หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 192 ฮวงจุ้ย

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 192 ฮวงจุ้ย

ตามที่อู่ฮุ่ยฮุ่ยส่งที่อยู่มา พวกเราได้หาที่ตั้งกองถ่ายละครของอู่ฮุ่ยฮุ่ยเจอแล้ว

พวกเราเพิ่งลงรถ ผมและหยางเฉ่วก็เห็นคฤหาสน์หลังเก่าตั้งอยู่ไกลๆ

ภายในคฤหาสน์มีถนนเส้นเล็กๆตัดผ่าน มันขยายมาจนถึงถนนสายหลัก

ที่หน้าประตูยังมีป้ายติดอยู่หนึ่งแผ่น บนป้ายเขียนว่า “ สถานที่ถ่ายหนังพยาบาลตามหาผี ”

พยาบาลตามหาผี ผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ชื่อนี้แปลกดี

ผมไม่ลังเล พูดกับหยางเฉ่วที่อยู่ข้างๆทันที “ หยางเฉ่ว น่าจะเป็นที่นี่แหละ พวกเราเดินเข้าไปกันเถอะ ! ”

หยางเฉ่วพยักหน้า ดูท่าทางเธอจะตื่นเต้นมากๆ “ ฉันยังไม่เคยเห็นกองถ่ายมาก่อนเลย ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง ! ”

 

ผมไม่ได้พูดอะไร เพียงเดินตามถนนเส้นเล็กๆนั้นเข้าไปข้างใน

พวกเราเพิ่งเดินเข้ามาไม่นาน ภาพคฤหาสน์ทั้งหมดก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าของพวกเรา

คฤหาสน์ค่อนข้างเก่า ผนังกว่าครึ่งต่างมีเถาวัลย์เลื้อยพันกันไปมา บรรยากาศดูวังเวงมาก

ในเวลาเดียวกัน พวกเราก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายดังออกมาจากคฤหาสน์ ดูเหมือนมีคนทะเลาะกันอยู่

“ ผู้กำกับจาง หนังเรื่องนี้ถ่ายต่อไม่ได้แล้ว พวกเราเปลี่ยนสถานที่ถ่ายเถอะ ” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น

“ เปลี่ยนงั้นเหรอ เธอพูดว่าเปลี่ยนก็เปลี่ยนได้เลยเหรอ หนังเรื่องนี้ทุ่มทุนไปกว่า 200 ล้าน ตอนนี้จะเปลี่ยนสถานที่ถ่ายทำทันที งั้นเงิน 200 ล้านก็กลายเป็นกระดาษเปล่าซิ เธอจะให้ฉันไปบอกกับนักลงทุนว่ายังไง ”

“ แต่ว่า…… ”

 

“ ไม่มีคำว่าแต่ เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นแค่อุบัติเหตุต้องถ่ายทำให้เร็วกว่าเดิม ถ้าทำให้นักลงทุนไม่พอใจ ต่อไปพวกเราก็อย่าหวังว่าจะได้อยู่ในวงการนี้อีกเลย…… ”

เมื่อได้ยินเสียงเหล่านี้ ผมและหยางเฉ่วก็อดไม่ได้ที่จะทำหน้าสงสัย แต่พวกเราก็ยังเดินมาที่ประตู

ที่สวนหย่อมมีคนอยู่ แต่ที่หน้าประตูกลับถูกล็อคเอาไว้

ผมเคาะประตู “ ก๊อกก๊อกก๊อก ” เสียงเคาะเพิ่งดังสองสามครั้ง ทันใดนั้นก็มีคนตะโกนออกมาด้วยความไม่พอใจ “ ใครวะ ! ”

“ อู่ฮุ่ยฮุ่ยเรียกผมมา ! ” ผมพูดออกมาตรงๆ

เสียงของผมเพิ่งเงียบลง ทันใดนั้นด้านในก็มีเสียงร้องด้วยความตกใจ “ อร๊าย ! ติงฝาน ! ”

 

ขณะพูด ผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา “ แอร๊ด ” ประตูถูกเปิดออก

หลังจากประตูคฤหาสน์เปิดออก ผมก็เห็นหน้าอู่ฮุ่ยฮุ่ย

แต่อู่ฮุ่ยฮุ่ยในเวลานี้ กลับทำให้ผมยืนอึ้ง ดวงตาแทบจะหลุดออกมาจากเป้า

ผมเห็นอู่ฮุ่ยฮุ่ยในชุดที่เร้าร้อน กระโปรงผ้าไหมสั้นสีดำ เสื้อคอวีผ่าลึก

เสื้อผ้าพวกนั้นดูเล็กไปสองไซส์ เนินอกที่ขาวราวหิมะล้นทะลักออกมาจากเสื้อ

อู่ฮุ่ยฮุ่ยไม่ได้สนใจสายตาของผม เมื่อเห็นผมยืนอยู่หน้าประตู เธอก็ดูตื่นเต้นมาก “ ติงฝาน ในที่สุดนายก็มา มาเดี๋ยวฉันจะแนะนำนายให้รู้จักกับผู้กำกับจางของพวกเรา ! ”

หลังจากพูดจบ อู่ฮุ่ยฮุ่ยก็หมุนตัวเดินกลับไปด้วยความดีใจ “ ผู้กำกับจาง นี่คือติงฝานคนที่ฉันเคยพูดให้คุณฟัง…… ”

 

ผมอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย นี่มันกองถ่ายอะไรกัน ใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นขนาดนี้ ทำให้ผมแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว

ไม่รอให้ผมได้สติกลับคืนมา หยางเฉ่วที่อยู่ข้างๆกลับหยิกผมหนึ่งครั้ง ผมรู้สึกเจ็บที่แขน “ โอ๊ย เธอทำอะไรเนี่ย ”

ผมขมวดคิ้ว ลูบแขนตัวเองไปมา

ผลลัพธ์หยางเฉ่วกลับกลอกตาใส่ผม “ ไอ้ลามก ! ”

หลังจากพูดสองคำนี้จบ เธอก็ไม่แยแสเดินเข้าไปในสวนหย่อมทันที

แต่ผมกลับพูดไม่ออก ยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับสีหน้าอึดอัดใจ

ผมไม่ได้ตั้งใจมองซะหน่อย แต่ชุดตัวละครของอู่ฮุ่ยฮุ่ยเปิดเยอะเกินไปต่างหาก

 

บวกกับที่เธอรูปร่างหน้าตาดี ดังนั้นจิตใต้สำนึกเลยบอกให้ผมมองหน่อยก็เท่านั้น

แต่ผมสาบานได้ ผมไม่ได้คิดอกุศล ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ได้เป็น “ ไอ้ลามก ” อย่างที่หยางเฉ่วพูด

ผมไม่มีเวลาอธิบาย จึงทำได้เพียงเดินเข้าไปในสวนหย่อม

เพิ่งเข้ามาในสวนหย่อม ผมก็กวาดสายตามองไปรอบๆหนึ่งครั้ง

ผมพบว่าบริเวณสวนหย่อมค่อนข้างมืดมน และ การวางแนวและสไตล์ของสวนหย่อม ยังดูมีปัญหาสุดๆ

แม้ด้านฮวงจุ้ยของผมจะไม่โดดเด่นมาก แต่เรื่องฮวงจุ้ยทั่วๆไป ผมยังพอมีความรู้อยู่บ้าง

 

พูดตามหลัก บ้านหันหน้าไปทางทิศใต้ หลังติดภูเขาข้างติดแม่น้ำ พื้นที่ร่มรื่นล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ เห็นวิวทิวทัศน์ทั้งเหนือใต้ โดยรวมกลมกลืนเข้าด้วยกัน นี่เป็นหลักการพื้นฐานในการสร้างบ้าน

แต่คฤหาสตรงหน้า กลับตรงกันข้ามทุกอย่าง

จะมองยังไงก็ไม่เหมือนบ้านคน เหมือนกับบ้านที่สร้างไว้ให้คนตาย

ไม่หันไปทางเหนือหรือใต้ หน้าบ้านอยู่ทางตะวันตก กำแพง (เหล็ก) ทางทิศใต้ ด้านหลังมืดมิดเพราะปกคลุมไปด้วยภูเขา ไม่ใช่แค่ไม่ตรงกับฮวงจุ้ยของบ้านคน ยังสร้างให้สวนหย่อมมีรูปแบบ “ ปิดตาย ”

“ ปิดตาย ” ก็คือเหมือนมีอะไรมาครอบมันเอาไว้

 

คนบ้าที่ไหนจะมาอยู่ที่นี่ นี้มันไม่ใช่การนอนอยู่ในหลุมศพคนตายหรอกเหรอ

เพิ่งเข้ามาในสวนหย่อม ผมก็รู้สึกถึงสายลมเย็นๆ และพลังหยินที่รุนแรง

ไม่ใช่แค่นี้ ผมยังกวาดสายตามองคนในกองถ่ายหนึ่งรอบ

พบว่าสีหน้าของคนในกองต่างขาวซีด ที่จุดยิงถาง(ระหว่างคิ้ว)กลายเป็นสีดำ สีหน้าแย่มาก

ขณะที่ผมกำลังสำรวจรอบๆ เก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ผู้กำกับจางที่อู่ฮุ่ยฮุ่ยพูดถึงก็เดินเข้ามา

ผู้กำกับจางเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างผอม ตอนนี้เขาขมวดคิ้วจนเป็นปม การมาถึงของผมและหยางเฉ่ว ไม่ได้ทำให้เขาดีใจขึ้นมา

 

แต่อู่ฮุ่ยฮุ่ยยังแนะนำอย่างต่อเนื่อง “ ผู้กำกับจาง นี่คือคุณติงเขาทำงานนี้มาหลายปี เป็นคนมีวิชาจริงๆ ปัญหาที่พวกเราเจอ เขาจะต้องจัดการได้อย่างแน่นอน ! ”

หลังจากพูดจบ อู่ฮุ่ยฮุ่ยก็หันมาพูดกับผม “ ติงฝาน ท่านนี้คือผู้กำกับจาง ! ”

เมื่อเห็นอู่ฮุ่ยฮุ่ยแนะนำ ผมก็คลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย “ สวัสดีครับ ! ”

ขณะที่พูด ผมยังเอื้อมมือออกไปตามมารยาท

แต่ผู้กำกับจางกลับกวาดสายตามองผม ไม่มีทีท่าว่าจะจับมือกับผมเลยสักนิด เขาถามกลับว่า “ คุณติงใช่ไหม ! ไม่ทราบว่าปีนี้คุณอายุเท่าไหร่ ”

 

ผมอึ้งเล็กน้อย จากน้ำเสียงที่ดูถูกเหยียดหยามและเย่อหยิ่งของอีกฝ่าย ทำให้ผมรู้ว่า เจ้าหมอนี้กำลังดูถูกผมอยู่ !

เมื่ออู่ฮุ่ยฮุ่ยที่อยู่ข้างๆได้ยิน เธอก็รู้ทันทีว่ามันมีเจตนาไม่ได้ เธอจึงลำบากใจมาก

เพราะผมถูกเธอเรียกมา ตอนนี้ผมกลับไม่เป็นที่ต้อนรับ เธอจึงรู้สึกผิด

แต่นี่เป็นเรื่องปกติ เพราะผมอายุน้อยจริงๆ

แม้ว่าในใจจะอารมณ์เสีย แต่ผมกลับไม่แสดงท่าทางผิดแผกออกมา

ผมไม่ได้ร้อนรน หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด จากนั้นก็พูดว่า “ แม้แต่ในเมฆฝนยังมีมังกรซ่อนอยู่ แม่น้ำทุกสายยังสามารถท่วมแผ่นดิน สุสานหรือบ้านคน ตามฮวงจุ้ย สถานที่แห่งนี้ปกคลุมไปด้วยภูเขาที่มืดมน มีสิ่งลี้ลับซ่อนเร้น ถ้ากองถ่ายของพวกคุณไม่จัดการเจ้าสิ่งนั้น คิดจะถ่ายหนังต่อที่นี่ ก็คงต้องตายอีกสองสามคน…… ”

 

เมื่อคำพูดนี้หลุดออกไป ผู้กำกับจางก็นิ่งอึ้งไปในทันที

แต่ผมกลับหันไปมองอู่ฮุ่ยฮุ่ย หยิบยันต์ออกมาจากกระเป๋าคาดเอวยื่นให้เธอหนึ่งแผ่น จากนั้นก็พูดว่า “ เจ้านี้จะคุ้มครองเธอ แต่อย่าอยู่ที่นี่นานจนเกินไป ! ”

หลังจากพูดจบ ผมก็เรียกหยางเฉ่ว เตรียมตัวจะเดินออกไป

หยางเฉ่วไม่ได้พูดอะไร เมื่อได้ยินผมพูดว่าจะออกไป เธอก็ไม่แสดงทีท่าอยากอยู่ต่อเลยสักนิด

แต่พวกเราเพิ่งเดินออกมาได้สองก้าว ผู้กำกับจางคนนั้นก็ได้สติ เขารีบพูดออกมาทันที “ ท่านนักพรตอย่าเพิ่งไป…… ”

เมื่อได้ยินอีกฝ่ายเรียกผม ที่มุมปากของหยางเฉ่วก็อดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้ม

 

แต่ผมกลับแสดงสีหน้าเคร่งขรึม และไม่หันกลับไปมอง “ ผู้กำกับจางยังมีอะไรอีกรึเปล่า ”

“ ท่านนักพรต เมื่อกี้ผมไม่ดีเอง ในเมื่อท่านนักพรตมาแล้ว จะไม่เข้ามาดูกองถ่ายของพวกเราหน่อยเหรอครับ…… ” ผู้กำกับจางพูดด้วยความร้อนรน และเดินอ้อมมาที่ด้านหน้าของผม

ก่อนถ่ายทำ เขาได้ตรวจสอบฮวงจุ้ยที่อยู่รอบๆอย่างง่ายๆและรวดเร็วแล้ว

ตอนนี้เมื่อเขาลองคิดทบทวนคำพูดสองสามประโยคนั้นของผม ยึดตามรูปแบบฮวงจุ้ยของที่นี่ มันก็ลงตัวพอดี

แต่ผมเพิ่งมาถึงที่นี่ไม่นาน กลับมองฮวงจุ้ยของที่นี่ออกในทันที ถึงแม้ผมจะไม่ใช่ยอดฝีมืออะไร แต่ก็เป็นคนมีวิชาคนหนึ่ง

 

บวกกับคำพูดประโยคสุดท้ายของผม ถ้าไม่จัดการ “ เจ้าสิ่งนั้น ” จะต้องมีคนตาย นี่จึงทำให้เขากลัวมาก

ในฐานะผู้กำกับ เขาไม่อยากให้กองถ่ายเกิดเรื่องขึ้นอีก ดังนั้นเขาจึงลดศักดิ์ศรีลง เรียกผมว่าท่านนักพรต

เมื่อได้ยินประโยคนี้ ผมจึงอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย “ ผู้กำกับจาง คุณไม่ได้ดูถูกว่าผมอายุน้อยเหรอ ”

“ ไม่ไม่ไม่ เมื่อกี้ผมโง่เอง คิดไม่ถึงว่าท่านนักพรตติงจะดูฮวงจุ้ยของที่นี่ออก เป็นคนมีวิชาจริงๆ ! ตอนนี้กองถ่ายของพวกเราเจอปัญหาจริงๆครับ ไม่อย่างนั้นคุณก็เห็นแก่หน้าของฮุ่ยเอ๋อเถอะครับ ช่วยกองถ่ายของพวกเราด้วย…… ” ดูเหมือนผู้กำกับจางจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ท่าทางเหย่อหยิ่ง ที่ไม่คิดจะหันมามองเมื่อกี้ เหมือนชายสองคนที่ต่างกันสุดขั้ว

หลังจากฮุ่ยเอ๋อฟังจบ เธอก็พูดเสริมทันที “ ใช่แล้วติงฝาน ! นายช่วยกองถ่ายของพวกเราด้วยนะ ! ไม่อย่างนั้น ไม่อย่างนั้นพอตกกลางคืน พวกเรา พวกเราก็จะนอนไม่หลับอีก…… ”

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.