spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
เมื่อเจี้ยงเฉินเห็นสัตว์วิญญาณได้รับบาดเจ็บสาหัส,เขาขมวดคิ้วบาง ๆและถามว่า"เจ้าไปเจอมันที่ไหน?"
หยูตงชี้ไปข้างหน้า "ไม่ไกลเกินไป มีเลือดเต็มไปหมดตลอดทาง ข้าสงสัยว่าใครเป็นคนวิปลาสฆ่าสัตว์วิญญาณโดยการทรมานจนตาย "
เจี้ยงเฉินไม่ตอบแต่มองไปที่สัตว์วิญญาณหลายครั้ง "บาดแผลนี้เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจ ดูเหมือนว่าแผลนี้ไม่ได้ทำเพื่อฆ่ามันแต่เป็นการทรมานมัน "
"ใช่แล้ว เป็นไปได้หรือไม่ที่เย่ดายและพรรคพวกที่ทำอย่างนี้?" เย่หลงขมวดคิ้ว "เย่ดายไม่ใช่คนที่จะทำแบบนี้ นี่ไม่ใช่วิธีการของเขา"
"ลองมาดูข้างหน้า" เจี้ยงเฉินไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเช่นกัน และไม่สามารถเสนอข้อสรุปได้โดยเพียงแค่มองไปที่สัตว์วิญญาณที่ได้รับบาดเจ็บ ช่างเป็นบาดแผลที่ไร้ความปราณีซึ่งเต็มไปด้วยร่องรอยขีดข่วน
เมื่อพวกเขามาถึงที่ตั้งที่หยูตงได้พบสัตว์วิญญาณ พวกเขาเห็นร่องรอยของเลือดตลอดเส้นทาง มีเลือดอยู่ทุกหนทุกแห่ง ดูเหมือนว่าสัตว์วิญญาณมีเลือดไหลอยู่ทั่วทุกแห่ง
"สัตว์วิญญาณตายเพราะสูญเสียเลือดใช่หรือไม่?" หลินเฉียนลี้ตกใจมาก
เจี้ยงเฉินสัมผัสรอยเลือดบนพื้นดิน "เลือดยังไม่แห้ง แสดงว่ายังไม่นานนัก นับจากจำนวนเวลาที่ผ่านไป ข้าเดาว่าเย่ดายและพวกไม่ได้ทำเช่นนั้น นอกจากนี้ เป้าหมายของเย่ดายคือองค์ชายสี่ พวกเขาจะไม่ทิ้งร่องรอยเลือดเหล่านี้ไว้โดยไม่มีเหตุผลและเปิดเผยให้ศัตรูเห็นโดยไม่จำเป็น "
"มันเป็นไปได้ไหมที่คนอื่นทำแบบนี้?"
"หึม จะสนใจไปทำไมว่าใครทำเช่นนี้? มีบุตรชายขุนนางและลูกศิษย์หลายพันคนที่เข้าร่วมล่าสัตว์ในเขาวงกตนี้ มันอาจจะเป็นฝีมือใครก็ได้"
เป้าหมายของทุกคนคือการล่าสัตว์จิตวิญญาณ ได้มากเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่จะไม่ทำสิ่งทารุณดังกล่าวเมื่อล่าสัตว์ นี่เป็นเรื่องที่โหดร้ายและผิดเพี้ยน
เจี้ยงเฉินพยักหน้าและทิ้งร่างไว้บนพื้น "ไม่ว่าใครเป็นคนทำมัน พวกเขาโชคดีมากที่ได้พบเพียงตัวเดียว พวกเขาจะเจอปัญหาใหญ่หากพวกเขาต้องเจอทั้งฝูง "
หลินเฉียนลี้ค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นว่า "นี่เป็นสัตว์วิญญาณชนิดใดกัน? น้องเจี้ยงรู้หรือไม่? "
"นี่คือหนูเขี้ยวทองซึ่งมีสายเลือดราชาหนูเขี้ยวทองโบราณ พวกมันอาจจะไม่น่ากลัวถ้ามีแค่ตัวสองตัว แต่เมื่อหนูเขี้ยวทองหลายตัวระดมตัวกัน จำนวนหนูอาจมีนับพันนับหมื่น นับแสน แม้กระทั่งนับล้านตัว เรื่องนี้ค่อนข้างแปลก เราควรรีบออกไป ถ้าเราโชคร้ายมาก ๆ เราอาจได้เจอรังหนู ตอนนั้นแหละเรามีปัญหาแน่"
เจี้ยงเฉินไม่ได้พูดให้ดูน่ากลัวเพียงเพื่อปลุกเร้า เขาเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับหนูเขี้ยวทองมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีคนเก่าแก่ที่เป็นสุดยอดนักผจญภัยซึ่งผ่านโลกมาทุกประเภท มีบางคนได้ตั้งใจขยับรังของหนูเขี้ยวทองซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาที่น่าเหลือเชื่อติดตามมาในทันที
โดยปกติแล้ว ยกเว้นคนที่มีพรสวรรค์อันสูงส่ง ในสถานการณ์เช่นนี้คนที่ทำสิ่งดังกล่าวควรจะโดนฝูงหนูเขี้ยวทองไล่ต้อนจนไม่สามารถหาทางไปสวรรค์หรือหาประตูไปสู่ขุมนรกได้
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เขาควรตายไปแล้ว
"ไปเถอะ เราไปกันเถอะ" หลินเฉียนลี้รู้สึกขนลุกเมื่อเขาได้ยินที่เจี้ยงเฉินพูด
"ไปกันเถอะ หลีกเลี่ยงร่องรอยของเลือด" เย่หลงออกคำสั่ง
พวกเขาวนหลีกผ่านร่องรอยเลือดและเดินไปประมาณสิบลี้ เหตุการณ์แปลกเดียวกันเกิดขึ้นอีกครั้ง มีอีกศพหนึ่งของหนูเขี้ยวทองนอนอยู่บนท้องถนน และอาการบาดเจ็บของมันก็เหมือนกับตัวก่อนมีเลือดไหลริน ดูน่ากลัวมากทีเดียว
ใบหน้าของเจี้ยงเฉินเปลี่ยนไปอย่างรุนแรงในเวลานี้ "องค์ชายสี่ ดูเหมือนว่าเรากำลังมีปัญหา"
"เจ้าหมายความว่ายังไง?"
"หนูเขี้ยวทองสองตัวในเวลาใกล้เคียงกัน แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ คนจิตวิปลาสคนเดียวอาจเป็นไปได้ แต่สองคนในเวลาใกล้เคียงกันมันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ และดูศพของหนูเขี้ยวทองเหล่านี้มันอยู่บนเส้นทางที่เราต้องผ่าน ถ้าเราเดินวนผ่านตัวนี้ไป เราจะต้องกลับไปที่อีกตัวหนึ่ง ถ้าเมื่อตะกี้เราเลือกทิศทางอื่น คงจะมีซากของหนูเขี้ยวทองอีกตัวอยู่บนเส้นทางนั้นเป็นแน่"
"เรื่องนี้แปลกไหม?"
"เราก็ต้องลองกลับไปที่เดิมและใช้อีกเส้นทางถึงจะรู้ได้ เจ้าคิดว่าไงล่ะ?" หลินเฉียนลี้เดินออกไปข้างหน้า
ด้วยคำตัดสินของเจี้ยงเฉิน ความรู้สึกของทุกคนกลายเป็นเรื่องที่ซับซ้อน
พวกเขายังไม่ได้ไปไหนไกลหลังจากผ่านจุดตัดเดิมและเดินออกไปในทิศทางอื่น จริง ๆ แล้วพวกเขายังเดินไปไม่ถึง20 ลี้ และแล้วพวกเขาก็เห็นศพของหนูเขี้ยวทองอีกตัวหนึ่ง มันมีบาดแผลอันน่ากลัวเหมือนตัวก่อนและมีเลือดไหลท่วมตัว
เจี้ยงเฉินเริ่มเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้ชัดว่าเขาเดาไว้แล้วว่าจะเจอซากศพที่นี่
"เจี้ยงเฉินมีบางอย่างเกิดขึ้นจริงเหรอ?"
เจี้ยงเฉินแข็งทื่อ เมื่อหูของเขากระตุก เขารีบทุ่มตัวลงไปนอนราบกับพื้น เขาก้มหัวลงเอาหูแนบดินและฟังอย่างระมัดระวัง การแสดงออกทางสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
เขารู้สึกแปลกตั้งแต่ตอนที่เห็นซากของหนูตัวแรก ลางสังหรณ์ไม่ดีทำให้เขารู้สึกอึดอัด
ในขณะนี้ เขาแน่ใจได้เลยว่านี่เป็นผลงานที่มนุษย์ทำขึ้น และมันเป็นแผนงานที่โหดร้ายที่สุดที่จะกำจัดพวกเขาทั้งหมด !
"ข้าคิดว่ากองทัพหนูเขี้ยวทอง!"
"อะไรนะ?" ทุกคนตกใจมาก "เจี้ยงเฉิน เจ้าล้อเล่นรึเปล่า?"
หลินเฉียนลี้ยังคงนอนอยู่บนพื้น แต่ไม่ได้ยินอะไร "เจี้ยงเฉิน เจ้าเข้าใจผิดหรือเปล่า?"
เจี้ยงเฉินไม่ได้พูดอะไรแต่เขาใช้ทักษะญาณทิพย์เพื่อตรวจสอบในทุกทิศทาง สีหน้าของเขาเคร่งเครียดมาก
ความรู้สึกของด่านเฟยก็เริ่มหนักขึ้น นางรู้จักเจี้ยงเฉินเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และไม่เคยเห็นเขามีท่าทางเคร่งขรึมขนาดนี้
นางไม่เคยเห็นเจี้ยงเฉินกลัวที่จะเผชิญหน้ากับศัตรู เขาไม่ได้เคร่งเครียดเลยแม้แต่ตอนที่เขาเผชิญหน้ากับชะนียักษ์
"เจี้ยงเฉิน เจ้าเพิ่งได้ยินอะไร?" เย่หลงเดินขึ้นไปถาม
ด่านเฟยได้เตือนเขาอย่างอ่อนโยนว่า "อย่ารบกวนเขาเลย"
ด่านเฟยตระหนักดีว่าเจียงเฉินกำลังหากลยุทธ์การหรือวิเคราะห์สถานการณ์เมื่อเขาไม่ได้พูด การพูดกับเขาตอนนี้จะเป็นการรบกวนความคิดของเขา
เย่หลงยิ้มและไม่ได้พูดอะไรอีก
หลังจากนั้นไม่นาน เจี้ยงเฉินกล่าวกับหยูตงว่า "จงฟังเถิด"
หยูตงพยักหน้าและหมอบลงบนพื้นเหมือนเจี้ยงเฉิน เขาใช้ทักษะหูของเทพแห่งลมประจิมเพื่อฟัง การแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อเขาฟัง
ราวกับว่าแผ่นดินในทุกทิศทางถูกล้อมรอบไปด้วยเสียงที่แท้จริงนี้ และเสียงของมันขยายไปทั่วทุกเส้นทาง
เสียงนี้คมมากและบาดแก้วหู เมื่อเสียงแหลมและเสียงบาดหูมารวมกัน มันก็กลายเป็นพายุที่สามารถกลืนทุกสิ่งทุกอย่างได้และผืนดินปั่นป่วน!
เสียงกองกำลังค่อยคืบคลานเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกับว่ามันกำลังกลินกินแผ่นดินให้แคบลง
"นายน้อย เราถูกจับได้เหมือนเกี๊ยว!" หยูตงพูดโพล่งขึ้นมา.
ถูกจับเช่นเกี๊ยวหมายความว่าพวกเขาถูกล้อมรอบและกำลังจะกลายเป็นไส้เกี๊ยว
หลินเฉียนลี้ลงไปหมอบกับพื้นอีกครั้งและพยายามตั้งใจฟัง ในเวลานี้เขาสามารถได้ยินเสียงนั้นและใบหน้าของเขามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทุกคนต่างก็คุกเข่าลงบนพื้นเพื่อฟังเช่นกัน
คราวนี้ ตราบเท่าที่ยังไม่มีคนหูหนวก ทุกคนก็ได้ยินเสียงกระหึ่มของกองทัพหนูกำลังเคลื่อนเข้ามา
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมองไม่เห็นก็ตาม แต่แรงขับเคลื่อนอันมหึมานี้ทำให้ทุกคนตกใจมากจนใบหน้าของพวกเขาขาวซีดราวกับขี้เถ้า ราวกับว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับวันสิ้นโลก
"ตามข้ามา!" เจี้ยงเฉินจ้องมองไปในทิศทางหนึ่ง
ดูเหมือนว่าเจี้ยงเฉินจะเป็นสัญญาณไฟในเวลานี้ ทุกคนรีบตามเขาไป มีภูเขาขนาดใหญ่อยู่ในทิศทางนั้น หญ้าและต้นไม้ไม่หนาเกินไปบนภูเขาและมีก้อนหินขนาดใหญ่
ไปที่โขดหิน เลือกหินที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดและซ่อนตัวไว้ในนั้น เร็วเข้า! " เจี้ยงเฉินกำกับขณะที่เขาดึงผงพิษออกมาและโรยมันไปทั่วโขดหิน เขาโปรยไปทั่วทั้งซ้ายและขวาข้างละ 3 ครั้ง
แต่น่าเสียดายที่มีผงพิษเหลืออยู่น้อยมาก หลังจากโปรยออกไป 3 ครั้งในแต่ละทิศทาง มันก็ยังห่างไกลจากผลที่เขาคิดไว้
เจี้ยงเฉินยอมแพ้ เขาทำได้แค่นี้เท่านั้น
"น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถนำนกหงส์ทองมาได้ มิฉะนั้น ด้วยความเร็วของพวกมันในอากาศ เราอาจมีโอกาสรอด "
เขาสามารถพูดได้ว่าอาจจะมีโอกาสเกิดขึ้นเพราะหนูเขี้ยวทองมีหลายสายพันธุ์ บางชนิดมีปีกเหมือนค้างคาว
เมื่อหนูเขี้ยวทองมีปีก ความว่องไวของพวกมันจะน่ากลัวอย่างเหลือเชื่อ แม้ว่าความเร็วของพวกมันไม่มาก แต่พวกมันมีความแข็งแรงเมื่อมากันเป็นฝูง เมื่อฝูงหนูพุ่งขึ้นปกคลุมท้องฟ้าและพื้นดิน แม้กระทั่งคนที่มีกำลังสูงกว่าพวกมันถึงร้อยเท่า จะตกตายได้ง่าย
ไม่ใช่ว่าเจี้ยงเฉินไม่ต้องการที่จะหลบหนี แต่เขาได้ระบุไว้แล้วว่าไม่มีทางผ่านฝูงหนูที่กำลังมาถึงซึ่งพวกมันครอบคลุมทั่วทั้งพื้นที่นี้ในทุกทิศทางมากกว่าสิบลี้ ไม่มีช่องว่างเลย แม้ว่ามีช่องว่างเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย หนูเขี้ยวทองก็จะรีบเกาะกลุ่มกันเข้ามาทันที
ทุกคนแอบอยู่บนก้อนหินยักษ์ มีสีหน้าเคร่งเครียด
แม้ว่าพวกเขาจะสามารถหนีไปยังที่สูงแห่งนี้ได้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะมองโลกในแง่ดี แม้ว่าพวกเขาไม่ทราบว่าหนูเขี้ยวทองทรงพลังมากเพียงใด แต่พวกเขาอย่างน้อยก็ได้ยินเสียงของกองทัพสัตว์ แม้แต่ผู้ที่แข็งแรงที่สุดในบรรดาผู้ฝึกฝนก็ไม่เคยมีชีวิตรอดออกมาหลังจากเผชิญหน้ากับสัตว์ร้าย
ตั้งแต่สมัยโบราณ ผู้ฝึกฝนที่สามารถหลบหนีไปได้หลังจากถูกล้อมรอบโดยฝูงสัตว์ร้ายมีจำนวนน้อยมาก
"พวกมันกำลังมา!" ทักษะนัยน์ตาของพระเจ้าเป็นสิ่งแรกที่ค้นพบหนูที่ปกคลุมท้องฟ้าและพื้นดิน พวกมันเต็มไปหมดทุกหนทุกแห่ง
เท่าที่สายตาสามารถมองเห็นได้ในทุกทิศทุกทาง มหาสมุทรสีทองก็เคลื่อนที่ได้เร็วกว่าคลื่นที่เคลื่อนที่ข้ามมหาสมุทร ความเร็วของการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าของพวกมันเป็นเหมือนกระแสน้ำที่พลุ่งพล่าน
ไม่มีสีอื่นนอกจากสีทอง พวกมันกำลังสร้างมหาสมุทรสีทองหนาแน่นและครอบคลุมทั่วทุกตารางเมตรของพื้นดิน
ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่หรือไม้พุ่ม ที่ใดก็ตามที่พวกมันผ่าน ทุกอย่างถูกทับโดยฝูงหนูไม่มีที่สิ้นสุด
"มันมีมากขนาดนี้เลยรึ?" หลินเฉียนลี้ร้องด้วยความตกตะลึง
ขณะที่ฝูงหนูพุ่งขึ้นไปข้างหน้า ทุกคนก็เห็นด้วยเช่นกัน
ในตอนแรกพวกเขาหวังว่ามันจะเป็นแค่หนูขนาดเล็กเท่านั้น แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นมันเต็ม ๆ ตา นั่นคือเมื่อพวกเขารู้แล้วว่าฝูงหนูน่ากลัวและสยดสยองเพียงใด
ไม่ว่าพวกเขาจะละสายตาและหันไปทางไหนก็เห็นเพียงแต่แสงสีทอง ที่ราบลุ่มกว้างใหญ่ปกคลุมไปด้วยหนูเขี้ยวทองอย่างสมบูรณ์ มหาสมุทรสีทองที่ไม่มีที่สิ้นสุดทำให้แสงระยิบระยับใต้แสงจ้าของดวงอาทิตย์จางลง ราวกับระลอกคลื่นในมหาสมุทร
จี๊ด จี๊ด !
จี๊ด จี๊ด จี๊ด จี๊ด !
หนูส่งเสียงดังเต็มไปหมด มาบรรจบกันเป็นกองทัพขนาดใหญ่
ทุกคนรู้สึกแน่นหายใจไม่ออกก่อนที่กองทัพจะมาถึงหน้าพวกเขาเสียอีก
เสียงร้องดังกล่าวแทรกเข้ามาในลำห้วยและแม่น้ำและมันบาดลึกลงไปในแก้วหู ทำให้สมองของพวกเขาปั่นป่วนและเจาะทะลุลงไปในดวงวิญญาณของพวกเขา
การชุมนุมด้วยการร้องที่บาดหูเกือบจะทำให้พวกเขาทั้งหมดตาย ก่อนที่ฝูงหนูจะก้าวเข้ามาถึงตัวพวกเขาเสียด้วยซ้ำ