spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 226 สงครามเย็น
เมื่อเห็นบ้านที่ว่างเปล่า ตัวผมก็เริ่มรู้สึกโทษตัวเอง ตอนมู่หลงเหยียนพูดประโยคสุดท้ายออกมา เหมือนเธอกำลังเสียใจ
ผมพูดแรงไปรึเปล่า
แม้ผมจะไม่อยากเป็นคนสำนักหู และไม่อยากเป็นลูกศิษย์ของจิ้งจอก แต่ผมก็เป็นเหมือนที่มู่หลงเหยียนและอาจารย์พูดเอาไว้ ถ้าผมเป็นชูหม่า ในอนาคตผมก็เป็นคนของเผ่าจิ้งจอก และได้รับการคุ้มครองจากจิ้งจอก
ไม่ใช่แค่ดีกับผม มันยัง ส่งผลดีต่อการกำจัดองค์กรตาผี และการกำจัดหมอผีชั่วในอนาคตด้วย
ผมสงบลงไม่น้อย หลังจากถอนหายใจออกมา ผมก็หมุนตัวกลับเข้าไปในห้อง
นอนมองเพดานที่มืดมิดเป็นเวลาเนินนาน แต่ผมก็หลับตานอนไม่ได้
เมื่อคิดถึงเรื่องในคืนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเอาไก่ไปให้ ถูกซ้อม เจอเย่เฟิง คารวะเซียนจิ้งจอกและสุดท้ายก็เรื่องมู่หลงเหยียนมาร้องไห้ต่อหน้าอาจารย์บอกให้ยอมเป็นชูหม่า
ทุกเรื่องล้วนเกี่ยวข้องกับมู่หลงเหยียน ในสมองของผมเต็มไปด้วยเรื่องของผีตนนี้
ผมทั้งเกลียดและไม่พอใจ แต่ผมกลับไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไป
ผมโมโหมาก แต่เรื่องนี้ กลับไหลเข้ามาในสมองไม่หยุด ผมอดคิดถึงมู่หลงเหยียนไม่ได้
แต่จะพูดว่าเกลียดขนาดไหน ผมกลับไม่ได้เกลียดเธอจริงๆ และเกลียดเธอไม่ลงด้วยซ้ำ
อารมณ์และความรู้สึกแปลกๆนี้ ทำให้ตัวเองนอนไม่หลับทั้งคืน
จนกระทั่งฟ้าใกล้สว่าง ผมถึงได้นอนหลับไปพักหนึ่ง
เช้าวันรุ่งขึ้นผมทำเหมือนเดิมทุกอย่าง ตื่นขึ้นมาจุดธูปให้มู่หลงเหยียน
แต่ครั้งนี้ผมกลับเจอปัญหา ธูปในมือของผม ไม่ว่าจะทำยังไง มันก็จุดไม่ติด
ครั้งสองครั้งยังไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อครั้งสามครั้งสี่ ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ
ทำงานในสายงานของพวกเรา ธูป เทียน เงินกระดาษพวกนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่ส่งให้กับคนตาย
จู่ๆถ้าของพวกนี้เกิดความผิดปกติ เราก็ต้องคิดว่าอาจเป็นเพราะคนตายไม่ยอมรับมัน
ผมขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ มองที่ป้ายวิญญาณของมู่หลงเหยียน หลังจากนั้นก็จุดไปอีกสองสามครั้ง แต่มันยังเป็นเหมือนเดิม ผมยังจุดไม่ติด
อาจารย์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อาจารย์ปู่เห็นผมจุดธูปอยู่นาน เขาจึงหันมาพูดกับผมว่า “ เสี่ยวฝาน เป็นอะไร ”
“ อาจารย์ ธูปนี้ มันไม่ติดไฟ ! ” ผมพูดตามความจริง
เมื่ออาจารย์ได้ยิน เขากลับทำตาเบิกกว้าง เผยสีหน้าหนักใจออกมา
เขามองไปที่ป้ายวิญญาณมู่หลงเหยียน หลังจากนั้นก็ถอนหายใจออกมา “ เฮ้ย ! ไอ้เด็กเวรนี่ เหมือนเมียแกจะยังโกรธอยู่นะ เลิกจุดได้แล้ว ไปเอาผลไม้มาให้เมียแก แล้วก็ขอโทษเธอซะ ! ”
“ อาจารย์ ผมไม่ได้ทำร้ายเธอนะ ! แล้วผมก็ไม่ผิดด้วย ” ผมพูดต่อ ผมรู้สึกไม่พอใจ
แต่อาจารย์กลับโบกมือ “ ไม่ว่าแกจะเป็นคนผิดรึเปล่า แต่เมียแกก็ทำเพื่อแก พวกเรายังไม่ต้องพูดถึงเรื่องลูกศิษย์ พูดแค่เรื่องที่แกทำร้ายเมีย ไม่ว่าเมียแกจะเป็นคนหรือผี แกเป็นผู้ชาย จะไปทำร้ายผู้หญิงได้ยังไง ”
อาจารย์เริ่มสอนผมอย่างจริงจัง แต่คำพูดพวกนี้ กลับทำให้ผมอารมณ์เสีย
ผมทำร้ายมู่หลงเหยียนเหรอ นี่มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นกันเหรอ ผมเคยทำร้ายมู่หลงเหยียนที่ไหนละ เมื่อคืนคนที่โดนทำร้ายน่ะผมต่างหาก ผมก็แค่ลวนลามเธอครั้งเดียว และมันก็เป็นเพราะมู่หลงเหยียนบังคับผมเอง
ดังนั้น ผมจะต้องอธิบายให้อาจารย์ฟังอย่างชัดเจน
ผลลัพธ์อาจารย์กลับยื่นมือมาห้ามผม “ พูดมากไปก็เท่านั้น ตอนนี้เมียแกกำลังโมโห ทางที่ดีแกควรจะง้อเธอ แกน่าจะเข้าใจความสัมพันธ์ของพวกแก ถ้าเมียแกอยากจะทำอะไรแก อาจารย์ก็ช่วยแกไม่ได้นะ ! ”
เมื่อได้ยินอาจารย์พูดแบบนั้น ในใจของผมก็มีเสียงดัง “ กึก ” รู้สึกเย็นวาบที่ขาทั้งสองข้าง
ผมพูดในใจว่าจบกัน ทำไมผมไม่คิดถึงเรื่องนี้นะ
มู่หลงเหยียนชอบขู่ผมบ่อยๆ ถ้าเธอต้องการทำอะไรผมจริงๆ ชีวิตหลังจากนี้ของผมคงไม่ได้ไปเดินเที่ยวที่เมืองไหนอีกแล้ว……
เมื่อคิดได้ผมก็ตัวสั่นทันที ผมไม่กล้าเถียงต่อ รีบกลืนน้ำลายแล้วยกมือขึ้นคารวะป้ายวิญญาณมู่หลงเหยียน “ น้องศพ ! ฉันผิดเอง เธอหายโกรธเถอะนะ ฉันขอโทษ ! ”
หลังจากพูดจบ ผมยังหยิบกระดาษมาเผา
กระดาษติดไฟ แต่ธูปยังคงไม่ไหม้
ผมเองก็ไม่ได้รอให้มู่หลงเหยียนตอบกลับ ผมเข้าใจดี มู่หลงเหยียนจะต้องโกรธอยู่
สิ่งที่ผมควรทำผมก็ทำแล้ว คำขอโทษผมก็พูดแล้ว เรื่องชูหม่าผมก็ยอมแล้ว ตอนนี้ผมทำได้เพียงรอให้มู่หลงเหยียนหายโกรธเท่านั้น
ดังนั้นในสองสามวันที่ผ่านมานี้ เมื่อผมมีเวลาว่างผมก็มักจะมาจุดธูปที่ป้ายวิญญาณตลอด ลองดูว่าสามารถจุดได้ไหม
บางครั้งก็สามารถจุดได้ แต่หลังจุดได้ไม่นาน มันก็ดับโดยอัตโนมัติ
อีกอย่างช่วงสองสามวันมานี้ ใจผมก็ไม่สงบมาโดยตลอด ผมมักรู้สึกอารมณ์เสียบ่อยๆ
ผมคิดว่าจะไปที่ป่ากุ่ยหม่าดีไหม ไปพูดกับมู่หลงเหยียนด้วยตัวเอง แต่ผมกลับทิ้งศักดิ์ศรีที่ตัวเองมีไม่ได้
เวลาผ่านไปราวอาทิตย์นึงแล้ว ประมาณสี่ทุ่ม ผมกำลังนอนเล่นเกมออนไลค์อยู่บนเตียงกับเหล่าเฟิงและ
หยางเฉ่ว !
แต่ทันใดนั้น ไฟในห้องก็กระพริบสองครั้ง “ พรึบพรึบ ” จากนั้นก็ดับลงทันที
ผมคิดว่าแค่ไฟดับธรรมดา ผมจึงไม่ได้สนใจ
แต่ทันใดนั้น นอกห้องกลับมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น “ ก๊อกก๊อกก๊อก ”
เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู ผมก็ตะโกนออกไปข้างนอกว่า “ ใคร ! ”
ขณะที่พูด ผมก็ลุกขึ้นจากเตียง แล้วเดินไปที่ประตู
เพราะพวกเราเปิดร้านขายของเกี่ยวกับงานศพ บางครั้งมักมีคนตายกลางดึก ครอบครัวก็จะมาซื้อธูป เทียน กระดาษเงินกระดาษทองอะไรพวกนั้น
แต่ผมเพิ่งเดินออกไปไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นข้างนอกก็มีเสียงแหบของยายแก่ดังขึ้น “ คุณผู้ชาย ยายเองเจ้าค่ะ ! ”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ ผมก็ตกใจทันที
ยายโม่ ทำไมยายโม่มาหาผมดึกขนาดนี้
ผมไม่ได้ลังเล วางโทรศัพท์ลงแล้วรีบเปิดประตูทันที
ขณะที่เปิดประตูออก ยายโม่หลังโก่ง หน้ามีรอยย่น ในมือถือไม้เท้ามังกรก็ได้ยืนอยู่ตรงหน้าของผม
“ ยายโม่ ทำไมยายมาที่นี่ละ เชิญเข้ามาข้างในครับ ! ” ผมรีบพูด
แต่ยายโม่กลับหัวเราะ “ ฮึฮึ ” “ ไม่ได้เจ้าค่ะคุณผู้ชาย ข้าน้อยมาเพื่อพูดแทนคุณหนู ! ”
พูดแทน ป้ายวิญญาณมู่หลงเหยียนก็อยู่ที่นี่ เมื่อก่อนเวลาจะพูดอะไรกับผมเธอก็พูดผ่านป้ายวิญญาณ ตอนนี้กลับใช้ให้ยายโม่มาพูดแทน จะเห็นได้ว่ามู่หลงเหยียนยังโกรธ และไม่ยอมคุยกับผมตรงๆ
ผมเงียบไปแป๊บหนึ่ง จากนั้นก็พูดออกมาทันที “ ยายโม่ เธอพูดอะไรเหรอครับ ”
“ คุณผู้ชาย คุณหนูให้ข้าน้อยมาบอกคุณว่า หลังจากนี้สามวันเป็นฤกษ์ดี ให้คุณเตรียมของเซ่นไหว้ ไปที่ศาลเจ้าหลักเมือง เพื่อเจอคนสำนักหูเจ้าค่ะ ! ” ยายโม่พูดด้วยเสียงแหบแห้ง
“ สามวัน มันเร็วมากเลยนะครับ ” ผมพูดด้วยความตกใจ
แต่ยายโม่กลับส่ายหน้า “ คุณผู้ชาย ครั้งนี้อย่าปฏิเสธความตั้งใจของคุณหนูเลยเจ้าค่ะ เพื่อเรื่องชูหม่า คุณหนูถึงกับไปเขาจิ้งจอกด้วยตัวเอง พบนางพญาจิ้งจอก ชูหม่าครั้งนี้ นางพญาจิ้งจอก จะลงเขามารับศิษย์ด้วยตัวเอง ถ้าทำสำเร็จ ในอนาคตภายในอาณาเขตเฉินเซียน คุณจะได้รับการดูแลจากสำนักหู ”
เมื่อได้ยินยายโม่พูดแบบนั้น ผมก็อดไม่ได้ที่จะดีใจ
มู่หลงเหยียนไม่ได้กำลังโกรธผมอยู่เหรอ แต่เธอกลับไปเขาจิ้งจอกด้วยตัวเอง เพื่อเชิญนางพญาจิ้งจอกมาทำพิธีชูหม่าให้ผม
ผมรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่รู้จะตอบกลับยังไง
ยายโม่เห็นผมเงียบ เธอจึงหัวเราะ “ ฮ่าฮ่าฮ่า ” หลังจากนั้นก็แสดงสีหน้าหนักใจอีกครั้ง “ คุณผู้ชาย ข้าน้อยมีเรื่องอยากจะพูดแต่ไม่รู้ว่าควรพูดออกมาดีไหม ! ”
เมื่อเห็นยายโม่พูดแบบนั้น ผมก็รีบพูดทันที “ ยายโม่มีอะไรก็พูดออกมาตรงๆเถอะครับ ผมแค่ฟังเท่านั้น ! ”
ยายโม่พยักหน้าเล็กน้อย “ คุณผู้ชาย ช่วงเวลาที่คุณหนูก้าวผ่านมา เป็นเวลา 300 ปีเต็มๆ ในเมื่อคุณผู้ชายและคุณหนูมีวาสนาต่อกัน ได้แต่งงานกันแล้ว ข้าน้อยก็หวังว่าคุณผู้ชายจะดูแลคุณหนูอย่างดี และข้าน้อยก็ดูออก ว่าอาการบาดเจ็บที่คุณหนูได้รับ หลังจากแต่งงานกับคุณผู้ชาย…… ”