spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
และตอนนี้เขาก็ตระหนักขึ้นมาได้ทันทีว่า เขาได้ตกหลุมพรางของเด็กเปรตชุดม่วงเข้าอย่างจัง! แต่จะอย่างไรก็ตามต่อให้เจาตกหลุมพรางหรือติดกับดักบัดซบอะไรก็ช่าง ในใจของเขาก็ไม่ยอมรับไอเด็กเปรตนี่เป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 เด็ดขาด!
แน่นอนว่าเหตุผลของการไม่ยอมรับนี้มาจาก เขาไม่เชื่อว่าจะมีผู้ใดเหนือกว่าเขา!
เพราะเขารู้ดีว่ากว่าที่เขาจะมาถึงจุดนี้ได้ ต้องพยายามอย่างหนักจนเลือดตาแทบกระเด็นขนาดไหน กว่าจะได้เป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 ตอนอายุ 20 ปี เขาไม่อยากจะเชื่อว่าในอาณาจักรนภาล่องแห่งนี้จะยังมีคนที่เป็นอัจฉริยะภาพมากกว่าตัวเขา!
คิ้วของต้วนหลิงเทียนขมวดขึ้นเล็กน้อย แน่นอนคนระดับเขาย่อมสังเกตได้ถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของเซี่ยวเหอ แต่คนอย่างเขาคงไม่คิดสงสารหรือเห็นใจอะไรมัน วันนี้หากเขาไม่ต้องมาเสียเวลามีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับเซี่ยวเหออะไรนี่ ป่านนี้เขาไปเลือกภารกิจเพื่อทำเงินอะไรเสร็จเรียบร้อยนานแล้ว
เมื่อสามารถกระทำภารกิจที่เลือกมาได้ของสมาคมผู้หลอมโอสถสำเร็จ ผู้กระทำสามารถเลือกได้ว่าจะรับรางวัลเป็นแต้มภารกิจ หรือว่าจะรับเงินตอบแทน ... สำหรับแต้มภารกิจหรือคะแนนของผู้หลอมโอสถนั้น ยามที่เขาอยู่ที่เมืองออโรร่า เขาก็ได้รีดไถซื่อโหม่วมาถึง 5,000 แต้ม และนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับตอนนี้
ช่วยไม่ได้ที่เซี่ยวเหอนี่มาหาเรื่องเขาเอง เมื่อมันกล้าหาเรื่องเขาเช่นนั้นมันก็ต้องจ่ายราคาในการกระทำของมัน อีกทั้ง ราคานี้ก็มากถึง 5,000,000 เหรียญ นับได้ว่าคงเป็นบทเรียนราคาแพงของเซี่ยวเหอ!
จริงๆแล้วแม้แต่ต้วนหลิงเทียนเองก็คิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่า การมาสมาคมผู้หลอมโอสถครั้งนี้ของเขาจะพบพานเรื่องราวสนุกสนานเช่นนี้ มันช่างเกิดนความคาดหมายของเขานัก เขาไม่คิดเลยว่ามาแป๊บเดียวจะได้เหรียญเงินกลับไปถึง 5,000,000 เหรียญเช่นนี้ มันแทบไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลยด้วยซ้ำ
เขาได้แต่หวังว่า เขาจะพบกับโชคดีเช่นนี้อีก!
มุมปากของต้วนหลิงเทียนแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาหงายฝ่ามือออก ขึ้นไปบนฟ้า
ฟู่วววว!
เพลิงสีขาวราวน้ำนมพลันปะทุพวยพุ่งออกมาจากฝ่ามือของต้วนหลิงเทียน ซ้ำมันยังปะทุอย่างเชื่องช้าบ่งบอกให้เห็นนถึงความสามารถในการควบคุมอันประเสริฐของต้วนหลิงเทียน
เงียบกริบ
กล่าวได้ว่ายามนี้ห้องรับรองที่เต็มไปด้วยเสียงอื้ออึงเมื่อครู่พลันเงียบสงบไร้ซึ่งสำเนียงสรรพเสียงวาจาใด มีเพียงเสียงปะทุฟู่ๆ ของเปลวเพลิงบนมือต้วนหลิงเทียนเท่านั้น แม้จะเป็นเสียงเบาๆ แต่ทว่ามันดังก้องเข้าหูของคนทุกผู้อย่างน่าอัศจรรย์ ทุกคนทำได้เพียงเหม่อมองเปลวเพลิงบนมือของต้วนหลิงเทียนจนตาค้าง แม้เพลิงจะดับไปแล้วแต่พวกเขายังไม่อาจได้สติกลับคืนมา
เปลวเพลิงหลอมโอสถระดับ 9!
หากเป็นเพียงเปลวเพลิงหลอมโอสถระดับ 9 ปกติแน่นอนว่าทุกคนคงไม่ได้สนใจหรือให้ความสำคัญอะไรมันนัก แต่เมื่อเปลวเพลิงหลอมโอสถระดับ 9 มันถูกจุดขึ้นบนมือของชายหนุ่มอายุเพียง 18 ปีมันก็เป็นอีกเรื่องไปแล้ว เท่านี้มันก็เพียงพอให้พวกเขาตื่นตระหนกจนไม่อาจนอนหลับได้หลายคืน!
ผู้หลอมโอสถระดับ 9 ที่มีอายุเพียง 18 ปี ....นี่มันตัวประหลาดอันใดกัน?
อี้เหวินเป็นคนแรกที่คืนสติ ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อยยามจับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียน ก่อนที่เขาจะเผยรอยยิ้มออกมา เขาไม่คาดคิดจริงๆว่าอาณาจักรนภาล่องของเขา จะปรากฏผู้หลอมโอสถเช่นนี้
นี่เป็นผู้หลอมโอสถอัจฉริยะอย่างแท้จริง!
แน่นอนว่าเซี่ยวเหอไม่อาจเทียบเขาได้แม้แต่น้อย!
ต่อมาคนที่อยู่ในห้องรับรองก็พลันทยอยได้สติกลับคืนมาทีละคนๆ แล้วมหกรรมเสียงระบายลมหายใจก็บังเกิดขึ้นทั่วทั้งห้อง ...
"ผู้หลอมโอสถระดับ 9 อายุเพียง 18 ปี สวรรค์ เขามาจากตระกูลใดกัน ?"
"นั่นสิ นี่นับว่าเป็นตำนานบทใหม่ของอาณาจักรนภาล่องของพวกเราอย่างแท้จริง นับว่าเหนือกว่าหัวหน้าสมาคมผู้หลอมโอสถแห่งอาณาจักรพนาครามที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นสุดยอดอัจฉริยะที่สามารถเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 ได้ก่อนอายุ 20 ปีเล็กน้อย คนนั้นเสียอีก "
"กล่าวง่ายๆว่า เด็กหนุ่มคนนี้มีอัจฉริยะภาพเหนือกว่าหัวหน้าสมาคมผู้หลอมโอสถทีเก่งกล้าราวสัตว์ประหลาดคนนั้น และในอนาคตเขาจะเหนือล้ำยิ่งกว่า หัวหน้าสมาคมนั่น?"
"ที่พวกเจ้ากล่าวถึง นั่นใช่หัวหน้าสมาคมผู้หลอมโอสถแห่งอาณาจักรพนาครามที่เป็นผู้หลอมโอสถระดับ 6 คนนั้นใช่หรือไม่ ผู้หลอมโอสถที่ออกจากอาณาจักรนภาล่องของเราไปคนนั้นน่ะหรือ! ที่พวกเจ้ากล่าวนี่ย่อมหมายความว่าชายหนุ่มคนนี้มีโอกาสจะกลายเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 5?"
"สัตว์ประหลาด! ช่างเป็นพรสวรรค์ที่ราวกับสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง!"
...
เหล่าผู้คนโดยรอบล้วนกล่าวสรรเสริญหลิงเทียนออกมาโดยไม่ตระหนี่คำชมแม้แต่นิด
บางส่วนของผู้คนก็ปรายตามองมายังเซี่ยวเหอ แล้วพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวออกมา ยามนี้พวกเขารู้ดีว่า ตั้งแต่ชายหนุ่มชุดสีม่วงที่จุดเปลวเพลิงหลอมโอสถระดับ 9 ขึ้นมา รัศมีอัจฉริยะของเซี่ยวเหอก็ถูกบดบังจนกลายเป็นเพียงเรื่องราวในอดีตเท่านั้น
เพราะยามนี้มีเพียงชายหนุ่มชุดสีม่วงคนนี้เท่านั้น ที่คู่ควรได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้หลอมโอสถอัจฉริยะที่มีอายุน้อยที่สุดแห่งอาณาจักรนภาล่อง!
เซี่ยวเหอนั่นไม่ได้เป็นตัวอะไรสักนิดต่อหน้าเขา!
ร่างกายของเซี่ยวเหอพลันสั่นสะท้านออกมา ยามนี้เขาพึ่งได้สติจากอาการตกตะลึง และเมื่อสังเกตได้ถึงสายตาเวทนาที่ตกลงมาบนร่างเขา เขารับรู้ได้ทันทีว่ายามนี้หัวใจของเขาสั่นสะท้านขนาดไหน
หนึ่งปีที่ผ่านมาตัวเขานั้นภูมิใจมากมายขนาดไหนกันล่ะ? ยามที่รู้ว่าตัวได้เป็นผู้หลอมที่มีอายุเพียง 20 ปี! แต่ตอนนี้ชายหนุ่มตรงหน้านั้นอายุน้อยกว่าเขา อีกทั้งเขายังต้องจ่ายเงินออกไปถึง 5,000,000 เหรียญ ... ตอนนี้เขารู้สึกอับอายเกินกว่าจะแบกหน้าของเขายืนอยู่ตรงนี้!
เขารู้สึกเหมือนยามนี้สายตาของทุกคนที่กำลังมองมาที่เขา มันเป็นสายตาที่เยาะเย้ยทับถม และ ปรามาสเขา!
"ท่านรองหัวหน้าสมาคม หลังจากกลับไปข้าจะให้คนนำเงิน 2,000,000 เหรียญมาส่งมอบให้แก่ท่าน" น้ำเสียงของเซี่ยวเหอนั้นแหบและอึมครึมอย่างมาก เขากวาดสายตาไปทั่วทั้งร่างของต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเย็นชาครั้งหนึ่งเพื่อเป็นการจดจำรูปลักษณ์ของต้วนหลิงเทียนเอาไว้ ก่อนที่จะเดินออกจากห้องรับรองไปโดยไม่กล่าววาจาอะไรสักคำ
หากเซี่ยวเหอรู้ว่ารูปลักษณ์ของต้วนหลิงเทียนตอนนี้เป็นเพียงรูปลักษณ์ที่ปั้นแต่งขึ้นมาจากเครื่องประทินโฉม ไม่รู้ว่ามันจะรู้สึกอย่างไร
ตอนนี้ผู้คนทั้งหมดย่อมรู้ดีว่า เรื่องราวในวันนี้ใช้เวลาเพียงไม่นาน ก็ต้องเป็นเรืองที่ร่ำลือไปทั้งเมืองหลวงเป็นแน่ และยามนั้นเซี่ยวเหอไม่รู้จะต้องอับอายขายหน้ามากถึงเพียงไหน
"เด็กน้อย นี่เงิน 10,000,000 เหรียญเงิน" อี้เหวินหยิบเงินของตัวเองเพิ่มอีก 2,000,000 เหรียญเงิน รวมกับเงินเดิมพันที่รับมา 8,000,000 เหรียญเงิน ก่อนที่จะรวบรวมเงินทั้งหมดส่งให้ต้วนหลิงเทียนทีเดียว
"ขอบคุณ รองหัวหน้าสมาคม!" ต้วนหลิงเทียนรับเงินมาและยิ้มให้รองหัวหน้าสมาคมบางๆ
"หืม?" ทันใดนั้นเองหลิงเทียนก็สัมผัสได้ถึงแววตาที่เต็มไปด้วยความละโมบ มาจากฝูงชน
มุมของของหลิงเทียนแสยะยิ้มขึ้นทันที
คิดหวังเงินในมือข้างั้นรึ?
"เด็กน้อย เข้าไปคุยกันหน่อยดีหรือไม่?" อี้เหวินมองไปยังหลิงเทียนก่อนที่จะกล่าวคำเชิญชวนออกมา
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับคำ ก่อนที่จะเดินตามอี้เหวินออกจากห้องรับรองไปยังห้องด้านหลัง
"เด็กน้อยเจ้าชื่ออะไร?" อี้เหวินกล่าวถามหลิงเทียน
"หลิงเทียน" ต้วนหลิงเทียนไม่ได้เปิดเผยชื่อเต็มของเขา เขากล่าวบอกชื่อที่เขาใช้ในโลกเก่าออกไป
"หลิงเทียนหรือ อืมแซ่หลิง ชื่อเทียน...ชื่อที่ดี!" อี้เหวินกล่าวชมเชยหลิงเทียนพร้อมประกายตาที่เรืองวูบออกมา "เด็กน้อย เจ้าสนใจที่จะเข้าร่วมกับสมาคมผู้หลอมโอสถแห่งนี้หรือไม่? ตราบใดที่เจ้าเข้าร่วมสมาคมผู้หลอมโอสถแห่งนี้ ทางสมาคมจะช่วยสนับสนุนเจ้า ในอนาคตเจ้าเองก็จะมีโอกาสท่องทะยานไปยังสมาคมผู้หลอมโอสถของอาณาจักรพนาคราม รวมทั้งออกไปสัมผัสกับโลกกว้างอันกว้างใหญ่นี้! "
อี้เหวินคิดว่าจากสิ่งที่เขากล่าวออกไป มันเป็นอะไรที่มีแรงจูงใจอย่างสูง และเด็กตรงหน้าต้องไม่ปฏิเสธเป็นแน่
แต่ทว่า
“ขออภัย รองหัวหน้าสมาคม แต่ข้าไม่ได้มีความคิดที่จะเข้าร่วมสมาคมผู้หลอมโอสถ” ต้วนหลิงเทียนเพียงกล่าวออกมาเบาๆ พร้อมสายหัว
"เช่นนั้นก็น่าเสียดายนัก" อี้เหวินเพียงประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะได้สติเขาเองก็ไม่ได้คิดจะบังคับขู่เข็ญอะไรต้วนหลิงเทียนอยู่แล้ว
เพราะเขาสังเกตได้ว่าแม้ชายหนุ่มตรงหน้าจะยังมีอายุที่เยาว์วัย แต่ประกายตาของมันก็เต็มไปด้วยความเฉลียวฉลาด เขาสัมผัสได้ถึงความสามารถของชายหนุ่มคนนี้และเขาก็รับรู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าหาได้มีใครจะสามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของมันได้ไม่
"รองหัวหน้าสมาคม หากท่านไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวก่อน" ต้วนหลิงเทียนกล่าวกับอี้เหวิน ก่อนที่จะเดินไปยังโต๊ะรับรองที่ว่าง
เมื่อสังเกตเห็นต้วนหลิงเทียนเดินมาที่โต๊ะ เจ้าหน้าที่ชายคนหนึ่งของสมาคมผู้หลอมโอสถก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และไม่กล้าละเลยหน้าที่ ทั้งยังพยายามปฏิบัติกับต้วนหลิงเทียนให้ดีที่สุด "ไม่ทราบว่าท่านจะประกาศจ้างงานหรือจะรับภารกิจไปกระทำขอรับ?"
"ข้ามารับภารกิจน่ะ มีงานอะไรบ้าง เจ้าช่วยเอามาให้ข้าดูก่อนได้หรือไม่"ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มบางๆ
เจ้าหน้าที่ชายคนนั้นไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะเป็นมิตรขนาดนี้ เขาเหม่อกับท่าทีที่เหนือความคาดหมายอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะรีบหยิบเอกสารให้แก่หลิงเทียน
"ขอบใจเจ้ามาก" ต้วนหลิงเทียนยิ้มรับมา ก่อนที่จะเริ่มเปิดดูเอกสารคำร้อง
งานส่วนใหญ่ที่มาจ้างงานนั้นจะเป็นการหลอมโอสถระดับ 8 และถึงแม้ว่าจะมีงานที่ต้องการผู้หลอมโอสถระดับ 9 หรือต้องการโอสถระดับ 9 อยู่ไม่น้อย แต่ทั้งหมดล้วนมีผลตอบแทนที่ต่ำมาก...ต้วนหลิงเทียนไม่คิดที่จะรับงานที่มีผลตอบแทนต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดนี้
ไม่นานหลิงเทียนก็เปิดดูเอกสารคำร้องถึงฉบับแรกๆ...มันเป็นคำร้องที่ประกาศจ้างไว้เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว
ประกาศจ้างงาน
แม่ทัพใหญ่แห่งกองทหารม้ารักษาพระองค์ พระยาเรืองฤทธิ์ นี่เหวี่ย
รายละเอียดการจ้างงาน:
รักษาพิษให้แก่ เจ้าพระยาเรืองฤทธิ์ แห่งจวนเจ้าพระยา
ท่านเจ้าพระยาเรืองฤทธิ์ได้รับพิษของ สัตว์อสูรปีศาจ ระดับธรรมชาติ พังพอนทมิฬไร้ลักษณ์...
สัตว์อสูรปีศาจนั้นกล่าวได้ว่าเป็นสัตว์ที่อยู่ก้ำกึ่งระหว่าง สัตว์อสูร และสัตว์ดุร้าย มันดูรูปร่างคล้ายสัตว์ดุร้าย ทว่าจะแข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรเสียอีก
มีเพียงสัตว์อสูรที่สามารถสามารถทะลวงผ่านระดับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นที่ 9 ไป จนสามารถก้าวไปถึงระดับธรรมชาติ และหลังจากที่มันรอดตายจาก ทัณฑ์สายฟ้า 6-9 จากสวรรค์ มันจะได้รับการพัฒนาร่างและวิวัฒนาการกลายเป็นสัตว์อสูรปีศาจ!!
"อืม..ยามปกติพังพอนทมิฬไร้ลักษณ์จะไม่โจมตีผู้คนก่อน ... ดูเหมือนว่าคงเป็นเจ้าพระยานั่นที่ไปยั่วยุมันเข้าจนถูกทำร้าย แล้วติดพิษกลับมา!" ต้วนหลิงเทียนค้นในความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดไม่นาน ก็เข้าใจพังพอนทมิฬไร้ลักษณ์มากขึ้นทันที
"รางวัลของงานนี้ ... " ต้วนหลิงเทียนพลิกใบภารกิจไปดูด้านหลัง
ผลรางวันนี้ พระยาเรืองฤทธิ์ แห่งจวนเจ้าพระยา ยินยอมตอบสนองความปรารถนาใดๆก็ตามของผู้ที่สามารถล้างพิษได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตที่ตัวพระยาเรืองฤทธิ์เองสามารถกระทำได้ และไม่ผิดศีลธรรม
"พระยาเรืองฤทธิ์คนนี้ น่าจะเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งกองทหารม้ารักษาพระองค์พระยาเรืองฤทธิ์นี่เหวี่ย อะไรนั่น ...ข้าอยากรู้นักว่าศักดิ์ฐานะของเขาจะเป็นอย่างไรในเมืองหลวงแห่งนี้ " ต้วนหลิงเทียนคิดขึ้นในใจหลังจากนั้นเขาก็กล่าวถามเจ้าหน้าที่ชายที่โต๊ะรับรอง "ข้าขอรับทราบตัวตนของ แม่ทัพใหญ่แห่งกองทหารม้ารักษาพระองค์ พระยาเรืองฤทธิ์ นี่เหวี่ย ผู้นี้หน่อยจะได้หรือไม่?"
เมื่อหลิงเทียนกล่าวถามออกมา เจ้าหน้าที่ชายยังไม่ได้ตอบในทันที มันทำท่าภูมิใจและฉายแววนับถือออกมาชั่วครู่ก่อนที่จะกล่าวตอบออกมา "ท่านพระยาเรืองฤทธิ์นี่เหวี่ย นั้น เป็นแม่ทัพใหญ่แห่งกองทหารม้ารักษาพระองค์ ทั้งยังเปรียบเสมือนเทพเจ้าสงครามของอาณาจักรนภาล่องของเราอีกด้วย อำนาจของท่านนั้นเพียงด้อยกว่าองค์ราชาเท่านั้น ทั้งท่านยังกุมอำนาจทหารในอาณาจักรนภาล่องแห่งนี้ไว้ถึงครึ่งหนึ่ง หากท่านถามถึงสถานะของท่าน นั่นก็ย่อมหมายถึง สถานะของจวนเจ้าพระยาเรืองฤทธิ์ ข้าขอกล่าวตอบท่านได้เลย สถานะของท่านหาได้ด้อยกว่าผู้ใดในอาณาจักรนภาล่องแห่งนี้ ตระกูลเซี่ยวอะไรก็ไม่ได้เหนือไปกว่าท่าน "
"นอกจากนั้นตัวท่าน พระยาเรืองฤทธิ์ เองก็กล่าวได้ว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับธรรมชาติ ที่มีความแข็งแกร่งไม่ได้ด้อยไปกว่า 18 ผู้ว่าการประจำมณฑลของอาณาจักรนภาล่องอีกด้วย!" ชายหนุ่มค่อยๆกล่าวออกมาอย่างช้าๆ
ต้วนหลิงเทียนนั้นตกตะลึงเล็กน้อย เขานึกว่า พระยาเรืองฤทธิ์แห่งจวนเจ้าพระยานี้ จะเป็นเพียงแม่ทัพใหญ่ธรรมดาอะไรแบบนั้น เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะมีสถานะสูงถึงขนาดนี้
"อ่อจริงสิ แล้วตระกูลต้วน กับตระกูลเซี่ยวนี่หากเทียบกันผู้ใดมีอำนาจเหนือกว่ากันหรือ?" ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกมาอีกครั้ง
เจ้าหน้าที่ชายคนนั้นเพียงยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วตอบกลับมาว่า "ตระกูลต้วนและตระกูลเซี่ยวนับได้ว่าเป็นตระกูลใหญ่ของเมืองหลวงทั้งคู่ และทั้งสองตระกูลมีอำนาจเท่าเทียมกันขอรับ "
"อา เอาล่ะ ขอบคุณเจ้ามาก" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับคำก่อนที่ จะเก็บเอกสารแล้วส่งคืนเจ้าหน้าที่ชาย
"เอ๋ ท่านไม่พบงานที่ต้องการหรือขอรับ?" เจ้าหน้าที่ชายกล่าวถาม
"ไม่เลย" ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินจากเจ้าหน้าที่ชายไป
เจ้าหน้าที่ชายคนนั้นอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เขาไม่นึกเลยว่าอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์สูงขนาดนี้ จะไม่หยิ่งยโสหรือทำตัวโอหังแม้แต่น้อย ... “เขาช่างเป็นอัจฉริยะที่ดูสูงส่งแตกต่างจากเซี่ยวเหอผู้นั้นมากนัก ทั้งพรสวรรค์ของเขายังเหนือล้ำกว่าเซี่ยวเหอนั่นไปไกลโข... แต่เซี่ยวเหออะไรนั่นกลับทำตัวว่างท่าและโอหังยิ่งกว่าเขาเสียอีก”
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนเดินออกจากสมาคมผู้หลอมโอสถประจำเมืองหลวงนั้น ร่างลึกลับ 3 ร่างก็ลอบติดตามเขาออกไป...