หน้าแรก > ราชันสามภพ
ตอนที่ 236 สานสัมพันธ์กับเจี้ยงเฉิน

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ฉากในห้องลับของหยางเซาดูน่ากลัวมากเกินไป หัวใจของหยางเซี่ยวเกียนฉีกขาดออกเป็นสองส่วน นางกัดฟันของตัวเองก่อนที่จะร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง "เจี้ยงเฉิน เจี้ยงเฉิน! ข้าจะถอนรากถอนโคนตระกูลของเจ้าทั้งหมด! "

"ที่รัก ท่านต้องจัดการเรื่องนี้ให้ข้า! ข้ามีเพียงพี่ชายและหลานเพียงคนเดียว และทั้งคู่ก็ตายเพราะเจี้ยงเฉิน! ไม่ว่ายังไงพี่ชายของข้าเป็นรองจอมทัพของหน่วยเขี้ยวมังกร และท่าน ผู้อาวุโสของนิกายพฤกษาสวรรค์เป็นน้องเขยของเขา บอกข้ามาซิว่าท่านจะเฝ้าดูเขาตายแบบนี้หรอ? "

ใบหน้าของผู้อาวุโสเหล็กซีดเผือดหันหลังจากที่ได้รับการยืนยันว่านี่เป็นศพของหยางเซา และเขาเสียชีวิตด้วยความตายที่น่าสยดสยอง

"เซี่ยวเกียน สัตว์โง่เจี้ยงเฉินต้องตายแน่ ๆ ! มองไปที่การบาดเจ็บนี้มันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยคนธรรมดา ดูเหมือนว่าสัตว์ร้ายกัดกินเขาและไม่ใช่เพียงตัวเดียว"

“สัตว์ร้าย?”

หยางเซี่ยวเกียนหน้าซีด "ที่รัก สัตว์ร้ายมันจะน่ากลัวสักขนาดไหนแม้กระทั่งผู้ฝึกฝนปราณจิตวิญญาณปฐพีไม่สามารถที่จะต่อสู้กับมันได้?"

ผู้อาวุโสเหล็กหน้าบูดเบี้ยว เขาส่ายหัว ใบหน้าของเขาบ่งบอกถึงความกลัวเช่นกัน

"เซี่ยวเกียน เราจะกลับไปที่นิกาย อาณาจักรนภาจันทร์แห่งนี้มีเรื่องแปลกน่าเหลือเชื่อ ผู้อาวุโสเหล็กเหงื่อไหลท่วมตัว หนังศีรษะของเขารู้สึกหนาวสั่นวิ่งลงไปถึงกระดูกสันหลัง

การฝึกของเขาอยู่ที่ปราณจิตวิญญาณระดับ 6 ซึ่งมากกว่าหยางเซา 2 เท่า หยางเซาอยู่ในระดับ 4 ของอาณาจักรปราณจิตวิญญาณ

อย่างไรก็ตาม อาณาจักรปราณจิตวิญญาณระดับที่ 6 ยังคงอยู่ในอาณาจักรแห่งจิตวิญญาณปฐพี

แม้ว่าสภาพศพของหยางเซาจะน่าขนลุกขนพอง ผู้อาวุโสเหล็กในระดับจุดสูงสุดของอาณาจักรปราณจิตวิญญาณปฐพี เขาก็ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถหลบหนีโดยไม่ได้รับบาดเจ็บได้ในสถานการณ์เช่นนี้ได้หรือไม่

ถึงแม้ว่าผู้อาวุโสเหล็กจะหยิ่งและคิดว่าทุกคนอยู่ใต้อำนาจของเขา ทั้งหมดนั้นสร้างขึ้นบนรากฐานของบิดาผู้ยิ่งใหญ่ของเขา

และตอนนี้เขาอยู่ห่างจากดินแดนของนิกาย เขาอยู่นอกเหนือการป้องกันของบิดา

ถ้ามีสัตว์ประหลาดซุ่มซ่อนอยู่รอบข้าง ชีวิตของเขาก็ตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง

ผู้อาวุโสเหล็กอวดดีก็จริง แต่เขาก็รักและให้ความสำคัญกับชีวิตของตัวเอง

"ที่รัก เรากำลังจะกลับไปง่าย ๆ เช่นนี้หรือ? พี่ชายของข้าเสียชีวิตอย่างไร้จุดหมายเช่นนี้? " หยางเซี่ยวเกียนกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น น้ำตาไหลนอง

"นำศพของเขากลับไปให้ท่านพ่อของข้าดู" ผู้อาวุโสเหล็กไม่แน่ใจว่าจะทำอะไรในฉากนี้หลังจากตรวจสอบมันสักระยะหนึ่ง

เขาต้องการที่จะหาข้ออ้างซึ่งเป็นไปได้ที่เขาจะรีบกลับไปยังนิกาย

ตอนนี้ เช็นกันยี่นำคนจำนวนมากมาที่ประตูห้องลับ

หยางเซี่ยวเกียนโกรธมากเมื่อนางเห็นเช็นกันยี่ ในที่สุดนางก็เจอที่ระบายไฟร้อนที่สุมอยู่ในใจ นางพุ่งออกมาเริ่มพูดจาโผงผาง

"เช็นกันยี่ ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของเจ้า พี่ชายข้าตายแล้ว ตอนนี้เจ้ามีความสุขอย่างนั้นซิ?! ไม่มีใครสามารถคุกคามตำแหน่งของเจ้า ใช่หรือไม่! เจ้านอนหลับสบายในเวลากลางคืนได้แล้วใช่มั้ย? "

หยางเซี่ยวเกียนเป็นผู้หญิงบ้า "เจ้าอย่าได้อวดดีไป! ความตายของพี่ชายของข้าจะไม่ไร้ความหมาย! ถ้าปรากฎว่าเจ้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เจ้าจะตายตามเขาไปในอีกไม่นาน! "

ใบหน้าของเช็นกันยี่เย็นชา " หยางเซี่ยวเกียน ข้าเข้าใจความทุกข์ทรมานของเจ้าที่เกิดจากการตายของพี่ชาย  แต่ลืมไปได้เลยถ้าเจ้าต้องการทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าข้าต้องการให้หยางเซาตาย ข้าจะต้องไปลำบากทำไม? อาชญากรรมที่ข้ามีอยู่ในมือเพียงพอที่จะทำให้เขาตาย ข้าได้พูดคุยกับองค์ราชาเป็นเวลานานและเก็บพยานหลักฐานไว้มากเพราะข้าอยากจะมอบโอกาสแก้ตัวให้กับหยางเซาอีกครั้ง ข้าสามารถบอกเจ้าได้อย่างชัดเจนว่าการตายของเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับหน่วยเขี้ยวมังกร! "

"หยุดแสร้งร้องไห้และแกล้งทำเป็นคนดี!"

หยางเซี่ยวเกียนไปไกลเกินกว่าจะเข้าใจเหตุผล "ถ้าเจ้าเป็นลูกผู้ชายที่ดีจริง ๆ ทำไมเจ้าไม่จับกุมตอนนี้?"

"เจี้ยงเฉินเป็นคนสนิทขององค์รัชทายาทและท่านอาจารย์ เขาสามารถถูกจับได้ง่าย ๆ หรือ? ไม่ต้องพูดถึงว่าองค์ราชาต้องการความสมดุลและไม่เอนเอียงไปทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง "

ผู้อาวุโสเหล็กรู้สึกอึดอัดใจ "เช็นกันยี่ หยุดพล่ามคำพูดไร้สาระนี่ ข้าจะบอกเจ้าที่นี่และตอนนี้ว่าเรื่องวันนี้ยังไม่จบ! "

เช็นกันยี่ไม่ได้หวังว่าเรื่องนี้จะได้รับการแก้ไข เมื่อเขาเห็นว่าทั้งสองคนไร้ซึ่งเหตุผลอย่างสมบูรณ์ เขาหัวเราะเบา ๆ "ข้ามีมโนธรรมที่ชัดเจน เจ้าจะคิดอะไรก็เชิญ "

หลังจากคำพูดของเย่ชองหลิว เช็นกันยี่ได้คิดถึงสิ่งต่าง ๆ เช่นกัน เขารู้ว่าถ้าเขาพยายามจะทำให้ทั้งสองฝ่ายพอใจ ในที่สุดเขาจะไม่ได้ทำให้ฝ่ายใดพอใจ

เนื่องจากผู้อาวุโสเหล็กไม่รับฟังเหตุผล เช็นกันยี่จึงเอนเอียงไปทางเจี้ยงเฉิน

ผู้อาวุโสเหล็กหัวเราะอย่างเย็นชาและแบกศพของหยางเซาออกไป เขากวาดสายตาอันหนาวเย็นไปทั่วเช็นกันยี่ "เช็นกันยี่ ข้าหวังว่าเจ้าจะอยู่ในตำแหน่งของเจ้าในฐานะจอมทัพได้อย่างสบายใจ!"

เช็นกันยี่ตอบน้ำเสียงปกติว่า "ตำแหน่งจอมทัพได้รับมอบอำนาจจากองค์ราชา ถ้าองค์ราชาคิดว่าข้าไม่คู่ควร ทำไมข้าจะต้องนั่งอยู่ที่นี่อีก? "

ความหมายของคำพูดของเขาคือว่ามันควรจะขึ้นอยู่กับองค์ราชาที่จะกล่าวโทษเขา และไม่ใช่การแทรกแซงของผู้อาวุโสที่ก้าวข้ามขอบเขตของเขา

ผู้อาวุโสเหล็กรู้สึกโกรธมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นเช็นกันยี่ไม่ได้คิดจะทำอะไรเลย

อย่างไรก็ตามเขาไม่อยากอยู่ต่อในเวลานี้ เขาจากไปอย่างเร่งรีบพร้อมกับจดชื่อของเช็นกันยี่ไว้ในบัญชีดำของเขาเช่นกัน

ใบหน้าของเช็นกันยี่เคร่งขรึมหลังจากที่ผู้อาวุโสเหล็กจากไป "เรียกแม่ทัพและรองแม่ทัพทั้งหมดมา ข้าต้องประกาศข่าวอะไรบางอย่าง"

ฉีเทียนนานสั่นไปทั่วขณะที่เขามองที่ท่าทางเย็นชาของเช็นกันยี่ เขารู้ว่าตอนนี้จอมทัพคนนี้กำลังโกรธมากและตัดสินใจที่จะสะสางหน่วย

ซินหวู่ดูและฉีเฟิงเซียนได้ฝ่าฝืนเช็นกันยี่ก่อนหน้านี้ต่อสาธารณชน ทำให้เขาตระหนักดีว่าเขาไม่ใช่จอมทัพผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งไม่มีใครกลัวอีกต่อไป

แม่ทัพสองคนกล้าท้าทายเขา!

ถึงแม้จะเป็นเพราะผู้อาวุโสของนิกายเข้ามาแทรกแซง แต่เช็นกันยี่ไม่สามารถทนต่อเรื่องนี้ได้

หน่วยเขี้ยวมังกรเป็นทหารรักษาการณ์  โดยไม่คำนึงถึงตำแหน่งหรือเหตุผล การปฏิบัติตามคำสั่งของจอมทัพเป็นหน้าที่ตามธรรมชาติ

พวกเขาจะไม่เหมาะที่จะอยู่ในหน่วยเขี้ยวมังกร ถ้าพวกเขามองไม่เห็นบัญญัตินี้

อันที่จริงเช็นกันยี่ละทิ้งท่าทีเป็นมิตรของเขาไปเมื่อทุกคนมารวมตัว และเขาเปลี่ยนมาใช้วิธีการที่รุนแรงมากเหมือนสายฟ้าฟาดเพื่อกำจัดอิทธิพลของหยางเซาให้หมดไป เขาจึงถอดถอนตำแหน่งที่หยางเซาแต่งตั้งทั้งหมด

จากแม่ทัพ ลงไปถึงตำแหน่งผู้บัญชาการและแม้แต่หัวหน้าหน่วย ผู้ที่เกี่ยวข้องกับหยางเซาถูกถอดถอนทั้งหมด !

รองผู้จอมทัพที่หนึ่งซูคึนเป็นผู้สนับสนุนการกระทำดังกล่าวด้วยความเต็มใจ

ฉีเทียนนานยังเข้าใจถึงความสำคัญของการยืนหยัดจงรักภักดีกับจอมทัพหลังจากเรื่องนี้ เขาสนับสนุนการเคลื่อนไหวเหล่านี้ด้วย

ในบรรดาจอมทัพทั้งสี่ หยางเซาตายไปแล้วและรองจอมทัพทั้งสองคนร่วมกันสนับสนุนเช็นกันยี่ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกดำเนินการอย่างรวดเร็วโดยไม่มีใครกีดขวาง

"ท่านจอมทัพ หยางเซานำความหายนะมาสู่หน่วยเขี้ยวมังกรและทำให้ชื่อเสียงของเราต้องเสื่อมเสียอย่างมาก ท่านจอมทัพควรเพิ่มการควบคุมในอนาคตและหลอมหน่วยเข้าด้วยกันเป็นส่วนหนึ่งที่มั่นคง! "

ซูคึนให้คำแนะนำดังกล่าว

เช็นกันยี่พยักหน้า "อาวุโสซู มันเป็นเพราะข้าไว้วางใจหยางเซามากเกินไปก่อนหน้านี้ เจ้าและอาวุโสฉีต้องคอยสังเกตสิ่งต่าง ๆ ให้ข้าต่อไปในอนาคต คนที่มีพรสวรรค์เช่นซินหวู่ดูและฉีเฟิงเซียนก็ไม่อาจทำงานให้หน่วยได้ถ้าพวกเขายังเป็นนกสองหัว "

คนที่ต่อต้านสัญลักษณ์เขี้ยวมังกรอย่างเปิดเผยเช่นพวกเขาไม่ควรเข้ามาในหน่วยอีกต่อไป

"พวกเขาเป็นคนสนิทของหยางเซา ในสายตาของพวกเขา คำพูดของหยางเซาเป็นคำสั่งของพระเจ้า " ซูคึนมีความเกลียดชังหยางเซามากกว่าปกติ

ฉีเทียนนานกล่าวว่า "ไม่มีอะไรที่หน่วยเขี้ยวมังกรไม่สามารถเอาชนะได้ ถ้าเรามีหัวใจเป็นหนึ่งเดียวกัน"

"อาวุโสฉี เจ้าได้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในวันนี้" เช็นกันยี่ถอนหายใจ

คลื่นแห่งความกตัญญูร่ำไห้ในใจของฉีเทียนนาน ไม่ว่ายังไงท่านจอมทัพก็ได้ช่วยเหลือเขาตอนที่อาวุโสเหล็กจับตัวเขาไว้ก่อนหน้านี้

หลังจากที่ผู้อาวุโสเหล็กทำให้เขาอับอายขายหน้า ฉีเทียนนานจึงโกรธแค้นอาวุโสเหล็กและหยางเซามาก หัวใจของเขาเอนเอียงไปทางจอมทัพ

"เจ้าไม่ต้องกังวล ข้า เช็นกันยี่ ไม่ใช่เป้านิ่ง นิกายพฤกษาสวรรค์ไม่ได้เป็นของตระกูลเหล็ก"

ขวัญกำลังใจของหน่วยเขี้ยวมังกรค่อนข้างต่ำในขณะนี้ หลังจากที่การแสดงอำนาจของผู้อาวุโสเหล็กทำให้ทุกคนหวาดหวั่นและเสียหน้า

แม้แต่เช็นกันยี่ในฐานะจอมทัพก็ยังเสียหน้า

"ท่านจอมทัพ ข้ารู้สึกว่าเราควรใช้โอกาสนี้ในการเชื่อมความสัมพันธ์กับเจี้ยงเฉิน" ในที่สุดซูคึนก็พูดขึ้นมา

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ หากเขาเสนอความคิดเช่นนี้ หยางเซาคงเยาะเย้ยเขา

แต่ตอนนี้เช็นกันยี่ก็ต้องพิจารณาคำแนะนำนี้อย่างจริงจัง

ไม่ใช่ว่าหน่วยเขี้ยวมังกรไม่ได้ติดต่อกับเจี้ยงเฉินมาก่อน ตอนที่หลูวู่จิโยนเจี้ยงเฉินเข้าไปในคุกมืดคราวก่อน เขาได้ก่อให้เกิดปัญหาอย่างใหญ่หลวงและทำให้วิหารทั้งสี่แห่งเริ่มลุกลามเป็นปรปักษ์กับหน่วยเขี้ยวมังกร

เช็นกันยี่รู้จักเจี้ยงเฉินนับตั้งแต่นั้นมา แต่ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเขา เขารู้สึกเพียงว่าเจี้ยงเฉินมีเล่ห์กลบางอย่างและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในสี่วิหาร

เมื่อได้ยินว่าท่านอาจารย์ให้ความสำคัญกับเจี้ยงเฉินในระหว่างงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของเขา เขาก็หัวเราะอีกครั้ง เขารู้สึกว่าเจี้ยงเฉินรู้เทคนิคบางอย่างในการสร้างความเพลิดเพลินให้กับท่านอาจารย์

แต่หลังจากการล่าสัตว์ในเขาวงกต เย่หลงกลับกลายเป็นองค์รัชทายาทจากคู่แข่งทั้งหมด ต้องขอบคุณเจี้ยงเฉินและด่านเฟยที่เข้าร่วมกลุ่มกับเขา

นี่คือตอนที่เช็นกันยี่เริ่มเห็นคุณค่าของเจี้ยงเฉินอย่างแท้จริง !

เขารู้พื้นฐานของเย่หลงดี เหตุผลเดียวที่เขาได้รับชัยชนะจากการแข่งขันอันรุนแรงภายในเขาวงกตมฤตยูคือเจี้ยงเฉิน

แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นในเขาวงกต เขาก็เริ่มมองเห็นความสามารถของเจี้ยงเฉินตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา องค์ราชาเองก็ดูเหมือนจะรู้จักเจี้ยงเฉินดีกว่าเขา

และในปัจจุบันเรื่องของหยางเซาและหลูวู่จิร่วมกับศัตรูภายนอกเพื่อดักซุ่มทำร้ายเจี้ยงเฉิน ซึ่งใครจะคิดว่าผลสุดท้ายจะทำให้ทั้งสองคนสูญเสียชีวิตไปในที่สุด?

ผู้อาวุโสเหล็กเองก็พลาดเช่นกัน น้องเขยเขาถูกฆาตกรรม เขากลับทำอะไรเจี้ยงเฉินไม่ได้เลย!

สิ่งเหล่านี้รวมเข้าด้วยกันทำให้มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นเรื่องบังเอิญ

ถ้าเจี้ยงเฉินเป็นเพียงเยาวชนธรรมดา เขาจะได้รับความกล้าหาญในการฆ่าหลูวู่จิหรือ?

ถ้าเขาเป็นแค่อัจฉริยะหนุ่ม เขาจะรวบรวมความกล้าหาญเพื่อเผชิญหน้ากับรัศมีของผู้อาวุโสเหล็กได้อย่างไรโดยไม่ต้องวิ่งหนีหางจุกตูด?

ถ้าเขาเป็นคนง่าย ๆ อย่างที่เห็นก็ดี ทำไมท่านอาจารย์ผู้ที่มักรักสันโดษเดินทางมาปกป้องเขาด้วยตนเอง และยังยอมมีปัญหากับตระกูลเหล็กอีก?

ถ้าเขาไม่มีพลังพิเศษ แล้วจะอธิบายเกี่ยวกับการตายของหยางเซาว่าอย่างไร? หรือว่ามันจะเป็นเรื่องจริงอย่างที่ผู้อาวุโสเหล็กกล่าวว่าเป็นฝีมือของสัตว์ร้าย?

ถ้าสัตว์ร้ายทำจริง ทำไมมันถึงเล็งเป้าไปที่หยางเซาคนเดียว ทำไมมันถึงไม่แตะต้องคนอื่น ๆ เลย ?

คำถามต่าง ๆ ได้บังคับให้เช็นกันยี่ประเมินเจี้ยงเฉินใหม่ และเขายังต้องทบทวนความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุและผลกระทบของเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด

มีข้อสรุปเพียงข้อเดียว

เจี้ยงเฉินไม่ใช่ชายหนุ่มธรรมดา !

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.