spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 210 พูดคุย
มันเห็นได้ชัดมาก จิ้งจอกเฒ่าที่ปรากฎตัวก่อนหน้านี้ และเรื่องศพที่เหล่าฉินเคยเล่าตอนไปดื่มเหล้า จะต้องเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน
แต่สิ่งที่ผมคิดไม่ถึงคือ ภูเขาเก่าแก่ในละแวกนี้ มีจิ้งจอกเฒ่าที่ปีกกล้าขาแข็งแล้วอาศัยอยู่จริงๆ
เมื่อก่อนเคยได้ยินคนพูดถึง แต่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน และได้ยินเรื่องการตอบแทนบุญคุณของจิ้งจอกมาบ้าง ส่วนตำนานและเรื่องราวจิ้งจอกแก้แค้นนั้น ผมไม่ได้เก็บมาใส่ใจเท่าไหร่
แต่ตอนนี้ผมได้เจอกับตัวแล้ว จึงทำให้ผมได้เปิดมุมมองอีกครั้ง
แต่ผมไม่ได้เจอกับวิญญาณจิ้งจอก แต่เป็นจิ้งจอกชั่วตัวเป็นๆ
ลุงหลิวบาดเจ็บ ทุกอย่างเป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งนั้น เขาทำอะไร ก็แค่ได้รับแจ้ง ให้ไปเก็บศพ หลังจากนั้นก็ทำตามขั้นตอนนำศพไปเผา เขาไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายเลยสักนิด
แต่ผลลัพธ์ละ กลับถูกจิ้งจอกเฒ่าบุกมา กัดคอเขาถึงที่
ในเวลาเดียวกัน จู่ๆเหล่าฉินก็บ่นออกมา “ จู่ๆเจ้าจิ้งจอกเฒ่าก็มา และยังหาสุสานของพวกเราเจอ ถ้าเราจัดการเรื่องนี้ไม่ได้ ในอนาคตสุสานของพวกเรา ต้องร้อนเป็นไฟแน่ ! ”
อาจารย์พยักหน้าเล็กน้อย เขาพูดออกมาอย่างรุนแรง “ แม่มันซิ เหล่าฉินสบายใจได้ พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด ก่อนเผาศพของจิ้งจอกตัวนั้น ไม่มีใครรู้ว่าเป็นจิ้งจอก และอีกอย่าง ยังไงเราก็เผาไปแล้ว เจ้าจิ้งจอกตัวนั้นไม่ได้บอกว่าอยู่สันเขาหยางกวางเหรอ พรุ่งนี้พวกเราก็ไปหามัน ถ้ามันไม่เลิก พวกเราก็จะให้มันได้ไปไม่กลับ ! ”
เมื่อท่านนักพรตตู๋ได้ยิน เขาก็พูดออกมาบ้าง “ ศิษย์พี่ ถึงเจ้าจิ้งจอกชั่วนี้จะต่อกรด้วยยาก แต่พวกเราเป็นคนปราบสิ่งชั่วร้าย เราก็ไม่ใช่สิ่งที่มันจะแหย่เล่นได้ง่ายๆ ! ถ้าพรุ่งนี้คุยกันไม่รู้เรื่อง พวกเราก็ไม่ต้องเกรงใจแล้ว ! ”
อาจารย์และท่านนักพรตตู๋แสดงความคิดเห็นติดกัน เหล่าฉินเองก็กำลังโมโหสุดๆ
ลุงหลิวทำงานที่สุสานมา 10 กว่าปี เขามีความสัมพันธ์อันดีกับเหล่าฉิน
นอกจากเรื่องความสัมพันธ์แล้ว เขายังเป็นเพื่อนสนิท เขาเคยได้ดื่มสังสรรค์กันอย่างสนุกสนานกับอาจารย์ของผมหลายต่อหลายครั้ง
ตอนนี้ลุงหลิวเกิดเรื่อง เหล่าฉินจึงโมโหเป็นฝืนเป็นไฟ
“ ฮึ ! ถ้าพรุ่งนี้เจ้าจิ้งจอกเฒ่านั้นไม่พูดกับฉันให้ชัดเจน ฉันก็จะเผาเจ้าเดรัจฉานนั้น…… ”
ตอนที่เหล่าฉินกำลังพูด หมอที่กำลังพันแผลให้ลุงหลิวกลับเดินออกมา “ ญาติผู้ป่วย ! ”
เมื่อได้ยินเสียงหมอเรียก พวกเราก็รีบเดินเข้าไปหา
“ คุณหมอ เพื่อนของผมเป็นยังไงบ้าง ” เหล่าฉินพูด
“ ญาติทั้งหลาย แผลที่คอของผู้ป่วยค่อนข้างใหญ่ โรงพยาบาลของเราค่อนข้างมีข้อจำกัด ทางเรากำลังเตรียมตัวส่งเขาไปโรงพยาบาลในเมือง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ไม่จำเป็น ! ” หมอพูดตรงมาก
เหล่าฉินพยักหน้า และพูดขอบคุณ
อาการบาดเจ็บของลุงหลิวเป็นยังไงบ้าง พวกเรารู้ดีที่สุด
ถูกจิ้งจอกเฒ่าฉีกเนื้อออกไปบางส่วน ถึงจะไม่ได้ทำลายเส้นเลือดใหญ่ แต่ตำแหน่งที่ได้รับบาดเจ็บก็เป็นคอที่เป็นอวัยวะสำคัญ
ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น มันจะอันตรายถึงชีวิต
ในเวลาเดียวกัน ท่านนักพรตตู๋ก็เข้าไปดู อาการเขาคงที่แล้ว แต่ก็ยังมีอันตรายอยู่
ท่านนักพรตตู๋ให้ลุงหลิวกินยาพิเศษเม็ดหนึ่ง บอกว่ามันจะทำให้หัวใจของลุงหลิวเต้นสม่ำเสมอ
หลังจากนั้น เหล่าฉินก็ติดต่อคนในครอบครัวของลุงหลิว ต่อมาตัวเองก็ตามขึ้นรถพยาบาลไปโรงพยาบาลในเมือง เขาบอกว่าพรุ่งนี้เช้าจะกลับมา
ส่วนพวกเรา ก็แยกย้ายกลับบ้านของตัวเอง รอให้ถึงวันพรุ่งนี้ แล้วค่อยไปสันเขาหยางกวางพร้อมกัน
ระหว่างทาง ผมถามอาจารย์ว่า อาจารย์รู้เรื่องจิ้งจอกไหม พวกมันต่อกรด้วยยากรึเปล่า จิ้งจอกแบบนี้มีพลังเยอะมากใช่ไหม
แต่อาจารย์กลับหัวเราะเล็กน้อย “ เจ้าสัตว์เดรัจฉานนี้สามารถพูดได้ แกว่าพลังของมันเยอะไหมละ ถ้าไม่มีพลังที่สะสมมาร้อยสองร้อยปี จะต้องพูดภาษาคนไม่ได้แน่นอน ! พรุ่งนี้ตอนไปสันเขาหยางกวาง ต้องเอาอาวุธไปให้พอ แม้แต่เสื้อเกาะป้องกันหัวใจก็ต้องเอาไป เพราะพวกจิ้งจอกชอบกินหัวใจคน ไม่อย่างนั้นอาจถูกกรงเล็บของมันควักหน้าอก…… ”
อาจารย์อธิบายอย่างละเอียด เขาเครียดกับมันมากๆ
ผมฟังแล้วก็ยังตกใจและหวาดกลัว เพราะรู้ว่าจิ้งจอกเฒ่าจะต้องต่อกรด้วยยาก
หลังกลับมาถึงบ้าน อาจารย์กลับไม่พูดอะไรกับผมมาก เพียงบอกให้ผมพักผ่อนให้เพียงพอ เรื่องของวันพรุ่งนี้ ก็ค่อยคุยกันวันพรุ่งนี้
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมก็นอนพลิกไปพลิกมาบนเตียง
ผมคิดถึงฉากที่จิ้งจอกเฒ่าปรากฎตัวครั้งแล้วครั้งเล่า ภาพนั้นไม่จางหายไปซะที มันช่างน่ากลัวจริงๆ
เมื่อก่อนเคยได้ยินว่า จิ้งจอกที่ปีกกล้าขาแข็งแล้วไม่ใช่แค่พูดได้ มันยังสามารถแปลงเป็นคนได้
ตอนฟังผมไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้ได้เห็นกับตาแล้ว ถึงผมจะเป็นคนปราบสิ่งชั่วร้าย แต่ก็ค่อนข้างตกใจ
ผมนอนไม่หลับจริงๆ จึงนั่งสูบบุหรี่บนเตียง
แต่ผมเพิ่งจุดบุหรี่ ทันใดนั้นในห้องก็เย็นขึ้นมาทันตา เหมือนอุณหภูมิจะลดลงมาหลายองศา
จู่ๆก็เกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น สัญชาตญาณบอกผมว่าท่าไม่ดีแล้ว ในเวลาเดียวกันผมก็เริ่มระแวง
แต่ไม่รอให้ผมได้ทำอะไร ทันใดนั้นเสียงหวานๆ ก็ดังขึ้นในหัวของผม “ เจ้ากาก มาที่หลังเขา ! ”
เสียงที่น่าสะพรึงกลัวดังขึ้นในหัวของผม วินาทีนั้นผมจึงตกใจทันที
แต่ต่อมาผมก็ผ่อนคลายลงไม่น้อย เพราะน้ำเสียงนี้ เป็นเสียงมู่หลงเหยียนผีเมียของผม
แต่ดึกดื่นขนาดนี้ ทำไมจู่ๆมู่หลงเหยียนถึงเรียกผมละ
ยัยขี้โมโหนี้ วันๆก็อยู่แต่ในบ้านผีที่ป่ากุ่ยหลินไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมดึกขนาดนี้ เธอยังเรียกผมไปหาอีกละ
ผมพูดตามจิตใต้สำนึก “ ดึกขนาดนี้ มีอะไรเหรอ ”
“ พูดมาก นายยังไม่หลับไม่ใช่เหรอ บอกให้มาก็มาเถอะ ! เร็วๆด้วยละ ถ้านายไม่มาละก็ ฉันจะไปหาเอง ! ” มูหลงเหยียนระเบิดพลังโมโห เธอขู่ผมทันที
ผมกลอกตา คงต้องทำตามที่มู่หลงเหยียนสั่งเท่านั้น
“ ได้ เดี๋ยวฉันไป ! ” ผมพูดด้วยความไม่พอใจ
ผลลัพธ์เสียงผมเพิ่งเงียบลง ทันใดนั้นมู่หลงเหยียนก็พูดออกมาอีกครั้ง “ เจ้ากาก นายไม่พอใจใช่ไหม ถ้านายกล้าลีลา นายตายแน่ ! ”
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา สีหน้าผมก็เปลี่ยนไปทันที
ยัยผีเมียของผมดุร้ายจริงๆ ผมก็มีความรู้สึกนะ
ผมจะกล้าลีลาอยู่ได้ยังไง ผมรีบตอบกลับทันที “ อย่าอย่าอย่า ฉันจะรีบไป รีบไปเดี๋ยวนี้แหละ ! ”
หลังจากพูดจบ ผมก็รีบใส่รองเท้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็รีบวิ่งติดจรวดออกจากบ้านไปทันที
ผมก็ไม่รู้ว่ามู่หลงเหยียนต้องการอะไร แต่ผมทำอะไรได้ละ ! ใครใช้ให้ผีเมียของผมเป็นยัยขี้โมโหและยังเป็นผีผู้หญิงที่แตะต้องไม่ได้อีก
ผมวิ่งหน้าตั้ง เมื่อมาถึงหลังเขา ผมก็หายใจหอบเหนื่อย
ผมไม่รู้ว่ามู่หลงเหยียนอยู่ที่ไหน ดังนั้นผมจึงตะโกนไปรอบๆป่า “ น้องศพ น้องศพ น้องศพเธออยู่ไหน…… ”
เสียงดังก้องไปทั่วป่า แต่ผมยังไม่เห็นมีอะไรออกมา ผมจึงตะโกนต่อ
“ น้องศพ น้อง…… ”
ผลลัพธ์ผมยังพูดไม่จบ ทันใดนั้นด้านหลังของผมก็มีเสียงมู่หลงเหยียนดังขึ้น “ เลิกตะโกนได้แล้ว ฉันอยู่นี่ ! ”
เมื่อได้ยินเสียงดังจากข้างหลัง ผมก็รีบหันไปมองทันที
เมื่อหันไป ผมก็เห็นสาวงามยืนอยู่ไม่ไกล
ภายใต้แสงจันทร์ ผู้หญิงในชุดกระโปรงลายดอกไม้สีขาว ปล่อยผมยาวสลวย เป็นสาวงามที่ทำให้ผู้คนต้องหวั่นไหวจริงๆ
นี่ไม่ใช่มู่หลงเหยียน แล้วจะเป็นใครได้ละ
“ น้องศพ เธออยู่นี่เอง ! ” ผมหัวเราะฮ่าๆ หลังจากนั้นก็วิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
มู่หลงเหยียนกลอกตาใส่ผม เมื่อเห็นผมวิ่งเข้ามา ทันใดนั้นเธอก็หยิบกล่องเล็กๆออกมา และยื่นให้ผมทันที “ นายเอานี่ไป ! ”
ผมเห็นมู่หลงเหยียนยื่นกล่องให้ผม ผมจึงแปลกใจมาก
ผมสำรวจมันสักพัก เห็นเป็นกล่องแปลกตาดูไม่ธรรมดา มีลวดลายดอกไม้หลากสี และไม่รู้ว่าข้างในมีอะไรอยู่
“ น้องศพ นี่คืออะไร ” ผมพูดด้วยความสงสัย
แต่มู่หลงเหยียนกลับไม่พอใจ เธอพูดออกมาทันที “ บอกให้เอาไปก็เอาไปซิ พรุ่งนี้ถ้าจิ้งจอกเฒ่านั้นกล้าทำอะไรรุนแรง นายก็หยิบเจ้านี้ออกมา…… ”