนาดไหน ! ”

 

ส่วนคุณฉีที่คุกเข่าอยู่กับพื้น กับแสดงท่าทางสงสัย และพูดกับผมว่า “ ท่านนักพรตเสี่ยวติง พ่อผมบอกให้พูดอะไร คุณก็พูดมาเถอะ ! ”

 

“ คุณฉี ทางที่ดีที่สุดคุณเตรียมใจหน่อยนะ นี่เป็นสิ่งที่คุณต้องการเองนะ ! ” ผมพูดต่อ

 

คุณฉีงงอยู่แป๊บหนึ่ง แต่เขาก็พยักหน้ารับอย่างหนักแน่น “ พูดมาเถอะครับ ! ”

 

ผมมองไปด้านข้าง ตอนนี้ภรรยาคุณฉีกำลังกอดฉีเสี่ยวเทียนอย่างกระวนกระวาย หลังจากนั้นผมก็พูดกับคุณฉีว่า “ คุณฉี ผู้อาวุโสพูดว่า ลูกของคุณไปสลักรูปดอกไม้ที่หลุมศพของปู่คุณ แถมฉีรดหลุมศพพ่อคุณ 

แล้วเขายังเก็บเงินกระดาษของพวกเขาไป…… ”

 

ผมยังพูดไม่จบ ทันใดนั้นคุณฉีก็ระเบิดออกมาทันที เขาหันไปมองอย่างรวดเร็ว “ ฉีเสี่ยวเทียน แกสลักดอกไม้บนหลุมศพทวดรึเปล่า แล้วแกยังไปฉี่รดหลุมศพปู่ และเก็บเงินกระดาษเอาไว้จริงไหม ? ”

 

ฉีเสี่ยวเทียนเห็นท่าทีของคุณฉี ในเวลาเดียวกันยังได้ยินพ่อถามถึงเรื่องพวกนี้ เดิมทีเขาอารมณ์เริ่มรู้สึกดีขึ้นแล้ว แต่ทันใดนั้นเขาก็ระเบิดเสียงร้องไห้ออกมาทันที

 

เมื่อภรรยาคุณฉีเห็นฉีเสี่ยวเทียนร้องไห้ เธอก็ตะคอกออกมาทันที “ จะตะคอกอะไรกันนักกันหนา เห็นไหม ? ลูกตกใจกลัวจนร้องไห้แล้ว ! ”

 

คุณฉีมีลูกแค่คนเดียว เมื่อเห็นลูกร้องไห้ เขาก็เค้นเสียงดัง ฮึ จากนั้นก็ไม่ถามต่อ เพราะคิดว่าเขาเป็นเด็กอายุแค่แปดเก้าขวบ

 

“ ท่านนักพรตเสี่ยวติง พ่อผมยังพูดว่าอะไรอีกครับ ”

 

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ผมก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้ จากนั้นก็พูดต่อ “ แล้วก็ นี่เป็นสิ่งที่ผู้อาวุโสบอกนะครับ 

คุณโดนสวมเขาแล้ว ! ”

 

เสียงของผมไม่ดังมาก แต่เมื่อคุณฉีได้ยินคำพูดนี้ ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนเป็นนิ่งอึ้งทันที ม่านตาทั้งสองข้างขยายใหญ่โดยอัตโนมัติ

 

ส่วนอีกทางด้านหนึ่ง ภรรยาคุณฉีที่ปลอบลูกอยู่ ก็หันมามองอย่างรวดเร็ว พร้อมกับแสดงสีหน้าตื่นตกใจ

 

ในเวลาเดียวกันเธอก็ตื่นตระหนกเล็กน้อย เธอรีบพูดทันที “ ท่าน ท่านนักพรตพูดอะไรออกมาน่ะ 

ถ้าคุณยังกล้าพูดเรื่องนี้ออกมาอีก ก็รีบไสหัวออกไปจากที่นี่เลย ! ”

 

แต่ผมไม่ได้สนใจ หลังจากนั้นก็พูดต่อ “ และยังพูดว่า ลูกชายคนนี้ก็ไม่ใช่ ก็ไม่ใช่ลูกแท้ๆของคุณ…… ”

 

เมื่อคำพูดแบบนี้หลุดออกมา คุณฉีก็หมือนโดนฟ้าผ่าตอนกลางวันแสกๆ เขาตัวสั่นไปทั้งตัว แม้แต่การหายใจก็เร็วขึ้น

 

ส่วนทางด้านของภรรยาคุณฉี กลับดูเหมือนคนถูกเปิดเผยความลับ เธอลุกขึ้นยืน แล้วพุ่งเข้ามาหาผมทันที “ ไอ้นักพรตชั่ว แกพูดจาเหลวไหล หุบปากเดี๋ยวนี้นะ ! ”

 

หลังจากพูดจบ เธอก็จะกระฉากตัวผม

 

แต่เฟิงเฉ่วหานที่อยู่ข้างๆกลับเข้ามาขวางทัน เขาหยุดภรรยาคุณฉีเอาไว้ จากนั้นก็จับมือเธอเอาไว้

 

“ ปล่อยฉัน รีบปล่อยฉันซิ…… ” ภรรยาคุณฉีพูดไม่หยุด เธอพยายามดิ้นให้หลุด

 

ในเวลาเดียวกัน ผมก็พูดต่อเลย “ ผู้อาวุโสฉียังพูดว่า ในท้องของภรรยาคุณยังมีเด็กอีกคน แต่ แต่ก็ไม่ใช่ลูกคุณเหมือนกัน บอกว่าคุณอกตัญญู ไม่หัดเอะใจ เลี้ยงลูกให้คนอื่น แล้วยังไม่รู้ตัวอีก ! เขาโกรธมากครับ 

เขาพูดเท่านี้แหละ ”

 

ถึงผมจะเป็นคนพูด แต่ผมก็เป็นแค่ผู้ส่งสาร

 

แต่ผมคิดว่าเมื่อคำพูดพวกนี้หลุดออกจากปากผมแล้ว มันกลับทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ

 

ส่วนคุณฉีที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น ก็ก้มหัวลง แต่ผมพบว่า ตอนนี้เขากำลังตัวสั่น

 

กำหมัดแน่น และทุบลงกับพื้นครั้งแล้วครั้งเล่า

 

เห็นได้ชัด ว่าคุณฉีกำลังต่อสู้กับความคิดของตัวเองอย่างรุนแรง

 

เมื่อภรรยาคุณฉีเห็นคุณฉีเป็นแบบนั้น เธอก็พูดด้วยความหวาดกลัว “ คุณคะ คุณอย่าไปฟังคำพูดจาเหลวไหลของไอ้นักพรตชั่วนั้นนะคะ พ่ออะไร ! ไม่มีหรอกค่ะ คุณดูซิคะห้องโล่งๆแบบนี้ มีพ่ออยู่ที่ไหนกัน ! 

มันจะต้องตั้งใจใส่ร้ายคนอื่น อยากทำความสัมพันธ์สามีภรรยาของเราแตกกัน ! คุณคะ…… ”

 

ภรรยาคุณฉีถูกจับเอาไว้ เธอไม่มีทางเข้าใกล้ได้ จึงทำได้เพียงหาข้อแก้ตัวเท่านั้น

 

ผู้อาวุโสฉีที่ยืนอยู่ข้างๆอาจารย์ กลับแสดงสีหน้าเคร่งขรึม “ ฮึ ! ยัยชั่ว ถ้าไม่ใช่เพราะแกท้องอยู่ ฉันจะตบแกให้ตายคามือเลยคอยดูซิ ! ”

 

เสียงของผู้อาวุโสฉีเพิ่งเงียบลง คุณฉีที่คุกเข่าอยู่บนพื้นกลับค่อยๆเงยหน้าขึ้น เขาพูดกับผมว่า 

“ ท่านนักพรตเสี่ยวติง คำพูดพวกนี้ คำพูดพวกนี้จะเอามาพูดส่งๆไม่ได้นะครับ…… ”

 

“ ใช่ใช่ใช่ผัวจ๋า นี่เป็นเรื่องที่มันกุขึ้นมา ! พวกเรารักกันขนาดนั้น จะมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นได้ยังไง ? ” 

ภรรยาคุณฉีรีบเถียงทันที

 

ผมเงียบไปพักหนึ่ง แต่ก็ยังพูดว่า “ คุณฉี ผมแค่พูดแทน จะเป็นแบบนั้นจริงไหม ผมเองก็ไม่รู้ คุณลองคิดเองเถอะ ! ”

 

หลังจากที่คุณฉีฟังผมพูดจบ เขาก็ไม่มองผมต่อ แต่หันไปมองภรรยาของตัวเอง

 

ภรรยาคุณฉีเห็นหน้าคุณฉีเคร่งขรึม ดวงตาแดงก่ำ และสัมผัสได้ถึงความโกรธของเขา “ ผัวจ๋า ผัวจ๋าไม่มีอะไรจริงๆ คุณต้องเชื่อฉัน ! เชื่อฉันนะ ”

 

คุณฉีจ้องภรรยา จากนั้นก็หันไปมองลูกชายที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่ไม่ไกล และพูดออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ 

“ ฉันเชื่อเธอ แต่ฉันก็เชื่อพ่อมากกว่า ! กลับบ้านไปฉันจะพาฉีเสี่ยวเทียนไปตรวจดีเอ็นเอ อือใช่ครึ่งปีแล้วซินะที่ฉันออกไปทำงานข้างนอก พวกเราไม่ได้มีอะไรกันเลยใช่ไหมละ ดังนั้นเธอก็น่าจะไม่ท้อง…… ”

 

เมื่อภรรยาคุณฉีได้ยินเขาพูดแบบนี้ เธอก็ตัวแข็งทื่อ ลูบท้องตามที่จิตใต้สำนึกบอก

 

เรื่องพวกนี้จะทำจริงรึเปล่า  มีแต่ตัวเธอเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด

 

ตอนนี้เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของมือภรรยาคุณฉี และยังลูบท้องของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว

 

ผมก็มั่นใจทันที เรื่องนี้จะต้องเป็นเรื่องจริงอย่างน้อย 9 ใน 10 ส่วน

 

คุณฉีสามารถสร้างตัวจากคนงานตัวเล็กๆมาเป็นมหาเศรษฐีพันล้านได้ นอกจากเรื่องดวงแล้ว ตัวเขาเองก็ต้องฉลาดและมีไหวพริบในการแก้ไขปัญหา

 

ขณะนี้ เมื่อเขาเห็นพิรุธ ใจเขาก็เย็นว๊าบ แต่เขาก็ยังตั้งความหวังเอาไว้บนเส้นบางๆ ว่าเรื่องนี้อาจเป็นแค่เรื่องโกหก

 

เขาไม่ได้คุยกับภรรยาต่อ แต่สูดหายใจเข้าลึกๆ สงบสติอารมณ์พักหนึ่ง หลังจากนั้นก็หันมาทางที่ผู้อาวุโสฉียืนอยู่ “ พ่อ ต่อไปผมจะทำตัวให้ดีกว่านี้ เรื่องที่พ่อบอก กลับไปผมจะตรวจสอบให้ชัดเจน ตอนนี้ดึกมากแล้ว พ่อกลับไปเถอะ ! พรุ่งนี้เช้าผมจะพาท่านนักพรตตู๋และท่านนักพรตติงไปทำพิธีย้ายหลุมศพให้พ่อกับปู่ ! ”

 

ตอนพูดเรื่องพวกนี้ออกมา คุณฉีที่เคยทำหน้าเคร่งขรึม และกังวลแทบตาย ตอนนี้กลับสงบลงมาเยอะมาก

 

หลังจากพูดจบ เขายังคุกเข่าไปทางผู้อาวุโสฉี แล้วคำนับสามครั้งอย่างรวดเร็ว

 

ในเวลาเดียวกัน ผู้อาวุโสฉีที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เขามองมาคุณฉี 

“ เฮ้อ ! เวรกรรม ! เวรกรรมจริงๆ ! ”

 

หลังจากพูดจบ ผู้อาวุโสฉีก็หมุนตัว เดินไปทางประตู

 

พวกเราก็ไม่ได้ห้าม และไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้ผู้อาวุโสฉีจากไป

 

ผู้อาวุโสฉีเพิ่งก้าวออกไปสองก้าว ร่างกายเขาก็เปลี่ยนเป็นภาพจางๆ ระเบิดกลายเป็นควันและหายไปทันที……

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.