spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
บทที่ 278: สี่บรรพบุรุษที่ยิ่งใหญ่
ในเขตชานเมืองของอาณาจักรเพลิงแดงเป็นที่ราบขนาดใหญ่ มีผู้เข้าร่วมทั้งหมดเกือบสี่แสนคนมารวมกันที่นี่
ใบหน้าของผู้เข้าร่วมประชุมแทบไม่มีความตื่นเต้น พวกเขาเพิ่งได้รับแจ้งว่าบุคคลระดับสูงสุดของสี่นิกายที่ยิ่งใหญ่กำลังจะมาถึงและประกาศกฎการคัดเลือกให้กับพวกเขา
พวกเขาได้ยินว่าผู้บริหารของทั้งสี่นิกายจะมาถึงพร้อมกับบรรพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่คน
บรรพบุรุษอันยิ่งใหญ่ทั้งสี่คนนี้เป็นตำนานที่มีอยู่ภายในสิบหกอาณาจักร
สาวกของนิกายยังไม่เคยได้เห็นพวกเขาเลย ไม่ต้องพูดถึงสาวกสามัญเหล่านี้
ระดับอาวุโสของนิกายก็ไม่ใช่ว่าจะได้เจอบรรพบุรุษเพียงเพราะพวกเขาต้องการ
บรรพบุรุษเป็นตัวแทนของอำนาจสูงสุดในพันธมิตร พวกเขาอยู่ยงคงกระพัน พวกเขาถือชีวิตและความตายอยู่ในฝ่ามือ
เมื่อพวกเขาได้ยินว่าบรรพบุรุษจะมาพูดคุยกับพวกเขา จึงเป็นเหตุให้เหล่าสาวกหนุ่มกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข
เยาวชนบางคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีจินตนาการอันล้ำเลิศ พวกเขาฝันว่าตัวเองมีศักยภาพพิเศษบางอย่างที่ดึงดูดสายตาของบรรพบุรุษ พวกเขาทำมันได้จริงและเดินออกไปท่ามกลางฝูงชน
หลายคนมีจินตนาเพ้อฝันอันบ้าคลั่งดังกล่าว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยแรกรุ่นที่มักจะไม่ปิดบังเกี่ยวกับฝันกลางวันเพ้อเจ้อของตนเอง อายุของช่วงวัยแรกรุ่นและอายุยี่สิบปีขึ้นไปเป็นช่วงอายุที่เต็มไปด้วยจินตนาการ
หลายคนไม่เคยเห็นระดับสูงสุดของสี่นิกายที่ยิ่งใหญ่ ไม่ต้องพูดถึงบรรพบุรุษ
อย่างไรก็ตาม การแสดงออกของเจี้ยงเฉินก็สงบเหมือนหัวใจของเขา
เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อชื่นชมและเฝ้ามองผู้บริหารระดับสูงอย่างคนโง่ เขามาที่นี่เพื่อศึกครั้งสุดท้าย
แม้ว่าตอนนี้จะมีเพียงแค่กลุ่มของผู้ฝึกฝนสามัญ เจี้ยงเฉินไม่อาจให้หัวใจของเขามีอะไรมาหันเหความสนใจได้
ด้วยความรู้ของเขา มันเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับเขาที่จะตื่นเต้นเมื่อได้เห็นผู้ฝึกฝนอาณาจักรต้นกำเนิดแม้หลังจากที่เขากลับชาติมาเกิด ถึงแม้ผู้ฝึกฝนคนอื่นจะบูชาคนเหล่านี้อย่างมากมายก็ตาม
ในชีวิตที่ผ่านมา แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกฝนอาณาจักรต้นกำเนิดเป็นแสน ๆ เท่า พวกเขาก็สุภาพมากต่อหน้าเจี้ยงเฉิน
เขาเพิกเฉยต่อบรรยากาศที่ร้อนแรงรอบ ๆ ตัวเขา ขณะที่เขาเปิดทักษะหัวใจดั่งศิลาชั่วคราว เข้าสู่สภาพของการทำสมาธิ
เมื่อมีคนสี่แสนคนมาชุมนุมกัน ถึงแม้ว่าทุกคนจะกระซิบ แต่ฉากก็เหมือนกับหม้อที่เดือดพล่านอย่างต่อเนื่องและมีเสียงโห่ร้องอย่างไม่หยุดหย่อน
โฮ้ !
เสียงคำรามก็ดังขึ้นในอากาศเหมือนเสียงฟ้าร้อง
มันกระจายตัวไปในเสียงกระหึ่มของฟ้าร้องนับไม่ถ้วนและดูเหมือนจะปกคลุมท้องฟ้าในทันที ทำให้เลือดของทุกคนเดือดและทุกคนในที่ราบจึงเงียบกริบอย่างฉับพลัน
ผู้ฝึกฝนสี่แสนคนสงบนิ่งไร้เสียง
"ฮ่าฮ่า นักล่าตะวัน เจ้าปีศาจเก่าแก่ เจ้ากำลังแสดงอิทธิฤทธิ์ของตัวเองเพื่อโอ้อวดตั้งแต่เริ่มแรกเลยรึ?" อีกหนึ่งเสียงคำรามที่น่าเกรงขามดังขึ้นผ่านอากาศ
มี 4 ลำแสงสว่างฉีกผ่านเมฆ เต็มไปด้วยรัศมีของความเคร่งขรึมอันศักดิ์สิทธิ์ ราวกับว่าสิ่งมีชีวิตบนท้องฟ้าลงมาบนพื้นโลก แสงและความงดงามส่องประกายขึ้นมาผ่านท้องฟ้า
การปรากฏตัวที่แข็งแกร่งล้อมรอบพื้นที่ของพันลี้ทันที
ในการทำสมาธิ เลือดของเจี้ยงเฉินสูบฉีดขึ้นเล็กน้อย ทำให้เขาต้องเปิดตาและใช้ทักษะนัยน์ตาของพระเจ้ามองขึ้นไป
ลำแสง 4 แสงบินฉวัดเฉวียนอยู่ในอากาศในสี่พื้นที่ที่แตกต่างกัน
ชาย 3 คน หญิง 1 คน ผู้ที่บรรลุอาณาจักรต้นกำเนิด 4 คน !
"สี่บรรพบุรุษของนิกาย !" หัวใจของเจี้ยงเฉินวิ่งออกมาออกมาขณะที่เขาจ้องมองไปที่สี่ร่างที่ยืนอยู่ที่นั่นราวกับว่าพวกเขาเป็นเทพเจ้าที่ลงมาบนพื้นโลก
รัศมีแข็งแกร่งเช่นนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนจากเย่ชองหลิว เจี้ยงเฉินไม่สงสัยเลยว่านี่คือสี่คนที่ควบคุมอำนาจหลักและทรัพยากรภายในสิบหกอาณาจักร ยืนเป็นตัวแทนของสี่นิกายที่ยิ่งใหญ่
นิกายตะวันม่วง นิกายพฤกษาสวรรค์ นิกายวายุคลั่ง และนิกายจิตมหัศจรรย์
เจี้ยงเฉินจ้องมองไปยังผู้อาวุโสคนที่ 2 จากด้านซ้าย สวมเสื้อคลุมสีเขียวและสวมหมวกเหมือนมงกุฎบนศีรษะ ความรู้สึกที่ลึกลับไหลออกมาจากร่างของเขาขณะที่หนวดยาวห้อยลงมาถึงหน้าอก ความรู้สึกของความเงียบสงบกระจายออกมาจากระหว่างคิ้วของเขา ราวกับว่าเขาวางตัวออกห่างจากการแข่งขันแย่งชิงของโลก
"ชายคนนี้น่าจะเป็นอาวุโสพันใบแห่งนิกายพฤกษาสวรรค์" เจี้ยงเฉินเดา
ผู้อาวุโสคนแรกที่อยู่ด้านซ้ายเขาสูงและแข็งแกร่ง สายตาของเขาเหมือนสายฟ้ามีแสงสว่างที่รุนแรงน่าเกรงขาม อาภรณ์สีแดงเปล่งประกายทั่วทั้งตัว เหมือนกับเปลวเพลิงลุกโชนขณะที่เขาเคลื่อนไหวและทำให้ผู้อื่นรู้สึกราวกับว่าเขาสามารถส่งโลกเข้าสู่เปลวเพลิงได้
เจี้ยงเฉินมั่นใจได้ว่าชายคนนี้เป็นผู้อาวุโสของนิกายตะวันม่วง นักล่าตะวัน
คนที่สามจากด้านซ้ายเป็นผู้หญิงที่สะอาดเหมือนน้ำแข็งและบริสุทธิ์เหมือนหยก นางสวมเสื้อผ้าสีขาว นางดูเหมือนนางฟ้าท่ามกลางก้อนเมฆ นางเป็นหญิงวัยกลางคนแต่นางยังดูงดงามมาก
นางต้องเป็นผู้อาวุโสละอองน้ำแข็งแห่งนิกายวายุคลั่ง
คนทางด้านขวาเป็นคนที่มีร่างกายกำยำ ชุดของเขาแปลกที่สุดในบรรดาทั้งสี่ เนื่องจากเสื้อผ้าของเขาขาดราวกับหางของนกกระทาซึ่งดูค่อนข้างกระเซิง เขามีผมดกมากเหมือนกับสิงโตที่สะบัดผมลงไปบนไหล่อย่างฉับพลัน สัตว์วิญญาณที่อยู่ใต้ตัวเขาแปลกยิ่งกว่าเพราะมี 9 หัว ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ลงตัวกับคนที่บ้าพลังและแข็งแกร่งเช่นเขา การปรากฏตัวที่รุนแรงของทั้งสองทำให้คนอื่น ๆ เคารพและยำเกรง
บุคคลนี้น่าจะเป็นอาวุโสเก้าสิงโตแห่งนิกายจิตมหัศจรรย์
เจี้ยงเฉินเคยได้ยินเกี่ยวกับบรรพบุรุษอันยิ่งใหญ่ทั้งสี่คนจากเย่ชองหลิว และแม้ว่าเขาจะขาดความรู้ที่ถูกต้อง แต่เขาก็ยังสามารถแยกแยะว่าใครเป็นใครได้ตอนนี้ จากการที่เขาได้เห็นพวกเขาด้วยตัวเอง
พวกเขาเป็นผู้ฝึกฝนอาณาจักรต้นกำเนิด แค่เพียงอักษรเดียวที่ออกมาจากปากของพวกเขาก็เพียงพอที่จะทำให้สถานที่แห่งนี้เงียบลง แม้แต่ผู้ฝึกฝนระดับเทพวิญญาณจะไม่สามารถสร้างแสงรัศมีนี้ได้
เจี้ยงเฉินยกย่องพวกเขาในใจ
"ใช่แล้ว ... พวกเขาคือสี่บรรพบุรุษ !"
"ผู้ฝึกฝนอาณาจักรต้นกำเนิด ให้ตายซิ ข้ากำลังฝันอยู่รึเปล่า? "
"ฮ่า ๆ พวกเขาจริง ๆ ด้วย ! ท่านปู่ ข้าได้เห็นบรรพบุรุษอันยิ่งใหญ่ 4 คนแล้ว ! ขอให้ท่านอยู่อย่างสงบสุขในหลุมและปกป้องข้าเพื่อให้ข้าออกมาจากฝูงชนในการคัดเลือกและกลายเป็นศิษย์ส่วนตัวของพวกเขา! ข้าจะใช้โอกาสที่จะนำความยิ่งใหญ่และเกียรติยศไปสู่บรรพบุรุษเพื่อที่ข้าจะได้เดินด้วยความภาคภูมิใจ! "
หลังจากที่ทุกคนกลายเป็นหินระยะหนึ่ง กลุ่มคนที่มีระดับการฝึกที่สูงที่สุดจากทั้งหมดสี่แสนคนได้ฟื้นสติเป็นคนกลุ่มแรก ความคิดของพวกเขาเต็มไปด้วยความวุ่นวายขณะที่ริมฝีปากของพวกเขาสั่นและน้ำตาไหลมารวมตัวกันในขอบตา
บรรพบุรุษอันยิ่งใหญ่ทั้งสี่คนนี้เป็นเทวทูตของสิบหกอาณาจักร ซึ่งเป็นคนที่ทุกคนบูชาอย่างแท้จริง !
พวกเขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าและเต็มไปด้วยน้ำตาไหลพรากเมื่อพวกเขาเห็นว่าพวกบรรพบุรุษเดินทางมาด้วยตนเอง
มีอีกหลายร่างโผล่ออกมาจากอากาศ อย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้รู้ตำแหน่งของพวกเขาและพบที่ยืนของตัวเองเบื้องหลังบรรพบุรุษ
เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้เป็นผู้บริหารระดับสูงของนิกาย ผู้พิพากษาในการคัดเลือกรอบแรก
"นักล่าตะวัน ท่านชอบสร้างสถานการณ์ ทำไมท่านไม่เริ่มก่อนล่ะ?" ผู้อาวุโสเก้าสิงโตคนที่บ้าพลังและแข็งแกร่งพูดด้วยรอยยิ้มและสะบัดผมที่หลุดลุ่ยของตัวเอง
อาวุโสนักล่าตะวันแห่งนิกายตะวันม่วงยิ้มเฉย ๆ และไม่ได้ปฏิเสธ เขาดึงสัตว์วิญญาณที่ขี่อยู่ให้บินไปข้างหน้าเล็กน้อย
"บรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาของเต๋าศิลปะการต่อสู้ได้ไหลออกมาอย่างต่อเนื่องภายในราชอาณาจักรทั้งสิบหก โดยมีสี่นิกายหลักเป็นธงนำ บรรยากาศนี้ได้เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ แพร่กระจายไปยังอาณาจักรเพื่อนบ้านของสิบหกอาณาจักร วันนี้ เรามารวมกันที่นี่เพราะเวลาที่จะเลือกอัจฉริยะสำหรับนิกายมาถึงแล้ว หลังจากได้รับการปรึกษาหารือระหว่างสหายข้าผู้เชี่ยวชาญด้านเต๋าศิลปะการต่อสู้ และข้า วันนี้เราจะให้โอกาสแก่ผู้ฝึกฝนสามัญที่จะก้าวหน้าเหนือสหายของเจ้า โอกาสที่จะทำให้ตัวเองมีชื่อเสียงและเป็นที่จดจำ ชายชราคนนี้หวังว่าเจ้าจะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ในการเข้าสู่สถานที่ของเราและขุดพบศักยภาพของตัวเองอย่างละเอียด "
ผู้อาวุโสนักล่าตะวันเป็นที่รู้จักสำหรับบุคลิกเข้มงวด เขามักจะบีบบังคับ
"บางทีพวกเจ้าอาจจะคิดว่าไม่ยุติธรรมที่เจ้าจะต้องผ่านการคัดเลือกเบื้องต้นก่อนที่จะได้สิทธิ์ในการแข่งขันกับสาวกของนิกาย"
"ข้าบอกเจ้าได้ในตอนนี้ว่าไม่มีอะไรที่ไม่เป็นธรรมในเรื่องนี้ ความเป็นธรรมไม่เคยมีอยู่ในโลกเต๋าศิลปะการต่อสู้ เจ้าเกิดมาในโลกสามัญและพวกเขาเกิดมาในนิกาย จุดเริ่มต้นของพวกเจ้าแตกต่างกัน แม้ว่าเรื่องนี้อาจจะโหดเหี้ยม ในโลกของเต๋าศิลปะการต่อสู้ การเกิดมาในสถานที่ต่ำมักเป็นบาปดั้งเดิม"
"ตอนนี้ สี่นิกายจะให้โอกาสแก่พวกเจ้าที่จะหลุดพ้นจากโชคชะตาของการเกิดมาในสถานที่ต่ำและทำให้เจ้ามีโอกาสคล้ายกับปลาหลี่ฮื้อที่เปลี่ยนร่างตัวเองเป็นมังกร ถ้าพวกเจ้าใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ ข้าสัญญากับพวกเจ้าว่าทุกคนจะได้รับโอกาสเช่นเดียวกับสาวกของนิกาย ในการคัดเลือกรอบที่ 2 สาวกนิกายจะไม่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษและกฎจะไม่เอื้อประโยชน์แก่พวกเขา พวกเจ้าจะเห็นการแข่งขันที่เป็นธรรมเมื่อการคัดเลือกรอบ 2 มาถึง! "
ฝูงชนเริ่มหงุดหงิด การแข่งขันที่เป็นธรรม!
อย่างน้อยเก้าในสิบส่วนของสี่แสนคนกังวลเรื่องนี้
พวกเขากังวลว่าการที่ผู้ฝึกฝนสามัญเข้าร่วมก็เป็นเพียงพิธีเท่านั้น การต่อสู้ครั้งสุดท้ายจะถูกควบคุมโดยเหล่าสาวกของนิกาย
พวกเขากลัวว่าผู้ฝึกฝนสามัญอย่างพวกเขาจะเป็นเพียงตัวสำรอง
แต่คำพูดของผู้อาวุโสนักล่าตะวันได้ปัดเป่าความกลัดกลุ้มความลังเลของพวกเขาและทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้น
ถ้าไม่มีใครลำเอียงให้ความสำคัญต่อสาวกนิกายในการคัดเลือกรอบที่ 2 พวกเขาอาจจะมีโอกาส !
แม้ว่าพวกเขาจะไปไม่ถึงรอบ 16 คนสุดท้าย พวกเขายังคงมีโอกาสที่จะเข้าร่วมนิกายถ้าพวกเขาแสดงศักยภาพทั้งหมดของตัวเอง
หากพวกเขาเข้าร่วมนิกายได้ พวกเขาก็จะเป็นเหมือนปลาหลี่ฮื้อที่เปลี่ยนไปเป็นมังกรที่พุ่งทะยานเหนือน้ำออกจากโลกมนุษย์สามัญที่อยู่เบื้องหลัง!
"แน่นอนว่าอย่ามองโลกในแง่ดีด้วยเช่นกัน เนื่องจากมันคือการคัดเลือก มันจึงเป็นเรื่องที่รุนแรง การแข่งขันจะดุเดือด พวกเจ้าจะต้องเตรียมใจไว้สำหรับความสิ้นหวังในขั้นที่ว่าผู้คนพันคนพยายามบีบตัวลงบนสะพานไม้ "
เสียงของผู้อาวุโสนักล่าตะวันเป็นเหมือนระฆังดัง เขาเตือนผู้ฝึกฝนทุกคนว่าอย่าเพิ่งรีบดีใจมีความสุขกันจนลืมระวังตัว
"ตอนนี้พวกเจ้ามีประมาณสี่แสนคน แต่คนที่จะผ่านเข้าสู่รอบที่ 2 จะน้อยกว่าหมื่นคน หลังจากนั้นไม่เกินสามในสิบส่วนจะถูกเลือกโดยนิกาย กล่าวได้ว่าจากสี่แสนคนมีพียงสามพันคนเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปในนิกายได้ในท้ายที่สุด "
อัตราส่วน 3,000 คนจาก 400,000 คนเทียบเท่ากับการเลือก 1 คนจาก 100 คน.
อัตราส่วนนี้ช่างโหดร้ายจริง ๆ แต่สำหรับผู้ฟังด้านล่าง พวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ
สูงถึง 3,000 คน?
จำนวนนี้เกินความคาดหวังของพวกเขา
ผู้ฝึกฝนสามัญทั่วไปยังคงมีสติอยู่บ้างเมื่อเผชิญหน้ากับนิกาย พวกเขาทั้งปรารถนาที่จะเข้าร่วมนิกายและรู้ว่ามันยากแค่ไหนที่จะเดินเข้าไป
ในสายตาของพวกเขา 1,000 คนที่ได้เข้าร่วมนิกายก็มากพอแล้ว
ไม่มีใครคิดเลยว่านิกายจะรับถึง 3,000 คน!
เจี้ยงเฉินก็ถอนหายใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินจำนวนนี้ว่า "ดูเหมือนว่าสี่นิกายที่ยิ่งใหญ่จะรู้สึกตัวว่าถึงเวลาฉุกเฉินแล้ว การรับทั้งสามพันคนในครั้งเดียวหมายความว่าแต่ละนิกายจะได้รับสาวกเกือบพันคน "
นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่านิกายตื่นตระหนกมากเพียงใด