หน้าแรก > ราชันสามภพ
ตอนที่ 185 องค์ชายเย่ดายขอเข้าพบ

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

แม้ว่าตระกูลหลงโดนปราบปรามจนสิ้นซากแล้ว โกวยู่วก็ยังไม่หายแค้น หลงยู่ซื่อยังมีชีวิต นางเป็นหนามที่ค่อยทิ่มแทงคนหัวแข็งอย่างโกวยู่ว

หนามนี้ทำให้คนที่มีความภูมิใจในตัวเองเช่นนางต้องรู้สึกไม่สบายใจ

แม้ว่าโกวยู่วไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ แต่นางก็ไม่เคยเต็มใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ในแง่ร่างฟินิกซ์สวรรค์ของหลงยู่ซื่อ  อะไรคือพื้นฐานที่นิกายใช้มองหลงยู่ซื่อด้วยสายตาที่แตกต่าง?

นางกำลังจะพิสูจน์ว่านาง โกวยู่ว ก็มีดีไม่แพ้ใคร!

นางไม่ได้มีศักยภาพผิดปกติ นางมีหัวใจที่เข้มงวดมากเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้แห่งเต๋าซึ่งสามารถเอามาทดแทนกันได้

เจี้ยงเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่เคร่งครึมคนนี้และรู้สึกว่าแทบจะไม่สามารถมองต่อไปได้ หญิงสาวคนนี้เป็นองค์หญิง นางสามารถอยู่ในอาณาจักรตะวันออกเพื่อใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและเพลิดเพลินไปกับชีวิตอันหรูหราของราชวงศ์

นางติดตามเขาโดยไม่ลังเลและกลายเป็นผู้ติดตามของเขา

นางต้องการอะไร? การตัดผ่าน ความก้าวหน้าในศิลปะการต่อสู้แห่งเต๋า

เจี้ยงเฉินไม่ปฏิเสธว่าโกวยู่วรู้สึกถึงการพึ่งพาอาศัยความกตัญญูและแม้กระทั่งอารมณ์ที่คลุมเครือระหว่างชายและหญิงต่อเขา อย่างไรก็ตามเจี้ยงเฉินไม่เคยต้องการให้มันไปตามเส้นทางนั้น

ไม่ใช่ว่าเจี้ยงเฉินไม่คิดอะไรกับโกวยู่ว แต่เขารู้ว่าในที่สุดพวกเขาก็จะแยกกันเดินไปตามเส้นทางของตนและพวกเขาถูกกำหนดให้บินไปด้วยกันไม่ได้

นี่เป็นผู้หญิงที่เขาถูกกำหนดให้ปล่อยนางไป หัวใจของเขานุ่มนวลเมื่อเขามองไปที่โกวยู่วและท่าทางเด็ดเดี่ยวของนาง

"ถึงแม้ว่านางจะไม่ใช่ผู้หญิงของข้า แต่อย่างน้อยข้าก็จะให้นางมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่และฉลาดกว่าที่นางเคยคิดไว้"

เมื่อเจี้ยงเฉินคิดได้เช่นนี้ เขาก็ยิ้มว่า "เจ้าพูดถูกแล้ว เจ้ายังสามารถเข้าสู่อาณาจักรแห่งปราณจิตวิญญาณได้โดยไม่ต้องพึ่งนิกาย ตอนนี้ข้าจะให้โอกาสเจ้าเข้าสู่อาณาจักรแห่งปราณจิตวิญญาณ "

“เจ้าพูดว่าอะไรนะ? " ความประหลาดใจส่องประกายออกมาจากดวงตาที่สวยงามของโกวยู่ว นางคิดว่าเธอได้ยินผิดไป

"เจ้าอยากเข้าสู่อาณาจักรแห่งปราณจิตวิญญาณมั้ยล่ะ?"

“อยากสิ” โกวยู่วพยักหน้าโดยไม่ลังเลใจ

เจี้ยงเฉินขยับนิ้วและส่งโอสถมังกรเปิดสวรรค์ระดับกลางให้นาง "โอสถเม็ดนี้เรียกว่าห้ามังกรเปิดสวรรค์ และจะให้โอกาสเจ้าเก้าในสิบส่วนในการก้าวสู่อาณาจักรแห่งปราณจิตวิญญาณ โอสถเม็ดนี้ยังสามารถสร้างมหาสมุทรจิตวิญญาณ ทำให้เจ้ากลายเป็นหนึ่งเดียวที่มีศักยภาพเหนือใคร โปรดจำไว้ว่า ข้ายังไม่ได้ให้โอสถนี้กับหยูตง เจ้าต้องเก็บมันเป็นความลับ"

ใบหน้าของโกวยู่วเต็มไปด้วยความประหลาดใจเมื่อนางจ้องมองที่เม็ดโอสถในมือของนาง ดวงตาของนางจู่ ๆ ก็กลายเป็นสีแดง

ความรู้สึกที่ได้รับความช่วยเหลือจากเจี้ยงเฉินได้รับการชี้แนะและได้รับการดูแลจากเขา มันย้อนความทรงจำเก่า ๆ ของนางในช่วงสองสามเดือนก่อน ช่วงที่พวกเขายังพำนักอยู่ในอาณาจักรตะวันออก

"เจี้ยงเฉิน เจ้า ... "

"หยุด ข้าไม่ชอบผู้หญิงเจ้าน้ำตา เจ้าเป็นผู้ติดตามของข้าและเป็นเรื่องปกติสำหรับข้าที่จะให้โอสถแก่เจ้า " เจี้ยงเฉินทนเห็นผู้หญิงร้องไห้ไม่ได้

โกวยู่วได้ซับน้ำตาอย่างกล้าหาญ นางรู้สึกผิดหวังที่ได้ตระหนักว่าวันนี้นางดูเหมือนจะใช้ความช่วยเหลือของเจี้ยงเฉิน ใช้คำแนะนำ และคุ้นเคยกับการได้รับประโยชน์จากเจี้ยงเฉิน

"โอสถเม็ดนี้จะโจมตีร่างกายภายนอกของเจ้าและจะช่วยคืนร่างกายของเจ้าพร้อมด้วยการก่อตัวของมหาสมุทรจิตวิญญาณ กระบวนการนี้จะเจ็บปวดมาก จำไว้ว่า เจ้าต้องยึดมันไว้ ถ้าเจ้าทำ ท้องฟ้าจะเป็นสิ่งเดียวที่เป็นขีดจำกัด เจ้าจะก้าวเท้าสู่อาณาจักรแห่งปราณจิตวิญญาณและทะยานไปตามที่เจ้าต้องการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป"

โกวยู่วกัดริมฝีปากขณะที่นางไม่สามารถหาคำที่เหมาะสมสำหรับการแสดงอารมณ์ของนางได้.

"เจี้ยงเฉิน ดูเหมือนว่าข้า โกวยู่ว ถูกลิขิตให้เป็นหนี้เจ้าในช่วงชีวิตนี้ ชีวิตของข้าเป็นของเจ้า เจ้าจะเรียกคืนบุญคุณนี้เมื่อใดก็ได้ที่เจ้าต้องการ"

"ข้าไม่ต้องการชีวิตของเจ้า ข้าหวังเพียงว่าเจ้าจะยังคงเป็นคนที่มุ่งมั่นไม่ยอมแพ้แห่งอาณาจักรตะวันออก คนที่พากเพียรในศิลปะการต่อสู้แห่งเต๋า!"

โกวยู่วอ้ำอึ้งขณะที่เจี้ยงเฉินเดินผ่านนางออกไป.

"เจี้ยงเฉิน ... . เจ้าเป็นปีศาจ เจ้าได้ตัวข้ามา องค์หญิงโกวยู่ว ล้มลงอย่างไร้อำนาจในเหวลึกนั่นก็คือเจ้า ... "โกวยู่วบ่นกับตัวเอง ลืมมันไปเถอะ ข้าทำทั้งหมดนี้โดยสมัครใจ เจี้ยงเฉิน เจ้ารู้หรือไม่? ความเป็นเลิศของเจ้าทำให้โลกทัศน์ของข้าแย่ลง ข้าค่อนข้างเต็มใจและมีความสุขกับตัวเองในนรกของเจ้าดีกว่าใช้ชีวิตที่เหลือของข้าในหมู่สามัญ ข้ารู้ว่า ... ข้าไม่สมควรที่จะเป็นของเจ้า และระยะห่างระหว่างตัวเราได้เพิ่มขึ้น แม้ว่าข้าจะเป็นทาสหรือคนรับใช้ ข้าก็ยังยินดีที่จะติดตามเจ้าไปตลอดชีวิต เจ้ารู้หรือไม่? ความงดงามที่เจ้าเปล่งประกายอย่างไม่ตั้งใจเพียงพอที่จะทำให้โลกของข้าสว่างขึ้น ... "

โกวยู่วกระวนกระวายใจ นางแทบจะคลุ้มคลั่ง นางยืนอยู่ในห้องลับ ทั้งมีความสุขและเศร้า

"นายน้อย องค์ชายเย่ดายอยู่ข้างนอกเพื่อรอพบท่าน" มีคนส่งรายงานนี้มาอย่างรวดเร็วเมื่อเจี้ยงเฉินเดินออกไป

"เย่ดายรึ?" เจี้ยงเฉินรู้สึกตกใจและโบกมือ “ปฏิเสธเขาไป ! ”

"นายน้อย องค์ชายเย่ดายหน้าหนามากและไม่ยอมออกไป เขาบอกว่าถ้านายน้อยไม่ยอมเจอเขา นายน้อยจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต "

"เสียใจรึ? เพราะเขา ... " เจี้ยงเฉินหัวเราะอย่างเย็นชาและคิดว่าลูกน้องของเขาอาจจะไม่สามารถไล่เย่ดายให้กลับไปได้. "ไม่ต้องไปสนใจเขา ข้าจะไปไล่เขาออกไปเอง"

เมื่อเขาเดินไปที่ประตู เขาเห็นเย่ดายยืนอยู่ที่นั่น ร่างสูงและพอดีเหมือนต้นหลิวแกว่งไปมาในสายลม ท่าทางของเขามีความซับซ้อนและสง่างาม เขาดูดีมากหากพิจารณาเฉพาะรูปลักษณ์เท่านั้น

"เจี้ยงเฉิน ข้าวางแผนที่จะยืนอยู่ที่นี่และไม่ออกไปไหนจนกว่าข้าจะได้พบเจ้า" เย่ดายยิ้มจาง ๆ ราวกับว่าทั้งสองไม่ใช่คู่แข่งที่มีแรงเสียดทานระหว่างกัน และเป็นเพียงคนรู้จักเก่า

เจียงเฉินแสยะยิ้ม "องค์ชายใหญ่ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราสองคนดูเหมือนจะไม่คุ้นเคยกับเรื่องตลกที่น่าเบื่ออย่างนี้"

เย่ดายไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ในขณะที่เขายังรักษาความงดงามของเขาไว้  "เจี้ยงเฉิน ข้ายอมรับว่าข้ารู้สึกไม่ดีและรู้สึกอิจฉาเจ้าในวันจัดเลี้ยงวันเกิดของท่านอาจารย์ เมื่อข้ากลับถึงบ้าน ข้ารู้สึกว่านี่ไม่ใช่วิธีที่จะเข้าถึงสิ่งต่าง ๆ ด้วยความซื่อสัตย์ไม่มีความบาดหมางระหว่างพวกเราสองคน ตอนนี้เจ้าเป็นเจ้าของเหรียญตราแห่งราชอาณาจักรนภาจันทร์แล้ว และข้าเป็นองค์ชายที่ได้รับการสนับสนุนและเป็นรักมากที่สุดในราชอาณาจักร ทำไมเราสองคนต้องมีส่วนร่วมในการแข่งขันกันเองแทนที่จะร่วมมือกัน? "

"ร่วมมือกัน เย่ดาย ท่านกำลังเมาอยู่รึเปล่า? มีอะไรที่ทำให้เราสองคนร่วมมือกัน? "

"ไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้น !" เย่ดายส่ายหน้าและพูดอย่างจริงจัง "เจ้าร่วมมือกับน้องสี่ได้ เจ้าก็ต้องร่วมมือกับข้าได้เช่นกัน"

"ท่านคิดว่า ข้า เจี้ยงเฉิน เป็นคนทรยศและเปลี่ยนคนที่สนับสนุน?" เจี้ยงเฉินยิ้มอย่างเย็นชา

"เจี้ยงเฉิน เจ้าลองคิดดูดี ๆ ข้าสามารถแม้แต่จะเป็นคนกลางและแก้ไขเรื่องที่เจ้าไปมีปัญหากับวิหารอุดรครามสวรรค์ หากเจ้าตอบตกลง เรื่องที่เจ้าฆ่าศิษย์ของวิหารสามารถแก้ไขได้ด้วยรอยยิ้ม คนตายยังไงก็ตายไปแล้ว คนที่ยังมีชีวิตอยู่ย่อมไม่ควรขัดแย้งกันตลอดชีวิตเพราะคนตาย และเจ้าก็เห็นว่าข้ามีเส้นสายมากมายในนิกายพฤกษาสวรรค์ ด้วยศักยภาพของเจ้า เจ้ามั่นใจได้ว่าจะได้เข้าสู่นิกายพฤกษาสวรรค์ในอนาคต ข้าสามารถปูทางให้กับเจ้าได้อย่างเต็มที่ และทำให้เจ้าได้ก้าวไปสู่ตำแหน่งสูงได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ..."

"หยุดได้แล้ว" เจี้ยงเฉินใจร้อน "เย่ดาย เจ้าอยากจะพูดอะไร? เจ้าอยากได้ข้าไปเป็นพรรคพวก? ข้าบอกได้อย่างชัดเจนว่า ข้าไม่สน "

"นั่นเป็นเพราะน้องสี่นำหน้าข้าและเดินทางไปยังอาณาจักรตะวันออกรึ?" เย่ดายไม่เต็มใจยอมรับเรื่องนี้ "เขาเป็นแค่คนที่ฉวยโอกาส ถ้าไม่ใช่เพราะข้อเท็จจริงที่ว่าข้ายุ่งอยู่ ข้าก็จะเดินทางไปยังอาณาจักรตะวันออกด้วยเช่นกัน ถ้าข้ารู้ว่ามีคนเช่นเจ้าอยู่ที่นั่น เจ้าไม่เชื่อข้ารึ เจี้ยงเฉิน? เจ้าคิดว่าน้องสี่สามารถต่อสู้กับข้าเพื่อตำแหน่งองค์รัชทายาทได้จริงรึ? เจ้ายินดีที่จะติดตามองค์ชายที่ไม่มีพื้นหลังและทำผิดพลาดซึ่งจะส่งผลกระทบต่อชีวิตที่เหลือของเจ้าอย่างนั้นรึ"

เจี้ยงเฉินหัวเราะว่า "เย่ดาย เจ้าพูดอย่างเต็มปากเต็มคำ แต่ข้าไม่สนใจเรื่ององค์รัชทายาทนี้และสิ่งนี้เรียกว่าความพยายามอันยิ่งใหญ่ของการแย่งชิงตำแหน่ง ข้าช่วยเย่หลงเพราะเขาเป็นสหาย และท่าน เย่ดายไม่ใช่สหายของข้า มันง่ายมาก"

"งั้นเราก็เป็นสหายกันได้" เย่ดายรีบพูด

"ช่วงเวลาที่ข้าเข้าไปในคุกมืด มันได้ถูกลิขิตไว้แล้วว่าเราสองคนคงไม่มีวันเป็นสหายกันได้" เจี้ยงเฉินโบกมือและขมวดคิ้ว "ข้าจะขอร้องเจ้าอย่างหนึ่ง เจ้าจะไสหัวออกไปจากที่นี่มั้ย?"

ใบหน้าของเย่ดายดูแข็งและรู้ว่าเขาไม่สามารถปั้นหน้าแสแสร้งได้อีกต่อไป เขาพูดอย่างรุนแรง "เจี้ยงเฉิน เจ้าตั้งใจแน่วแน่ที่จะไล่ตามความเชื่อผิด ๆ และต่อต้านข้าไปจนจบใช่มั้ย?"

"ต่อต้านท่านรึ? ท่านคิดมากเกินไป กลับไปตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาซะ ท่านมีค่าอะไรที่ทำให้ข้า เจี้ยงเฉิน ต้องต่อต้าน? "

"เอาล่ะ ดีมาก! เจี้ยงเฉิน เจ้าจะต้องชดใช้อย่างมากสำหรับความดื้อรั้นและความโอหัง จากนั้นเจ้าจะร้องไห้ ตะโกน และคุกเข่าต่อหน้าข้า ขอร้องให้ข้าอภัย "

เย่ดายได้ทิ้งคำพูดอันชั่วร้ายเหล่านี้ไว้เบื้องหลังและสะบัดแขนเสื้อพร้อมกับเดินจากไป

เขาหวังเป็นอย่างยิ่งและยับยั้งความรังเกียจอย่างแรงขณะที่เขาแสร้งทำดีและให้ความสำคัญกับคนที่มีพรสวรรค์ หวังที่จะรับเจี้ยงเฉินมาเป็นผู้ติดตาม

นอกจากนี้เขารู้ดีว่าเขาไม่สามารถกดขี่เจี้ยงเฉินอย่างเปิดเผยได้ เพราะเหรียญตราอันนั้น

ถ้าเขาไม่สามารถกดขี่ข่มเหงเจี้ยงเฉินได้ แล้วทำไมไม่เอาเขามาเป็นผู้ติดตามล่ะ เย่ดายพบว่าข้อดีของการได้ตัวเจี้ยงเฉินมาเป็นผู้ติดตามมีมากกว่าข้อเสีย

มีข้อเสียเพียงประการเดียวคือเขาต้องไปไกล่เกลี่ยกับวิหารอุดรครามสวรรค์และหลู่วูจิ

แต่มันจะมีประโยชน์อันนับไม่ถ้วน

เขาได้ค้นพบว่าแผนการที่เขาวางไว้อย่างรอบคอบนั้นเป็นเรื่องที่ไร้สาระ ถึงแม้ว่าเขาจะมีข้อดีและมีภูมิหลังที่น่าประทับใจ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น? เจี้ยงเฉินไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เลย

เจี้ยงเฉินส่ายหัว "เขาไม่มีความคิดว่าเขาควรจะทำอะไร"

เขากำลังจะกลับเข้าไปด้านใน ทันใดนั้นเองมีเสียงกีบม้าดังขึ้นจากอีกด้านหนึ่งของถนน คนบนหลังม้ากำลังเดินเข้ามาใกล้เจี้ยงเฉินอย่างรวดเร็ว

"น้องเจี้ยง ข้าได้ยินมาว่าเจ้าอยู่ในช่วยกักตนบ่มเพาะ เจ้าเพิ่งจะออกมาวันนี้รึ? " คนบนม้าได้เห็นเจี้ยงเฉินแต่ไกล พร้อมส่งเสียงทักทาย

"แม่ทัพเทียน?" เจี้ยงเฉินรู้สึกประหลาดใจที่ได้เห็นว่าบุคคลคนนั้นคือเทียนโชแห่งหน่วยเขี้ยวมังกร

ม้าวิ่งตรงขึ้นไปที่ประตูก่อนที่เทียนโชจะดึงเชือกมันไว้ เขาบังคับบังเหียนทำให้มันหยุดนิ่ง เทียนโชกระโดดลงมาและกอดเจี้ยงเฉินไว้แน่นอย่างกับหมีใหญ่

"น้องชาย เราไม่ได้เจอกันมาเป็นเดือน องค์ชายสี่คิดถึงเจ้ามาก "

แม่ทัพเทียนดูมีความสุข ดูเหมือนว่าท่านได้ก้าวหน้าขึ้นมาก”  เจี้ยงเฉินหัวเราะเบา ๆ

"และทั้งหมดก็ต้องขอบคุณเจ้า เจ้าให้โอกาสข้าถามคำถามอาจารย์เย่ครั้งล่าสุด หลังจากได้รับคำแนะนำ ข้ารู้สึกว่าข้ามีความคืบหน้าในเส้นทางศิลปะการต่อสู้แห่งเต๋าอีกครั้งและได้รู้สึกถึงขอบเขตของอาณาจักรปราณจิตวิญญาณครึ่งก้าวแล้ว

เทียนโชอยู่ที่จุดสูงสุดของดินแดนฉีดังนั้นจึงเป็นความก้าวหน้าที่น่าอัศจรรย์ที่เขาเข้าถึงอาณาจักรแห่งปราณจิตวิญญาณครึ่งก้าว

"โอ้ใช่ ข้าลืมบอกเจ้า หลินเฉียนลี้ได้โยนโซ่ของสิ่งมีชีวิตและขึ้นไปถึงระดับแรกของอาณาจักรปราณจิตวิญญาณแล้ว ในช่วงเวลาพริบตา เขากลายเป็นสาวกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในวิหารทักษิณครามสวรรค์ เขามีโอกาสสูงมากที่จะได้เข้าไปในนิกายพฤกษาสวรรค์ในการรับสมัครครั้งต่อไป"

เทียนโชรู้สึกเกรงกลัวเล็กน้อยเมื่อเขาคิดถึงหลินเฉียนลี้

"หลินเฉียนลี้มีหัวใจที่เด็ดเดี่ยวในศิลปะการต่อสู้แห่งเต๋า ข้าไม่แปลกใจที่เขาตัดผ่าน " เจี้ยงเฉินยิ้ม "ข้าต้องแสดงความยินดีกับเขาในครั้งหน้าที่ได้เจอ"

เทียนโชยิ้ม "ข้าบอกเจ้าว่าเมื่อเจ้าอยู่กับเขา เจ้าจะพบว่าเขาเป็นเพื่อนที่คุ้มค่าจริง ๆ เขาร้องเพลงสรรเสริญเจ้าตอนนี้ และลุกขึ้นยืนต่อต้านหากมีใครพูดไม่ดีเกี่ยวกับเจ้า มิตรภาพของพวกเจ้าเติบโตขึ้นจากการแลกเปลี่ยนความรู้สึก "

เจี้ยงเฉินยิ้มพยักหน้าและถามว่า "อืม เทียนโช ท่านมีธุระอะไรถึงมาพบข้า?"

เทียนโชตบหน้าผากตัวเอง "โอ้ ดูข้าซิ ข้าแทบจะลืมจุดประสงค์อย่างเป็นทางการของการมาเยือน งานเขาวงกตมฤตยูซึ่งจะจัดขึ้นทุก ๆ ห้าปีจะเกิดขึ้นภายในสิบวัน เจ้าสนใจที่จะเข้าร่วมหรือไม่? "

"เขาวงกตมฤตยูรึ?" เจี้ยงเฉินจ้องมอง มันคืออะไร?

Back  /   Next

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.