หน้าแรก > War Sovereign Soaring The Heavens
บทที่ 168 ซูถง

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

เซี่ยวฉวินอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัว ...รอยยิ้มขมขื่นค่อยๆเผยออกมา

มันคงไม่เป็นเช่นนั้น ใช่หรือไม่?

ชายในดวงใจของน้องสาวเซี่ยวหยู คงไม่บังเอิญเป็นต้วนหลิงเทียนหรอกนะ?

หากเป็นบุรุษคนอื่นเขายังคงพอมั่นใจและคิดแข่งขันอยู่บ้าง แต่หากเป็นต้วนหลิงเทียนแล้วล่ะก็..ตัวเขาย่อมรู้ขีดจำกัดตัวเองดี

ตัวเขานั้นเรียกได้ว่าห่างไกลจากต้วนหลิงเทียนหลายขุม....การเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับต้วนหลิงเทียน รังแต่จะทำให้เขาทุกข์ทรมานเสียเปล่าๆ

"อะไรเล่า แล้วพวกเจ้า 2 คนจะมองข้าทำไมกัน?" ต้วนหลิงเทียนที่ยังคิดถึงเรื่ององค์ชาย 3 อยู่แปลกใจเล็กน้อย หลังจากที่เขารู้สึกตัวแล้วพบว่าทั้ง 2 คนมองหน้าเขาอยู่ "นี่ๆ มีอะไรติดอยู่บนหน้าข้าหรือไม่"

เห็นได้ชัดว่าต้วนหลิงเทียนไม่ทันได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่ระหว่างเวี่ยวหยูและเซี่ยวฉวิน

"ไม่มีๆ" เซี่ยวฉวินส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม "ไปหาอะไรกินกันเถอะ"

กลุ่ม 3 คนของต้วนหลิงเทียนมาถึงโรงอาหารและนั่งรอได้สักพัก จนบริกรนำอาหารมาตั้งโต๊ะ ทว่ากลับไม่มีวี่แววของซูหลี่ และก็เทียนหูแม้แต่น้อย

"เฮ่ เหตุใดพวกมันมาช้านักเล่าวันนี้?" เซี่ยวฉวินกล่าวถามออกมา เขารู้สึกสงสัยมาก เพราะมันผิดวิสัย

"คงไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอกนะ?" คิ้วของต้วนหลิงเทียนพลันขมวดขึ้นมาเป็นปม นี่เพราะซูหลี่และเทียนหูมักจะมาตรงเวลาอยู่เสมอ ไม่เคยสายถึงขนาดนี้มาก่อน เขารู้สึกว่ามันผิดปกติ อีกทั้งเขายังสังหรณ์ใจแปลกๆ

"ต้วนหลิงเทียน!" ในตอนนี้เองพลันมีเสียงร้องกระวนกระวายดังขึ้นจากนอกโรงอาหารไกลๆ ร่างที่ส่งเสียงร้องนั้นค่อยวิ่งเข้ามาใกล้โรงอาหารมากขึ้นเรื่อยๆ

"เฮ่ นั่นเทียนหูนี่ แล้วทำไมมันมาคนเดียว ทั้งยังตะโกนเรียกข้าเช่นนั้น?"ต้วนหลิงเทียนย่อมจดจำคนที่วิ่งมาแต่ไกลได้ในพริบตา คิ้วของของเขาขมวดมากขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่จะเคลื่อนร่างไหววูบไหวปหาเทียนหูโดยพลัน

และพริบตาต่อมาต้วนหลิงเทียนก็มาถึงตัวเทียนหู เขาพบว่าตอนนี้ท่าทางของเทียนหูนั้นดูย่ำแย่นัก ภายในใจของหลิงเทียนพลันสังหรณ์ร้ายขึ้นมาทันที เขารีบกล่าวถามออกมาอย่างร้อนใจ "เทียนหู แล้วซูหลี่อยู่ที่ใดกัน?"

ตอนนี้เองเซี่ยวหยูและเซี่ยวฉวินก็พึ่งวิ่งมาถึง

"ซูหลี่ ... " รอยยิ้มขมขื่นและช่วยไม่ได้บังเกิดขึ้นที่มุมปากของเทียนหู ใบหน้าของมันหมองลงก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "ตอนนี้ซูหลี่กำลังถูกพวก บัดซบตะรกูลซูรุมล้อมอยู่"

คนของตระกูลซู?

อาจเป็นไปได้ว่าซูหลี่ กำลังมีปัญหากับตระกูลซูของเมืองหลวงหรือไม่?

ใบหน้าของต้วนหลิงเทียนดิ่งลงเล็กน้อย ตอนนี้ความเย็นชาราวกับใบหน้าเขาฉาบด้วยน้ำแข็งพลันปรากฏขึ้น "เจ้ารีบนำทางไปเร็วเข้า!"

ในขณะที่เทียนหูกำลังวิ่งนำทางพวกของต้วนหลิงเทียนมายังป่าไผ่หลังสถาบันบ่มเพาะขุนพลนั้น ...

ภายในป่าไผ่ที่เงียบสงบไร้ความวุ่นวาย... ตอนนี้กลับพบร่างของซูหลี่นอนหมดสภาพอยู่บนพื้น จากการสังเกตคร่าวๆ ทั่วร่างของซูหลี่เต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย ดูเหมือนยามนี้มันจะบาดเจ็บสาหัส

สำหรับซูหลี่แล้ว...ตอนนี้แค่จะพยุงตัวลุกขึ้นยืนก็ยังนับว่าเป็นเรื่องยาก แต่ถึงแม้จะมีสภาพเช่นนี้ใบหน้าของซูหลี่ยังคงเย็นชาอย่างถึงที่สุด อีกทั้งมันยังกุมกระบี่ 3 ฉื่อเอาไว้อย่างแน่นหนาไม่ยอมปล่อย หัวใจของซูหลี่นั้นมั่นคงดั่งภูผา ต่อให้มันต้องสิ้นท่าหรืออับอายขายหน้ามากถึงเพียงไหน มันก็ยังคงเด็ดเดี่ยวทระนงไม่คิดยอมสยบ!

ตรงหน้าซูหลี่ปรากฏร่างชาย 3 คน ชายหนุ่มคนหนึ่งใส่เสื้อลายปักอายุอานามประมาณ 25 ปี ยืนแสยะยิ้มอยู่เบื้องหน้าซูหลี่กำลังยกเท้าย่ำลงไปยังมือที่กุมกระบี่ของซูหลี่ "อะไร? เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เจ้ายังไม่คิดยินยอมปล่อยกระบี่อีกเช่นนั้นหรือ"

"ซูหลี่ เจ้ามันก็เป็นเพียงขยะเท่านั้น! หาได้แตกต่างอันใดกับบิดาเจ้า คงจะดีเสียกว่าหากเจ้ายังอยู่บ้านนอกแล้วใช้ชีวิตอย่างเชื่อฟัง ...แต่นี่เจ้ากลับกล้ามายังเมืองหลวงอีกทั้งกล้าเสนอหน้ามาให้ข้าเห็น! อยู่ดีไม่ว่าดีดันมารนหาที่ตาย... อะไร! ยังกล้าจ้องหน้าข้าอีกหรือ? ยังกล้าแข็งขืนอีกหรือไร ไม่ยินยอมรับเช่นนั้นรึ?" ชายหนุ่มในชุดลายปักบังเกิดโทสะ เมื่อเห็นแววตาแข็งกร้าวของซูหลี่ มันสะบัดเท้าเตะหน้าของซูหลี่ทันที!

ทันใดนั้น เลือดสดๆสาดกระจายออกมาจากปากของซูหลี่ หยดลงไปเบ่งบานเป็นบุปผาโลหิตบนพื้น

"ซู..ถง 10 ปี... ข้าจะฆ่าเจ้าภายใน 10 ปี!"ซูหลี่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เล็ดรอดไรฟันด้วยใบหน้าเย็นชา น้ำเสียงของเขาเย็นยะเยือกราวกับมาจากขุมนรก แม้จะเป็นเช่นนี้แต่น้ำเสียงของซูหลี่ยังเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นอย่างถึงที่สุด!

"10 ปี?" ชายหนุ่มในชุดผ้าลายปักเมื่อได้ฟังก็นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ทั้งรอยยิ้มชั่วร้ายยังเริ่มเผยออกมาอย่างน่ารังเกียจ "ซูหลี่ น้ำหน้าอย่างเจ้ายังคิดเอาชัยข้าได้ภายใน 10 ปีงั้นหรือ ถึงแม้ว่าข้านั้นจะไม่ได้เกรงกลัวเจ้าแม้แต่น้อย ...อ่อ! หรือเจ้าคิดว่าเป็นเพราะข้าไม่อาจสังหารเจ้าได้ในสถาบันบ่มเพาะขุนพลแห่งนี้จึงกล้าปากดี! ข้าอยากจะรู้นัก หากข้าทำลายตันเถียนของเจ้าเสียตอนนี้ แล้วอีก 10 ปีหลังจากนี้เจ้าจะฆ่าข้าได้อย่างไร ? เจ้าจะอาศัยอะไรฆ่าข้า? "

"ฮ่าๆๆ ตอนนี้ข้าจะทำลายความหวังของเจ้าให้หมดสิ้น!" หลังจากที่กล่าวจบชายหนุ่มในชุดลายปักดูเหมือนจะบังเกิดความสนุกสนานอย่างมาก มันยกขาขึ้นมาและเตรียมกระทืบไปยังท้องน้อยของซูหลี่เพื่อทำลายจุดตันเถียน ภายในครั้งเดียว

ตาของซูหลี่เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ยามนี้เริ่มบังเกิดความสิ้นหวังฉายอยู่ในดวงตาของเขา หากตันเถียนของเขาถูกทำลายลงไปแล้วล่ะก็ หลังจากนี้เขาก็ไม่อาจบ่มเพาะพลังได้อีก หมายความว่าหนทางชีวิตในอนาคตของเขาจะถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง ...

ไม่!

ภายในใจซูหลี่เต็มไปด้วยความไม่ยินยอม

ลมหายใจของซูหลี่เริ่มหอบถี่ขึ้นเมื่อเห็นชายตรงหน้ายกขาขึ้นมา เขาต้องการที่จะสู้และดิ้นรน แต่น่าเสียดาย ที่ยามนี้ร่างกายของเขาบาดเจ็บสาหัสมากเกินไป ไร้สิ้นเรี่ยวแรงแม้แต่จะขยับตัวสักเพียงนิด

ทันใดนั้นเอง

"นายน้อย สหายของซูหลี่มันกลับมาแล้ว ... ดูเหมือนมันจะไปพาคนมาด้วย หากดูไม่ผิดเหมือนจะเป็นต้วนหลิงเทียน และก็เซี่ยวฉวินจากตระกูลเซี่ยว" ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูต้นทางอยู่ เมื่อพบเห็นคนกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้มันรีบกล่าวรายงานขึ้นมาทันที

"ต้วนหลิงเทียน? เซี่ยวฉวิน?" ชายหนุ่มผ้าลายปักที่กำลังจะทำร้ายซูหลี่ชะงักลง ก่อนที่จะหันไปมอง และเมื่อมองออกไปไกลๆ ก็เห็นกลุ่มคนที่กำลังมุ่งมาทางนี้ด้วยความร้อนรน "สุดท้ายพวกมันก็มา ... "

"ซูหลี่!" เทียนหูที่พึ่งมาถึงเมื่อพบเห็นสภาพเจียนตายของซูหลี่ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นโทสะและรีบพุ่งเข้ามาทันที

ฟุ่บ!

ทันใดนั้นเองชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังซูถงเริ่มลงมือ มันขยับร่างมาด้วยความเร็วสูงพร้อมส่งลูกเตะที่ว่องไวปานสายฟ้าซัดเทียนหูจนกระเด็นออกไป

ภาพเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 12 ตัวฉายอยู่เหนือศีรษะมัน บ่งบอกให้รู้ว่ามันเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 9 คนหนึ่งเช่นกัน!

ผลัก! พรวด!

เทียนหูกระเด็นล้มลงไปกองกับพื้น มันกระอักเลือดออกมา ใบหน้าของมันซีดลงอย่างมาก

"เทียนหู!" สีหน้าเซี่ยวหยูเต็มไปด้วยโทสะ ประกายตาของมันเริ่มฉายออกมาถึงความอาฆาต

"ซูถง นี่เจ้าคิดทำอะไร!" สายตาของเซี่ยวฉวินจับจ้องไปยังชายในในชุดผ้าลายปัก สีหน้าของเขาเครียดขึ้นไม่น้อย

"เซี่ยวฉวิน เจ้าอย่าได้ลงมาเกลือกกลั้วกับพวกปลักโคลนเหล่านี้ดีกว่า!" น้ำเสียงเย็นชาไม่แยแสของซูถงพลันดังขึ้น มันจับจ้องไปยังเซี่ยวฉวินครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเบนสายตามามองต้วนหลิงเทียน "วันนี้ไม่มีเรื่องอะไรของเจ้า เจ้าสามารถจากไปได้ แต่ ...ต้วนหลิงเทียนนั้นต้องอยู่!"

เมื่อต้วนหลิงเทียนสังเกตเห็นสภาพอาการของซูหลี่ ประกายตาของเขาเริ่มเย็นชาขึ้นมา ซ้ำมันยังเริ่มเย็นเยือกลงไปเรื่อยๆ

ซูหลี่เป็นสหายของเขา!

ซ้ำยังมาเห็นเทียนหูถูกเตะทำร้ายจนอาการไม่สู้ดีต่อหน้าต่อตา เพลิงโทสะในใจของเขาพลันลุกโชนขึ้นมาถึงจุดยากระงับ อีกทั้งเมื่อครู่เขาได้ยินวาจาของมันที่กล่าวกับเซี่ยวฉวินอย่างดี ...

อยากให้ข้าอยู่งั้นหรือ?

ประกายตาของต้วนหลิงเทียนพลันเรืองวูบขึ้นมาทันทียามจับจ้องไปยังซูถง ‘บัดซบ เป็นไปได้หรือไม่ว่าเป้าหมายของมันเป็นข้าตั้งแต่แรก ไม่ใช่ซูหลี่?’

ทันใดนั้นเองเขาพลันรู้สึกสั่นสะท้านในหัวใจด้วยความเหน็บหนาว

"ต้วนหลิงเทียน หนีไป!!" ตอนนี้เองน้ำเสียงเยือกเย็นของซูหลี่พลันดังขึ้น เขาเองก็ย่อมเดาได้ทันทีว่ากำลังเกิดเรื่องราวอันใดขึ้น เขารีบกล่าวให้ต้วนหลิงเทียนรีบหนีไปทันที

ทว่าต้วนหลิงเทียนพลันก้าวไปข้างหน้าด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ เขากล่าวถามซูถงออกมาด้วยน้ำเสียงไม่แยแส "เจ้ากระทำกับซูหลี่ถึงเพียงนี้ เพียงเพื่อล่อให้ข้าปรากฏตัวงั้นหรือ?"

แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ฟังวาจาของซูหลี่ หากเขาเลือกจากไปตอนนี้ ก็อย่าได้เรียกเขาว่าต้วนหลิงเทียน!

"จุ๊ๆๆ ต้วนหลิงเทียน ข้ากล้ากล่าวได้เลย...ว่าตัวเจ้าเองก็ฉลาดไม่เบานี่นา ... แต่เจ้ารู้หรือไม่ พวกฉลาดๆนั้น มักจะอยู่มิค่อยนานเสียเท่าไร" ซูถงจับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียน ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนที่มันจะกล่าวออกมาอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส "เอาล่ะไหนๆเจ้าก็คาดเดาจุดประสงค์ของข้าได้ เช่นนั้นเจ้าเองก็คงคาดเดาได้ใช่หรือไม่ ว่าข้ามาด้วยเรื่องอะไร?"

"อะไรกัน? หรือว่าตระกูลต้วนนั้นเป็นพวกสวะแพ้แล้วยากจะยอมรับ อะไร! เจ้าไม่ยอมรับจริงๆ?" ต้วนหลิงเทียนกล่าวเย้ยหยันออกมา

เขาย่อมคาดเดาได้แน่นอน หากเขาจะมีปัญหาอะไรกับตระกูลซูแล้วล่ะก็ คงไม่พ้นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงขององค์ชาย 3 เมื่อค่ำวานนี้แน่นอน ... ซูหล่านที่ถูกเขาซัดดัชนีระเบิดหัวใจ แน่นอนว่ามันเป็นของตระกูลซู!

"ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้งั้นหรือ?" สีหน้าของซูถงหมองคล้ำลงทันที "เมื่อคืนเจ้ากล้าใช้วิธีการอุบาทว์สกปรกลอบโจมตีซูหล่านเพื่อฆ่าเขา ...แล้วเจ้ายังคิดว่า มีสิทธิ์เอ่ยวาจากล่าวหาตระกูลซู ว่าไม่อาจยอมรับความพ่ายแพ้เช่นนั้นหรือ?"

วิธีการอุบาทว์สกปรก?

ลอบโจมตี?

แววตาของต้วนหลิงเทียนพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา ... ‘องค์ชาย 3 ...เจ้าช่างสารเลวบัดซบได้ใจข้านัก!!’

แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนย่อมคาดเดาได้ ว่านี่เป็นเรื่องราวที่องค์ชาย 3 ปั้นแต่งและแพร่กระจายออกมา

ที่ด้านข้าง ตอนนี้เซี่ยวฉวินพลันเบิกตากว้าง

ซูหล่าน?

ต้วนหลิงเทียนสังหารซูหล่าน

สาวกจากตระกูลสาขาของตระกูลซู ที่มีพรสวรรค์มากที่สุด ซูหล่าน?

ลูกพี่ลูกน้องของซูถงคนนั้น?

"เอาล่ะ เช่นนั้นเจ้าต้องการอะไร?" ต้วนหลิงเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาไม่อาจสังหารคนได้ในสถาบันบ่มเพาะขุนพลแห่งนี้ เขาเพียงจ้องไปยังซูถงด้วยประกายตาคมกล้า กล่าวถามมันออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

"เจ้ากล้าลงมือด้วยวิธีชาติชั่วเช่นนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย ...ข้าคิดว่า ผู้ฝึกยุทธ์สารเลวเช่นเจ้า ไม่สมควรมีอยู่บนโลกนี้!" ซูถงจ้องกลับมาด้วยแววตาอำมหิต พร้อมกล่าวออกมาด้วยวาจาเย้ยหยัน

"ฮ่าๆๆ กล่าวง่ายๆ เจ้าคิดจะทำลายระดับบ่มเพาะของข้าใช่หรือไม่" ต้วนหลิงเทียนเริ่มหัวเราะออกมาด้วยโทสะอย่างสนั่น ทว่าแววตาของเขาเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นอำมหิตมากขึ้นเรื่อยๆ

สีหน้าของเซี่ยวหยูและเซี่ยวฉวินเริ่มเคร่งเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ

"ซูถง!" เซี่ยวฉวินกล่าวออกมาอย่างเย็นชา "เจ้าอย่าได้ลืมไปเสียล่ะ ต้วนหลิงเทียนเป็นบุตรชายของต้วนหรูเฟิงกล่าวได้ว่าเขาเป็นสาวกสายหลักของตระกูลต้วน... หากเจ้ากล้าลงมือทำอะไรกับระดับบ่มเพาะของต้วนหลิงเทียน เจ้าคิดจะให้คำอธิบายกับตระกูลต้วนว่าอย่างไร?"

"ตระกูลต้วน?" ซูถงเริ่มหัวเราะออกมา ก่อนที่จะมองเซี่ยวฉวินด้วยสายตาราวกับมองตัวโง่งม "เซี่ยวฉวินเจ้าบอกข้ามาที ว่าเจ้าไม่รู้จริงๆว่าต้วนหลิงเทียนนั้นได้ปฏิเสธตระกูลต้วนหลายต่อหลายครั้งแล้ว... ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนหาใช่คนของตระกูลต้วนไม่ เช่นนี้เจ้าก็อย่าได้กล่าวเรื่องไร้สาระเช่นนั้นออกมาเพื่อข่มขู่ข้าเลย "

ซูถงเป็นสาวกสายหลักของตระกูลต้วน ที่มีโอกาสสูงมากที่จะได้ที่นั่งประมุขตระกูลซูในอนาคต สถานะของเขาในตระกูลซูนั้นไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง สำหรับตัวเขา ตอนนี้หากต้วนหลิงเทียนยังไม่ได้กลับไปตระกูลต้วนล่ะก็ ไม่ต้องพูดถึงระดับบ่มเพาะของต้วนหลิงเทียนเลย ต่อให้เขาสังหารต้วนหลิงเทียนทิ้งก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

"เจ้า... " สีหน้าของเซี่ยวฉวินพลันหมองลง... วาจานี้เขาไม่อาจปฏิเสธ

ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นสาวกสายหลักของตระกูลเซี่ยว แต่สถานะนี้ก็ใช้ได้แต่กับคนธรรมดาเท่านั้น ... ซูถงย่อมไม่กลัว

ซูถงเป็นถึงหลานชายของผู้อาวุโสหลักของตระกูลซู เขาอยู่ในระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 3 ด้วยอายุเพียง 25 ปีเท่านั้น ... นับว่าเป็นบุคคลรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดของตระกูลซู! และเป็นหนึ่งในคนที่มีโอกาสได้รับเลือกให้เป็นประมุขตระกูลรุ่นต่อไปมากที่สุด

อาจกล่าวได้ว่าซูถงนั้น ยามเกิดมามันก็คาบช้อนเงินช้อนทองเอาไว้ในปากแล้ว มันมีทรัพย์สมบัติเอาไว้สนับสนุนตัวเองมากมาย และตอนนี้อนาคตสดใสในตระกูลก็รอมันอยู่

"เซี่ยวฉวินหากเจ้ายังพอมีสมองอยู่บ้าง เจ้าควรรีบไสหัวไปเสียตั้งแต่ตอนนี้! หากเจ้ายังไม่คิดจากไป ต่อให้เจ้าเป็นคนของตระกูลเซี่ยว ข้าก็ต้องจำใจเล่นงานเจ้าด้วย" ซูถงจ้องมองเซี่ยวฉวินด้วยประกายตาเย็นยะเยือก พร้อมกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงมั่นใจไม่เกรงกลัวอันใดทั้งสิ้น

"ฝันไปเถอะ! ต้วนหลิงเทียนเป็นสหายของข้า" สีหน้าของเซี่ยวฉวินถึงจะหมองคล้ำแต่เขาก็กล่าวคำนี้ออกมาด้วยความเด็ดเดี่ยวไม่หวาดหวั่น

"ดี ดียิ่งนัก ... ข้านั้นล่ะตื้นตันกับมิตรภาพของพวกเจ้าจริงๆ" ซูถงเริ่มหัวเราะออกมาดังลั่น เขาหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่โดยไม่คิดจะหยุด ซ้ำยังเต็มไปด้วยความหยิ่งผยองและเกรี้ยวกราด ...

พริบตาต่อมา

ฟุ่บ!

ซูถงพลันลงมือทันที มันพุ่งจากจุดที่ยืนอยู่มาทางเซี่ยวฉวินด้วยความเร็วสูงสุด ก่อนที่จะตบไปยังเซี่ยวฉวินทันที

ปัง!

เซี่ยวฉวินที่ไม่ทันได้ขยับตัว พลันถูกซัดจนกระเด็นล้มลงไปกองทันที เพียงกระบวนท่าเดียวของซูถง ก็ทำให้มันไร้หนทางต่อต้าน

เหนือศีรษะของซูถงปรากฏเงาร่างช้างแมมมอธโบราณออกมา 40 ตัว ในเสี้ยวพริบตาก่อนที่จะหายไป

"ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 3?" สีหน้าของต้วนหลิงเทียนพลันมืดลงทันที สายตาของเขาเริ่มไร้อารมณ์มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นว่ามันกล้าทำลายสหายของเขาต่อหน้าต่อตา... ยามนี้เขาจับจ้องไปยังซูถงด้วยแววตาอำมหิตแฝงความเย็นชาเอาไว้อย่างถึงขีดสุด

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.