หน้าแรก > ศพ
ตอนที่ 63 กินวิญญาณ

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 63 กินวิญญาณ

จู่ๆก็ได้ยินเสียงกรีดร้อง พวกเราทุกคนจึงตกใจ

รีบหันไปมองนอกวัดทันที แต่เพียงเสี้ยววินาที ด้านนอกก็มีเสียงแมวร้องติดๆกัน

“เมี๊ยว! เมี๊ยวเมี๊ยว!”

เสียงดังกังวาน และดุร้ายมาก

ใบหน้าของทุกคนมืดมนลง ไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น

“ไป ไปดูกัน!” ผู้อาวุโสหวางพูดออกมาคนแรก

เมื่อได้ยินผู้อาวุโสหวางพูด ทุกคนก็ไม่รอช้า ผมและเฟิงเฉ่วหานพุ่งออกไปจากวัดเป็นคนแรก

 

พวกเราวิ่งตรงไปยัง ทิศทางที่มีเสียงแมวกรีดร้องเมื่อก่อนหน้านี้

เพียงแค่แป๊บเดียว พวกเราก็วิ่งเข้ามาให้กอหญ้าหนาทึบ

พวกเราพึ่งเข้ามาในพุ่มหญ้า ก็ได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ต่อมาก็มีพวกแมวแก่ๆแผดเสียงออกมา

เมื่อได้ยินเสียงแปลกประหลาดพวกนี้ ฝีเท้าของพวกเราก็เพิ่มความเร็วขึ้นทันที

เดินไปข้างหน้าได้ประมาณ 1 นาที พวกเราก็แหวกหญ้าออก ทันใดนั้นร่างกายของพวกเราก็แข็งทื่อ

เพราะด้านของพวกเรา กำลังมีผีชุดขาวนอนอยู่หนึ่งตน

และผีตนนั้น ก็คือหนึ่งในสิบวิญญาณที่พวกเราปล่อยออกมาเมื่อกี้

 

ตอนนี้วิญญาณตนนั้นกำลังถูกแมวป่าฝูงหนึ่งกดไว้กับพื้น จนไม่สามารถต่อต้านได้แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นเขากำลังโดนแมวป่ากัดกิน แม้วิญญาณตนนั้นจะพยายามดิ้นรน

แต่มันก็ไม่ได้ผล ทำได้เพียงร้องโอดครวญออกมาเบาๆ

แมวดำกลุ่มนั้นมีลวดลายที่แตกต่างกันออกไป แต่หนึ่งในนั้นมีแมวดำหนึ่งตัว รูปร่างใหญ่เป็นพิเศษ และเด่นสะดุดตาที่สุด

มันก็คือแมวดำที่โตมากับการกินเนื้อคนตาย ตอนนี้มันกำลังกัดที่คอของวิญญาณอย่างแรง ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยจากวิญญาณเลยสักวินาที

ทันใดนั้นดวงตาสีเขียวคู่นั้น ก็หันมาจ้องผมและเฟิงเฉ่วหานอย่างไม่วางตา

 

ปากของมันยังแผดเสียงร้อง “ฮือฮือฮือ” ออกมา ดูท่าจะเกลียดชังผมสองคนโครตๆ

เห็นได้ชัดว่า แมวกลุ่มนี้ไม่ใช่แมวธรรมดาๆ

เพราะแมวพวกนี้สามารถกดวิญญาณไว้ได้ แถมยังกัดกินอย่างกับอาหาร ราวกับเห็นว่าตรงหน้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ

จะต้องเป็นแมวศพที่เจ้าผีชั่วและปรมาจารย์กุ่ยเลี้ยงมาแน่ มันเคยกินเนื้อศพ และคงเป็นสัตว์พิเศษที่เคยกินวิญญาณผีเร่ร่อนแถวนี้แน่

ไม่อย่างนั้นก็คงไม่สามารถจับวิญญาณมารุมกัดกินได้แบบนี้ แถมวิญญาณตนนั้นยังไม่สามารถต่อต้านได้อีกด้วย

เมื่อพวกเราเห็นสิ่งนี้ วิญญาณตนนั้นก็เห็นผมและเฟิงเฉ่วหานเช่นกัน

 

แม้คอของเขาจะถูกกัดอยู่ ร่างกายก็ถูกกัดกินอย่างต่อเนื่อง แถมจิตวิญญาณข้างในก็ยังถูกดูดอย่างไม่ขาดสาย

แต่วิญญาณตนนี้ยังเหลือสติอยู่ เขามองพวกเรา และพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง “นัก นักพรต ช่วย ช่วยฉัน……”

เสียงพึ่งจางหาย จู่ๆแมวดำที่กัดคอเขาก็แผดเสียงออกมา “เมี๊ยว!”

มันกัดแรงยิ่งกว่าเดิม หัวของมันสะบัดไปมา ฉีกกระชากคอนั้นอย่างบ้าคลั่ง

ส่วนวิญญาณที่ถูกกัดคอ ทันใดนั้นวิญญาณต่อหน้าของพวกเรา

ก็มีเสียงระเบิดดัง “ปัง” วิญญาณของเขาก็แตกสลาย หายไปทันที

ส่วนแมวดำตัวนั้น และแมวที่อยู่รอบๆอีกเจ็ดแปดตัว หลังจากที่วิญญาณตนนั้นหายไป พวกมันก็สูดหายใจหนึ่งครั้ง

 

ราวกับกำลังดูดซับเศษเสี้ยววิญญาณที่เหลืออยู่ของผีตนนั้น มาบำรุงร่างกายของตัวเอง

เมื่อเห็นสิ่งนี้ สีหน้าของผมและเฟิงเฉ่วหานก็มืดมนลงทันที

โอหัง ไอ้พวกสัตว์เดรัจฉาน กล้าฆ่าวิญญาณบริสุทธิ์ต่อหน้าพวกเรา ช่างน่ารังเกียจจริงๆ!

“ไอ้เดรัจฉานสมควรตาย!” หลังจากพูดจบ ผมก็ยกดาบไม้ขึ้นและพุ่งเข้าไปหาพวกมันทันที ผมอยากจะสับแมวพวกนั้นให้ตายคามือ

พวกชั่วแบบนี้จะเหลือไว้ไม่ได้ ถึงจะไม่มีผีชั่วและปรมาจารย์กุ่ยคอยเลี้ยงดู แต่สัตว์เดรัจฉานพวกนี้ก็สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้

 

และดูจากท่าทาง เจ้าพวกเดรัจฉานนี้คงไม่ได้ทำเรื่องนี้เป็นครั้งแรก

ถ้าไม่ฆ่ามัน ในอนาคตวิญญาณบริสุทธิ์จำนวนมากก็จะถูกมันทำร้ายอีกแน่!

ขณะที่ผมกำลังจะลงมือ เฟิงเฉ่วหานที่อยู่ข้างๆก็ไม่ลังเล ยกดาบไม้ขึ้นและพุ่งเข้าไปเช่นกัน

แต่แมวป่าพวกนี้ไม่กลัวคนเลยสักนิด ไม่ใช่แค่ไม่กลัว เมื่อเห็นพวกเราพุ่งเข้ามา พวกมันกลับร้อง “เมี๊ยวเมี๊ยว” ออกมาไม่หยุด มันแสดงท่าทางดุร้าย เห็นได้ชัดว่าพวกมันกำลังตื่นเต้น

เสียงของพวกมันดังมาก เมื่อได้ยินในยามค่ำคืนแบบนี้ เหมือนกับได้ยินเสียงของเด็กทารกที่กำลังร้องไห้อยู่ มันฟังดูหลอนมากๆ

เมื่อผมเข้าไปใกล้ แมวพวกนั้นก็กระโดดหลบ และพุ่งเข้าไปรุมเฟิงเฉ่วหานทันที

 

หัวของแมวพวกนี้ค่อนข้างใหญ่ และมีความคล่องตัวสูงมาก

นอกจากนี้กรงเล็บของพวกมันยังคมมากอีกด้วย พึ่งเข้าไปใกล้เท่านั้น หน้าของผมก็ถูกข่วนแล้ว

บาดแผลดูไม่ลึกมาก แต่มันก็แสบ

“เดรัจฉานสมควรตาย!”

ผมด่ามันทันที จากนั้นก็กวัดแกว่งดาบไปทั่ว

มีแมวหนึ่งตัวหลบไม่ทัน มันจึงถูกผมฟาดเข้าไปที่หัวทันที

ผมได้ยินแค่เสียง “เมี๊ยว” จากนั้นร่างของแมวป่าก็กระเด็นออกไป

 

นอนชักกระตุกอยู่บนพื้น ที่หัวของมันยังอาบไปด้วยเลือด

เมื่อแมวดำที่อยู่นอกสุดเห็น ดูเหมือนมันจะโกรธมาก มันร้องเสียงดังมาก

ขณะเสียงร้องนั้นดังขึ้น แมวป่าที่อยู่รอบๆก็รีบเข้าไปโจมตีเฟิงเฉ่วหานอย่างบ้าคลั่ง

พวกมันกระโดดขึ้นมาทั้งข่วนและกัดพวกเรา นอกจากนี้แมวพวกนี้ยังรวดเร็วมาก มันมีความยืดหยุ่นมาก แถมจับตัวได้ยากจริงๆ

แต่ทันใดนั้นเอง อาจารย์ นักพรตตู๋ ผู้เฒ่าหวางและนักพรตโปที่วิ่งตามมาก็มาถึง

พวกเขาพึ่งแหวกหญ้าออก ก็เห็นผมสองคนกำลังต่อสู้กับฝูงแมว พวกเขาเองก็ตกตะลึง

แต่เมื่อมองให้ละเอียด กลับมีบางอย่างผิดปกติ

 

บนตัวของแมวป่าฝูงนี้มีกลิ่นศพแรงมาก หัวพวกมันใหญ่กว่าแมวทั่วๆไปเยอะมาก

แถมยังดุร้ายผิดปกติ ลำคอมีลักษณะพิเศษ ดวงตากดต่ำ จะต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ

เหล่าฉินเป็นคนหงุดหงิดง่ายที่สุด เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ เขาก็โมโหขึ้นมาทันที “ไอ้สัตว์เดรัจฉานตายซาก วันนี้ฉันจะฆ่าพวกแก!”

หลังจากพูดจบ เหล่าฉินก็พุ่งออกมาเป็นคนแรก

เมื่ออาจารย์ นักพรตตู๋และนักพรตโปเห็นแบบนั้น ก็ต่างวิ่งเข้ามาช่วยทันที

พลังของทั้งสามคนสูงกว่าผมและเฟิงเฉ่วหานมาก เมื่อทั้งสามคนลงมือพร้อมกัน ก็ช่วยลดแรงกดดันให้ผมและเฟิงเฉ่วหานได้ทันที

 

ตอนนี้เหล่าฉินเองก็ดุดันกว่าปกติ เขาจับหางของแมวป่าตัวหนึ่งเอาไว้ แล้วยกขึ้นมาและจับมันฟาดลงไปกับพื้นทันที

ถึงแมวตัวนั้นจะร้ายกาจ แต่ก็ไม่สามารถหยุดการฟาดของเหล่าฉินได้

มันร้องออกมาสองครั้ง จากนั้นก็ถูกทุบจนเละเลือดไหลนอง หัวแตก ……ไหลทะลักออกมาทั้งหมด

อาจารย์ นักพรตตู๋ และนักพรตโป ก็ฆ่าได้คนละตัว

เพียงชั่วพริบตา แมวกลุ่มนั้นก็ตายไปกว่าครึ่ง

เมื่อแมวดำเห็นสถานการณ์ไม่ดี มันจึงส่งเสียงเรียกแมวที่เหลืออีกสามตัว จากนั้น ก็หมุนตัววิ่งเข้าไปในกอหญ้าทันที!

เมื่อผมเห็นว่ามันจะหนีไป ผมจะเต็มใจให้มันทำแบบนั้นได้ยังไงละ

 

ผมจับดาบไม้แน่น “ไอ้เดรัจฉาน!”

หลังจากพูดจบ ก็ไล่ตามไปทันที

อาจารย์ เฟิงเฉ่วหานและคนอื่นๆ เองก็วิ่งตามมาอย่างรวดเร็ว

จะปล่อยแมวพวกนี้ไปไม่ได้เด็ดขาด ถ้าปล่อยเอาไว้มันจะเป็นหายนะ

แต่หลังจากพวกเราไล่ตามเข้ามาในกอหญ้าก็พบว่า ในภูมิประเทศแบบนี้ พวกเราไม่สามารถไล่ตามเจ้าพวกนี้ได้

กอหญ้าพวกนี้สูงเท่าตัวคน แมวพวกนั้นก็ไม่เหมือนกับตอนที่พวกเราเจอมันครั้งแรก ครั้งแรกมันจงใจล่อพวกเราไปที่วัดร้าง

 

ดังนั้นพวกเราจึงสามารถตามหลังพวกมันไปได้ ตั้งแต่ต้นจนจบก็ยังสามารถเห็นตัวมันได้อยู่

แต่ตอนนี้มันกำลังหนีเอาตัวรอด ดังนั้นความเร็วที่ใช้จึงไม่เหมือนกับตอนแรกเลยสักนิด

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ พวกเราพึ่งไล่ตามมาได้ไม่ถึง 100 เมตร ก็ไม่เห็นเงาของพวกเดรัจฉาไม่กี่ตัวนั้นแล้ว

ผมไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

เมื่อเหล่าฉินเห็นพวกมันหนีไปได้ ก็ด่าออกมาทันที “สมควรตาย!”

ท่านนักพรตตู๋มองไปรอบๆ จากนั้นก็รีบพูดว่า “ศิษย์พี่ ป่ารกร้างห่างไกลแบบนี้ คงหาตัวพวกมันได้ยาก แต่แมวศพสองสามตัวนี้ถึงจะดูเป็นภัยอยู่บ้าง แต่คนเลี้ยงก็ตายไปแล้ว พวกมันก็ไม่น่ากังวลมากเท่าไหร่ วันหน้าถ้ามีโอกาสค่อยกลับมาจัดการพวกมันเถอะ……”

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.