spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ยังมีอีกหนึ่งที่ออกมาจากการกักตนบ่มเพาะนอกเหนือจากเจียงเฉินและนั่นคือโกวยู่ว
หญิงสาวคนนี้นางยอมทิ้งอัตลักษณ์ของการเป็นองค์หญิงแห่งอาณาจักรตะวันออก นางได้พยายามอย่างมากและได้ดูดซึมโอสถห้ามังกรเปิดสวรรค์หลังจากผ่านไปสามเดือน นางได้ก้าวผ่านอาณาจักรฉีผ่านไปสู่อาณาจักรแห่งปราณจิตวิญญาณ และกลายเป็นผู้ฝึกฝนปราณจิตวิญญาณ!
หลังจากตัดผ่านไปแล้ว บุคลิกท่าทางทั้งหมดของโกวยู่วก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
จิตวิญญาณในการแข่งขันของนางถูกเขียนขึ้นทั่วใบหน้าวัย 22 ปีของนางตอนนี้ได้รับการเสริมด้วยความเยือกเย็นที่ดี
"โกวยู่ว,ขอทักทายนายน้อย" เสียงที่ชัดเจนของโกวยู่วดังออกมาเช่นหยก.
"ฮ่า ๆ ขอแสดงความยินดี ขอแสดงความยินดี โกวยู่ว ในที่สุดเจ้าได้ตัดผ่านสู่อาณาจักรปราณจิตวิญญาณและกลายเป็นตำนานใหม่สำหรับตระกูลตงฟางของเจ้า! "
มีแนวโน้มว่าการตัดผ่านสู่อาณาจักรปราณจิตวิญญาณของคนอายุ 22 ปีไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของตระกูลตงฟาง
จนถึงวันนี้ เจี้ยงเฉินยังไม่เคยเห็นบรรพชนที่ได้รับการเคารพนับถือของตระกูลตงฟาง เขาจึงไม่รู้ว่าเขาอยู่ระดับใดในโลกแห่งจิตปราณจิตวิญญาณ
อย่างไรก็ตาม เจี้ยงเฉินไม่สนใจเรื่องนี้ เขาไม่รู้สึกดีต่อผู้ชายตระกูลตงฟาง
องค์ราชาตงฟางลู่เป็นคนสองจิตสองใจและชอบลังเล ไร้ความปรานีและขาดความจงรักภักดี
ปู่ทวดที่ได้รับการกล่าวขานว่าเขาอยู่ในการกักตนบ่มเพาะ แต่ไม่มีใครเคยได้เห็นเขาเมื่อตระกูลของเขาโดนคุกคามจนล่มสลายอย่างรุนแรง
ดังนั้น เจี้ยงเฉินจึงไม่ได้มีทัศนคติที่ดีต่อผู้ชายของตระกูลตงฟาง
อย่างไรก็ตาม มันเป็นกรณีที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับผู้หญิงในตระกูลตงฟาง
โกวยู่วนั้นเข้มแข็งและจริงใจ จื่อยั่วไร้เดียงสาและใจดี
และตอนนี้โกวยู่วได้ตัดผ่านเข้าไปในอาณาจักรแห่งปราณจิตวิญญาณ เจี้ยงเฉินรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับโกวยู่วจากก้นบึ้งของหัวใจ
โกวยู่วรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ยินคำชมเชยของเจี้ยงเฉิน นางทำงานหนักและยอมปล่อยวางจากความงดงามของการเป็นองค์หญิงเพื่อติดตามเจี้ยงเฉิน นี่คือเพื่อที่จะไล่ตามความไม่มีที่สิ้นสุดของศิลปะการต่อสู้แห่งเต๋าด้วยมือมือข้างเดียว แต่นางยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถของนางต่อหน้าเจี้ยงเฉินและชนะใจเขา
แม้ว่านางรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าเจี้ยงเฉินจะไม่มีความรักเชิงชู้สาวให้นางในชีวิตนี้ นางยังคงติดตามคนที่นางหมายมั่นโดยไม่ต้องบ่นรำพึงหรือเสียใจ ความพยายามของนางในชีวิตนี้จะไม่ไร้ผล ถ้าเจี้ยงเฉินยอมรับและชมเชยนาง
"นายน้อยเฉิน ข้าไม่ใส่ใจตำนานของตระกูลตงฟาง ข้า โกวยู่ว ตอนนี้เป็นลูกศิษย์ของนายน้อย สำหรับข้า ทุกเรื่องราวทางโลกและปัญหาต่าง ๆ เปรียบราวกับเมฆที่ลอยไปมา "
ท่าทางของโกวยู่วดูจริงจัง สภาพจิตของนางแข็งแกร่งขึ้นไม่น้อยหลังจากตัดผ่านไปสู่อาณาจักรปราณจิตวิญญาณ
นางตระหนักว่าการไล่ตามศิลปะการต่อสู้แห่งเต๋าที่ไร้จุดสิ้นเป็นความปรารถนาที่แท้จริงที่สุดภายในใจของนาง นางได้อะไรจากการกระเสือกกระสนทำงานในนามของตระกูลตงฟางเป็นเวลา 20 ปี ?
แม้แต่บรรชนแห่งตระกูลตงฟางก็ไม่ได้แสดงตัวเมื่อตระกูลต้องการเขามากที่สุด
นางเป็นผู้หญิง นางจะต้องต่อสู้ดิ้นรนกับชื่อเสียงและเกียรติยศของราชวงศ์ไปจนตายอย่างนั้นหรือ ?
นางได้ทำทุกอย่างที่ทำได้และไม่สามารถทำได้
ตอนนี้ ถึงเวลาที่จะอำลากับเรื่องและความสัมพันธ์ทางโลก
ถ้านางต้องระบุความสัมพันธ์ทางโลกที่นางยังห่วงใยอยู่นั่นก็คือองค์หญิงจื่อยั่วหลานสาวตัวน้อยที่นางรักและเลี้ยงดูตั้งแต่เล็ก
เจี้ยงเฉินค่อนข้างเข้าใจความคิดของโกวยู่ว
เมื่อมองไปรอบ ๆ เขาก็พอใจอย่างมากเมื่อเห็นว่าหยูตงได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่และผู้คุ้มกันคนอื่น ๆ ทุกคนมีความสุขดี
เขากำลังจะตอบเมื่อมีคนใช้มารายงานว่าเซี่ยวไป๋ฉีมาขอเข้าพบ
เจี้ยงเฉินรู้ว่าเซี่ยวไป๋ฉียังไม่ได้จัดการกับแม่ยายในอนาคตของเขาอย่างถี่ถ้วนเมื่อเขาเห็นเซี่ยวไป๋ฉีมีอาการเศร้าสลด
"ไป๋ฉี ดูเหมือนว่าเจ้ายังไม่ได้จัดการกับแม่ยายอีกหรือ?"
เซี่ยวไป๋ฉียิ้มเบื่อหน่าย "หญิงชราคนนี้ไม่ตอบสนองอะไรและนางยังใจแข็งบังคับให้ลูกสาวของนางแต่งงานกับอัจฉริยะบางคนในวิหารอุดรครามสวรรค์ ซึ่งนางพึมพำบางอย่างเกี่ยวกับการแต่งงานระหว่างสถานะทางสังคมที่เท่าเทียมกัน"
เจี้ยงเฉินถาม "สถานะทางสังคมที่เท่าเทียมกันหรือ? เจ้าหมายความว่ายังไง?"
"เอ้ หญิงชราคนนั้นรังเกียจมากที่ข้ามาจากที่เล็ก ๆ เช่น อาณาจักรตะวันออกและไม่เหมาะสมฉิงหยานกับเลย"
ฉิงหยานเป็นชื่อของผู้อาวุโสหนิง
"นี่คือการบอกว่าเจ้ายังไม่ได้บอกนางถึงความสัมพันธ์ของเรา ? "
"ข้าบอกฉิงหยานว่าท่านกับข้าเป็นเพื่อนกัน อย่างไรก็ตามหญิงชราคนนั้นดูเหมือนจะไม่ยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน " เซี่ยวไป๋ฉีระวังตัว เขาไม่กล้าเปิดเผยความสัมพันธ์ของเจ้านายกับศิษย์โดยไม่ได้บอกให้เจี้ยงเฉินรู้ก่อน
ถึงแม้เจี้ยงเฉินจะบอกเขาว่าเขาจะทำยังไงก็ได้ที่เขาต้องการ เขาก็อยากจะใช้ความสามารถของตนเองก่อน แต่เขาก็ยังไม่สามารถจัดการกับประมุขของวิหารทักษิณครามสรรค์ได้โดยปราศจากการสนับสนุนส่วนตัวของเจี้ยงเฉิน
"นี่เจ้าจะบอกข้าว่าไม่ใช่แค่หญิงชราที่คัดค้าน แต่เจ้ายังมีคู่แข่งอีกด้วย" เจี้ยงเฉินยิ้ม
เซี่ยวไป๋ฉียืดอกออก "ข้าไม่กลัวคู่แข่งในเรื่องความรักหรอก ฉิงหยานไม่สนใจในสิ่งที่เรียกว่าอัจฉริยะจากวิหารอุดรครามสวรรค์ นางชอบข้า "
เจี้ยงเฉินไม่สงสัยเรื่องนี้ เซี่ยวไป๋ฉีค่อนข้างฉลาดและมีคำพูดหวาน เขาคงจะไม่มีปัญหาอะไรในการจัดการกับผู้หญิงที่ชอบทำตัวเองให้สวยงามตลอดเวลาเหมือนอาวุโสหนิง
ไม่ต้องพูดถึงว่ามีตัวช่วยดั่งเทพเจ้า เช่น โอสถวารีนิรันดร์สี่ฤดู
"นายน้อยเฉิน ปัญหาคือหญิงชราได้ประกาศต่อสาธารณชนแล้วว่านางต้องการจัดการแข่งขันเพื่อเลือกเจ้าบ่าวซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ เมื่อการแข่งขันครั้งนี้เกิดขึ้น มันจะง่ายสำหรับนางที่จะให้คำตัดสินผู้ชนะเป็นวาจาสิทธิ์ ข้ากังวลว่าหญิงชราคนนั้นมีใจโอนเอียงกับคนที่เขาเรียกกันว่าอัจฉริยะ ซึ่งทำให้ต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบ"
" พรุ่งนี้ ! " เจี้ยงเฉินตกใจ "นั่นมันเร็วมาก ? "
"ใช่แล้ว นายน้อยเฉิน! ไป๋ฉีเลยต้องบากหน้ามาขอความช่วยเหลือจากนายน้อย "
เจี้ยงเฉินหัวเราะลั่น เซี่ยวไป๋ฉีเป็นคนที่ซื่อสัตย์กับเขาเป็นคนแรก เขายังเป็นคนส่งเซี่ยวไป๋ฉีไปยังวิหารทักษิณครามสวรรค์
ตอนนี้เขากับผู้อาวุโสของวิหารทักษิณครามสวรรค์ตกหลุมรักกัน ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เจี้ยงเฉินจะไม่ช่วยเขา
"ไม่ต้องกังวล,ข้าจะดูแลเรื่องนี้ให้กับเจ้า" เจี้ยงเฉินตบไหล่เซี่ยวไป๋ฉี "รออีกไม่นานเจ้าก็จะได้หญิงงามกลับบ้าน ! "
เจี้ยงเฉินสามารถจัดการกับเย่ชองหลิวได้ เขาไม่คิดว่าจะมีปัญหามากในการจัดการกับประมุขของวิหารทักษิณครามสวรรค์ แม้ว่าหญิงชรากำลังเข้าสู่วัยทอง
อุปสรรคในการแต่งงานคือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งอำนาจและเงิน
เสริมว่าข้อเท็จจริงที่ว่าเซี่ยวไป๋ฉีและผู้อาวุโสหนิงรักกันอยู่แล้ว สิ่งต่าง ๆ จะง่ายขึ้นกว่าเดิม
หลังจากส่งเซี่ยวไป๋ฉีกลับไป แขกที่มานาน ๆ ครั้งก็มาถึงคฤหาสน์เจี้ยง เขาก็คืออาวุโสเฟยซวนจากหุบเขาชิงหยาง !
ตั้งแต่เจี้ยงเฉินปรุงกลั่นโอสถห้ามังกรเปิดสวรรค์คราวก่อน ผู้อาวุโสเฟยได้หายตัววับไป
เจี้ยงเฉินพยายามหาเขาผ่านหลายวิธีในช่วงนั้น แต่ก็ล้มเหลวในการติดต่อกับเขา เจี้ยงเฉินเกือบจะสงสัยว่าชายชราเจ้าเล่ห์คนนี้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากที่ได้รับโอสถกำเนิดวัฎจักรพิสุทธิ์
แต่ชายชรากลับมาปรากฏตัวอีกครั้งหลังจากหายไปไม่กี่เดือน
อาวุโสเฟยสวมใส่เครื่องแบบวันนี้ เขาสวมเสื้อคลุมยาวที่มีการผสมผสานสีดำและสีเขียวมีลายปักคล้ายต้นไม้ที่หน้าอกของเสื้อคลุมของเขา
"อาวุโสเฟย เจ้ายังมีชีวิตอยู่หรือ?" เจี้ยงเฉินรู้สึกกระอักกระอ่วนในหัวใจเมื่อเขาเห็นชายแก่เฟย
"ฮ่าฮ่า นายน้อยเฉิน อย่าโกรธไปเลย ! " ตามปกติชายชราเฟยเป็นคนก็เอะอะมะเทิง โฉงฉ่างและปรากฏตัวโดยปราศจากหลักการ เขาเดินตรงมาหน้าเจี้ยงเฉินและนวดเจี้ยงเฉินด้วยท่าทางแปลก "นายน้อยเฉิน ข้าทำเกินไปคราวนี้ ท่านควรเข้าใจข้า ข้าไม่ได้ทำเล่น ๆ ข้าต่อสู้เพื่ออนาคตของตัวเอง ! "
มองดูจากแสงแห่งความสุข หน้าตาที่ยิ้มแย้ม เจี้ยงเฉินกำลังอยากรู้อยากเห็น "ผู้อาวุโสเฟย ตัดสินจากจิตวิญญาณอันสูงส่งและพลังของเจ้า เจ้าเพิ่งมีภรรยาหรืออะไร?"
อาวุโสเฟยหัวเราะ "การมีภรรยาเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว ข้าสาบานอย่างจริงจังว่าอีกไม่นานข้าจะมีภรรยา 8-10 คนและสนุกกับชีวิตอย่างทั่วถึง "
"หึ หึ เจ้าดูค่อนข้างมีความสุข เสื้อผ้าก็ดูแปลกตา? เจ้ามีเจตนามาที่นี่เพื่ออวดเรางั้นรึ? " เจี้ยงเฉินชี้ไปที่เสื้อผ้าของอาวุโสเฟยพร้อมตั้งคำถาม
"นายน้อยเฉิน ท่านพูดถูกแล้ว ! ข้า ผู้อาวุโสเฟย ไม่ใช่เพียงผู้นำของหุบเขาชิงหยางในขณะนี้ แต่ยังมีตำแหน่งผู้บริหารอาวุโสภายในนิกายพฤกษาสวรรค์ ! ตำแหน่งของข้าเป็นอันดับสองรองจากผู้อาวุโส ! "
ความรู้สึกของความภาคภูมิที่หนาแน่นอยู่ในเสียงของอาวุโสเฟย ขณะที่คิ้วและดวงตาตื่นตัวด้วยความกระตือรือร้นไม่มีที่สิ้นสุด เขาเป็นเหมือนเด็กที่มีลูกกวาดจำนวนมากอยู่ในมือและกำลังอวดให้เพื่อนของเขาดู
ชายชราเฟยหัวเราะลั่นขณะที่เขายืนอยู่หน้าเจี้ยงเฉินว่า "แน่นอนว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของความสำเร็จของข้าในวันนี้ต้องยกความดีความชอบให้นายน้อยเฉิน ข้าใช้โอสถกำเนิดวัฎจักรพิสุทธิ์เพื่อพัฒนาปรับปรุงตัวเองอย่างสมบูรณ์ ประมุขของนิกายเป็นคนมอบตำแหน่งผู้บริหารอาวุโสให้กับข้าด้วยตัวเอง ! "
ไม่ต้องแปลกใจว่าชายชราเฟยถึงยิ้มกว้างขนาดนี้ ปรากฏว่าความปรารถนาลึกซึ้งของเขาในหลายปีที่จะกลับไปสู่นิกายเป็นความจริงในที่สุด !
ชายชราเฟยล้มลงคุกเข่าต่อหน้าเจี้ยงเฉินและร้องไห้สะอึกสะอื้นว่า "นายน้อยเฉิน ข้า ผู้อาวุโสเฟย เป็นคนที่รู้จักผิดชอบชั่วดี ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน ข้าคงจะไม่ได้มีโอกาสได้กลับไปที่นิกายในชีวิตนี้ ไม่ต้องพูดถึงการเป็นผู้บริหารอาวุโส เมื่อท่านปลอบโยนข้าและบอกว่าข้ามีโอกาสที่จะกลับไปสู่นิกายอย่างมีเกียรติในวันหนึ่ง ข้าไม่เคยคิดเลยว่าวันนั้นมันจะมาถึงอย่างรวดเร็ว ! นายน้อยเฉินให้ชีวิตใหม่แก่ข้า ! "
ผู้อาวุโสเฟยคุกเข่าลงพร้อมกับคำนับ 2-3 ครั้ง
ความรู้สึกขอบคุณต่อเจี้ยงเฉินมาจากใจของเขาอย่างแท้จริง ในที่สุดเขาก็ได้รับการปลดปล่อยตัวเองออกมาจากหลายสิบปีของความโหยหาและหลายสิบปีแห่งการดิ้นรน ทุกอย่างเป็นจริงขึ้นมาแล้ว และทุกอย่างต้องขอบคุณเจี้ยงเฉิน เขาจะไม่รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณต่อเจี้ยงเฉินได้ยังไง?
"อาวุโสเฟย เจ้ามีมโนธรรม เอาล่ะ ข้ามีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อยซึ่งเจ้าสามารถช่วยได้ในฐานะผู้บริหารอาวุโสของนิกายพฤกษาสวรรค์"
“มันคืออะไร ? กรุณาพูดตามสบาย นายน้อยเฉิน ตราบใดที่ท่านไม่บังคับให้ข้าทรยศต่อนิกาย ข้าจะทำทุกอย่างที่ท่านสั่ง ถึงแม้ท่านจะสั่งให้ข้าไปบุกน้ำลุยไฟ ข้าก็จะไม่ขมวดคิ้วด้วยซ้ำ"
"หืม ข้าชอบทัศนคติแบบนี้" เจี้ยงเฉินยิ้ม "ข้าไม่ได้ต้องการให้เจ้าทรยศต่อนิกาย ข้าเพียงต้องการให้เจ้าเป็นพ่อสื่อเท่านั้น"
“พ่อสื่อรึ?” อาวุโสเฟยอ้ำอึ้ง
"เจ้ารู้จักคนของข้า เซี่ยวไป๋ฉี เขาอยู่กับอาวุโสหนิงของวิหารทักษิณครามสวรรค์ ตอนนี้กำลังต่อกรกับแม่ของอาวุโสหนิง เจ้าสามารถทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้หรือไม่? "
เฟยซวนหัวเราะ. "แค่นี้หรือ? ไม่ต้องกังวลนายน้อยเฉิน แม้ว่าจะยังไม่มีใครรู้จักสถานะของข้าในฐานะผู้บริหารอาวุโส แต่เหรียญของผู้บริหารอาวุโสไม่ได้มีไว้อวดเท่านั้น ! แค่ผู้อาวุโสของวิหารทักษิณครามสวรรค์หรือ? ฮืม! การที่เพื่อนของข้าพบว่าลูกสาวของนางมีค่า นางต้องขอบคุณพรจากบรรพบุรุษของนาง! "
เสียงของชายชราแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเพราะตอนนี้เขากลายเป็นผู้บริหารอาวุโสของนิกาย
อย่างไรก็ตามเขายังค่อนข้างซื่อสัตย์ต่อเจี้ยงเฉินและยิ้ม "นายน้อยเฉิน ต่อหน้าท่าน ข้ายังเป็นผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์ที่สุด อิอิ ”
ชายชราคนนี้มีฝีมือเหลี่ยมจัดและเขี้ยวลากดิน เขารู้ดีกว่าทุกคนว่านายน้อยเฉินคนนี้ไม่ธรรมดา เขาได้ลิ้มรสความหวานดังกล่าวหลังจากที่ยอมรับเจี้ยงเฉินว่าเป็นนายน้อยของเขา ถ้าเขายังอยู่ใกล้ชิดเจี้ยงเฉินตลอด บางทีอาจจะมีเรื่องดี ๆ ที่รอคอยเขาในอนาคต!
อาวุโสเฟยเป็นคนฉลาด เขาจะไม่เข้าใจได้อย่างไร? ดังนั้น แม้ว่าเขาจะเป็นผู้บริหารอาวุโส แต่เขาก็ยังคงวางตัวต่ำต้อยต่อหน้าเจี้ยงเฉิน
เขาไม่อึดอัดใจแม้แต่น้อยเมื่อเจี้ยงเฉินบอกเขาให้ทำอะไร แต่รู้สึกค่อนข้างเป็นเกียรติและหวังว่าเขาจะได้รับโอกาสแบบนี้อีก เพื่อปิดช่องว่างระหว่างเขากับเจี้ยงเฉิน ในท้ายที่สุดเขาจะกลายเป็นคนสนิทของเจี้ยงเฉิน