หน้าแรก > ราชันสามภพ
ตอนที่ 154 ทางเลือกของจอมทัพ

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

จอมทัพทั้งสามคนกลับมารวมตัวกันอีกครั้งที่สำนักงานใหญ่ของหน่วยเขี้ยวมังกร

เช็นกังยี่ไม่ได้พูดอะไร แต่คำพูดของซูคึนและฉีเทียนนานเกือบทั้งหมดเป็นเสียงเดียวกันภายใต้สถานการณ์ที่แตกต่างกัน

และประเด็นสำคัญของความขัดแย้งทั้งหมดชี้ไปที่ชายคนหนึ่งในหน่วยเขี้ยวมังกร -หลู่วูจิ

" หลู่วูจิเป็นหลานชายของรองจอมทัพหยาง เขาไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังมากนัก ผู้อาวุโสหนิงและรองประมุขชีทั้งสองโกรธเพราะคนคนเดียวกัน พวกเขาบอกว่าเขาบิดเบือนความจริงและบิดเบือนคดีการป้องกันตัวเองที่ถูกต้องให้กลายเป็นคดีอาชญากรรม ไม่เพียงแค่นั้นเขายังฉีกสาสน์ของผู้อาวุโสหนิงและเกือบจะทำร้ายทูตของรองประมุขชี ท่านจะไม่พูดหรือว่าหลู่วูจิดูหมิ่นกฎหมายและข้อบังคับทั้งหมด? "

บัดนี้เองที่เช็นกังยี่เข้าใจว่าทำไมผู้อาวุโสเฟยถึงโกรธมาก ถ้าเป็นเขา เช็นกังยี่ถูกจับกุมและถูกโยนไปในคุกมืด เขาก็จะโกรธมากและน่าจะยิ่งหนักกว่าพวกเขา

"ท่านรู้หรือไม่ว่าหลู่วูจิจับกุมใคร?" เช็นกังยี่ไต่ถาม

"ข้าไม่แน่ใจ ผู้อาวุโสหนิงบอกว่าเขาเป็นสหายของนาง"

"ชีเซี่ยวหยาวก็บอกเช่นเดียวกันว่าเขาเป็นสหาย แต่เขาไม่ได้บอกชื่อของเขา"

เช็นกังยี่ถอนหายใจ "ชื่อของเขาคือเจี้ยงเฉิน"

"เจี้ยงเฉิน?" รองจอมทัพทั้งสองคนมองหน้ากัน ทั้งสองไม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อ เนื่องจากพวกเขามีระดับสูงอย่างจอมทัพ จึงทำให้พวกเขาไม่ค่อยใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องธรรมดา พวกเขาไม่เคยใส่ใจชื่อเจี้ยงเฉินเลย

"เจี้ยงเฉิน ชายนี้คือใครกัน? ทำไมสามในสี่วิหารถึงกำลังปกป้องเขา? " สีหน้าของฉีเทียนนานเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน "เป็นไปได้ไหมว่าเขาเป็นศิษย์ของนิกายพฤกษาสวรรค์?"

เมื่อเช็นกังยี่ได้ยินคำสามคำว่า "พฤกษาสวรรค์" ใบหน้าของเขาก็ซีดขึ้นมาทันใด "ถ้าเป็นเช่นนั้น เท่ากับว่าหลู่วูจิได้ก่อภัยพิบัติอย่างท่วมท้น!"

ในขณะนี้นายทหารคนหนึ่งเข้ามารายงานว่า "ท่านจอมทัพ กลุ่มหน่วยเขี้ยวมังกร ผู้ซึ่งเป็นคนแรกในที่เกิดเหตุได้มาถึงแล้วขอรับ"

"พาตัวพวกเขาเข้ามา" เช็นกังยี่กล่าวอย่างเร่งรีบ

คนของเทียนโชที่เป็นกลุ่มแรกในที่เกิดเหตุเพื่อจัดการคดีของเจี้ยงเฉิน พวกเขาเดินตัวสั่นเข้ามา การเผชิญหน้ากับสามจอมทัพในเวลาเดียวกันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน พวกเขาแทบไม่สามารถยืนได้

"เจ้าทั้งสามคนอย่าได้กังวลใจ ข้ามีคำถามสองสามข้อที่จะถามพวกเจ้า ข้าไม่สนใจความกดดันหรือความขุ่นเคืองที่พวกเจ้าเผชิญมาก่อน มันไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ข้าจะเป็นผู้พิพากษาให้พวกเจ้า สิ่งที่พวกเจ้าต้องทำคือการเล่าเรื่องนี้มาอย่างละเอียด อย่าได้เสริมเติมแต่งด้วยความรู้สึกส่วนตัวแม้เพียงเล็กน้อย ข้าต้องการความจริง! "

เช็นกังยี่พูดอย่างสงบ

"พวกเจ้าได้ยินหรือไม่? ท่านจอมทัพต้องการความจริง "

หน่วยเขี้ยวมังกรกลืนน้ำลายลงคอขณะที่พวกเขาพยายามควมคุมสติตัวเอง ในที่สุดหัวหน้าหน่วยก็เปิดปาก เรื่องเกิดขึ้นบนถนนที่วิหารทักษิณครามสวรรค์จัดนิทรรศการใหญ่ ขณะนั้นเอง…"

หัวหน้าหน่วยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่พวกเขาจะมาถึงที่เกิดเหตุ

พวกเขาสามารถเล่าให้ฟังถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขามาถึงแล้ว รวมถึงการแทรกแซงอย่างเห็นได้ชัดของหลู่วูจิ การโต้เถียงที่เข้มแข็งของผู้บัญชาการเทียนโชในบริเวณใกล้เคียง ฯลฯ ทั้งหมดนี้ถูกถ่ายทอดออกมาเช่นเดียวกับถั่วที่หกออกจากภาชนะไม้ไผ่

เมื่อได้ยินว่าเจี้ยงเฉินทำร้ายศิษย์ของวิหารอุดรครามสวรรค์ จอมทัพทั้งสามคนมองหน้ากัน ทั้งสามเงียบกริบ และยังถูกกลืนหายไปในความคิด

ขณะนี้สถานการณ์ได้พัฒนาไปจนถึงจุดนี้ ความคิดบางอย่างที่คล้ายคลึงกันโผล่ขึ้นมา ศิษย์แห่งวิหารอุดรครามสวรรค์ หลู่วูจิ และรองจอมทัพหยาง ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือทุกคนที่อยู่ในแนวเดียวกัน และทั้งหมดเป็นคนขององค์ชายใหญ่

ด้วยวิธีนี้ คดีที่ดูเรียบง่ายเกี่ยวพันกับบางอย่างที่นำไปสู่องค์ชายใหญ่?

"ท่านจอมทัพ คดีนี้ดูจะยากเกินไปที่เราจะจัดการได้" ฉีเทียนนานรู้สึกท้อแท้

"ข้าไม่คิดว่ามีอะไรที่ยากลำบากในเรื่องนี้ แค่จัดการกับมันอย่างยุติธรรม" เสียงของซูคึนมั่นคง

พวกเขาได้ยินถึงชื่อเสียงของวิหารอุดรครามสวรรค์ การฆ่า การปล้นและการโจรกรรมบนท้องถนน ทั้งหมดเป็นเรื่องที่วิหารอุดรครามสวรรค์ชอบที่จะทำ

"แล้วพยานหลักฐานอยู่ที่ไหน?" เช็นกังยี่ถาม

"พยานถูกคุมขัง ขณะเดียวกันแม่ทัพหลู่ได้นำหลักฐานไปทั้งหมด"

เช็นกังยี่มีสีหน้าเคร่งเครียด เขาถามหน่วยเขี้ยวมังกรว่า "เจี้ยงเฉินเป็นไงบ้าง?"

"ผู้บัญชาการเทียนโชได้จัดเตรียมให้เขาถูกนำเข้าไปในห้องขังเดี่ยว แต่เกรงว่าแม่ทัพหลู่ได้รับคำสั่งให้ถอดยศผู้บัญชาการจากนายเทียนโชแล้วตอนนี้ เราไม่แน่ใจว่าสถานการณ์จริง ๆ เป็นอย่างไร "

จากสามรองจอมทัพของหน่วยเขี้ยวมังกร ซูคึนรับผิดชอบด้านการเงิน ลุงของหลู่วูจิ หยางเซาดูแลบุคลากร  และฉีเทียนนานดูแลรับผิดชอบด้านการบริหารจัดการ

อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับหยางเซา เขามักใช้อำนาจในการแต่งตั้งและถอดถอนผู้บัญชาการและยศอื่นที่ต่ำกว่า และเขาก็มีอำนาจมากเช่นกัน

นอกเหนือจากยศแม่ทัพที่ต้องได้รับการแต่งตั้งและถอดถอนจากจอมทัพเช็นกังยี่ หยางเซามีอำนาจที่จะถอดผู้บัญชาการออกได้

เมื่อเช็นกังยี่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด เขารีบพูดว่า "อาวุโสซู ข้าต้องการให้เจ้ารีบไปยังคุกมืดทันทีและใช้สัญลักษณ์เขี้ยวมังกรของข้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเจ้าต้องหยุดหลู่วูจิและปกป้องเจี้ยงเฉินให้ได้ ถ้าหลู่วูจิยังจะกล้าท้าทาย ให้จับกุมตัวเขา ละเว้นทุกคนที่แก้ต่างแทนเขา! "

เข้าใจแล้วขอรับ"   ซูคึนรับคำสั่ง

"อาวุโสฉี เจ้าพาคนของเจ้าไปนำพยานปากเอกมา ถ้ามีใครขัดขวางเจ้า ให้จัดการพวกเขา อย่าให้พยานได้รับอันตรายเป็นอันขาด "

เมื่อเรื่องง่าย ๆ เกี่ยวข้องกับสี่วิหารและยังลากพวกเขาทั้งหมดไปเกี่ยวข้องกับการแข่งขันกันอย่างเปิดเผยและการปะทะกันระหว่างองค์ชาย เช็นกังยี่จึงไม่กล้าละเลยด้านความปลอดภัย

ไม่ว่าเขาจะเอนเอียงไปทางไหน เขาก็มั่นใจว่าจะทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่พอใจ สิ่งเดียวที่พวกเขาสามารถทำได้คือการจัดการกับเรื่องนี้อย่างเที่ยงธรรมและทำให้ความจริงเป็นที่ประจักษ์

นี่คือวิธีเดียวที่พวกเขาจะอยู่เคียงข้างเหตุผลและไม่ถูกประณามจากสาธารณชน

อย่างไรก็ตาม จากปฏิกิริยาของทุกฝ่าย เช็นกังยี่ก็คาดเดาว่ามีความเป็นไปได้สูงถึงแปดในสิบส่วนที่ศิษย์ของวิหารอุดรครามสวรรค์ได้พยายามปล้น

ภายในคุกมืด

หลู่วูจินั่งไขว่ห้างอย่างสบายใจ ราวกับว่าเขาเป็นนักล่าที่กำลังเล่นอยู่กับเหยื่อและเพลิดเพลินไปกับความคิดวิปลาสในใจ

ส่วนเทียนโช เขานั่งขัดสมาธิอยู่อีกด้านของคุกมืด

ไม่ว่าหลู่วูจิจะหยิ่งผยองเพียงใด เขารู้ว่าเขาไม่สามารถใช้กำลังโหดเหี้ยมทำร้ายใครก่อนที่เขาจะได้รับคำสั่งให้ถอดถอน ถ้าเขาใช้กำลังจู่โจมเทียนโช เท่ากับว่าเขาล้ำเส้น

แม้ว่าเขาจะมีลุงที่คอยเก็บกวาดตามหลังเขา นี่เป็นเรื่องยุ่งยากหากมีคนนำมันไปรายงาน การเข้าไปแทรกแซงในคดีนี้ถือเป็นการล้ำเส้น

ตอนนี้เขายังไม่รีบร้อน ตรงกันข้าม เขาค่อนข้างชอบความรู้สึกนี้ เขาเป็นเหมือนคนที่ได้รับดาบล้ำค่า ส่วนเทียนโชและเจี้ยงเฉินเป็นสัตว์ที่รอการฆ่า

เป็นเรื่องน่าสงสารที่สัตว์ทั้งสองยังคงปากแข็งปฏิเสธที่จะร้องไห้ออกมาด้วยความทุกข์ทรมานแม้ในขณะนี้  สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกรำคาญใจ

ดังนั้นเขาจึงใช้คำพูดเพื่อกระตุ้นเจี้ยงเฉินอยู่เรื่อย ๆ

"เจี้ยงเฉิน ข้าได้ยินมาว่าเจ้ามีหญิงงามเป็นลูกน้อง ข้าจะดูแลพวกเขาให้เจ้าหลังจากที่เจ้าตกตาย มีคนบอกว่าเจ้ามีลูกน้องชายหลายคนด้วย ฮ่า ฮ่า ราชอาณาจักรนภาจันทร์ของเรามีตลาดทาส มันจะเหมือนกับการนำขยะมาใช้ให้เป็นประโยชน์เมื่อข้าขายพวกเขาในภายหลัง "

"และเจ้า เทียนโช ข้าได้ยินมาว่าเจ้ามีลูกสาววัย 8 ขวบ? และภรรยาที่สวยงามมาก? เป็นเช่นนั้นหรือไม่? "

ดวงตาดุจดั่งเสือของเทียนโชวูบวาบขณะที่เขากรรโชก "จอมวายร้ายไร้ยางอาย! สวรรค์มองดูการกระทำของมนุษย์ หลู่วูจิ เจ้าใช้ประโยชน์จากอำนาจของตัวเองในการกลั่นแกล้งคนอื่น เจ้าไม่เคารพกฎหมายเลย สวรรค์จะจัดการกับเจ้า ไม่ช้าก็เร็ว! "

"สวรรค์รึ? ฮ่าฮ่า สวรรค์ อยู่ที่นี่มันสำคัญอะไรกัน? สวรรค์คือที่สองและแผ่นดินคือที่สาม ส่วนข้า หลู่วูจิ เป็นเจ้านาย! "

เจี้ยงเฉินนั่งขัดสมาธิและไม่ได้พูดอะไรสักคำ. เมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านี้ จู่ ๆ ดวงตาของเขาก็จ้องมองและยิงลำแสงที่สยดสยองอันเยือกเย็นออกมา "หลู่วูจิ การลงโทษของสวรรค์นั้นช้าแต่มันมีจริง เจ้าเกลียดชังสวรรค์และดูหมิ่นกฎหมาย สวรรค์จะต้องลงโทษเจ้า "

ในฐานะที่เป็นลูกชายของจักรพรรดิสวรรค์ในชีวิตที่ผ่านมา สิ่งที่เจี้ยงเฉินไม่อาจทนฟังได้คือถ้อยคำที่โง่เขลาดูหมิ่นสวรรค์และโลก

"สวรรค์จะต้องลงโทษข้าหรือ ?" หลู่วูจิหัวเราะลั่น. "แม้ว่าจะมีวันดังกล่าวอยู่ ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่สามารถเห็นมันได้ ให้ข้าบอกเจ้าว่าสวรรค์เป็นอย่างไร การมีชีวิตอยู่คือสวรรค์ การตายคือการเป็นผี เจี้ยงเฉิน เจ้าจะเป็นผีเร็ว ๆ นี้ เทพเจ้าแห่งความตายจะมาหาเจ้าเร็ว ๆ นี้ ".

เจี้ยงเฉินยิ้มเฉยๆ "เทพเจ้าแห่งความตาย? พูดได้ดี วันนึงเมื่อพวกเขามาหาเจ้า อย่าลืมฝากคำทักทายของข้าด้วยล่ะ "

หลู่วูจิทำหน้าโหดเหี้ยม. "เจ้าเด็กโง่ เจ้ากำลังเผชิญกับความตายและเจ้ายังคงปากแข็ง"

มีเสียงฝีเท้าจากภายนอกในขณะนี้ เป็นคนที่หลู่วูจิส่งไปเพื่อขอให้ปลดตำแหน่งเทียนโชก่อนหน้านี้ เขาเดินเข้ามาพร้อมกับเสียงฝีเท้ารีบเร่ง และมีคำสั่งถอดถอนตำแหน่งในมือ

หลู่วูจิยินดีและจับมันไว้ในมือ "เทียนโช เปิดตาโง่ ๆ ของเจ้าและดูมันให้ดี คำสั่งถอดถอนตำแหน่งอยู่ที่นี่ จากนี้ไป เจ้าจะไม่ได้เป็นผู้บัญชาการของหน่วยเขี้ยวมังกรอีกต่อไป เอาตราผู้บัญชาการออกจากไหล่ของเจ้า ถอดชุดเครื่องแบบของหน่วยเขี้ยวมังกรซะ และอย่าต่อต้านการจับกุม! ".

เทียนโชส่ายหน้าและร้องไห้ออกมาว่า "สวรรค์ ทำไมท่านถึงอยุติธรรม ทำไมถึงปล่อยให้ไอ้จอมวายร้ายมีอำนาจ? ข้า เทียนโช ผู้แน่วแน่และไม่แข็งข้อ ข้าจะถูกดูถูกโดยคนชั่วช้าเช่นนี้ในวันนี้รึ! "

ในทางตรงกันข้าม เจี้ยงเฉินพูดเบา ๆ ว่า "ผู้บัญชาการเทียน กฎธรรมชาติเป็นที่แจ้งประจักษ์ และชัยชนะหรือการพ่ายแพ้ยังไม่ได้ถูกตัดสินในตอนนี้ มานี่และเราจะสู้หรือหนีไปด้วยกัน ".

จริง ๆ แล้วคุกมืดนี้ไม่สามารถกักขังเจี้ยงเฉินไว้ได้เลย

ด้วยระดับการฝึกอบรมที่แท้จริงของเจี้ยงเฉิน เขาสามารถป้องกันตัวเองได้แม้ว่าเขาจะได้ปะทะกับหลิวเคียนที่มีระดับแรกของอาณาจักรแห่งปราณจิต

แม้ว่าหน่วยเขี้ยวมังกรเหล่านี้เป็นกองทัพของพวกหมาป่าและเสือ พวกมันมีเพียงระดับลมปราณฉี

ถ้าเขาอยากจะกลายเป็นศัตรู เขามีโอกาสแปดในสิบส่วนที่จะแหกคุก.

หลู่วูจิหัวเราะอย่างเย็นชา"สัตว์ในกรงกำลังตะเกียกตะกายเฮือกสุดท้าย? เจี้ยงเฉิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าสิ่งที่ข้าชื่นชอบมากที่สุดคือการมองเหยื่อที่ต่อสู้หนีตาย? "

เจี้ยงเฉินหัวเราะเสียงดัง "หลู่วูจิ ข้าไม่รู้ว่าว่ากำลังต่อสู้หนีตายหรือไม่ สิ่งหนึ่งที่ข้าแน่ใจก็คือ ข้า เจี้ยงเฉิน แน่นอนว่าจะไม่ตายก่อนเจ้า "

"ฝันกลางวันของคนงี่เง่า" หลู่วูจิทำหน้าบูดบึ้งและหัวเราะออกมาอย่างฉับพลัน "ฆ่า ด้วยอำนาจอันชอบธรรม จำเลยกระทำผิดซ้ำ เจี้ยงเฉินพยายามที่จะแหกคุก!"

หลู่วูจิเป็นคนไร้ความปรานี เขาต้องการให้เจี้ยงเฉินตายและเขาก็ไม่อยากรอจนกว่าจะถึงที่สุดในการพิจารณาคดี เขาต้องการให้เจี้ยงเฉินตายตอนนี้

ดังนั้นการแหกคุกเป็นข้อแก้ตัวที่ดีที่สุด

การโจมตีนักโทษแหกคุกถือเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล ไม่มีใครสามารถต่อว่าเขาได้ หลู่วูจิเป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้และเขาก็ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

ฆ่ามัน!”

หน่วยเขี้ยวมังกรที่หลู่วูจิได้นำตัวมาทำหน้าที่เหมือนหมาป่าและเสือ

"หยุดเดี๋ยวนี้!"

เสียงคำรามอันดุดันและน่าตกใจกระหน่ำดังมาจากนอกคุกมืดในช่วงเวลาสำคัญนี้ "ทุกคน หยุด! เจ้าพวกสวะ พวกเจ้าอยากตายงั้นรึ!? "

เสียงดังเหมือนพายุฝนฟ้าคะนองพุ่งออกมาจากท้องฟ้าสีครามสะท้อนไปทั่วทั้งคุกมืด ดังสั่นสะเทือนจนทำให้หน่วยเขี้ยวมังกรถึงกับหูอื้อ สวรรค์และแผ่นดินสั่นสะเทือนและพวกเขาแทบจะไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้. พวกเขาโอนเอนไปมาไม่สามารถถืออาวุธไว้ในมือได้

ในชั่วพริบตาต่อมา บุคคลสำคัญอันดับสองของหน่วยเขี้ยวมังกร รองจอมทัพซูคึนได้เข้ามาพร้อมกับกลุ่มทหารชั้นสูง

หัวใจที่กระโจนขึ้นมาถึงลำคอของซูคึนกลับลงไปที่หน้าอกทันทีที่เขาเห็นว่าไม่มีเนื้อและเลือดกระจัดกระจาย

โชคดีที่ภัยพิบัติได้รับการแก้ไข ยังมีเวลาที่จะกอบกู้ทุกสิ่งทุกอย่าง!

Back  /  Next

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.