spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 236 ตี้หลงเฉียน
ผมกรอกตา พูดกับอาจารย์ด้วยน้ำเสียงประชดนิดหน่อย “ อาจารย์ ยากลิ่นเหม็นขนาดนี้ อาจารย์จมูกอักเสบรึไง ? ”
เมื่ออาจารย์ได้ยินคำพูดของผม ทันใดนั้นเขาก็ทำสีหน้าเคร่งขรึม “ ไอ้เด็กนี่ทำไมพูดแบบนั้นฮะ ?
แกจะไปรู้อะไร นี่มันล้ำค่าสุดๆ ไม่รู้ว่าต้องรวยขนาดไหนถึงจะซื้อเจ้านี่ได้ มันหายากมากเลยนะ ! ”
“ พูดเล่นพูดจริงเนี่ยอาจารย์ ของเน่าๆแบบนี้ มีค่ามากขนาดนั้นเลยเหรอ ? ” ผมถามต่อ ไม่อยากจะเชื่อจริงๆ แต่เมื่อดูจากท่าทีของอาจารย์ มันกลับไม่เหมือนคนกำลังโม้
อาจารย์ดมกลิ่นอีกแป๊บหนึ่ง หลังจากนั้นก็เทยากลับเขาไปในขวดอย่างระมัดระวัง
หลังจากนั้นถึงได้คุยกับผมต่อ “ ไอ้เด็กนี่ ตอนเรียนหนังสือฉันบอกให้ตั้งใจเรียน ! สุดท้ายแกก็สอบได้ที่โหล่ โง่ดักดาน อาจารย์จะบอกให้นะ เจ้านี่เรียกว่าตี้หลงเฉียน แกรู้ไหมว่าทำไมมันถึงเรียกแบบนั้น ? ”
เมื่อถูกอาจารย์ด่า ผมก็อดอายไม่ได้ แต่ตอนเรียนที่โรงเรียนผมก็ทำได้ห่วยจริงๆ
แต่เมื่อพูดถึงเจ้าตี้หลงเฉียนนี่ ผมเองก็รู้สึกสงสัยนิดหน่อย จึงถามเขาว่า “ ทำไมเหรอครับ ? ”
“ หลงเฉียนคืออะไร ? มันก็คือน้ำลายของมังกร ถ้าคนกินเจ้าสิ่งนี้เข้าไป ก็จะสามารถพัฒนาก้าวกระโดดจนกลายเป็นเซียนเหาะเหินเดินอากาศได้ทันที…… ”
เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ ผมก็อดไม่ได้ที่จะสติหลุด
เจ้าของเน่าๆเนี่ยนะ ? เป็นน้ำลายมังกรจริงเหรอ ? อาจารย์ขี้โม้ละซิ !
แต่ผมไม่ได้ขัดจังหวะอาจารย์ ยังคงนั่งฟังเขาต่อ
อาจารย์ก็พูดต่อไปเรื่อยๆ “ แน่นอน ว่าฉันยังไม่เคยเห็นน้ำลายมังกรจริงๆ แต่ตี้หลงเฉียน กลับมีมาตั้งแต่โบราณ และในตำราแพทย์จีน เจ้าสิ่งนี้เป็นตัวยาที่ล้ำค่าที่สุด แม้แต่จิ๋นซีฮ่องเต้ที่โค้นล้มทั้งหกประเทศได้
ก็ยังไปหาเจ้านี่ในภูเขา ก็เพราะอยากให้ตัวเองกลายเป็นเซียน…… ”
อาจารย์เล่าต่อไปอย่างช้าๆ ตอนแรกผมยังไม่ได้สนใจมากนัก มังกรบ้าบออะไร ? กลายเป็นเซียน
แม้แต่จิ๋นซีฮ่องเต้ก็ยังมี ใครจะไปเชื่อเรื่องพวกนี่ละ ?
แต่หลังจากนั้น ผมถึงได้รู้ว่า
ทำไมเจ้าสิ่งนี้ถึงถูกเรียกว่าน้ำลายมังกร เพราะมันไม่ใช่น้ำลายของมังกรจริงๆ แต่เป็นน้ำจากพืชถูกสารพิเศษชนิดหนึ่งในเชื้อราสร้างขึ้น จนมีรูปร่างคลายน้ำลาย
น้ำจากพืชก็เหมือนน้ำลายอยู่แล้ว แต่มันมีสรรพคุณทางยาดีมาก แม้จะทำให้คนตาย ฟื้นขึ้นมามีเลือดเนื้อไม่ได้ แต่ฤทธิ์ของมันดีกว่าเห็ดหลินจือไม่รู้กี่เท่าตัว มีคุณค่าทางยามหาศาล มันเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมพิเศษ และเชื้อราชนิดนี้ยังหายากสุดๆ
เพราะเจ้านี่เหมือนน้ำลาย นอกจากนี้ยังมีตำนาน ก็คือถ้ากินน้ำลายมังกรเข้าไป ใครคนนั้นก็จะสามารถกลายเป็นเซียนได้
หลังจากนั้นผู้คนก็เรียกน้ำพืชจากเชื้อราชนิดพิเศษนี้ว่า “ ตี่หลงเฉียน ” หมายถึงยาที่ทรงพลัง
จนเปรียบได้กับน้ำลายมังกร
เมื่อฟังเรื่องพวกนี้จบ ผมก็อดไม่ได้ที่จะมองยาขวดนั้นอย่างจริงจัง
“ อาจารย์ เจ้านี่ดีขนาดนั้นจริงๆเหรอ ? ” ผมเผยท่าทางไม่อยากเชื่อ
แต่อาจารย์กลับหัวเราะ “ ฮ่าๆ ” “ ดีจริงซิ เจ้านี่สามารถบำรุงร่างกายทำให้อายุยืน สำหรับพวกรอยฟกช้ำทั่วไป จะรักษาให้หายขาดในไม่กี่นาที ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม และยาสามเม็ดนี้ของแก ไม่ได้มีแค่
ตี้หลงเฉียน นางพญาจิ้งจอกจะต้องเพิ่มสมุนไพรหายากจากบนเขาให้อีกแน่ๆ เพื่อช่วยเพิ่มฤทธิ์ยา
เมื่อทำแบบนี้แล้ว ฤทธิ์ยาตี้หลงเฉียนก็จะอัพเกรดถึงขั้นสูงสุด กลายเป็นยาวิเศษที่สามารถช่วยชีวิตได้ ”
“ อาจารย์ไม่ได้โม้ ! ยากลิ่นเหม็นๆดำๆนี่ แค่เม็ดเดียวก็มีค่ายิ่งกว่าโสมป่า 500 ปีที่แกมอบให้อีกนะ ! ”
เมื่ออาจารย์พูดแบบนั้น ในสมองผมก็มีเสียงระเบิดดัง “ ตูม ”
พระเจ้า ! เราจะได้พัฒนาพลังแล้ว
โสมป่า 500 ปี มันมีคุณค่าขนาดไหนนะ ? ถึงได้มีราคาขายถึง 7 หลัก แต่ยาตี้หลงเฉียนในมือของผม
ทุกเม็ดยังมีค่ามากกว่าโสมป่าซะอีก
ตอนนี้ผมเริ่มคิดว่า ถ้าขายไป 2 เม็ด ตอนนั้นผมจะไม่กลายเป็นเศรษฐีเลยเหรอ ? แค่คิดก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว
ดูเหมือนอาจารย์จะอ่านใจผมออก เขาทำเสียงเข้มทันที “ เจ้านี่นิ แกห้ามคิดอะไรบ้าๆเชียวนะ ทำงานในสายงานแบบพวกเรา อย่าหวังจะเอาแต่ได้ ในอนาคตยาตี้หลงเฉียนสามเม็ดนี้ อาจช่วยชีวิตแกได้สามครั้ง
เก็บเอาไว้ให้ดีๆ ถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องเอามาใช้พร่ำเพรื่อ ! ยิ่งไปกว่านั้นห้ามเอาไปขายเด็ดขาด ”
เมื่อได้ยินอาจารย์พูดแบบนั้น ผมก็เศร้าทันที แต่ก็ไม่พูดอะไรมาก
หลังจากนั้น อาจารย์ก็ให้ผมเก็บยาตี้หลงเฉียนไว้ให้ดี และบอกให้ผมออกไปกินข้าว
เมื่อคืนอาจารย์กลับมาค่อนข้างดึก และดื่มไปไม่น้อย หลังจากกินข้าวเข้าไปนิดหน่อยเขาก็กลับไปพักในห้อง
บอกว่าอีกเดี๋ยวให้ผมทำป้ายวิญญาณให้ตระกูลหูเอง เขียนแค่ตระกูลหู ส่วนเรื่องร้าน ก็ยกให้ผมเป็นคนดูแล
ผมตอบรับ “ อือ ” จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีกเลย
หลังจากนั้น ผมก็เริ่มทำป้ายอันที่สอง ตระกูลหู
ในเวลาเดียวกันก็จุดธูปให้มู่หลงเหยียนและตระกูลหู แต่ธูปของมู่หลงเหยียนยังเป็นเหมือนเดิม
หลังจากจุดไปได้แป๊บนึงมันก็ดับลง
ดูเหมือนยัยผีเมียยังโกรธผมอยู่ ผมเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ปล่อยให้มันเป็นแบบนั้น
ผมคิดว่ารอให้ผ่านไปอีกหน่อย ผมจะไปให้เธอระบายอารมณ์
หลังจากนั้นเดือนกว่าๆ ดูเหมือนชีวิตของผมจะกลับมาสงบอีกครั้ง แต่ผมก็ไม่มีอะไรทำ
ในทุกๆวันนอกจากจุดธูป ขายเงินกระดาษ ผมก็ได้แต่เล่นเกมกับหยางเฉ่วและเฟิงเฉ่วหาน
จนกระทั่งถึงวันนี้ ตอนเที่ยงอาจารย์ได้รับโทรศัพท์ คุณเหวินเป็นคนโทรมา เขาก็คือคนที่หาคนไปทำพิธีให้กับศพลูกสาว
ครั้งนี้ที่เขาโทรมาหาอาจารย์ เพื่อเป็นคนกลาง แนะนำธุรกิจให้กับร้านของพวกเรา
เขาบอกว่าเถ้าแก่คนหนึ่งคิดว่าฮวงจุ้ยหลุมศพบ้านตัวเองไม่ดี วางแผนที่จะย้ายหลุมศพ จึงบอกให้อาจารย์มาดูให้เขาหน่อย
หลายเดือนมานี้พวกเราไม่ได้ออกไปทำงานข้างนอกเลย ยึดการขายเงินกระดาษ ประทังชีวิตไปวันๆ
แม้แต่เงินเดือนของผมก็ยังถูกอาจารย์หักออกไป 1,200 หยวน
โชคดีที่พวกเรายังมีกินมีบ้าน ไม่อย่างนั้นคงตายไปแล้ว
ตอนนี้เมื่อได้ยินว่าต้องออกไปทำงานข้างนอก และคนกลางยังเป็นคุณเหวิน ผมก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
ครั้งแรก ก็ได้เงินมามากมาย จากการทำงานข้างนอก ครั้งที่สอง ก็คงได้ลาภก้อนโตแน่ๆ
อยู่ในร้านมาเดือนกว่าๆแล้ว บางครั้งออกไปทำงานข้างนอกบ้าง ก็ฟังดูไม่เลวเลยนะ
และเรื่องย้ายหลุมศพ ผมเองก็เรียนไปได้เยอะแล้ว
อาจารย์บอกให้ผมไปเก็บของ พวกเราจะออกเดินทางตอนบ่าย
ผมเองก็ไม่รอช้า รีบเก็บข้าวของที่ใช้ในงานศพและของที่อาจต้องใช้ในการย้ายหลุมศพลงในกระเป๋า หลังจากนั้นพวกเราก็เดินไปที่ขนส่ง
แต่หลังจากที่พวกเรามาถึงขนส่ง กลับพบว่าท่านนักพรตตู๋และเหล่าเฟิงก็อยู่ด้วย
และพวกเขาสองคนยังเอาอาวุธมาด้วย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาก็จะออกไปทำงานเหมือนกัน
เมื่อท่านนักพรตตู๋เห็นพวกเรา เขาก็ทำหน้าแปลกใจ จึงเดินเข้าไปถามไถ่
สุดท้ายเมื่อคุยกันถึงได้รู้ว่า ครั้งนี้พวกเราทั้งคู่ออกไปย้ายสุสานเหมือนกัน ได้รับสายจากคุณเหวิน
และไปทำงานให้นายจ้างคนเดียวกัน
ทุกคนมีความสุขมาก เมื่อทำงานด้วยกัน ก็จะสามารถดูแลกันได้ แล้วพวกเราจะไม่มีความสุขได้ยังไง ?
ตลอดทางทุกคนต่างค่อยข้างผ่อนคลาย เพราะเรื่องย้ายหลุมศพเป็นเรื่องที่คนมักทำกันบ่อยๆ ตาเฒ่าสองคนก็ไม่รู้ว่าทำมาตั้งเท่าไหร่แล้ว ประสบการณ์หลากหลาย พวกเขาจึงทำได้อย่างสบายๆ
ดังนั้นทุกคนจึงไม่คิดว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก ยิ้มหัวเราะกันตลอดทาง
หลังจากลงรถ ก็โทรศัพท์หาคนที่จะมารับ
ผ่านไปไม่นาน พวกเราก็ได้เจอชายหนุ่มใส่สูทสองคน
หลังจากมั่นใจแล้ว ชายหนุ่มสองคนนั้นก็แยกพวกเราให้นั่งรถเบนซ์คนละคัน หลังจากนั้นก็ขับตรงไปที่บ้านเจ้านายทันที
คนขับรถไม่ชอบพูด ระหว่างทางจึงพูดออกมาไม่กี่คำ
บ้านของเจ้านายอยู่ไม่ไกล เขาอยู่ในบ้านโครงการฮัวเทียนหูจิ่งวิลล์ คนที่อยู่ได้ล้วนเป็นพวกมหาเศรษฐี
เมื่อรู้ว่านายจ้างอยู่ที่ไหน ผมก็อดไม่ได้ที่ตื่นเต้น นายจ้างเป็นมหาเศรษฐี ธุรกิจครั้งนี้จะต้องได้เงินก้อนโตแน่ๆ
แต่ผมจะไปรู้อะไร ธุรกิจครั้งนี้จะง่ายเหมือนที่ผมจินตนาการได้ยังไง ?
ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเราดวงดี ทุกคนก็คงถูกดึงเข้าไปหมดแล้ว……