spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ไม่ต้องกล่าวถึงว่าแม้กระทั่งสุราน้ำค้างเก้าแดนสรวงระดับสามัญตอนนี้ได้กลายเป็น "เครื่องดื่ม" ในเมืองหลวงไปแล้ว ด้วยการบรรจุและการตลาดของวิหารหมื่นสมบัติ
ทุกคนคิดว่าวิหารคิดค้นสุรานี้ ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังสิ่งนี้คือเจี้ยงเฉิน !
และตัดสินจากพฤติกรรมของชีเซี่ยวหยาว ไม่เพียงแต่เขาไม่ได้ลบล้างสิ่งนี้ แต่เขามองเหตุการณ์ด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย เขาจ้องมองไปที่เจี้ยงเฉินเต็มไปด้วยความชื่นชมและร่องรอยของการบูชาวีรบุรุษ !
ใช่ การบูชาวีรบุรุษ
ถ้ามีใครบอกว่าชีเซี่ยวหยาวมีท่าทางของอาวุโสที่น่าเกรงขามเมื่อเขาโต้ตอบกับเจี้ยงเฉินครั้งแรกที่พบกัน ตอนนี้เขาก็ยอมรับเจี้ยงเฉินเรียบร้อยแล้ว
ชายหนุ่มชาวต่างอาณาจักรได้ปรับเปลี่ยนสถานการณ์ในอาณาจักรนภาจันทร์อย่างสมบูรณ์ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี
เขาแกะสลักถนนให้มีแสงสว่างท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองหลวง
ทุกคนรู้ดีว่าความสำเร็จของเย่หลงในการครองตำแหน่งองค์รัชทายาทและชัยชนะเหนือคนที่แข็งแกร่งส่วนใหญ่มาจากเจี้ยงเฉิน
ชีเซี่ยวหยาวไม่กล้าวางท่าของผู้อาวุโสต่อหน้าเจี้ยงเฉินอีกต่อไปในตอนนี้ มันถูกแทนที่ด้วยมิตรภาพที่เท่าเทียมกัน ทั้ง ๆ ที่เขามีฐานรากต่ำกว่าเจี้ยงเฉิน
เขาไม่ต้องพูดอะไรมาก สุราได้นำกำไรอันมหาศาลมาสู่วิหาร และยังทำให้ชีเซี่ยวหยาวมีชีวิตอันผาสุก
เจี้ยงเฉินเป็นเทพแห่งโชคลาภสำหรับวิหารของเขา แล้วจะไม่ให้เขานอบน้อมต่อหน้าเจี้ยงเฉินได้อย่างไร ?
หัวใจของประมุขหนิงมีแต่ความกังวล นางต้องยอมรับว่าในขณะนี้นางรู้สึกระส่ำระส่าย
ก่อนหน้านี้นางไม่เคยแม้แต่จะมองเซี่ยวไป๋ฉีและไม่ค่อยได้พิจารณาเขาอย่างจริงจังกับตำแหน่งของลูกเขยเลย
แต่ตอนนี้นางไม่สามารถมองข้ามคนแปลกหน้าลึกลับคนนี้ได้
ก่อนที่จะพูดอะไรอื่น สหายเก่าแก่หลายคนมาเสนอการแต่งงานในนามของเขา อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาทั้งหมดเห็นคุณค่าในตัวเซี่ยวไป๋ฉี
เซี่ยวไป๋ฉีมีจิตวิญญาณที่ทำให้คนอื่นให้เกียรติเขา !
เมื่อมองไปที่กลุ่มคนที่มากับเขา ประมุขหนิงรู้ว่าไม่มีทางที่นางจะปฏิเสธเขาได้ ถ้านางทำเช่นนั้น วิหารทักษิณครามสวรรค์ของนางจะถูกปิดล้อมจากทุกด้าน
นางต้องทำให้หุบเขาชิงหยางและวิหารหมื่นสมบัติขุ่นเคืองใจ
สำหรับเย่หลง เขาเป็นตัวแทนของพระราชวงศ์
ด่านเฟยเป็นตัวแทนของอาจารย์เย่ชองหลิว
ซูคึนและเทียนโชเป็นตัวแทนของหน่วยเขี้ยวมังกร หลังจากประเมินเหตุการณ์ นางก็รู้ว่าถ้านางบังคับให้วิหารทักษิณครามสวรรค์และวิหารอุดรครามสวรรค์เป็นภาคีกัน วิหารของนางจะถูกแยกออกจากวิหารอื่นอย่างสิ้นเชิง !
ถ้าวิหารของนางปฎิเสธวิหารอุดรครามสวรรค์ วิหารของนางก็จะไม่สูญเสียมากเท่าไหร่ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองไม่ได้ดีอะไรมากตั้งแต่แรกแล้ว.
หากวิหารทักษิณครามสวรรค์ล่วงเกินอิทธิพลเหล่านี้ อนาคตของพวกเขาจะหมองมัวและมันจะบั่นทอนความเจริญก้าวหน้าของพวกเขา
นางยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่น สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง
เจี้ยงเฉิน !
จริง ๆ แล้วความจริงที่ว่าเซี่ยวไป๋ฉีเป็นศิษย์ของเจี้ยงเฉิน ทำให้ประมุขหนิงตกใจมากที่สุด
ใครคือเจี้ยงเฉิน? แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นเขา แต่นางได้ยินชื่อของเขามานานแล้ว
นางอยากให้ลูกสาวของนางอายุน้อยกว่านี้สักสิบปี เพื่อที่นางจะได้ให้ลูกสาวแต่งงานกับเจี้ยงเฉิน
อัจฉริยะหนุ่มที่อาจารย์เย่ยอมที่จะล่วงเกินพ่อลูกตระกูลเหล็ก อัจฉริยะคนนี้มีอนาคตที่ไร้ขีดจำกัด !
ด้วยปัญญาระดับประมุขหนิง จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะไม่ได้เห็นสิ่งดังกล่าว
เหล็กคินเสียหน้ามากให้กับเจี้ยงเฉินเพราะอะไร? ไม่มีร่องรอยของการแก้แค้นหลังจากที่เขาได้กลับไปที่นิกาย
ไม่จำเป็นว่าเหล็กคินต้องกลัวเจี้ยงเฉิน ดังนั้นอย่างน้อยที่สุดอาจพิสูจน์ได้หนึ่งอย่างคือพ่อของเหล็กคิน เหล็กหลงผู้ที่ทุกคนเคารพนับถือไม่ต้องการระเบิดสงครามที่เปิดกว้างกับเย่ชองหลิว!
นี่เป็นคำอธิบายเดียวเท่านั้น
ประมุขหนิงไม่สามารถหาเหตุผลที่จะล่วงเกินชายหนุ่มคนหนึ่งเช่นเขา
ตัวอย่างเช่นหยางเซา เขาไม่มีอิทธิพลทำอะไรเลยหรือ? แต่รองจอมทัพของหน่วยเขี้ยวมังกรมีอำนาจเด็ดขาดแน่นอนหรือ? ในตอนท้ายเจี้ยงเฉินก็จัดการเขาจนราบคาบ !
นอกเหนือจากความแข็งแกร่งของเจี้ยงเฉินแล้ว คำพูดของอาวุโสเฟยกินใจประมุขหนิงอย่างลึกซึ้ง
โอสถวารีนิรันดร์สี่ฤดู สุราน้ำค้างเก้าแดนสรวง โอสถชะตากรรมแห่งสวรรค์... ทั้งหมดนี้ดึงเชือกหัวใจของอาวุโสหนิง
อะไรที่ทำให้วิหารทักษิณครามสวรรค์เชื่อใจพัฒนาการนี้?
คนและทรัพยากร !
ไม่มีทางใดที่วิหารทักษิณครามสวรรค์จะสามารถรับสมัครผู้เชี่ยวชาญเช่นเจี้ยงเฉินได้ แต่เซี่ยวไป๋ฉีเป็นศิษย์ของเจี้ยงเฉินและเขาก็กำลังเคาะประตูหน้าร้องขอพวกเขาอยู่ตอนนี้ ถ้านางยังปฏิเสธเขา เท่ากับว่านางพอใจกับการติดอยู่ในโคลน นางกำลังหยิบหินขึ้นมาทุ่มทำลายเท้าของตัวเอง !
ถ้าสิ่งเหล่านี้พัฒนาขึ้นในวิหารของพวกเขา มันก็จะนำพามาซึ่งโชคลาภอันไม่รู้จบ !
สุราน้ำค้างเก้าแดนสรวงเป็นส่วนหนึ่งของวิหารหมื่นสมบัติ นางจึงไม่สามารถเอามันมาได้
แต่ถ้านางสามารถผลิตโอสถวารีนิรันดร์สี่ฤดูได้เป็นจำนวนมาก ผลตอบแทนที่จะเกิดขึ้นในท้องตลาดจะไม่น้อยไปกว่าสุรา !
ผู้ชายหลงใหลสุราน้ำค้างเก้าแดนสรวงอันชุ่มชื่น ส่วนผู้หญิงอยากได้โอสถวารีนิรันดร์สี่ฤดู !
ผู้หญิงมักจะใส่ใจมากกว่าผู้ชายเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจ่ายเงินและการบริโภค พวกนางยอมทำทุกอย่างเพื่อความงาม ไม่ต้องพูดถึงการใช้จ่ายเงินเพียงเล็กน้อยเพื่อซื้อโอสถเม็ด
นางเป็นประมุขของวิหาร เมื่อความคิดเหล่านี้พุ่งผ่านใจ ความสมดุลของหัวใจของนางเริ่มค่อย ๆ เอียงไปทางหนึ่ง
ในการเปรียบเทียบ เซี่ยวหยูเป็นคนดีก็จริง เขาเพียงต้องการความงามของลูกสาวของนางและเขาไม่ได้รักนางเลย
ศักยภาพของเขาช่างน่าอัศจรรย์ในราชอาณาจักรนภาจันทร์ แต่เขาถูกกำหนดให้เป็นเพียงแค่เสียงตะโกนของนิกายพฤกษาสววรค์ และไม่สามารถกลายเป็นศิษย์อันดับสูงของนิกาย
ก่อนหน้านี้นางต้องการผลักดันลูกสาวของนางให้เซี่ยวหยู เพราะนางรู้สึกว่าทั้งสองมีสถานะทางสังคมเหมือนกัน แต่เมื่อพิจารณาจากหลักการพื้นฐานของการแต่งงานแล้ว นางรู้ว่าลูกสาวของนางไม่ได้ชอบเซี่ยวหยู !
เซี่ยวไป๋ฉีเปิดเผยผู้สนับสนุนของเขา ซึ่งในแง่ของสถานะทางสังคมไม่น้อยหน้ากว่าเซี่ยวหยู หรืออาจจะดีกว่าด้วยซ้ำจากสัญญาณของแหล่งข้อมูล
ถ้านางต้องพิจารณาหาอะไรบางอย่างที่ทำให้เซี่ยวไป๋ฉีด้อยกว่านั้น ก็คงเป็นระดับการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้แห่งเต๋าของเขา
อย่างไรก็ตามวิหารทักษิณครามสวรรค์ไม่ได้ขาดผู้ฝึกฝนที่เชี่ยวชาญ !
พวกเขาขาดพรสวรรค์ ทรัพยากร และช่องทางที่จะได้รับเงิน !
เซี่ยวไป๋ฉีและอาจารย์ของเขามาทันเวลาที่จะสามารถจัดหาทรัพยากรและช่องทางเหล่านี้ได้
ในช่วงเวลาพริบตา ประมุขหนิงมองไปที่เซี่ยวหยูและรู้สึกว่าอัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้แห่งเต๋าแบบนี้ไม่น่าสนใจเลย
ไม่ว่านางจะมองเขาด้านซ้ายหรือด้านขวา หัวจรดเท้า หรือมองทางด้านหลัง ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ค่อยสมบูรณ์แบบเหมือนก่อนหน้านี้
ในทางตรงกันข้าม เซี่ยวไป๋ฉีคนที่นางไม่เคยยอมรับจนบัดนี้ กลับดูเหมือนจะเชื่อถือได้และเหมาะสม เขาไม่ได้เป็นคนยโสและเรื่องมาก เขาไม่เคยยอมแพ้แม้ในสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์
และตอนนี้มีคนจำนวนมากสนับสนุนเขา เขาไม่ได้ยกยอตัวเองด้วยความเย่อหยิ่งหรือพิจารณาตัวเองว่าอยู่เหนือคนอื่น
หืม สายตาของฉิงหยานนั้นไม่เหมือนใคร เซี่ยวไป๋ฉีเป็นคนว่าง่ายและนอบน้อม อีกทั้งยังอดทนแม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เขาซื่อสัตย์กับตัวเอง "ยอดเยี่ยม เขาเป็นคนที่สามารถบรรลุสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ " ประมุขหนิงก็มีหลายสิ่งที่ดีที่จะพูดเกี่ยวกับผู้สมัครเป็นลูกเขยคนนี้ซึ่งนางไม่เคยชอบเขามาก่อน
ลู่ฉางเฟิงได้เฝ้าสังเกตการณ์ประมุขหนิงอย่างต่อเนื่อง และเขารู้สึกกังวลเล็กน้อยเมื่อเห็นว่านางกำลังมองเซี่ยวไป๋ฉีอย่างผิดปกติ
วางแผนของกลุ่มคนนี้ช่างร้ายกาจ ดูเหมือนว่าพันธมิตรที่เขากำลังสานไมตรีกำลังจะจบสิ้น
ลู่ฉางเฟิงวางแผนและตั้งอุบายเกี่ยวกับการแต่งงานนี้เพราะเขาต้องการจะกระชับความสัมพันธ์กับวิหารทักษิณครามสวรรค์และทำลายความเป็นหุ้นส่วนของอีก 3 แห่ง
ถ้าการแต่งงานครั้งนี้ล้มเหลว เส้นทางของวิหารอุดรครามสวรรค์จะยากมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต
พื้นที่ของพวกเขาในอาณาจักรนภาจันทร์จะลดลงและพวกเขายังต้องใช้ชีวิตต่อไปอย่างยากลำบาก
"ประมุขหนิง อาวุโสเฟยมักชอบพูดไร้สาระ คำพูดของเขาไม่มีความน่าเชื่อถือใด ๆ เลย เพราะเซี่ยวไป๋ฉีเป็นคนที่เสนอการแต่งงานครั้งนี้ ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับภูมิหลังของเขาหรือว่าเขาเป็นศิษย์ของใครอยู่ตอนนี้ใช่หรือไม่? "
ประมุขหนิงไม่ได้พูดมาก นางเพียงหัวเราะเบา ๆ ตอนนี้นางไม่สามารถพูดอะไรได้มาก
"ลู่ฉางเฟิง เจ้ากำลังตบหน้าตัวเองอยู่หรือ? ถ้าการแต่งงานไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภูมิหลัง แล้วทำไมวิหารอุดรครามสวรรค์ของเจ้าจึงส่งกลุ่มคนขนาดใหญ่เช่นนี้มา? อย่าบอกข้าว่าการประโคมครั้งยิ่งใหญ่ของเจ้าไม่เกี่ยวอะไรกับการช่วยเหลือเซี่ยวหยู ! "
"หึ หึ สาวกของวิหารอุดรครามสวรรค์สามารถพูดคุยเกี่ยวกับภูมิหลังได้และพูดถึงชื่อของอาจารย์ของตนเพื่อข่มขู่ แต่ผู้อื่นไม่สามารถทำเช่นเดียวกันได้หรือ"
ผู้อาวุโสเฟยเอ่ยปากและหัวเราะเยาะออกมาว่า "ชายชราคนนี้กำลังจะวางทุกอย่างไว้บนโต๊ะในวันนี้ ข้าจะเป็นผู้สนับสนุนของเซี่ยวไป๋ฉีไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ! ข้าจะจัดการใครก็ตามที่ต้องการขโมยหญิงสาวของเขา ! "
ลู่ฉางเฟิงอารมณ์ไม่ดีที่เห็นอาวุโสเฟยทำอะไรโง่ ๆ "อาวุโสเฟย ข้าจะไม่หยุดเจ้าจากการกระทำเรื่องโง่เง่า แต่ข้อเสนอแต่งงานเป็นเรื่องระหว่างคนหนุ่มสาวของเรา เพราะฉะนั้นให้พวกเขาควรตกลงกันเอง ทุกคนควรผ่านการแข่งขันที่เป็นธรรม ในมุมมองของข้า โลกของการต่อสู้แห่งเต๋าควรยุติเรื่องต่าง ๆ ผ่านกฎของศิลปะการต่อสู้ ปล่อยให้เซี่ยวไป๋ฉีและเซี่ยวหยูประลองกัน ใครชนะก็จะได้ตัวเจ้าสาวไปครอง ! "
อาวุโสเฟยถ่มน้ำลาย.“ไร้ยางอาย ! เซี่ยวไป๋ฉีเชี่ยวชาญด้านโอสถ เจ้าต้องการให้ลูกศิษย์คนหนึ่งที่เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้แห่งเต๋าประลองกับคนที่ฝึกฝนด้านเต๋าโอสถ ลู่ฉางเฟิง อย่าบอกข้าว่านี่เป็นนิยามของการละเล่นที่ยุติธรรม? ทำไมเจ้าไม่ให้พวกเขาแข่งขันบนพื้นฐานของศักยภาพของเต๋าโอสถหรือทักษะในการกลั่นโอสถ? "
ลู่ฉางเฟิงยิ้มเยาะเย้ย "ในโลกของศิลปะการต่อสู้แห่งเต๋า ทุกอย่างตัดสินด้วยความแข็งแกร่งในการสู้รบ ถ้าเจ้าไม่แข็งแกร่งพอ ใครจะรับประกันได้ว่าจะไม่มีใครลักพาตัวเจ้าสาวของเจ้าระหว่างทางที่เจ้าพานางกลับบ้าน? "
ระดับการฝึกศิลปะการต่อสู้แห่งเต๋าของเซี่ยวไป๋ฉีคือผู้เชี่ยวชาญพลังลมปราณฉี นี่เป็นเพียงด้านเดียวที่เขาด้อยกว่าเซี่ยวหยู
เป็นทางเดียวเท่านั้นของวิหารอุดรครามสวรรค์ที่จะเอาชนะเขาได้
ด่านเฟยผู้ซึ่งเงียบตลอดเวลา จู่ ๆ นางก็พูดขึ้นมาว่า "เต๋าศิลปะการต่อสู้และเต๋าโอสถทั้งสองเป็นเต๋าที่ยิ่งใหญ่ มันยากที่จะระบุว่าสิ่งใดดีกว่ากัน เนื่องจากทั้งสองมีจุดที่ดี ทำไมไม่ถามความคิดเห็นของประมุขฉิงหยานล่ะ? การแต่งงานนำพามาซึ่งความโน้มเอียงของทั้งสองฝ่าย ประมุขหนิง ท่านคิดยังไง? "
ประมุขหนิงยิ้มอย่างเฉยเมยขณะที่นางมองไปที่ลู่ฉางเฟิงสลับกับเจี้ยงเฉิน
ผู้อาวุโสเฟยตบต้นขาของตัวเอง "ช่างน่าประทับใจ ! ด่านเฟยเป็นศิษย์เอกของอาจารย์เย่ สายตาอันลึกซึ้งของเจ้าแตกต่างออกไป ในมุมมองของข้า คำแนะนำนี้เป็นเรื่องมหัศจรรย์ พวกเขาแต่ละคนเชี่ยวชาญกันคนละด้าน จึงไม่มีประโยชน์ที่จะแข่งขันด้านเต๋าโอสถหรือเต๋าศิลปะการต่อสู้ เราสามารถตัดสินชัยชนะด้วยวิธีที่สามเท่านั้น "
การแสดงออกของลู่ฉางเฟิงเปลี่ยนไปอย่างน่าเกลียด คำแนะนำนี้ดูสมเหตุสมผล ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหาเหตุผลที่จะปฏิเสธได้ เขาหันหลังกลับและมองกลับไปราวกับว่าเขากำลังหาผู้ช่วยชีวิต
เขามีไพ่ตายใบสุดท้าย และนั่นคือสาวกของนิกายพฤกษาสวรรค์ที่เขานำมาด้วย
เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ มันก็ขึ้นอยู่กับสาวกของนิกายว่าพวกเขาสามารถนำชัยชนะมาให้เขาได้หรือไม่ สาวกของนิกายไม่เคยมีเหตุผลมาก่อนและอาจเป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะต่อต้านคนเหล่านี้ได้ !