spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ผู้อาวุโสเอวหนาคนหนึ่งตรวจสอบซากศพบนพื้นดิน เขาเริ่มขมวดคิ้ว ยืนเงียบเป็นเวลานาน
ชายคนนี้เป็นพ่อของผู้อาวุโสเหล็ก ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ผู้อาวุโสที่ได้รับการยกย่องในนิกายพฤกษาสวรรค์ อาวุโสเหล็กหลง
"ท่านพ่อ พูดอะไรบ้างสิ ! " อาวุโสเหล็กรู้สึกกังวลเมื่อเห็นว่าพ่อเอาแต่เงียบ
"เหล็กคิน ชายคนนี้เป็นพี่เขยของเจ้าหรือ?" อาวุโสเหล็กหลงถาม
"ใช่ ท่านพ่อยังจะถามอีก ข้าจะเอาซากศพของเขากลับมาทำไมถ้าเขาไม่ใช่พี่ชายของเซี่ยวเกียน?" ชื่อเต็มของอาวุโสเหล็กคือเหล็กคิน
"ชายคนนี้ไม่ได้ถูกฆ่าโดยมนุษย์ สิ่งที่ฆ่าเขาควรจะเป็นสัตว์วิญญาณและเป็นสัตว์ที่กระหายเลือดมาก " เหล็กหลงถอนหายใจ "และดูสิ จากสภาพแล้วหยางเซาไม่ได้มีความสามารถในการสู้กลับเลยเมื่อเขากำลังถูกกิน มีสัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่งดังกล่าวปรากฏในราชอาณาจักรนภาจันทร์ด้วยหรือ? "
ใครจะรู้ล่ะ!” เหล็กคินสงสัย ท่านพ่อ ท่านคิดว่าสัตว์วิญญาณพวกนี้แข็งแกร่งหรือ? มันมีพลังสักแค่ไหน? "
เหล็กหลงโกรธ "ข้าไม่ได้เห็นมันด้วยตัวเอง ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันแข็งแกร่งแค่ไหน? เนื่องจากหยางเซาเป็นผู้ฝึกฝนด้านปราณจิตวิญญาณปฐพี และเขายังไม่สามารถสู้กลับได้ ก็หมายความว่ามันแข็งแกร่งกว่าหยางเซา เหล็กคิน เจ้าเบื่อมากนักรึยังไง แทนที่จะฝึกเจ้ากลับเดินทางไปยังอาณาจักรสามัญ? กิจการสามัญทางโลกมันดึงดูดเจ้ามากขนาดนั้นเลยหรือ "
เหล็กคินเสียหน้าเล็กน้อยหลังจากการตักเตือนของพ่อของเขา "มีบางอย่างเกิดขึ้นกับพี่ชายของเซี่ยวเกียน ข้าจึงไม่มีทางเลือกเช่นกัน ใครไม่รู้บ้างว่าหยางเซาเป็นพี่เขยของข้า? ถ้าข้าไม่ไปปรากฏตัวหลังจากที่มีเรื่องเกิดขึ้นกับเขา ทุกคนคงจะหัวเราะเยาะข้า! พวกเขาคงจะคิดว่าข้าเป็นคนขี้ขลาด ข้าไม่สามารถปกป้องพี่เขยของตัวเองได้ ข้าโดนเหยียดหยามไม่เท่าไหร่ แต่ท่านเป็นคนใหญ่โตในนิกายพฤกษาสวรรค์ ข้าไม่ยอมให้ท่านต้องเสียเกียรติ "
เหล็กหลงพ่นลมหายใจทางจมูก "เจ้ามีเรื่องไร้สาระได้ตลอด ข้าขอเตือนเจ้า เจ้าควรจะกระทำอย่างเด็ดขาดและรวดเร็วถ้าเจ้าจะลงมือ อย่าสร้างปัญหาให้กับข้า "
"ข้าอยากจะทำอย่างนั้น แต่ข้าเองก็เกือบจะถูกสังหาร"
"อะไร?" ไม่ว่ายังไง เหล็กหลงยังคงเข้าข้างลูกชายของเขาเสมอ เมื่อได้ยินเหล็กคินพูดอย่างนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะถามต่อ
"จะมีใครอีกล่ะ ตดเหม็นเน่าเย่ชองหลิว! แกล้งทำเป็นว่าเขาเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เพราะความอาวุโสของเขา เขาทำแผนข้าพังมา 2 ครั้งแล้ว. ท่านพ่อ ท่านจะไม่บอกว่าชายชราคนนี้เหมือนหินในห้องน้ำที่มีกลิ่นเหม็นและดื้อด้านหรือ? ที่จริงคราวนี้เขากล้าเปิดศึกกับข้าเพื่อปกป้องเด็กหนุ่มสามัญ เขาไม่ได้ไว้หน้าข้าเลยในขณะที่ข้าเอ่ยถึงชื่อของท่าน เป็นไปได้ไหมว่าท่าน ผู้อาวุโสที่ได้รับการยกย่องนับถือจากนิกายพฤกษาสวรรค์ไม่ได้มีค่าอะไรเลยสำหรับตดแก่เน่า ๆ อย่างเขา นี้เป็นเรื่องที่น่าโมโหจริง ๆ ข้ารู้สึกโกรธมากเมื่อคิดถึงเรื่องนี้! "
"เย่ชองหลิวรึ?" คิ้วของเหล็กหลงขมวดขึ้นเมื่อเขาได้ยินชื่อนี้
"ท่านพ่อ ตาแก่เย่คนนี้ไม่ยอมไว้หน้าท่านสักนิด"
ใบหน้าของเหล็กหลงซีดลงเล็กน้อยขณะที่ได้ยินชื่อนี้อีกครั้ง "เขาเป็นถึงผู้อาวุโส ทำไมเขาจะต้องมาสร้างปัญหายุ่งยากให้กับเจ้า?"
"เพราะคนที่มาจากอาณาจักรตะวันออก มันชื่อว่าเจี้ยงเฉิน! ข้าไม่รู้ว่าเขาให้ตาแก่กินอะไร แต่ตาแก่ปกป้องเขาในครั้งนี้โดยยอมแลกกับการเป็นศัตรูกับตระกูลของเรา ท่านพ่อ เขาเป็นผู้ฝึกฝนที่หลงใหลในโลกสามัญ เขาจะมาเทียบขั้นกับนิกายของเราได้อย่างไร? "
คำพูดของเหล็กคินและความหมายข้างในได้รับการออกแบบมาเพื่อทำให้พ่อของเขาโกรธและปลุกเร้าความเดือดดาลของเขา
ถึงอย่างนั้นก็ตาม เหล็กหลงผ่านประสบการณ์มามากมาย เขาไม่ยอมให้ลูกชายชักจูงเขาได้ง่าย ๆ และเขาจะไม่ยอมหลงทางโดยคำพูดของลูกชายของเขา นอกจากนี้ เขายังรู้ดีว่าลูกชายของเขาเป็นคนยังไง
"ไม่ใช่ว่านิกายไม่คู่ควรกับเขา แต่เย่ชองหลิวไม่เคยสร้างปัญหาให้กับนิกาย แม้เขาจะมีสัมพันธภาพกับนิกาย แต่เขาไม่เคยเต็มใจที่จะเข้าไปในนิกาย มิฉะนั้นตำแหน่งของผู้สูงอายุที่ทุกคนต่างนับถือในนิกายอาจไม่ตกมาถึงพ่อของเจ้า! "
เหล็กหลงก็ยังคงเกรงกลัวเมื่อเขาพูดถึงเย่ชองหลิว
"ท่านพ่อ ท่านถ่อมตัวมากไปและวางคนอื่นอยู่บนแท่น!" เหล็กคินไม่เต็มใจยอมรับเรื่องนี้ เย่ชองหลิวอวดดีมากถึงขั้นที่ว่าอยากให้พ่อของเขาปรากฏตัวและจะจัดการกับเขาให้จนมุมอย่างโหดเหี้ยม
"เหล็กคิน เจ้าจะวางแผนต่อกรกับใครก็ได้ที่เจ้าต้องการ ถ้าทำได้เจ้าควรหลีกเลี่ยงการไปหมิ่นประมาทเย่ชองหลิว ไม่ใช่ว่าพ่อของเจ้าจะกลัวเขา มันไม่จำเป็นต้องสร้างศัตรูกับคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ถ้าเขากลายเป็นศัตรูของเราอย่างจริงจังและยื่นคำร้องต่อประมุขให้ต่อต้านตระกูลเหล็ก ประมุขจะต้องบดขยี้ตระกูลของเราแน่นอน "
ที่ไหนที่มีผู้คนจะมีความขัดแย้ง
ในกรณีที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น จะต้องมีการต่อต่อสู้และการดิ้นรนอยู่รอด
ถึงแม้ว่านิกายพฤกษาสวรรค์เป็นนิกายเร้นลับก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงว่าจะไม่มีการต่อสู้ระหว่างกลุ่มเกิดขึ้น
เหล็กหลงเป็นหัวหน้าของตระกูลเหล็กและประมุขของนิกายซี่เทียนชูเป็นหัวหน้าตระกูลซี่ พวกเขาทั้งสองมีพลังที่ยิ่งใหญ่อย่างแจ่มแจ้งภายในนิกายพฤกษาสวรรค์
เหล็กคินกลับรู้สึกหดหู่เมื่อได้ยินคำพูดของพ่อว่า "หมายความว่าเราทำได้เพียงยืนเงียบยอมรับเรื่องนี้"
"เจ้ามีเรื่องบาดหมางอะไรกับเย่ชองหลิว? คนระดับเขา ไม่มีประโยชน์อะไรที่เจ้าจะรู้สึกไม่ดีต่อเขา ข้าเองยังไม่อยากจะต่อสู้กับเขา เจ้าไม่คิดว่าตัวเองน่าหัวเราะรึยังไง? เจ้าจะกลับมาได้อย่างง่ายดายได้หรือถ้าเขาอยากจะจัดการเจ้า? "
เหล็กหลงเริ่มบรรยาย "จำไว้ว่าอย่าเป็นคนโง่ เจ้าไม่มีความสามารถที่จะต่อกรกับเย่ชองหลิวได้ ถ้าเจ้ารุกรานเขาจริง ๆ เขาจะไม่คิดถึงการไว้หน้าพ่อของเจ้า ถ้าเขาต้องการที่จะจัดการเจ้า"
เหล็กคินตะลึง "ไม่มีทาง? เขาไม่เคยให้เกียรติท่านพ่อเลยหรือ ?”
"เจ้าลูกงี่เง่า!" เหล็กหลงพูดอย่างฉุนเฉียว "เขาไม่เคยไว้หน้าซี่เทียนชูตั้งแต่แรกแล้ว นับประสาอะไรกับข้า ซี่เทียนชูเชิญเขาเข้าร่วมนิกายและเสนอสิ่งจูงใจและผลประโยชน์จำนวนมาก เย่ชองหลิวทำให้เขาผิดหวัง"
เหล็กคินตาค้าง มีอะไรบางอย่างผิดปกติกับสมองของเย่ชองหลิว?
เขาปฏิเสธคำเชิญจากประมุขของนิกายพฤกษาสวรรค์งั้นรึ?!
เป็นไปได้หรือไม่ว่าในอาณาจักรสามัญมีอะไรที่น่าสนใจกว่านิกาย?
"ท่านพ่อ เย่ชองหลิวเป็นอะไร? ทำไมเขาจึงหันหลังให้นิกายของเรา? "
เหล็กหลงหัวเราะอย่างดุเดือด "เจ้าถามข้าเหรอ? แล้วข้าควรจะไปถามใคร การที่เขาไม่เข้าร่วมนิกายมันก็เป็นเรื่องดีสำหรับเรา แค่ให้แน่ใจว่าเจ้าจะไม่ล่วงเกินเขาในอนาคต"
"งั้นหยางเซาก็ตายอย่างเสียเปล่านะสิ?" เหล็กคินไม่เต็มใจยอมรับเรื่องนี้
"การเสียชีวิตของหยางเซาเกี่ยวอะไรกับเย่ชองหลิว? เจ้าไม่เข้าใจชายแก่คนนี้ ถ้าเขาอยากฆ่าหยางเซาจริง เพียงเขาใช้ฝ่ามือตบก็เพียงพอแล้ว "
"แม้ว่ามันจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเย่ชองหลิว มันก็ต้องมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเจี้ยงเฉินแน่นอน! ข้าไม่สามารถเป็นปฏิปักษ์เจี้ยงเฉินเพราะเย่ชองหลิวกำลังปกป้องเขาอยู่งั้นหรือ? "
"เจ้าจะใช้สมองสักครั้งจะได้มั้ย? ตราบเท่าที่เจี้ยงเฉินยังอยู่ในอาณาจักรนภาจันทร์ เขาจะต้องเดินชนเข้ากับนิกายของเราไม่ช้าก็เร็ว จากนั้นจะมีโอกาสมากมายในการจัดการและล้มล้างเจี้ยงเฉิน ไม่ต้องพูดถึง ตอนนี้เจ้าเพียงแต่ต้องหาข้ออ้างที่เหมาะสมในการจัดการกับมัน เย่ชองหลิวไม่ได้มีสัมพันธ์เครือญาติกับเจี้ยงเฉินและเขาจะไม่สามารถพูดอะไรได้อีก "
"ฮ่า ฮ่า ท่านพ่อเป็นคนที่ฉลาดปราดเปรื่องที่สุด ข้าได้ยินมาว่าเย่ชองหลิวอยากจะรับเจี้ยงเฉินเป็นศิษย์ แต่เจี้ยงเฉินไม่เห็นด้วย เจี้ยงเฉินมันก็เป็นคนประหลาดเช่นเดียวกับตดแก่เน่านั้นแหละท่านพ่อ"
‘อะไรนะ? เจ้าบอกว่าไอ้เด็กโง่ปฎิเสธข้อเสนอของชายแก่? ฮ่า,ฮ่า.! กงเกวียนกำเกวียน เขาปฏิเสธนิกายพฤกษาสวรรค์ของเรา และคนอื่นก็ปฏิเสธเขาเช่นกัน นั่นคือกรรมตามสนอง! " เหล็กหลงเริ่มหัวเราะชอบใจ
“หืมมม!” เจี้ยงเฉินปฎิเสธตดแก่นั้นเพราะเขาต้องการเข้านิกายแน่ ๆ ข้าจะมีโอกาสมากมายที่จะจัดการกับเขา ถ้าเขาต้องการที่จะเข้าสู่นิกาย! "
เหล็กหลงพยักหน้า "ในที่สุดเจ้าก็เห็นแสงสว่าง นิกายทั้งสี่จะคัดเลือกอัจฉริยะในเร็ว ๆ นี้ มาตรฐานของการเลือกในปีนี้ค่อนข้างน่าประทับใจอย่างที่เคยเป็นมาในทุก 60 ปี "
"ทุก ๆ 60 ปี?"
"ใช่ เพราะพวกเขาต้องการที่จะค้นหาอัจฉริยะทั้งหมดภายใน 16 อาณาจักร ระดับของการเลือกในปีนี้ค่อนข้างสูง เหล็กคิน ถ้าเจ้ามีว่างมากถึงขั้นมีเวลาไปเอะอะโวยวายในโลกสามัญ ทำไมเจ้าถึงไม่ใช้เวลานั้นในการค้นหาอัจฉริยะหนุ่ม? อย่าคิดว่าตัวเองมั่นคงเพราะเจ้าเกิดมาในนิกายและได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อาวุโสของนิกายเพราะอิทธิพลของข้า "
เหล็กหลงต้องการตบหน้าลูกชายให้กระเด็นเมื่อเห็นเขามีสีหน้าเมินไม่กระตือรือร้นต่อสถานการณ์
เขาต้องบอกว่าลูกชายคนนี้เป็นต้นเหตุของความผิดหวัง
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะผิดหวังเพียงใด เหล็กคินก็ยังเป็นลูกชายของเขา
"เหล็กคิน เจ้าคิดว่าชีวิตของเจ้าเยี่ยมยอดในฐานะผู้อาวุโสของนิกายนี้หรือ? เจ้าพอใจที่เจ้าสามารถเดินไปไหนหรือสั่งอะไรก็ได้ตามใจชอบเพียงในอาณาจักรสามัญนี้หรือ? เจ้าไม่มีเป้าหมายอื่นในชีวิตนี้อีกหรือ? "
"ท่านพ่อ ข้ากำลังพยายามอย่างหนักเช่นกัน!"
"พยายามอย่างหนักรึ?" เหล็กหลงหัวเราะเย็นชา เจ้าพยายามอย่างหนักทุกวันระหว่างขาของผู้หญิงไม่ใช่รึ?"
"อืม ... " เหล็กคินค่อนข้างหดหู่ "ท่านพ่อ ข้าไม่เข้าใจ ความสามารถของข้าไม่แย่ขนาดนั้นใช่มั้ย? ข้าไม่เคยทำให้ท่านเสียหน้าเลยมิใช่หรือ? ทำไมท่านถึงชอบกล่าวหาว่าข้าทำนี้ทำนั้นอยู่เรื่อย? "
"อืม เหล็กคิน มีบางเรื่องที่ข้ายังไม่ได้บอกเจ้าเพราะข้าไม่อยากให้เจ้าต้องกังวล ถูกต้องถ้าเจ้าคิดว่าตระกูลเหล็กของเรามีอำนาจและอิทธิพลอย่างไม่น่าเชื่อภายในนิกาย แต่สิ่งที่เจ้าไม่รู้แม้กระทั่งนิกายของเราก็ยังกังวลถึงเรื่องนั้น โลกนี้กว้างใหญ่และมีผู้ฝึกฝนจำนวนมากอยู่ที่นั่น แม้ว่านิกายของเราอยู่ที่จุดยอดของการดำรงอยู่ภายในสิบหกอาณาจักร เราก็ยังเป็นเพียงถังน้ำขนาดเล็กในโลกอันไพศาล"
"ท่านพ่อ,ท่านคิดมากเกินไป ! แม้ว่าเราจะเป็นน้ำนิ่งเล็ก ๆ แต่เราก็ยังมีชีวิตอยู่ได้เป็นอย่างดีและเงียบสงบตลอดสองสามร้อยปีที่ผ่านมา อะไรที่ทำให้เราไม่สามารถอยู่ได้ แค่เพราะเราอยู่ในสถานที่เล็ก ๆ งั้นรึ ? "
ความหงุดหงิดของเหล็กหลงเพิ่มขึ้นเมื่อเขาเห็นความคิดไม่แยแสของลูกชายอย่างสิ้นเชิง เขาโมโหอย่างมากที่ทายาทของเขาล้มเหลวในการใช้ชีวิตตามความคาดหวังของเขา
"จะสิ้นหวังไปก็ไม่ได้ทำให้อะไรขึ้นหรอก เจ้าไม่มีหวังแล้ว!" เหล็กหลงโกรธมากจนใบหน้าของเขาเป็นสีม่วง เขาพูดอย่างขุ่นเคือง "ข้าไม่ได้บอกเจ้าหลายสิ่งเพราะพวกเขากำลังแบ่งขั้น ตั้งแต่เจ้าพอใจที่จะอยู่อย่างเพ้อเจ้อ ข้าก็จะบอกเจ้า ! "
“มีอะไรเหรอ?" ความคิดของเหล็กคินวิ่งวนเมื่อเขาเห็นว่าเสียงของพ่อฟังดูเคร่งเครียด เขาไม่กล้าทำเป็นเรื่องเล่น ๆ อีกต่อไป
"ทำไมการคัดเลือกครั้งนี้เป็นเรื่องสำคัญมากรู้มั้ย?"
"ทำไม?" เหล็กคินไม่รู้จริง ๆ
"ทำไมเจ้าถึงคิดว่าสี่นิกายที่ยิ่งใหญ่ กลุ่มชนที่ขัดแย้งกันและกันเสมอจะยอมลดทิฐิ ไม่สร้างความแตกต่างและยอมร่วมมือกันพยายามค้นหาอัจฉริยะของราชอาณาจักร"
"ท่านพ่อ หยุดถามคำถามข้าสักทีและบอกข้าว่าทำไม กรุณาพูดตรงไปตรงมา ! "
"เหตุผลง่ายมาก เพราะพันธมิตรของสหราชอาณาจักรทั้งสิบหกของเราถูกทิ้งให้อยู่ห่างไกลจากโลก การดำรงอยู่ของเราได้ลดลงและต่ำลงในโลกนี้ กลุ่มชนที่แข็งแกร่งกว่าต้องการทิ้งเราและเรากำลังจะถูกลดระดับไปยังดินแดนร้าง"
”มันหมายความว่ายังไง ? ! ท่านพ่อ มันหมายความว่าอะไรที่กลุ่มชนที่แข็งแกร่งจะโยนเราทิ้งไปยังดินแดนร้าง? "
"มันหมายถึงอะไรนะหรือ? " เหล็กหลงเผยให้เห็นร่องรอยของรอยยิ้มเยือกเย็นและน่ากลัว ภูมิภาคที่เราอาศัยอยู่เรียกว่าอี้หมิงและถือเป็นอาณาเขตของมนุษย์ มีกลุ่มอยู่หลายกลุ่มอาศัยอยู่ มีอาณาจักรที่เข้มแข็งและราชวงศ์ที่ยืนยงอยู่ในนั้น ตลอดจนพันธมิตรของราชอาณาจักรที่อ่อนแอเช่นเรา พันธมิตรทั้งสิบหกของเราอยู่ในหมู่ผู้ที่อ่อนแอที่สุดและเล็กที่สุดในบรรดากลุ่มต่าง ๆ ในอี้หมิง แต่ไม่ว่าเราจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ เราทุกคนเป็นสมาชิกของฝ่ายมนุษย์ภายในอี้หมิงและได้รับความคุ้มครอง แต่ถ้าพันธมิตรของเรายังคงอ่อนแอและไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดของอี้หมิงได้ เราจะถูกทิ้งโดยปริยายและสูญเสียการคุ้มครองของอี้หมิง ในเรื่องนี้ อาณาจักรทั้งสิบหกแห่งของเราจะถูกทิ้งร้างโดยอำนาจภายในฝ่ายมนุษย์และกลายเป็นดินแดนที่รกร้างว่างเปล่า ! "
"ดินแดนที่รกร้างว่างเปล่ารึ? มันหมายความว่ายังไง?”
"นั่นหมายความว่ามนุษยชาติทิ้งเราและเนรเทศเรา เมื่อแผ่นดินของเรามีถูกตั้งชื่อว่าดินแดนร้าง นั่นหมายความว่ามนุษย์ที่อาศัยอยู่ที่นี่จะไม่ได้อยู่ภายใต้การคุ้มครองของฝ่ายมนุษย์ เมื่อถึงจุดนี้ เราจะกลายเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากเผ่าพันธุ์อื่น ! "