spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
"ฮ่า ฮ่า ด่านน้อย เจ้าเป็นอะไร? สีหน้าเจ้าดูไม่ค่อยดีนัก เจี้ยงเฉินทำอะไรให้เจ้าไม่พอใจรึ? " อาจารย์เย่ถามพลางหัวเราะ
"ไม่มีอะไรค่ะ ข้าแค่ไม่ชอบการวางท่าของเขา เขาคิดว่าเขาเป็นใครกัน! ท่านอาจารย์ ท่านเป็นถึงอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ แต่เด็กคนนี้กล้าปฏิเสธความหวังดีของท่าน! "
"ด่านน้อย นั่นฟังไม่เหมือนตัวเจ้าเลย" ท่านอาจารย์ยิ้มให้ "เจ้าหงุดหงิดอย่างมากกับเรื่องเช่นนี้ด้วยรึ?"
ด่านเฟยรู้สึกหงุดหงิดใจมาก "ท่านอาจารย์ ด่านเอ๋อตั้งใจทำทุกอย่างที่ท่านปรารถนา ท่านยังหัวเราะใส่ข้าอีก"
"ฮ่า ฮ่า ด่านเฟยคนที่ชายหนุ่มทั้งเมืองหลวงหลงใหลทำตัวเหมือนเป็นเด็ก ด่านน้อย ถ้าพวกเขาได้เห็นเจ้าตอนนี้ พวกเขาคงเปลี่ยนความคิดใหม่เกี่ยวกับเจ้า"
"ปล่อยให้พวกเขาคิดไปสิ ! ใครบอกให้พวกเขามายุ่งเรื่องของข้ากันล่ะ? ! " เห็นได้ชัดว่าต่อหน้าท่านอาจารย์ ด่านเฟยเอาแต่ใจตัวเองและทำตัวต่างจากภายนอกที่ดูเย็นชา และดูเหมือนคนละคนกับที่ร่วมอยู่ในงานจัดเลี้ยง
"เอาล่ะ ด่านน้อย ลืมเรื่องตลกไปเถอะ เจี้ยงเฉินทำให้ข้าผิดหวังเพราะเขาเข้าใจหลักธรรมว่าอะไรถูกอะไรผิด พูดกันตามตรง ข้าให้คำแนะนำแก่เขาในเส้นทางการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้แห่งเต๋าได้ แต่ข้าอาจไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นอาจารย์ในระยะยาว "
ด่านเฟยเปิดตากว้างด้วยความตกใจ "ท่านอาจารย์ นี่ไม่ใช่การประเมินที่สูงเกินไปเหรอ?"
ถึงแม้ว่าด่านเฟยจะเป็นลูกบุญธรรมของอาจารย์เย่ตั้งแต่ยังเด็กอยู่และทำหน้าที่อยู่เคียงข้างเขามาโดยตลอด นางไม่เคยได้ยินเขายกย่องสรรเสริญใครเลย ในสายตาของท่านอาจารย์ ชายหนุ่มบางคนแทบไม่ควรพูดถึงด้วยซ้ำ
คนที่ท่านอาจารย์พูดถึงเป็นครั้งคราวจะได้รับคำชมเชยธรรมดาเท่านั้น
"มันจะไม่มากเกินไปที่จะยกย่องชายหนุ่มคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ภายในราชอาณาจักรทั้งสิบหกสามารถพูดคุยเกี่ยวกับต้นกำเนิดของมังกรฟีนิกซ์และมีสุราน้ำค้างเก้าแดนสรวงพกติดตัวไว้"
"แต่ ... เขาโชคดีกว่าที่ได้ทำความคุ้นเคยกับผู้เชี่ยวชาญผู้รอบรู้ นั่นคือทั้งหมด!" ด่านเฟยแย้ง นางไม่เต็มใจที่จะยอมรับ
ท่านอาจารย์ยิ้มให้. "ด่านน้อย เจ้าคิดว่ามีผู้เชี่ยวชาญมากมายในโลกนี้กำลังนั่งเล่นดีดนิ้ว เพื่อรอคอยใครสักคนมาทำความรู้จักกับพวกเขาและรอรับมิตรภาพหรือ? ผู้คนจำนวนมากอยู่ในสิบหกอาณาจักร มีคนหลายพันล้านคน ทำไมโชคดีไม่เกิดขึ้นกับกับเย่ดาย หรือเย่หลง? ทำไมมันไม่เกิดขึ้นกับคนอื่น ทำไมเจี้ยงเฉินจึงโชคดีมาก? "
ริมฝีปากสีแดงของด่านเฟยกระตุก "เขาโชคดีจริง ๆ".
"ฮ่า ฮ่า,โชคดี! ใช่ ความโชคดีมีอยู่จริง แต่สำหรับเจี้ยงเฉิน การได้รับความโปรดปรานจากผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ธรรมดา ไม่ใช่แค่เรื่องโชคเท่านั้น " ท่านอาจารย์หัวเราะ
"ข้าคิดว่าเขาอวดอ้างมากเกินไปและคงจะต้องทนทุกข์ทรมานในอนาคต เรื่องอื่นข้าไม่อยากพูด แต่กลุ่มคนขององค์ชายใหญ่จะเกลียดชังเขาเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ "
"เย่ดายรึ?" ท่านอาจารย์หัวเราะ "ถ้าเย่ดายเป็นคนฉลาด เขาก็ไม่ควรจะเริ่มหาเรื่องคนอย่างเจี้ยงเฉิน ถ้าเขาไม่เก่งพอแล้ว ข้าพูดได้เลยว่าความฝันของเขาในการองค์รัชทายาทใกล้มาถึงจุดจบ แม้ว่าเย่หลงจะทำตัวเงียบเสมอมา แต่ใครจะคิดว่าเขาจะแก้ปัญหานี้โดยการเดินทางไปนับพันหมื่นลี้ไปยังอาณาจักรตะวันออกเพื่อรับเจี้ยงเฉิน เจ้าเด็กเย่หลงไม่ธรรมดาเลย "
"ท่านอาจารย์ ท่านก็คิดว่าเย่หลงเป็นคนที่เหมาะสมใช่มั้ย?" ด่านเฟยประทับใจเย่หลงมากที่สุดจากบรรดาองค์ชายทั้งหลาย
ถึงแม้ว่าเย่ดายจะดูน่ารัก ดูสง่างาม ผ่าเผยและมีท่าทีของสุภาพบุรุษ แต่ด่านเฟยมีสายตาที่แหลมคมและฉลาด ดังนั้นทักษะในการสังเกตของนางจึงแข็งแกร่งมาก นางไม่ได้ชื่นชมกับลักษณะที่เย่ดายกำลังแสดงอยู่
เย่หลงเป็นคนหลักแหลม แต่เขาไม่ค่อยกล้าแสดงออก
"เย่หลงทำได้ดีในการวางเดิมพันไว้ที่เจี้ยงเฉิน" ท่านอาจารย์กลั่นกรองสิ่งต่าง ๆ ในขณะที่เขาเปลี่ยนหัวข้อบทสนทนา "ด่านน้อย ไปนำของบางสิ่งจากวิหารทักษิณครามสวรรค์มาให้ข้า มังกรฟินิกซ์ของข้า มันไม่สมควรที่จะรออีกต่อไป! "
ท่านอาจารย์กังวลเรื่องมังกรฟินิกซ์ ถึงแม้ขั้นตอนของการตัดอัณฑะจะไม่ซับซ้อน แต่เขาก็ยังไม่สะดวกที่จะมอบงานนี้ให้กับคนอื่น
เขาตัดสินใจที่จะทำมันเอง แต่เขาต้องเตรียมบางสิ่งก่อน
"ค่ะ ด่านเอ๋อจะทำเช่นนั้นทันที" ด่านเฟยรู้ว่าท่านอาจารย์อาวุโสจะทำอะไร นางเป็นผู้หญิงและไม่ได้อยากมีมีส่วนร่วมในเรื่องนี้
"อย่ารีบไป ให้ข้าเขียนใบสั่งของก่อน ไม่งั้น เจ้าจะทำอย่างไร? "
…
ด่านเฟยมีความผูกพันกับผู้อาวุโสหนิงของวิหารทักษิณครามสวรรค์
เมื่อนางจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่าง นางมักจะไปหาผู้อาวุโสหนิง แต่น่าเสียดายที่ผู้อาวุโสหนิงไม่อยู่เมื่อนางไปถึงวิหารทักษิณครามสวรรค์
ด่านเฟยส่งรายการไปยังศิษย์ของวิหารและกล่าวว่า "นี่เป็นรายการบางอย่างที่ท่านอาจารย์เย่ต้องการ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดและไม่ต้องกังวลกับราคา"
"ได้เลยด่านเฟย ข้ารู้ดีว่าแม้เจ้าจะไม่พูด โปรดรอสักครู่ ข้าจะรีบไปเตรียมทุกอย่างให้พร้อม "
ด่านเฟยพยักหน้า "โปรดเตรียมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้"
นางเดินไปที่มุมหนึ่งของห้องโถงและนั่งลง นางไม่ชอบที่จะยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์เพราะคนมักจะเดินผ่านมัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เดินไปมาแล้วจ้องมอง พวกเขามักจะไม่มีมารยาทและใช้สายตาโลมเลียไปทั่วร่างของนาง ด่านเฟยมีรูปร่างเย้ายวน นางไม่เคยชอบท่าทางที่ทำให้นางนึกถึงหมาป่าที่หิวโหย
สาวที่พิเศษอย่างนาง มีรูปร่างที่ไม่ซ้ำใครในราชอาณาจักรนภาจันทร์ แม้ว่านางจะหลบซ่อนตัวอยู่ในมุม นางยังคงเป็นจุดสนใจ พวกเขากวาดสายตาขึ้นลงทั่วร่างกายของนาง ถ้าไม่ใช่เพราะการวางตัวที่เหมาะสม น่าเกรงขาม ชายหนุ่มหลายคนคงรีบเข้ามาใกล้ชิดและพยายามพูดคุยกับนาง
ด่านเฟยแทบไม่ค่อยออกมาในที่สาธารณะ เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการเรียนวิชากับท่านอาจารย์ ชายหนุ่มส่วนมากที่นางพูดคุยด้วยก็ล้วนแต่เป็นบุตรขุนนาง ศิษย์ชั้นสูงของอาณาจักรนภาจันทร์
ถึงแม้เหล่าบุตรชายขุนนางเหล่านี้จะไร้สาระ แต่พวกเขาก็จะควบคุมตัวเองมากขึ้นเพราะพวกเขารู้จักบุคลิคของด่านเฟยดี แม้ว่าลึก ๆ พวกเขาก็มีความคิดบางอย่างเช่นกัน พวกเขากลัวท่านอาจารย์ และพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะก้าวล้ำเส้น
ไม่ใช่ว่าทุกคนในที่สาธารณะรู้ว่าใครคือด่านเฟย
ด่านเฟยรู้สึกอึดอัดกับการจ้องมอง
มีคนสองคนเดินเข้ามาในขณะนี้ จริง ๆ แล้วก็คือผู้อาวุโสหนิง แล้วคนข้าง ๆ นางคือเซี่ยวไป๋ฉี
"ด่านเฟยรึ?" ผู้อาวุโสหนิงเป็นนักธุรกิจและนางก็มีนิสัยชอบสังเกตทุกอย่างรอบตัว นางใช้สายตากวาดไปทั่วห้องโถงทันทีที่นางเดินผ่านประตู.
ด่านเฟยเป็นคนพิเศษมาก สายตาของผู้อาวุโสหนิงจึงหยุดที่นางทันที แม้ว่านางจะนั่งซ่อนอยู่ที่มุมห้องก็ตาม
นี่คือคนที่ผู้อาวุโสหนิงต้องตามใจ นางมีรอยยิ้มบนใบหน้าเมื่อทักทายด่านเฟยอย่างกระตือรือร้น "ด่านเฟย ข้าสงสัยว่าทำไมข้าถึงได้ยินคนอื่นซุบซิบกันมากมายในตอนเช้า เรามีแขกผู้มีเกียรตินี่เอง! ทำไมเจ้ามานั่งที่นี่? ลูกน้องของข้าช่างไม่ได้เรื่อง! มานี่เถอะ! มานั่งในบ้านของข้า "
ด่านเฟยตกใจเมื่อเห็นผู้อาวุโสหนิง นางเกือบจะไม่กล้าทักทาย "ท่าน ... ท่านคือพี่หนิง?"
ผู้อาวุโสหนิงโผล่ออกมาด้วยเสียงหัวเราะว่า "ใครจะเบื่อไม่มีอะไรทำถึงขั้นปลอมว่าเป็นข้ากัน.?"
ผู้อาวุโสหนิงหัวร่อต่อกระซิกอย่างสดชื่น
นางชอบมองปฏิกิริยาแบบนี้ นับตั้งแต่ที่นางได้รับโอสถวารีนิรันดร์สี่ฤดู ดูเหมือนนางจะกลับมาเป็นสาวแรกรุ่นและนางก็ได้พบกับสายตาที่ตื่นตาตื่นใจเหล่านี้ทุกที่ที่นางไป
ลักษณะเหล่านี้ทำให้ผู้อาวุโสหนิงเปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
"พี่หนิง,ท่าน ... ท่าน ... " ด่านเฟยไม่สามารถหาคำที่เหมาะสมได้ในขณะนั้น
"เอาล่ะ ถ้าเจ้าต้องการบอกว่าก่อนหน้านี้ข้าดูแก่กว่านี้ก็พูดได้เลย ข้าจะไม่คิดอะไร ฮ่า ฮ่า! " ผุ้อาวุโสหนิงจับมือด่านเฟยอย่างอบอุ่นและกล่าวว่า "ไป๋ฉี นี่คือด่านเฟย น้องสาวที่ดีของข้า!"
"ด่านเฟย นี่คือผู้ช่วยคนใหม่ เซี่ยวไป๋ฉี เขามีศักยภาพมาก"
"ไป๋ฉีขอคารวะด่านเฟย" เซี่ยวไป๋ฉียิ้ม
ด่านเฟยพยักหน้าเล็กน้อย "ยินดีที่ได้รู้จักท่าน"
ศิษย์ของวิหารได้เตรียมอุปกรณ์เสร็จเรียบร้อยแล้วและเดินเข้ามา "ด่านเฟย ข้าได้เตรียมทุกอย่างในใบรายการแล้ว ท่านต้องการใบรายการแสดงสิ่งของมั้ย "
ด่านเฟยจะเอาใบตรวจสอบเครื่องมือและวัสดุต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการตอนไปได้ยังไง โดยมีผู้อาวุโสหนิงและเซี่ยวไป๋ฉียืนอยู่ มันน่าอายมากเกินไป
นางรีบพูด "ไม่ ไม่เป็นไร"
จากนั้นนางก็หันกลับไปพูดกับผู้อาวุโสหนิงที่มีใบหน้าแดงระเรื่อ "พี่หนิง ท่านอาจารย์มีเรื่องต้องทำ ข้าต้องขอตัวกลับก่อน "
ด่านเฟยรู้สึกว่าวันนี้แปลกมากเลยทีเดียว
การที่เจี้ยงเฉินเจตนามาปรากฏตัวในงานเลี้ยงวันเกิดของท่านอาจารย์โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า มันทำให้นางรู้สึกว่าทุกเรื่องช่างแปลกประหลาด
และตอนนี้ นางได้พบกับผู้อาวุโสหนิง ซึ่งนางกลายเป็นสาววัยยี่สิบปีอีกครั้ง นี้เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่า
เกิดอะไรขึ้นในช่วงนี้? ทำไมทุกอย่างถึงแปลกประหลาด? ด่านเฟยเริ่มสงสัยว่านางกำลังฝันอยู่
นางพาด่านเฟยมาส่งที่ประตู นางพูดเสียงละห้อยว่า "ด่านเฟย เจ้ารีบร้อนจริง ๆ หรือ? ข้าต้องการแบ่งปันความลับของความงามให้กับเจ้า ดูผิว ดูรูปร่างของเจ้าสิ หึ หึ เจ้าเกิดมาพร้อมกับความงามอันไร้ที่ติ หากข้าเป็นผู้ชาย ข้ายังอยากจะกินเจ้าเลย.! "
ด่านเฟยหน้าแดงทันที "พี่หนิง อย่าล้อข้าแบบนี้สิ ท่านดูเหมือนกับสาวแรกรุ่นจนข้ากลับกลายเป็นเหมือนพี่สาวของท่านแล้วตอนนี้ ถ้าท่านพูดต่อ ข้าจะต้องอิจฉาท่านไปมากกว่านี้ "
"ฮ่า ฮ่า ไม่มีอะไรจะต้องอิจฉา? ข้าโชคดีที่ได้รับโอสถวารีนิรันดร์สี่ฤดู ด่านเฟย โอสถนั้นเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างแท้จริง ข้าไม่กล้าที่จะเชื่อเรื่องนี้ แต่หน้าตาของข้าดูเหมือนจะย้อนกลับไปยี่สิบปีที่แล้วใน 1 ชั่วยามสั้น ๆ "
"โอสถวารีนิรันดร์สี่ฤดู?" ดวงตาที่ขยับไปมาของด่านเฟยก็พลุ่งพล่านทันทีและนางก็พูดอย่างรวดเร็วว่า "พี่ใหญ่ ข้าต้องไปแล้ว!"
ด่านเฟยกล่าวขอโทษและกระโดดลงไปในรถม้า นางรีบออกไปเหมือนสายลม
"วันนี้ด่านเฟยเป็นอะไร? นางดูเหมือนจะฟุ้งซ่านและเสียใจ นางดูไม่เป็นตัวของตัวเองเลย " ผู้อาวุโสหนิงงุนงง
เมื่อถึงคฤหาสน์ของท่านอาจารย์ในระยะเวลาอันสั้น ด่านเฟยวางสัมภาระลงทันทีที่นางเดินเข้าไปในประตู นางรีบเดินเข้าไปในพุ่มไม้ที่ลานหน้าบ้าน ดวงตาที่มีเสน่ห์ของนางกำลังค้นหาบางสิ่งอย่างจริงจัง
"มันควรจะอยู่แถวนี้ ข้าจำได้ ตอนนั้นข้าโกรธและโยนมันลงตรงนี้ ควรจะอยู่ที่นี่ ทำไมข้าถึงหาไม่เจอนะ? "
ด่านเฟยรู้สึกเสียใจมาก ทำไมตอนนั้นนางถึงหุนหันพลันแล่น?
ขวดโอสถมีขนาดเท่ากับครึ่งกำปั้น มันก็ไม่น่าจะหายากในพุ่มไม้
หลังจากค้นหาไปสักครู่ ด่านเฟยก็เหงื่อไหลท่วมตัว หยดเหงื่อไหลจากจมูกและผมของนางก็เลอะเทอะ มีใบหญ้าติดอยู่บนศีรษะของนาง
ด่านเฟยก็จำอะไรได้บ้าง
"โอ้ ใช่แล้ว ในตอนที่ข้าออกไป ป้าหลานเข้ามาทำความสะอาดสนาม หรือว่านางหยิบขวดโอสถไป?"
ความคิดอันน่าสยดสยองนี้ทำให้ด่านเฟยเป็นกังวลอย่างมากในทันที