spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

ตาของเช็นกันยี่ขยายออกไปเล็กน้อย ขณะที่เขาตระหนักว่าเขาได้ประเมินความสามารถในการพูดของเจี้ยงเฉินต่ำเกินไป

"เจี้ยงเฉินใครใครก็พูดลอย ๆ กันได้ทั้งนั้น ใครไม่รู้ว่าจะใส่ร้ายคนอื่นยังไง? เจ้าบอกว่าหลูวู่จิสมคบกับศัตรูภายนอก เจ้ามีหลักฐานหรือไม่? ในฐานะรองแม่ทัพ มันอาจเป็นเรื่องบังเอิญที่หลูวู่จิกำลังลาดตระเวนอยู่ที่นั่น ใครจะคิดว่าเจ้ามีความคิดที่บ้าคลั่งและใส่ร้ายหลูวู่จิ เจ้ากล่าวหาเขาว่าสมคบกับศัตรูก่ออาชญากรรม! ไม่เพียงแค่นั้น เจ้ายังฆ่าเขาเพื่อปิดปาก! เจ้าฆ่าเขาทำไมถ้าเจ้าไม่กลัวความผิด?

ซินหวู่ดูเป็นคนแรกกระโดดออกมา

"ใช่แล้ว!  การฆ่าคนเพื่อกำจัดพยานที่อยู่ในเหตุการณ์คือสัญญาณของความผิด! ถ้ารองแม่ทัพหลูทำผิดจริง หน่วยของเราจะทำการตรวจสอบ เมื่อไหร่ที่มันกลายเป็นสิทธิของคนนอกเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของเรา? ไม่ต้องพูดถึงว่าถึงแม้ว่าหลูวู่จิมีความผิด เขาควรจะมีโอกาสที่จะปกป้องตัวเอง? เจ้าฆ่าผู้เห็นเหตุการณ์เพื่อให้แน่ใจว่าคนตายจะไม่มีใครพูดแทน และเจ้าสามารถพูดอะไรก็ตามที่เจ้าต้องการ! เจ้าฆ่าหลูวู่จิก่อนแล้วก็ใส่ร้ายรองจอมทัพหยาง นี่คือการยั่วยุหน่วยของเรา เราจะยุติความโกรธของเหล่าทหารที่แข็งแรงนับล้านได้อย่างไร ถ้าเราไม่ฆ่าเจ้าในวันนี้? เราจะป้องกันเกียรติสูงสุดของเราได้อย่างไร? "  ฉีเฟิงเซียนประณามเจี้ยงเฉินด้วยความชอบธรรมสูงสุด

ซินหวู่ดูปลุกปั่นในทางเดียวกันและกล่าวกับเช็นกันยี่ว่า "ท่านจอมทัพ ศัตรูคนนี้ได้ปฏิบัติต่อเจ้าหน้าที่ของเราด้วยความรังเกียจหลายครั้ง เขาได้ฆ่าแม่ทัพคนหนึ่งของเรา และทำให้ชื่อเสียงของเราแย่ลง ถ้าเขาไม่ตาย ศักดิ์ศรีของหน่วยเขี้ยวมังกรคงถูกหยามจนสิ้น ข้าร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือดเพื่อขอร้องให้ทำสงคราม ข้ายินดีที่จะใช้ชีวิตของข้าเพื่อฆ่าศัตรูตัวนี้! "

"ท่านจอมทัพ ข้าน้อยขอให้ทำสงคราม!" ฉีเฟิงหยางร้องโห่

พวกเราขอให้ทำสงครามกับเขา!"

ทหารอีกยี่สิบคนก็เริ่มตะโกนด้วย

แต่ละฝ่ายมีประจักษ์พยานของตัวเองและทำให้ความขัดแย้งแย่ลง เรื่องนี้ทำให้เช็นกันยี่วิตกกังวลในระดับหนึ่ง การตอบโต้ไปมาครั้งนี้บังคับให้เขาเลือกฝ่าย

เหตุการณ์กำลังบานปลาย เขาจะกลายเป็นเรื่องตลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใต้ท้องฟ้า ถ้าเขาเพียงแค่ล้างมือของเขาจากเรื่องทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ก็ยากที่จะตัดสินใจได้

สั่งให้ดำเนินการเจี้ยงเฉินจะดีหรือไม่?

นั่นหมายความว่าเขากำลังปกป้องหยางเซาและวางตัวตรงข้ามกับองค์รัชทายาท คงจะยากที่จะอธิบายตัวเองต่อองค์ราชา

ถ้าเขาสั่งให้ตรวจสอบอย่างละเอียด แน่นอนว่าเขาจะทำให้นิกายพฤกษาสวรรค์ไม่พอใจ! องค์ราชาไม่ต้องการเห็นสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น

ในส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจ เช็นกันยี่ต้องการจะกำจัดอำนาจบางส่วนของหยางเซา

แต่เขาก็รู้ว่านี่เป็นคำสั่งที่ยากจะตัดสินใจ ถ้าเขาตัดสินอย่างนั้น หมายความว่าเขาจะต้องกำจัดหยางเซาและคนสนิทของเขา ซึ่งเป็นอันตรายต่อจิตใจของเหล่าทหาร

"ท่านแม่ทัพ มีหลักฐานชัดเจนว่าหลูวู่จิสมรู้ร่วมคิดกับศัตรูที่อยู่ข้างนอก มือสังหารของนักฆ่าดาบเทวดาและเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายหยูตงสามารถยืนยันถึงจุดนี้ได้ " เทียนโชเห็นโอกาส เขาจึงรีบคว้ามันไว้เพื่อเริ่มต้นการอธิบายโดยไม่ต้องฟังผลที่ตามมา

สายตาของเจี้ยงเฉินไม่สามารถหยั่งถึง ในขณะที่เขามองเช็นกันยี่ มองไปที่จอมทัพของหน่วยเขี้ยวมังกรคนที่มีอำนาจมากที่สุดในมือ การแสดงออกของเขาราวกับไม่มีอะไรผิดปกติ ราวกับว่าเขาไม่รู้สึกกดดันในอากาศเหนือสำนักงานหน่วยเขี้ยวมังกร

ขณะที่เช็นกันยี่ถูกฉีกขาดออกไป เสียงอีกเสียงหนึ่งดังมาจากเหนือศีรษะขณะที่ทั้งสองลำแสงส่องผ่านท้องฟ้า พุ่งมาจากระยะไกล

เสียงผู้หญิงโห่ร้องกรี๊ดกร๊าดในอากาศ "ใครฆ่าหลานชายของข้า หลูวู่จิ ?! เช็นกันยี่ เจ้าเป็นจอมทัพ เจ้าไม่สามารถปกป้องคนของเจ้าได้เลยหรือ ! เจ้าควรสละตำแหน่งของเจ้าด้วยสิ! "

“หืม!  ในฐานะที่เป็นหนึ่งในกองกำลังที่มีอำนาจที่สุดภายในราชอาณาจักรนภาจันทร์ แต่หน่วยเขี้ยวมังกรกลับโดนเด็กต่างอาณาจักรเล่นงาน.! จอมทัพเช็นกันยี่ เจ้าไม่ใช่เจ้านายที่ดีเลย! "

เจี้ยงเฉินค่อนข้างคุ้นเคยกับเสียงที่สอง หลังจากที่เขาออกมาจากเขาวงกต เจ้าของเสียงดังกล่าวเคยข่มขู่เจี้ยงเฉินและกล่าวว่าเขาบันทึกชื่อของเจี้ยงเฉินไว้บนบัญชีดำ ซึ่งเขาจะไม่สามารถย่างเท้าเข้าไปในนิกายพฤกษาสวรรค์ได้

เจี้ยงเฉินถอนหายใจภายในเมื่อได้ยินเสียงนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะหลีกเลี่ยงไม่ได้

สถานการณ์ที่สมดุลแตกหักอีกครั้งหลังจากที่ทั้งสองมาถึง พวกเขาเย่อหยิ่งมาก เห็นได้ชัดว่าไม่เคารพตำแหน่งของเช็นกันยี่เลย

ร่างสองร่างประกายข้ามท้องฟ้าเช่นฟ้าแลบและลอยอยู่เหนือเช็นกันยี่

หนึ่งในนั้นสวมเสื้อคลุมสีฟ้าและมีสีหน้าบูดบึ้งอย่างมาก เขาเป็นคนที่เคยประกาศว่าต่อหน้าเทือกเขาของนิกายพฤกษาสวรรค์ว่าเขาขึ้นบัญชีดำเจี้ยงเฉิน

หญิงอีกคนก็น่าทึ่งแต่มีท่าทางรุนแรง มีเสน่ห์และที่จริงนางยังโอ้อวดตัวเอง คิ้วของนางโค้งมนตามธรรมชาติ

นางมีใบหน้าคล้ายคลึงกับหลูวู่จิ

เจี้ยงเฉินเดาว่าหญิงคนนี้เป็นน้องสาวของหยางเซา

แม่ของหลูวู่จิเป็นพี่สาวคนโตของหยางเซา และหญิงคนนี้เป็นน้องสาวคนสุดท้องของหยางเซา ในเรื่องนี้ ผู้หญิงคนนี้เป็นน้าของหลูวู่จิ

ใบหน้าของหญิงคนนี้เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งของพลังอำนาจและหลงระเริง นางชี้ไปที่เจี้ยงเฉินและพูดด้วยเสียงอึกทึกว่า "ที่รัก ปีศาจคนนี้คือสัตว์โง่ที่ชื่อว่าเจี้ยงเฉินงั้นรึ"

อาวุโสเหล็กค่อนข้างคุ้นเคยกับเจี้ยงเฉิน ในขณะที่เขาคิดถึงเรื่องของเขาวงกตในวันนั้น เปลวไฟแห่งความเกลียดชังลุกขึ้นจากสายตาของอาวุโสเหล็กเป็นรอยยิ้มอันน่ากลัวรอบริมฝีปากของเขา

การแสดงออกดังกล่าวเห็นได้ชัดว่า นางต้องการสื่อว่าตอนนี้เจ้าคือหนูในกำมือของข้า!

"เซี่ยวเกียน สัตว์โง่นี้กำลังกลั่นแกล้งคนอื่นเพราะอำนาจและตำแหน่งของเขา เจ้าไม่เห็นรึ? เขากล้าหาญมากที่เข้ามาในสำนักงานใหญ่ของหน่วยเขี้ยวมังกรหลังจากที่ฆ่าคนของพวกเขา ท่านจอมทัพอันยิ่งใหญ่ของเราคงจะไม่ปล่อยให้แม้แต่ผายลมผ่านไปได้ ฮา ฮา ท่านจอมทัพ ทำไมท่านไม่บอกข้าว่าหน่วยเขี้ยวมังกรตกอับขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใด? "

ผู้อาวุโสเหล็กและภรรยาเริ่มพูดเสียดสีทันทีที่มาถึง พวกเขาใช้คำพูดทิ่มแทงใจเช็นกันยี่ถึงขั้นนี้ แม้ว่าเขาจะเป็นพระ มันก็คงจุดประกายความโกรธในตัวเขา

หน้าของเช็นกันยี่แช่แข็ง "ผู้อาวุโสเหล็ก หน่วยเขี้ยวมังกรจะดูแลเรื่องของเราเอง ถ้าข้าจำได้อย่างถูกต้อง มันไม่ใช่ตำแหน่งของผู้บริหารระดับอาวุโสที่จะแทรกแซงเรื่องภายในของหน่วยเขี้ยวมังกรของเราใช่หรือไม่? "

ผู้อาวุโสเหล็กยิ้มอย่างภูมิใจ "เช็นกันยี่ อย่าพูดจาโง่ ๆ กับข้า หลูวู่จิเป็นหลานชายภรรยาของข้า ความล้มเหลวของท่านในการปกป้องเขาคือหลักฐานว่าท่านไร้ความสามารถ ตอนนี้ ฆาตกรอยู่ข้างหน้าเจ้า ข้าจะให้โอกาสเจ้า ถ้าเจ้าจัดการเขา ข้าจะแสร้งทำเป็นว่าทุกอย่างเหมือนเดิม "

นี่เป็นภัยคุกคามที่เห็นได้ชัด

เขาสั่งทุกคนด้วยคำพูดหยาบคาย ไม่มีความเคารพใด ๆ เลย โดยที่เขาไม่สนใจตำแหน่งจอมทัพของเช็นกันยี่เลย

น้องสาวหน้าบึ้งของหยางเซา หยางเซี่ยวเกียน ใบหน้าของนางถมึงทึง นางกล่าวว่า "ที่รัก จะมัวเสียเวลาพูดกับขยะเน่าเสียไปทำไม? ท่านเป็นผู้อาวุโสของนิกายพฤกษาสวรรค์ ท่านจะแต่งตั้งหรือถอดถอนจอมทัพของหน่วยเขี้ยวมังกรก็ไม่ใช่เรื่องยาก เช็นกันยี่คนนี้ไร้ประโยชน์ ทำไมไม่เอาเขาออกไป ข้าไม่เคยรู้สึกมีความสุขกับการที่เขามีอำนาจเหนือพี่ชายของข้า หน่วยเขี้ยวมังกรเป็นพลังอำนาจสำคัญภายในราชอาณาจักรนภาจันทร์ มันไม่สามารถมอบให้กับคนขี้ขลาดได้ "

อาวุโสเหล็กหัวเราะเบา ๆ "เซี่ยวเกียน อย่ารีบร้อน เรื่องนี้จะไม่จบลงง่าย ๆ ! "

เช็นกันยี่กำลังจะระเบิดอารมณ์ด้วยความโกรธ

เขาเคยเห็นคนอวดดี แต่ทั้งคู่ที่อยู่ตรงหน้าเขาเหลือจะทน

อย่างน้อยที่สุดเขาเป็นจอมทัพของหน่วยเขี้ยวมังกร ในแง่ของความสามารถในการต่อสู้แห่งเต๋า อย่างน้อยที่สุดเขาไม่ได้อ่อนแอกว่าอาวุโสเหล็ก อาจจะพูดได้ว่าเขาแข็งแรงกว่าด้วยซ้ำ

สามีภรรยาไร้สาระคู่นี้กล้าทำตัวอย่างทารุณ,พวกเขาตอกหน้าเขาต่อหน้าสาธารณะรวมถึงคำพูดที่ว่า "ไร้ความสามารถ" และ "ไร้ประโยชน์" และไม่สนใจตัวตนของเขาอย่างสิ้นเชิง

"ผู้อาวุโสเหล็ก ข้าไม่รู้ว่าความรู้สึกสูงส่งของเจ้ามาจากไหน แต่ตำแหน่งของข้าได้รับการแต่งตั้งจากองค์ราชา มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ออกคำสั่งข้าได้และนั่นคือองค์ราชา ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ผู้อาวุโสของนิกายพฤกษาสวรรค์มีสิทธิ์พูดในเรื่องของทางโลก? "

ตอนแรกเช็นกันยี่ได้ซ่อนเร้นความคิดในการปกป้องหยางเซา และเขาคิดว่าจะทำอย่างไรให้ไฟแห่งความโกรธของผู้อาวุโสเหล็กสงบลง

ใครจะคิดว่าการพิจารณาของเขาจะได้รับการตอบสนองด้วยการขาดความเข้าใจที่สมบูรณ์ และแทนที่ด้วยความอัปยศอดสู การกดขี่และการเสียหน้าในที่สาธารณะ

พวกเขามีท่าทางที่ชัดเจนว่ากำลังพยายามตัดขาดและตำแหน่งของเขาให้หยางเซาแทน

เช็นกันยี่วางแผนและอุบายมาตลอดชีวิต แต่ค้นพบว่าเขายังไร้เดียงสาอยู่ในท้ายที่สุด

ความคิดของผู้ที่อยู่ในนิกายแตกต่างไปจากข้าราชบริพารอย่างสิ้นเชิง พวกเขาไม่สนใจเรื่องความสมดุลหรือภาพลักษณ์ของส่วนรวม

คนเหล่านี้ใช้อิทธิพลของนิกายและใช้ชื่อปฏิบัติตัวอย่างหยาบคาย ตัดตรงไปโดยที่ไม่ได้ใช้คำพูดที่สุภาพกับเขาสักคำ !

ใบหน้าของอาวุโสเหล็กบูดบึ้ง "เช็นกันยี่ อย่ามาขู่ข้าโดยการพาดพิงถึงองค์ราชา การเปลี่ยนแปลงของราชวงศ์ในโลกอาจเกิดขึ้นได้ด้วยคำพูดคำเดียวจากนิกาย และเจ้ายังจะใช้ชื่อขององค์ราชาเพื่อทำให้ข้ากลัวงั้นรึ ข้าอยากรู้ว่าองค์ราชาจะกล้าข่มขู่ข้าหรือไม่ "

หยางเซี่ยวเกียนประกาศว่า "ทุกคนในหน่วยเขี้ยวมังกร ฟัง! เช็นกันยี่เป็นคนไร้ความสามารถ เขาไม่รู้สึกผิดที่แม่ทัพถูกประหารชีวิตโดยคนนอก ตอนที่ศัตรูกำลังเคาะประตูของเจ้า เขาก็ไม่กล้าที่จะผายลมด้วยซ้ำ! คนอย่างนี้เหมาะที่จะเป็นเจ้านายของพวกเจ้าหรือ?! ผู้อาวุโสเหล็กจากนิกายพฤกษาสวรรค์จะยึดอำนาจทั้งหมด  ทุกคนฟังคำสั่งของเขาและฆ่าศัตรูเจี้ยงเฉิน ลบความอัปยศอดสูก่อนหน้านี้และยืนยันอำนาจของหน่วยเขี้ยวมังกร! "

ผู้อาวุโสเหล็กผิวปากและพูดต่อว่า "ข้าเป็นผู้อาวุโสของนิกายพฤกษาสวรรค์และขอประกาศในนามของข้าว่าข้าจะดูแลรักษาการณ์หน่วยเขี้ยวมังกรชั่วคราว ข้าขอแต่งตั้งให้หยางเซาเป็นจอมทัพ !"

ท่าทีของเช็นกันยี่เปลี่ยนไปอย่างมาก เขารู้ว่าพวกนิกายชอบทำตัวเหนือคนอื่น แต่เขาไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะเอาแต่ใจพอที่จะไล่เขาออกจากตำแหน่งและยึดหน่วยเขี้ยวมังกรไป

"อาวุโสเหล็ก เจ้ากำลังล้ำเส้นและใช้อำนาจของเจ้าเกินขอบเขต!"

ผู้อาวุโสเหล็กมีประกายรอยยิ้มที่เยือกเย็นและภูมิใจ "และเจ้าสามารถทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้บ้าง? เจ้าเป็นหัวหน้าหน่วยเขี้ยวมังกรในสายตาของพวกเขา แต่เป็นเพียงมดในสายตาของผู้บริหารอาวุโสของหน่วย เช็นกันยี่ เจ้าจะออกไปตอนนี้ หรือชดเชยสำหรับการก่ออาชญากรรมของเจ้าโดยการทำตัวดี ข้าสัญญาว่าหากเจ้าจับเจี้ยงเฉิน ข้าจะเก็บตำแหน่งรองผู้อำนวยการไว้ให้เจ้า ! "

คำพูดเหล่านี้เหมือนกับการถูกตบฉาดใหญ่

ตำแหน่งจอมทัพเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติและมีอำนาจมาก ไม่มีใครกล้าที่จะขัดคำสั่งของเขา

การที่เขาสัญญาว่าจะเก็บตำแหน่งรองจอมทัพไว้ให้เขา เหมือนเป็นแรงกระแทกลงบนใบหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย

ถึงเช็นกันยี่จะเป็นคนที่มีมารยาทดีแค่ไหนแต่เขาก็โมโหเป็น "อาวุโสเหล็ก ถ้าเจ้ากดขี่ข่มเหงเราโดยการเข้ามาแทรกแซงเรื่องภายในของหน่วยเขี้ยวมังกร ข้าจะติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดแม้ว่าข้าจะต้องฟ้องร้องเจ้ากับประมุขของนิกายพฤกษาสวรรค์! "

"อากาศร้อนมาก"  อาวุโสเหล็กสูดหายใจและมองไปยังซินหวู่ดูและคนอื่น ๆ "ทำไมพวกเจ้าถึงยังไม่ลงมือ ? "

ซินหวู่ดูและฉีเฟิงเซียนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเคารพนับถือและเกรงกลัวเช็นกันยี่ เมื่อมีผู้อาวุโสของนิกายคอยสนับสนุนพวกเขา พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวใครอีกต่อไป

ไม่พูดถึงว่าผู้อาวุโสเหล็กบอกไว้แล้วว่าเขาจะมอบตำแหน่งจอมทัพหน่วยเขี้ยวมังกรให้แก่หยางเซา เช็นกันยี่เป็นเรื่องของอดีตไปแล้ว !