spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 227 ปมในใจ
เมื่อได้ยินยายโม่พูดถึงขนาดนั้น ผมก็ใจสั่นทันที
ตอนนั้นผมรู้สึกอึดอัด ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
การแต่งงานของมู่หลงเหยียนและผม ไม่ได้เป็นเพราะเธอบาดเจ็บเหรอ เธออยากใช้เงื้อนไขแบ่งชีวิตผมจากงานแต่ง มาช่วยรักษาบาดแผลของตัวเธอเองไม่ใช่เหรอ
หรือว่านอกจากเรื่องนี้แล้ว ยังมีเรื่องที่ผมไม่รู้อีก
ผมอ้าปากขึ้นเล็กน้อย จ้องยายโม่ด้วยสีหน้างุนงง
แต่ยายโม่กลับหัวเราะ “ ฮึฮึ ” เหมือนกับรู้อะไรบางอย่าง หลังจากนั้นก็พูดกับผมว่า “ คุณผู้ชาย สิ่งที่คุณหนูฝากมาบอก ข้าน้อยได้พูดหมดแล้ว ประโยคหลังเป็นคำพูดของข้าน้อยเอง ถ้าไม่อยากฟัง คุณผู้ชายก็ทำเป็นไม่ได้ยินที่ยายคนนี้พูดก็ได้เจ้าค่ะ ! ข้าน้อยขอตัวก่อนนะเจ้าค่ะ ”
หลังจากพูดจบ ยายโม่ก็ไม่ได้รอให้ผมตอบกลับ เธอหมุนตัว เดินออกไปทันที
เดิมทีผมคิดจะเรียกยายโม่ให้อยู่ต่อ เพื่อถามว่าที่ยายโม่พูดมามันหมายความว่ายังไง
นอกจากอาการบาดเจ็บแล้ว ยังมีเรื่องอื่นอีกรึเปล่า หรือว่ามู่หลงเหยียนหลงรักผมแล้ว ไม่ เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ ผีสาวที่งดงามและสูงส่งแบบนั้น จะมาหลงรักผมได้ยังไง
เมื่ออ้าปากขึ้น ผมกลับพบว่าตัวเองพูดไม่ออก
สุดท้ายก็พูดกับยายโม่ว่า “ เดินทางกลับดีๆนะครับยายโม่ ! ”
ยายโม่ไม่ได้พูดอะไร เธอโบกมือให้ผมทั้งๆที่หันหลังอยู่ หลังจากนั้นก็หายเข้าไปในความมืด
หลังจากยายโม่กลับไป ผมก็ยืนอยู่ที่ประตูคนเดียวเป็นเวลานาน
ผมคิดถึงเรื่องของมู่หลงเหยียน ที่จริงนอกจากเธอจะชอบโมโหใส่ผมแล้ว เธอก็ดูเหมือนจะไม่น่ารำคาญขนาดนั้นนะ
ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ ปิดประตู แล้วเดินกลับเข้าไปในห้องดังเดิม
บังเอิญอาจารย์ออกจากห้องมาเข้าห้องน้ำ เขาเห็นผมกำลังปิดประตู จึงถามว่าผมกำลังทำอะไรอยู่
ผมไม่ได้ปิดบัง เล่าเรื่องสามวันหลังจากนี้ ที่ต้องไปชูหม่าที่ศาลเจ้าหลักเมือง ให้อาจารย์ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ
จากที่อาจารย์กำลังสะลึมสะลือ เมื่อได้ยินว่าสามวันหลังจากนี้ผมจะได้เข้าสำหนักหู และคนที่มารับยังเป็นนางพญาจิ้งจอกผู้นำคนปัจจุบันของเผ่าจิ้งจอกด้วย ร่างกายของเขาก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที
“ เด็กดี คิดไม่ถึงว่าแกจะมีวาสนานี้ ถ้าแกได้เป็นชูหม่าจริงๆ ในอนาคตพวกเราไม่ใช่แค่มีคนหนุนหลังนะ พวกเรายังสามารถทำอะไรได้อีกมากมาย ออกล่าผีได้มากกว่าเดิม และยังสามารถคุ้มครองคนได้มากขึ้นอีกด้วย ! ” เห็นได้ชัดว่าอาจารย์กำลังดีใจสุดๆ
แต่ผมกลับขมวดคิ้ว “ อาจารย์ เป็นชูหม่ามันดีขนาดนั้นเลยเหรอ ที่จริงจะพูดว่าดีมันก็ดีอยู่หรอก แต่ผมไม่ได้อยากเป็นชูหม่าอะไรนั้นนิ และก็ไม่อยากเป็นลูกศิษย์จิ้งจอกด้วย ! ”
ผมพูดความจริง พูดออกมาตามที่ใจคิด
อาจารย์เงียบไปแป๊บนึง ครั้งนี้เขาไม่ได้โมโหใส่ผม แต่กลับยิ้มออกมาเล็กน้อย “ เจ้าเด็กโง่ แกบอกอาจารย์ซิ ทำงานในสายงานแบบพวกเรา พวกเราทำทุกๆอย่างไปเพื่ออะไร ”
เมื่อได้ยินอาจารย์ถาม ผมก็ลังเลอยู่พักหนึ่ง หลังจากนั้นถึงพูดว่า “ ขับไล่ความชั่วร้าย ปกป้องความดี ”
อาจารย์พยักหน้า “ นี่ก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมจิ้งจอกต้องลงเขามารับศิษย์ด้วยละ สร้างถางหยิงขึ้นมาทำไม เพราะพวกมันก็เหมือนกับพวกเรา เพียงแค่เป็นสัตว์ ไม่ใช่คน ถ้าพวกมันอยากอยู่บนโลกใบนี้ ก็ต้องสะสมบุญบารมี เพื่อให้ได้รับในสิงที่ต้องการ แต่นั้นก็เป็นเรื่องที่ยากมาก ”
“ ดังนั้น พวกมันต้องหาคนที่มีคุณธรรมไปเป็นลูกศิษย์ เพื่อเป็นสื่อกลาง เมื่อทำแบบนี้แล้ว ไม่ใช่แค่พวกมันจะถูกกราบไหว้ พวกมันยังใช้ฐานะศิษย์นี้สะสมบุญให้ตัวเองได้ ! ”
“ แต่ลูกศิษย์ ไม่เพียงได้รับการดูแลจากพวกมันเท่านั้น ในเวลาเดียวกันยังสามารถใช้อำนาจของพวกมันเผ่าจิ้งจอก ไปช่วยเหลือผู้คนได้มากมาย หลังจากนั้น ผู้คนก็จะมีความสุขจากการช่วยเหลือของเผ่าจิ้งจอก เกิดห่วงโซ่ขึ้น นี่ไม่สิ่งที่คนปราบสิ่งชั่วร้ายควรทำเหรอ แทนที่จะปล่อยให้คนเลวที่ไหนก็ไม่รู้ไปเป็นชูหม่า แกไปเป็นแทนไม่ดีกว่าเหรอ เสี่ยวฝาน แกคิดว่ายังไง ”
อาจารย์อธิบาย และวิเคราะห์ให้ผมฟังอย่างใจเย็น ทำให้ผมเข้าใจการเป็นศิษย์ครั้งนี้มากขึ้น
ตอนนี้ ปมที่อยู่ในใจของผมเริ่มคายออก “ ปึก ” ดูเหมือนมันจะคายออกแล้ว ผมกลับมาร่าเริงอีกครั้ง
อาจารย์พูดถูกทุกอย่าง ในเมื่อผมเลือกเดินในทางสายนี้แล้ว ทำไมไม่ใช้โอกาสนี้ซะละ ถ้าได้เป็นชู่หม่าจริงๆ
ผมก็จะสามารถใช้ฐานะนี้ ทำให้ผู้คนมากมายได้รับการคุ้มครองจากเผ่าจิ้งจอก
ในอนาคตเมื่อเจอผีร้าย ผีชั่ว กุ่ยซานหยวน หรือพวกองค์กรตาผีชั่ว ขอแค่ร้องขอความช่วยเหลือจากเผ่าจิ้งจอก พาคนไปช่วย ผมยังจะต้องกลัวพวกมันอีกรึไง
“ อาจารย์ ผมเข้าใจแล้ว ” ผมพูดกับอาจารย์อย่างจริงจัง
เมื่ออาจารย์ได้ยินคำตอบของผม เขาก็พยักหน้าเล็กน้อย “ งั้นก็รีบไปนอนเถอะ ! อีกสามวันพวกเราจะไปศาลเจ้าหลักเมืองด้วยกัน ! ”
“ อือ ” หลังจากนั้นผมก็ถือโทรศัพท์เข้าไปในห้อง
เมื่อเข้ามาในห้อง ผมก็ไม่อยากนอน จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
พบว่าเกมเมื่อก่อนหน้า ได้ขึ้นคำว่า “ แพ้ ” ไว้ หลังจากผมออกจากเกม ก็มีข้อความมากมายเด้งขึ้นมา
ผมกวาดสายตามองรอบหนึ่ง พบว่าเฟิงเฉ่วหานและหยางเฉ่วเป็นคนส่งมา
ผมกดเปิดข้อความของเหล่าเฟิง มันมีแค่สี่คำเท่านั้น หมาแดกโทรศัพท์
ดูจากนิสัยของเขา ตอนนี้เขาคงออฟไลน์ไปแล้ว น่าจะหลับไปเรียบร้อยแล้ว
ผมส่ายหัวอย่างหดหู่ ดังนั้นจึงตอบกลับหนึ่งประโยค เมื่อกี้มีเรื่องนิดหน่อย อีกสามวันฉันต้องไปเป็นศิษย์สำนักหู !
หลังจากพูดจบ ผมก็กดเปิดดูข้อความของหยางเฉ่ว
ผลลัพธ์เมื่อเปิดดู ผมกลับกรอกตาทันที
เพราะผมพบว่าหยางเฉ่วพิมพ์ข้อความถึงห้าหกบรรทัด และทั้งหมดยังเป็นข้อความระบายความไม่พอใจของเธอ และด่าผมทั้งนั้น
ประมาณว่าโทรศัพท์ผมเน่าไปแล้ว ทำให้เธอแพ้เกมและต้องเสียเงินไปฟรีๆ แถมเธอยังบอกว่าผมเป็นพวกเสแสร้ง อ่อน จอมลวงโลก หมาแดกโทรศัพท์ ไม่เอาอ่าว และยังให้ผมชดใช้เงินที่เสียไปฟรีๆ……
ผมทำอะไรไม่ได้ จึงตอบกลับไปว่า เมื่อกี้มีเรื่องนิดหน่อย อีกสามวันฉันต้องไปเป็นชูหม่า !
หลังจากตอบเสร็จผมก็ไม่อยากเล่นเกมอีก จึงปิดโทรศัพท์และเริ่มนอนหลับ
แต่หลังจากนอนหลับ ผมกลับฝันอีกแล้ว
และความฝันนี้ยังเป็นครั้งที่สี่แล้ว มันก็คือความฝันเรื่องผู้หญิงชุดขาวนั่งอยู่บนสะพานหิน ที่ด้านล่างมีผีร้ายต่อตัวเป็นชั้นๆ
มันเป็นเหมือนกับก่อนหน้านี้ ผมมองไม่เห็นหน้าของผู้หญิง ได้เพียงแต่มองเธอ หลังจากเธอพูดว่า “ รอฉันก่อน ” ออกมา เธอก็กระโดดลงไปใต้สะพานทันที
ทุกครั้งที่ฝันถึงเรื่องนี้ ผมมักตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และตื่นขึ้นมาทุกครั้ง
ครั้งนี้เองก็เช่นกัน เมื่อผมตกใจตื่นขึ้นมา ก็เป็นเวลาเจ็ดโมงเช้าของอีกวันแล้ว
ตอนนี้ผมพบว่าหน้าผากของตัวเองชุ่มไปด้วยเหงื่อ หัวใจเต้นรัวด้วยความหวาดกลัว
ความฝันนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สี่แล้ว และเหตการณ์ยังเหมือนกันทุกๆอย่าง นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันจะต้องหมายถึงอะไรบางอย่าง
เพราะหลายวันมานี้พวกเราค่อยข้างยุ่ง ทั้งท่านนักพรตตู๋ และลุงหลิวยังมามีเรื่อง ผมจึงลืมเรื่องนี้ไปซะสนิท
แต่ตอนนี้ความฝันเกิดขึ้นอีกครั้งแล้ว ผมคิดว่าผมต้องเล่าเรื่องนี้ให้อาจารย์ฟัง
แต่ไม่รอให้ผมได้ลุกจากเตียง โทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆกลับดังขึ้น
เมื่อหยิบมาดู ผมก็พบว่าหยางเฉ่วโทรมา
หลังจากรู้ว่าเป็นหยางเฉ่ว ผมก็นิ่งไปพักหนึ่ง ในใจกำลังคิดว่าเธอจะโทรมาด่าเรื่องทิ้งเกมเมื่อคืนอีกไหมนะ
แต่ผมก็ยังกดรับโทรศัพท์ โทรศัพท์เพิ่งถูกกดรับ ทันใดนั้นเสียงหยางเฉ่วก็ดังขึ้น “ ติงฝาน เรายังไม่คุยกันเรื่องเกมเมื่อคืน นายจะไปเป็นชูหม่าเหรอ เกิดอะไรขึ้น ”
“ เอ่อ ! เมื่อคืนทิ้งเกมเพราะเรื่องนี้ ต่อไปฉันจะเอาคืนให้เธอนะ ส่วนเรื่องชูหม่า อีกสองวัน ฉันจะเป็นศิษย์สำนักหู ถึงตอนนั้นพวกเราจะไปที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และต่อไปก็จะมีคนหนุนหลัง…… ” ผมค่อยๆเล่า
เมื่อหยางเฉ่วได้ยินว่าเป็นเรื่องจริง เธอก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา ถามผมรัวๆว่าจะเป็นศิษย์สำนักหูได้ยังไง และยังถามผมเป็นลูกศิษย์ ของใครมีฐานะอะไร
เป็นลูกศิษย์รุ่นที่เท่าไหร่ของสำนักหู เป็นรุ่นสามหรือรุ่นสี่
เรื่องรุ่นสามรุ่นสี่ หมายถึงลำดับอาวุโสของคนในเผ่าจิ้งจอก จากการนำของนางพญาจิ้งจอกคนปัจจุบัน เธอน่าจะอยู่ในรุ่น 150 ปีอย่างต่ำ
แต่เมื่อผมได้ยินคำว่ารุ่นสามรุ่นสี่ ก็รู้สึกเหมือนโดนดูถูก
อาจารย์ของผมคือนางพญาจิ้งจอกเลยนะ รุ่นสามรุ่นสี่อะไร มันเอามาเทียบกันได้ด้วยเหรอ
“ ฮ่าๆ ” ผมไม่ได้ตอบกลับทันที
เมื่อหยางเฉ่วเห็นผมเงียบ เธอจึงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ ติงฝาน นาย นายคงไม่ได้ขายตัวเอง ไปเป็นศิษย์เทพเจ้ารุ่นที่ห้าหรอกนะ ”
ผมกรอกตาใส่โทรศัพท์ทันที “ เทพเจ้าที่รุ่นห้าบ้าบออะไร ฟังให้ดีนะ อาจารย์ของฉันไม่ใช่เซียนรุ่นห้า แต่เป็นนางพญาเผ่าจิ้งจอก หัวหน้าเผ่าจิ้งจอก ! ”