spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 228 ขอให้ช่วยทำนาย
เมื่อทางฝั่งของหยางเฉ่วได้ยินผมพูดแบบนั้น เธอกลับไม่เชื่อผม กลับกันเธอยังทำเสียง “ เฮอะ ” ออกมา
“ พอเถอะน่า ! นางพญาจิ้งจอกอะไร นางพญาจิ้งจอกอยู่ในเขาตลอด จะมาเห็นนายได้ยังไง ! แล้วยังอยากรับนายเป็นศิษย์อีก ” หยางเฉ่วหัวเราะอย่างมีความสุข
แต่ผมกลับทำหน้าหดหู่ “ ไม่เชื่อก็เรื่องของเธอ อีกสองวันเธอมาดูเองก็แล้วกัน ถึงเวลานั้นจะได้ดูให้เต็มสองตา ! ”
หยางเฉ่วเห็นผมพูดด้วยความมั่นใจอีกครั้ง เธอจึงหยุดหัวเราะ “ ติงฝาน ไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม ”
“ เรื่องจริงซิ หรือเธอคิดว่าฉันจะหลอกเธองั้นเหรอ ”
หยางเฉ่วส่งเสียงหายใจเข้าอย่างชัดเจน “ ถ้านี่ เป็นเรื่องจริง งั้นนายก็โชคดีแล้วน่ะซิ ครั้งที่แล้วนายกับ
เฟิงเฉ่วหาน ไปทำให้จิ้งจอกเฒ่าตัวนึงไม่พอใจไม่ใช่เหรอ แล้วครั้งนี้ทำไมนายถึงได้เป็นชูหม่าละ แล้วยังเป็นถึงลูกศิษย์นางพญาจิ้งจอกอีก ”
สำหรับสาเหตุนั้น เป็นธรรมดาที่ผมจะบอกหยางเฉ่วไม่ได้ ผมสร้างเรื่องโกหกขึ้นมาเรื่องหนึ่ง “ ตอนอาจารย์ฉันเป็นวัยรุ่นเขามีวาสนากับสำนักหูอยู่บ้างน่ะ วันนั้นไม่ใช่เพราะจิ้งจอกเฒ่าทำร้ายลุงหลิวเหรอ ทางสำนักหูจึงรู้สึกผิดนิดหน่อย บวกกับพวกเขาอยากลงเขามาหาศิษย์พอดี ดังนั้นนางพญาจิ้งจอกเลยเลือกฉัน ! คงพูดได้ว่าเป็นเพราะโชคล้วนๆน่ะ ! ”
เมื่อหยางเฉ่วได้ยินก็อึ้งแล้วอึ้งอีก เธอไม่สงสัยเลยสักนิด เธอพูดแค่ผมโคตรโชคดีเลย
และยังบอกว่าในอนาคตเมื่อได้สำนักหูดูแล พวกเราก็มีกองหนุนแล้ว ถ้าเจอองค์กรตาผีชั่วอีก พวกเราก็ไม่ต้องกลัวพวกมันแล้ว
หลังจากนั้น ผมก็คุยกับหยางเฉ่วอีกนิดหน่อย แล้วก็ว่างสาย
ผมสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เดินออกจากห้อง และไม่ได้คิดเรื่องรับศิษย์อีก เพราะตอนนี้ผมกำลังกังวลเรื่องความฝันติดต่อกันมากกว่า
เนื่องจากความฝันนี้แปลกมาก มันรบกวนจิตใจผมจริงๆ
เมื่อเห็นอาจารย์กำลังดูทีวีอยู่ข้างนอก ผมก็เดินเข้าไปหา “ อาจารย์ ! ”
อาจารย์เห็นผมเดินออกมา สีหน้าเคร่งเครียด จึงถามผมว่า “ เป็นอะไร ทำไมวันนี้ตื่นเช้าจัง ”
“ อาจารย์ ผมฝันแปลกๆ ! ”
“ ฝันแปลก แปลกยังไง ” อาจารย์ไม่ได้เอะใจ เขาพูดอย่างใจเย็น
“ ผมฝันเห็นผู้หญิงนั่งอยู่บนสะพานหิน ด้านล่างมีกลุ่มผีร้าย แล้วสุดท้ายผู้หญิงคนนั้นก็กระโดดลงไปดื้อๆ ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงกังวล
แต่อาจารย์ยังไม่เอะใจ “ อย่าไปใส่ใจ มันก็แค่ความฝัน ”
“ ไม่ใช่อาจารย์ สิ่งที่แปลกมันไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในความฝัน สิ่งที่แปลกคือ ผมฝันเห็นเรื่องนี้เป็นครั้งที่สี่แล้ว และทุกครั้งก็ยังฝันเห็นแบบเดิม ! ” ผมพูดอย่างกระวนกระวาย
อาจารย์ที่เคยใจเย็นไม่รู้สึกรู้สาอะไร แต่เมื่อได้ยินผมพูดแบบนั้น ว่าผมฝันเป็นครั้งที่สี่แล้ว “ พรึบ ” สีหน้าของอาจารย์ก็เปลี่ยนไปทันที เขาหันมามองอย่างรวดเร็ว
“ อะไรนะ ฝันเห็นสี่ครั้งแล้ว เสี่ยวฝานแกพูดจริงใช่ไหม ” สีหน้าของอาจารย์เคร่งเครียด เขามองผมพร้อมกับคิ้วที่ขมวดเป็นปม
“ จริงซิ ครั้งที่สี่แล้ว ครั้งสองครั้งแรกผมยังไม่ได้คิดอะไร พอถึงครั้งที่สามผมคิดว่าจะเล่าให้ฟัง แต่อาจารย์ดันออกไปซื้อของร้านเซียงจู๋จาง สุดท้ายท่านนักพรตตู๋บาดเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะเกิดเรื่องอีกมากมาย ผมเลยลืมเรื่องนี้ไปซะสนิท เมื่อคืนผมก็ฝันเห็นมันอีก มันเหมือนเดิมเป๊ะ ! และภาพมันยังติดตาผมอยู่เลย ” ผมพูดความจริงให้อาจารย์ฟัง
อาจารย์ขมวดคิ้วแน่น เขาค่อยๆลุกขึ้น “ การทำนายความฝันของโจวกง ถ้าฝันเห็นกระจก บุปผา จันทรา วารี แต่ทุกเรื่องมีสาเหตุเสมอ แกฝันเห็นติดกันหลายครั้ง มันจะต้องเป็นลางบอกเหตุอะไรแน่ๆ ! ”
“ อาจารย์ ความฝันของผมบอกอะไรเหรอ ”
อาจารย์ส่ายหน้า “ อาจารย์ไม่เก่งเรื่องทำนายความฝัน เอาแบบนี้ดีกว่าอีกเดี๋ยวพวกเราไปร้านไป๋ฉ่าว ให้เหล่าตู๋ช่วยดูให้แก ! ”
ผมจำได้ว่าครั้งก่อนเฟิงเฉ่วหานบอกว่า ท่านนักพรตตู๋สามารถทำนายความฝันได้ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมไม่ได้ไปหาเขาเลย
เรื่องมาถึงวันนี้แล้ว ผมจึงทำได้เพียงเท่านี้ ต้องให้ท่านนักพรตตู๋ช่วยดูให้แล้ว
ยังไม่เดาว่าจะทำนายออกมาได้อะไร ผมคิดไว้ก่อนว่ามันต้องเป็นเรื่องดี
ถ้าเป็นเรื่องดีจริงๆ ผมก็จะปล่อยผ่านไปไม่คิดมากอีก แต่ถ้ามันเป็นเรื่องร้าย งั้นผมก็ต้องระวังตัวแล้ว
แต่เสียงของอาจารย์เพิ่งเงียบลง นอกบ้านก็มีเสียงทุ้มๆดังขึ้น “ ใครอยากให้ฉันทำนายความฝันฮะ ”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ ผมและอาจารย์ก็หันไปมอง
เมื่อหันไปมอง พวกเราก็เห็นท่านนักพรตตู๋และเฟิงเฉ่วหาน
เมื่อเห็นพวกเขา ผมและอาจารย์ก็กระพริบตาปริบๆ เช้าขนาดนี้ พวกเขามาร้านพวกเราทำไม
“ เหล่าตู๋ มาพอดีเลย ฉันกำลังจะไปหานายพอดี ! ” อาจารย์พูดอย่างตื่นเต้น
“ ไปหาฉัน เพราะเรื่องชูหม่าเหรอ เรื่องนี้เป็นเรื่องดีไม่ต้องทำนายแล้ว แล้วอีกสองวันก็เป็นวันดี ก่อนมาฉันดูปฏิทินมาแล้ว ! ” ท่านนักพรตตู๋พูดด้วยรอยยิ้ม แต่เห็นได้ชัดว่าเขาตอบไม่ตรงคำถาม
อาจารย์ยืนนิ่ง “ เหล่าตู๋ นายรู้เรื่องติงฝานจะไปเป็นชูหม่าแล้วเหรอ ”
“ รู้แล้ว ตอนเช้าเสี่ยวเฟิงบอกฉันแล้ว ตอนนี้มาดูว่าเป็นยังไงบ้าง เรื่องใหญ่ขนาดนี้ จะมาดูว่าพอช่วยอะไรได้บ้างไหมน่ะ ! ” เห็นได้ชัดว่าท่านนักพรตตู๋ดีใจมาก
ตอนนี้ผมเพิ่งคิดได้ เมื่อคืนผมแชทบอกเหล่าเฟิง ว่าจะไปเป็นชูหม่า
ดูเหมือนเหล่าเฟิงจะเล่าเรื่องนี้ให้ท่านนักพรตตู๋ฟังแล้ว อาจารย์ก็หัวเราะแห้งๆสองสามครั้ง หลังจากนั้นก็เปิดประเด็นทันที “ เหล่าตู๋ เดี๋ยวพวกเราค่อยคุยเรื่องนี้นะ เสี่ยวฝานมีเรื่องนิดหน่อย นายช่วยทำนายให้เขาก่อนนะ ! ”
ท่านนักพรตตู๋ยืนนิ่ง “ เสี่ยวฝานมีปัญหาอะไร ”
“ ท่านลุงตู๋ พักนี้ผมชอบฝันเห็นเรื่องเดิมๆ อยากให้ลุงช่วยทำนายความฝันให้ผมหน่อยน่ะครับ ! ”
“ ฝันเห็นเรื่องเดิม ” ท่านนักพรตตู๋ขมวดคิ้ว
เหล่าเฟิงเองก็พูดด้วยความสงสัย “ หรือว่า หรือว่าจะฝันเห็นผู้หญิงบนสะพานอีกแล้ว ”
ผมพยักหน้าแรงๆ พร้อมพูดด้วยความหวาดกลัว “ ใช่ นี่เป็นครั้งที่สี่แล้ว ! ”
ตอนนี้ท่านนักพรตตู๋หุบยิ้มเรียบร้อย จากนั้นก็พูดอย่างเคร่งขรึม “ เสี่ยวฝาน เธอช่วยเล่าให้ฉันฟังอย่างละเอียดก่อน แล้วค่อยบอกวันเดือนปีเกิดกับฉัน แล้วฉันจะทำนายให้ ! ”
ผมไม่ได้ลังเล รีบเล่าเรื่องความฝันให้ท่านนักพรตตู๋ฟังทันที
ท่านนักพรตตู๋พยักหน้าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
หลังจากนั้นอาจารย์ก็เขียนวันเดือนปีเกิดผมลงบนกระดาษเหลือง แล้วส่งให้ท่านนักพรตตู๋
ท่านนักพรตตู๋เดินมาที่โต๊ะ เขาเผากระดาษวันเดือนปีเกิดของผมก่อน จากนั้นหยิบเหรียญทองแดงออกมาสามเหรียญ วางไว้บนมือเขย่ามันสองสามครั้ง เปิดมือทั้งสองข้างออก แล้วปล่อยให้เหรียญตกลงมา
ผมมองดูทุกๆอย่าง ผมเห็นเหรียญเป็นหัวและก้อย ส่วนอีกเหรียญถูกเหรียญอื่นทับไว้
เมื่อท่านนักพรตตู๋เห็นภาพแบบนี้ เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองมันพักหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร หลังจากนั้นเขาก็เอื้อมมือออกไปค่อยๆย้ายเหรียญมาไว้ข้างๆ
เหรียญที่ถูกทับไว้ ก็เป็นก้อย พวกมันเป็นหัวหนึ่งก้อยสอง
ศาสตร์ทำนายจากเหรียญ เป็นศาสตร์ทำนายที่เห็นกันค่อนข้างบ่อย แม้แต่คนทั่วไปตามท้องถนนก็ยัง
“ ทำเป็น ”
เป็นการทำนายจากด้านหัวและก้อยของเหรียญ โดยต้องสอดคล้องกับต้งเหยา( เครื่องหมายขีดๆของศาสตร์ปากัว ) ลำดับด้านหยางจะถูกเรียกว่าเฉ่าหยางเหยา ส่วนลำดับด้านหยินจะถูกเรียกว่าเฉ่าหยินเหยา
ด้านหยางทั้งหมดเรียกว่าเหล่าหยินเหยา ตรงกันข้ามคือเหล่าหยินเหยา
เรื่องนี้ใครๆก็รู้ ใครๆก็ทำได้
แต่ หลังจากทำนายแล้ว พวกเขาต้องเอามาวิเคราะห์อีกที นั้นเป็นเรื่องที่คนธรรมดาทำไม่ได้
หลังจากได้ผลออกมา ต้องเอาไปเทียบกับศาสตร์ปากัวก่อน หลังจากนั้นค่อยใช้ดวงชะตาวันเดือนปีเกิด และของอื่นๆในการทำนาย ในนั่นยังมีศาสตร์นับไม่ถ้วน ไม่ใช่สิ่งที่จะอธิบายได้สั้นๆ
สิ่งที่นิยมเรียกคือ การทำนายก็คือการคำนวณสูตร วันเดือนปีเกิดคือรหัส เมื่อเพิ่มสูตรเพื่อใส่รหัส ก็จะได้บางอย่างออกมา หลังจากคำนวณเสร็จ สุดท้ายก็จะได้ผลลัพธ์ออกมา และมันก็คือผลลัพธ์ของเรื่องที่ถาม
พูดแล้วเหมือนทำกันได้ง่ายๆ แต่พอทำแล้ว ในหมื่นความคิด ก็มีคำตอบหมื่นคำตอบ
อักขระ 64 ตัวพวกนี้ เป็นหนึ่งในศาสตร์ที่เทพสูงสุดทั้งสามคนสร้างขึ้น มันเป็นศาสตร์ตัวลขที่ยากที่สุดสำหรับเด็กใหม่
ผมมองท่านนักพรตตู๋จ้องเหรียญอยู่นาน ผมจึงถามด้วยความร้อนใจ “ ท่านลุงตู๋ ผลทำนายเป็นไงบ้างครับ ”
เมื่อท่านนักพรตตู๋ได้ยินผมถาม เขาจึงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว “ ต้งเหยายังไม่นิ่ง เหยาเปลี่ยนเกิดตัวแปลเพิ่ม ดังนั้นทำนาย ทำนายความฝันทั้งสี่ครั้ง ได้ยากมาก…… ”