spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
เย่เฉียนรู้ว่านี่เป็นช่วงความเป็นความตาย ดังนั้นจึงไม่มีเวลามากนักสำหรับเขาที่จะพิจารณา
"เอาล่ะ ไปที่หุบเขากันเถอะ!" เย่เฉียนตัดสินใจทันที
กลุ่มของเขาไม่คิดถึงการไล่ล่าตามทีมของเย่หลงอีกต่อไป ในสายตาของพวกเขา คราวนี้เย่หลงคงโดนหนูกลืนแน่นอน
เนื่องจากฝูงหนูเหล่านี้มาจากทิศทางที่พวกเขาเพิ่งเข้ามา เนื่องจากพวกเขาต้องการเดินทางไปในทิศทางนั้น พวกเขาต้องได้เจอกับฝูงหนู ไม่มีทางที่พวกเขาสามารถอยู่รอดได้ !
แม้ว่าตอนนี้เขายังวิ่งหาทางรอดอยู่ เย่เฉียนกลับรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยนอกเหนือจากความรู้สึกกระวนกระวาย
การที่เย่หลงต้องตายแบบนี้ก็ยิ่งดีไปกว่าการส่งคนไปลอบสังหารเขาเสียอีก ถ้าทุกคนตายเพราะฝูงหนู เย่เฉียนจะกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ ชื่อเสียงของเขาจะไม่มีการแปดเปื้อนและผลลัพธ์นี้ก็สมบูรณ์แบบ
กลุ่มของเย่เฉียนรีบเดินทางมาจนถึงหุบเขา
หลิงซวนวิเคราะห์พื้นที่ "องค์ชายสอง มีถนนสองสายในบริเวณนี้ซึ่งทั้งสองจะพาเราไปรอบหุบเขา เราอาจไปถึงด้านหลังนี้ได้ ในเวลานั้น พลังของหนูจะลดลงอย่างมาก พวกมันไม่สามารถอาละวาดไปทั่วทั้งอาณาจักรเขาวงกตได้ทั้งหมด "
"ท่านตัดสินใจและดูว่าถนนไหนดีกว่า เรื่องนี้ไม่สามารถล่าช้าได้ เราไม่ควรเสียเวลาอีกต่อไป " เย่เฉียนคิดไตร่ตรอง
หลิงซวนและคนอื่น ๆ รวมตัวกันและเลือกถนนอย่างรวดเร็ว
"องค์ชาย ตามที่เราได้วิเคราะห์ เราควรจะไปทางซ้าย เส้นทางนั้นควรพาเราผ่านหุบเขาเร็วกว่าเดิม เราสามารถ ... "
จู่ ๆ เสียงของหลิงซวนก็จางหายไป เขามีท่าทีแปลกประหลาดราวกับว่าเขาเห็นผี ดวงตาของเขามองตรงไปข้างหน้า จ้องมองที่บริเวณด้านหน้าพวกเขา
"หลิงซวนมันคืออะไร?" เมื่อเย่เฉียนเห็นปฏิกิริยาแปลก ๆ ของหลิงซวน เขามองไปตามทิศทางที่หลิงซวนจ้องมอง
"เจี้ยงเฉิน?"
ร่างของเย่เฉียนสั่นสะท้าน เขาแสดงออกถึงความไม่เชื่อ เจี้ยงเฉินมาทำอะไรที่นี่? เขาออกไปแล้วไม่ใช่หรือ?
และเขาก็ออกไปในทิศทางตรงกันข้ามด้วย เขาสามารถหายตัวได้หรือ? นั่นไร้สาระเกินไป!
เจี้ยงเฉินไม่รู้จักวิธีหายตัว เขาใช้ความแตกต่างของเวลาในการวนรอบหุบเขา พวกเขาไม่ได้ห่างกันมาก ดังนั้นการวนรอบกลับเพียงต้องเดินข้ามกลับไม่กี่ร้อยลี้ เจี้ยงเฉินไม่ได้ใช้เวลามากนักเมื่อเดินทางด้วยความเร็วเต็มที่
นอกจากนี้,เมื่อราชาหนูควบคุมฝูงหนูแล้ว พวกมันก็คว้าโอกาสอันสมบูรณ์แบบเพื่อทำหน้าที่ เขารอจนกระทั่งหนูได้ยึดครองพื้นที่บนภูเขาก่อนที่จะต้อนเย่เฉียนและคนอื่นไปที่หุบเขา
ด้วยวิธีนี้ เย่เฉียนไม่ต่างจากตะพาบในไห
"ท่านกำลังรีบร้อน องค์ชายสอง มีอะไรผิดปกติรึ?" เจี้ยงเฉินมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้า
เยเฉียนไม่มีพลังงานที่จะแกล้งทำดีกับเจี้ยงเฉินในขณะนี้ "เจี้ยงเฉิน ข้าไม่มีเวลาปะทะวาจากับเจ้า น้องสี่อยู่ที่ไหน? พวกเจ้าไม่ได้ไปในทิศทางนั้นหรือ ทำไมเจ้าถึงย้อนกลับมา? "
เจี้ยงเฉินยิ้ม "องค์ชายสี่รึ? พวกเขากำลังเดินทางไปแน่นอน ข้ามีเรื่องที่ต้องสะสาง ข้าจึงกลับมา ข้าจะไปพบกับพวกเขาทันทีหลังจากที่ข้าสะสางเรื่องของข้าเสร็จ"
"พวกเขากำลังเดินทาง? เจ้าจะไปพบกับพวกเขา? " เย่เฉียนยิ้ม "เจี้ยงเฉิน นี่หมายความว่าเจ้าเป็นคนเดียวที่กลับมาที่นี่หรือ?"
เย่เฉียนรู้สึกกังวลเล็กน้อยเมื่อเห็นเจี้ยงเฉิน เขากังวลว่าองค์ชายสี่ก็กลับมาด้วยแทนที่จะถูกฝูงหนูกลืนหายไป หัวใจของเขาสงบลงอีกครั้งเมื่อเจี้ยงเฉินบอกว่าเขาเป็นคนเดียวที่กลับมา
"แค่ข้าคนเดียว องค์ชายสอง ท่านยังไม่ได้ตอบคำถามของข้าเลย ท่านมาทำอะไรที่นี่?”
เย่เฉียนแสดงรอยยิ้มที่มีความหมาย "ไม่มีอะไรมาก เราได้ยินมาว่ามีสัตว์วิญญาณอยู่ที่นี่และอยากลองเสี่ยงโชคดู เจี้ยงเฉิน เจ้าไปทำธุระของเจ้าซะและติดต่อกลับไปที่น้องสี่เมื่อเจ้าเสร็จเรื่อง ข้าจะไปตามล่าสัตว์วิญญาณและไม่อยากจะเสียเวลา ตอนนี้ข้าขอตัวไปอีกทาง"
เย่เฉียนรู้สึกมีความสุขมาก เจี้ยงเฉิน เจ้าคิดว่าเจ้าเก่งกาจมากใช่มั้ย? ถ้าเจ้ากล้า อยู่ที่นี่และอย่าไปไหน! เจ้ายังอยากจะพบกับเย่หลงอีกหรือ? เย่หลงและคนอื่น ๆ น่าจะเหลือแต่กระดูกแล้วในตอนนี้!
เขาไม่ใช่คนมีเมตตาที่จะเตือนเจี้ยงเฉินถึงเรื่องของฝูงหนูที่อยู่ข้างหลังพวกเขา
เจี้ยงเฉินหัวเราะเบา ๆ "ท่านกำลังล่าสัตว์วิญญาณ? องค์ชายสองกำลังรีบร้อนมากจนดูเหมือนว่าท่านไม่ได้ตามล่าสัตว์วิญญาณอยู่ เป็นไปได้ไหมว่าท่านมีความลับบางอย่างที่พูดไม่ได้? "
ใบหน้าของเย่เฉียนแข็งทื่อขณะที่เขาตะโกนว่า "เจี้ยงเฉิน ระวังปากของเจ้าไว้ด้วย! ข้าจะทำอะไรก็เรื่องของข้า เจ้ากล้าสบประมาทข้าได้ยังไง? "
ถ้าไม่ใช่เพราะข้อเท็จจริงที่ว่าเป็นเวลาคอขาดบาดตาย เย่เฉียนจะรีบสั่งให้ผุ้คุ้มกันของเขาสับเจี้ยงเฉินให้เละเป็นชิ้น ๆ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้มีเวลาว่างมากพอในการทำเช่นนั้นในขณะนี้
ฝูงหนูจะมาถึงได้ทุกเวลา การเสียเวลากับเจี้ยงเฉินหมายความว่าอันตรายจะเพิ่มขึ้น
"องค์ชายสอง ข้าหวังดี ข้ารู้จักพื้นที่ที่มีสัตว์วิญญาณจำนวนมาก มีมากเกินไปที่จะฆ่า ถ้าองค์ชายสองชอบล่าสัตว์วิญญาณ ข้ารับประกันได้ว่าท่านจะชอบมัน "
"ฮึ ไม่จำเป็นต้องให้เจ้ามาเอื้อเฟื้อ ไปบอกนายของเจ้าสิ มา เรารีบไปกันเถอะ! " เย่เฉียนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชาและไม่ใส่ใจเจี้ยงเฉิน
"องค์ชายสอง ท่านคิดจริง ๆ หรือว่าท่านสามารถออกไปได้" เจี้ยงเฉินหัวเราะเยาะเย้ย
"เจ้าหมายความว่ายังไง?" ร่างกายของเย่เฉียนหยุดชะงักเมื่อเจตนาฆ่าท่วมใบหน้าของเขา ทันใดนั้นเขาก็หันกลับมามองเจี้ยงเฉินด้วยสายตาเกลียดชัง
"ข้าหมายถึงอะไร?" เจี้ยงเฉินเดินไปไม่กี่ก้าวข้างหน้า "องค์ชายสอง ท่านต้องรู้สึกภาคภูมิใจตัวเองในตอนนี้ ท่านคิดว่าท่านฉลาดมากที่ทำลายคนโง่ทั้งสองคน เย่ดายและเย่เซียวด้วยการยืมมีดฆ่าคน แล้วก็ยังได้จัดการองค์ชายสี่อีกคน ด้วยวิธีนี้ ท่านจะเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ใน 4 คนที่มีความหวังมากที่สุดในการได้รับตำแหน่งองค์รัชทายาท แน่นอนว่าท่านจะได้รับตำแหน่งองค์รัชทายาทอย่างถูกต้องหลังจากออกจากเขาวงกตแล้วใช่ไหม? "
"อะไร ... เจ้ากำลังพูดถึงอะไร? อะไรคือการยืมมีดฆ่าคน? เจ้าไร้สาระมากเจี้ยงเฉิน! ข้าจะฆ่าเจ้าแน่นอนถ้าเจ้ายังคงพูดเรื่องเหลวไหล! "
"ท่านไม่กล้าหรอก" เจี้ยงเฉินยิ้มอ่อน "ท่านไม่กล้าที่จะรออยู่ที่นี่ ท่านกล้าฆ่าข้าหรือไม่ถ้าข้ายืนอยู่ที่นี่และปล่อยให้ท่านจู่โจมข้า? "
"เจี้ยงเฉิน เจ้ากำลังพยายามจะพูดอะไร?" ใจของเย่เฉียนเหมือนถูกแช่เย็น
"ข้ากำลังพยายามจะพูดอะไร? ท่านเดาไม่ถูกจริง ๆ เหรอ? ท่านเป็นคนฉลาดและถึงตอนนี้ ท่านยังมองไม่เห็นมัน ท่านยั่วโมโหปลุกปั่นฝูงหนูและฆ่าทั้งเย่ดายและเย่เซียว ท่านคิดว่าท่านจะหนีไปได้หรือ? "
"เจ้า ... ข้อกล่าวหาของเจ้าช่างงี่เง่าจริง ๆ!" แน่นอนว่าเย่เฉียนยังคงปฏิเสธ เขายังคงคิดว่าเจี้ยงเฉินกำลังพูดลอย ๆ และไม่มีหลักฐานใด ๆ
"มันไม่สำคัญว่าข้าจะทำอะไร ไม่ว่าวิธีใด ท่านก็ไม่สามารถออกไปได้ "
องค์ชาย ฝูงหนูรอดได้ตัดเส้นทางทั้งหมดแล้ว เราถูกล้อม! " หลิงซวนตระหนักว่าทั้งสองทิศทางที่พวกเขาจะใช้ออกจากหุบเขาถูกปิดล้อมจนทั่วแล้ว
พวกเขาเป็นตะพาบในไหจริง ๆ แล้ว!
"อะไรนะ?!" การแสดงออกของเย่เฉียนเปลี่ยนไปอย่างมาก
"เจี้ยงเฉิน เจ้าตั้งใจทำให้ข้าเสียเวลาใช่มั้ย?" ดวงตาของเย่เฉียนดูน่ารังเกียจในขณะที่เขากัดฟัน
"เจ้าคาดเดาได้ถูกต้อง" เจี้ยงเฉินหัวเราะและไม่ยอมปฏิเสธ
"เจ้าคนฟั่นเฟือน เจ้าคนวิกลจริต" เย่เฉียนแช่งเสียงดัง "เจ้าถ่วงเวลาเรา เจ้าคิดว่าเจ้าจะหนีไปได้รึ? เจ้าคิดว่านายของเจ้าจะหนีพ้นรึ? "
เจี้ยงเฉินยิ้มเบา ๆ "การที่ข้าถ่วงเวลาเจ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเย่หลงเลย"
"แล้วมันเป็นยังไง?" เย่เฉียนโกรธมาก
"เหตุผลง่าย ๆ พวกเจ้าทำร้ายข้าก่อน ข้าจึงมาที่นี่เพื่อสะสางหนี้ จำไว้ว่า ข้าอาจจะพูดคุยได้ง่ายแต่เจ้าก็จะตายเพราะทำให้ข้าอารมณ์เสีย "
เสียงของเจี้ยงเฉินเย็นลง "อย่ามาเล่นบทใสซื่อกับข้า ชายสองคนของท่านทำผลงานได้ดี แต่อย่างน้อยควรทำความสะอาดร่องรอยเลือดบนตัวเองออก หลังจากอุจจาระเสร็จก็ควรล้างก้น หลังจากทำงานสกปรกควรล้างเลือดออกให้สะอาด อะไรจะโง่กันขนาดนี้? "
ใบหน้าของเย่เฉียนดูน่าเกลียดมากในตอนนี้ "นี่หมายความว่าเจ้าตั้งใจจะมาที่นี่เพื่อถ่วงเวลาพวกเรา?"
“ท่านพูดถูก" เจี้ยงเฉินหัวเราะนิ่มนวล
"บ้า บ้า เจ้าเสียสติไปแล้ว เจ้าถ่วงเวลาเราสำเร็จ แล้วยังไงล่ะ? เรากำลังจะตายไปพร้อมกัน เจ้าคนเสียสติ! " เย่เฉียนตัวสั่นด้วยความโกรธ
"ท่านคิดมากเกินไป ข้าบอกว่าข้ามาที่นี่เพื่อสะสางหนี้ ข้าจะไปทันทีที่ข้าทำเสร็จ! "
ออกไปรึ! ฝันไปเถอะ! ฝูงหนูได้ปิดกั้นทั่วทุกเส้นทางแล้ว ทั้งสองทางออกถูกล้อมรอบไว้แล้วตอนนี้ เจ้าต้องการออกไป? ถึงเจ้าจะมีปีกเจ้าก็อาจจะออกไปไม่ได้ "
"ข้ารู้"
"แล้วเจ้ากำลังหัวเราะเยาะอะไรถ้าเจ้ารู้?" ดวงตาของเย่เฉียนเผยให้เห็นการฝ่าฟันภายใน
"เพราะข้าเป็นคนที่กระตุ้นฝูงหนูในครั้งนี้ ความจริงที่ว่าเราไม่ได้รับอันตรายจากฝูงหนูครั้งที่แล้วหมายความว่าข้าสามารถทำได้เช่นเดิมในเวลานี้ "
เจี้ยงเฉินหัวเราะอย่างสนิทใจขณะที่ร่างของเขากระโจนขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่และสูง "เย่เฉียน ท่านควรเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ข้าจะยืนอยู่ที่นี่และชมการดิ้นรนของท่าน! "
เสียงของฝูงหนู!
หนูได้แปรสภาพพุ่งมาจากทุกทิศทุกทางเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง
ทะเลสีทองปกคลุมไปทั่วพื้นที่อีกครั้ง
สมาชิกทุกคนในกลุ่มของเย่เฉียนล้วนกระวนกระวายและตกตะลึง ขณะที่พวกเขามองไปยังหนูที่หิวโหยจากทุกทิศทุกทาง ความสิ้นหวังปะทุขึ้นในใจ!
แสงแห่งความคิดอย่างฉับพลันส่องสว่างในสมองของหลิงซวนขณะที่เขาเรียกว่า "ทุกคน ไปจับตัวเจี้ยงเฉิน! ไอ้วายร้ายคนนี้มันไม่กลัวฝูงหนู มันต้องมีแผนในใจ เราจะมีโอกาสรอดถ้าเราพาเขาไปกับเรา! "
ข้อเสนอแนะนี้ช่วยให้เย่เฉียนมีสติอีกครั้ง
เขากำลังอยู่ในภาวะสิ้นหวัง ทันใดนั้นเองแสงแห่งความหวังเล็ดรอดออกมาจากดวงตาของเขา เขาร้องว่า "ทุกคน ร่วมมือกัน จับตัวเจี้ยงเฉินไว้ !"
ระดับการฝึกของหลิงซวนสูงที่สุด เขาลอยตัวเข้าไปในอากาศและจับดาบยาวด้วยมือข้างเดียว เขาบินไปหาเจี้ยงเฉินอย่างไม่กลัวอันตราย
หลิงชีและหลิงเฟิงรู้ดีว่านี่เป็นการต่อสู้เพื่อรักษาชีวิต พวกเขาจึงไม่คิดจะเก็บพลังไว้ พวกเขาแยกตัวไปทางซ้ายและขวาโดยเล็งให้เจี้ยงเฉินเป็นจุดศูนย์กลาง
เร็วเข้า! ฝูงหนูจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้! " เย่เฉียนกรีดร้องอย่างสุดพลัง "ทุกคนไป! พวกเจ้ากำลังยืนงงอะไรกันอยู่หรือ? ไป!”
ข้างหน้า หลิงซวนมีเพียงความคิดเดียวในขณะนั้นนั่นคือการจับกุมเจี้ยงเฉินและบังคับให้เขาบอกวิธีการหนีฝูงหนู
มิฉะนั้น ความตายเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่รอคอยพวกเขา
เขาตระหนักดีว่าฝูงหนูไม่ไช่เป็นสิ่งที่ความแข็งแกร่งของมนุษย์สามารถทนได้ มีเพียงความหวังริบหรี่เท่านั้นหากพวกเขาต้องการหลีกเลี่ยงหนู
กลิ่นอายของดาบของเขาเหมือนมังกร ใบมีดมาถึงด้านหน้าเจี้ยงเฉินในนาทีถัดมา
ทันใดนั้น -
สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
ขณะที่ร่างของเขากำลังจะเข้ามาใกล้เจี้ยงเฉิน มีแรงกระแทกพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินทะลุและยิงไปสู่สวรรค์ มันมาพร้อมกับคลื่นโคลนเช่นภูเขาไฟที่ปะทุขึ้น
หนูเขี้ยวทองจำนวนมหาศาลกระโดดออกมาจากคลื่นโคลน พวกมันกระโดดไปทางหลิงซวนด้วยแสงสีทอง และไม่สนใจพลังที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีของเขา
เสียงระเบิดแตกออกเป็นชิ้น ๆ เมื่อดาบหยุดลง หนูเขี้ยวทองเพียงรั้งอุ้งเท้าของมัน ดาบถึงกับแตกเป็นเสี่ยง ๆ
ในตอนนาทีถัดมา หนูเขี้ยวทองใช้อุ้งเท้าเตะหน้าอกหลิงซวน ปากแหลมของมันโผล่ขึ้นมาอย่างรวดเร็วขณะที่มันกัดคอหลิงซวน!
คอหลิงซวนถูกกัดเป็นรู ๆ
มันเจาะคอของเขาไปเรื่อย ๆ !
หนูเขี้ยวทองจับร่างของหลิงซวนและเริ่มแทะเล็ม มันกินหลิงซวนเป็นอาหารเสร็จภายในไม่กี่อึดใจ
หลิงซวน คนที่อยู่ในระดับอาณาจักรปราณจิตวิญญาณระดับแรก คนที่กำลังจะก้าวไปสู่ระดับที่สอง สำหรับหนูเขี้ยวทองเขาเป็นเหมือนเด็กที่เพิ่งเรียนรู้วิธีการเดิน เขาไม่สามารถป้องกันตัวได้ อาวุธดาบอันน่าสงสารหักลงโดยง่ายด้วยการตะปบของหนู
หลิงชีและหลิงเฟิงที่ยืนอยู่ขนาบข้างกระโดดหนีไป พวกเขาคงหนีจุดจบนี้ไม่พ้นหากหนูเขี้ยวทองไม่มัวแต่หมกหมุ่นอยู่กับหลิงซวน
สุดท้าย หนูเขี้ยวทองแข็งแกร่งและรวดเร็วมาก เหล่าคนที่ถูกเรียกว่าผู้ฝึกฝนอาณาจักรปราณจิตวิญญาณเป็นเหมือนตัวตลกเมื่อเทียบกับหนูเขี้ยวทอง