spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ความรู้สึกของอันตรายที่พวกเขาไม่เคยมีมาก่อนตอนนี้กำลังวางอยู่บนศีรษะของหน่วยเขี้ยวมังกร
เมื่อเห็นว่ารองจอมทัพซูและรองจอมทัพฉีกำลังจะพูดแต่แล้วลังเลใจ เช็นกังยี่ก็โบกมือ "ลืมมันไปเถอะ อย่าพูดอะไรเลยตอนนี้ เนื่องจากเรื่องนี้เกิดขึ้นแล้ว มันจะต้องมีเหตุผล สิ่งเดียวที่เราสามารถทำได้คือการกำหนดวิธีการควบคุมที่เหมาะสมสำหรับความเสียหายและยอมเสียเกียรติของเราเพื่อสอบถามถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น "
"แม้ว่าเราต้องตาย อย่างน้อยเราต้องรู้ว่าทำไม"
"นี่เป็นวิธีเดียวที่เราจะดำเนินการต่อไป".
เช็นกังยี่พยักหน้า "ข้ามีความสัมพันธ์กับผู้อาวุโสเฟย ข้าจะไปเยี่ยมเขาเอง ผู้อาวุโสฉี เจ้าไปเข้าพบผู้อาวุโสหนิง โปรดจำไว้ว่าอย่านอบน้อมจนเกินไป แต่ก็อย่าถึงขั้นวางโตเช่นกัน อย่างน้อยเราต้องเข้าใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ ถ้าเป็นความผิดของเรา เราจะรับผิดชอบ ถ้าไม่ใช่ความผิดของเรา เราก็ไม่จำเป็นต้องประนีประนอมเพื่อประโยชน์โดยทั่วไป เข้าใจมั้ย?”
เมื่อพูดเสร็จ เช็นกังยี่ก็หันไปมองรองจอมทัพซู "ผู้อาวุโสซู อารมณ์ของชีเซี่ยวหยาวนั้นแปลกประหลาด ท่านต้องใช้ความอดทนสูงสักหน่อย"
ซูคึนพยักหน้า "ข้าอายุมากแล้วข้าคงไม่ไปถกเถียงกับเขาหรอก ถ้ามันเป็นความผิดของหน่วยเขี้ยวมังกร เราจะแบกรับความรับผิดชอบ หากพวกเขาต้องการที่จะปราบปรามพวกเรา หน่วยเขี้ยวมังกรไม่ใช่เป้านิ่งสำหรับพวกเขา "
"เอาล่ะ เรื่องนี้ไม่ควรจะล่าช้า ดังนั้นเราควรแยกย้ายกันออกไปทำงาน" เช็นกังยี่ออกคำสั่ง
….
ฉีเทียนนานยืนอยู่ที่หน้าประตูสวนของผู้อาวุโสหนิงเกือบ 2 เค่อ ก็มีเสียงฝีเท้าจากภายในดังขึ้น "รองจอมทัพฉี ขอโทษด้วยที่ทำให้ท่านต้องรอ ก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสกำลังนอนหลับสนิทและไม่มีใครกล้ารบกวนนาง ตอนนี้นางตื่นแล้วและรู้สึกเสียใจที่ทำให้รองจอมทัพฉีต้องรออยู่ข้างนอกนี้ถึง 2 เค่อ นางได้ว่ากล่าวข้าน้อยแล้วที่ทำเช่นนั้น กรุณาเข้ามาข้างในขอรับ "
แม้ว่าเซี่ยวไป๋ฉียังไม่ได้ทำให้ผู้อาวุโสหนิงสมปรารถนา แต่ผู้อาวุโสหนิงได้สนับสนุนเขาในฐานะผู้ช่วยที่มีอำนาจมากที่สุดในขณะนี้
ฉีเทียนนานใช้สายตาเล็งไปเซี่ยวไป๋ฉีและคิดว่าถึงแม้ชายคนนี้จะดูไม่คุ้นเคย และเขาไม่เคยเห็นเขามาก่อน แต่เขาก็ไม่มีเวลาที่จะคิดมากเรื่องนี้
"ท่านจอมทัพฉี ลูกน้องของข้าไม่ได้เรื่องและทำให้ท่านต้องรอ" ผู้อาวุโสหนิงค่อนข้างสุภาพและเป็นกันเอง เสียงของนางฟังดูเกียจคร้านจากการตื่นนอน
"โอ้ ไม่เลย ข้า ผู้อาวุโสฉี ไม่ได้มีตั้งใจที่จะรบกวนการนอนหลับอันหวานชื่นของผู้อาวุโสหนิง การรบกวนความฝันอันแสนหวานเป็นการรุกล้ำอันหยาบคาย "
"ฮ่า ฮ่า รองจอมทัพฉียังชอบเอาอกเอาใจมิเคยเปลี่ยน " ผู้อาวุโสหนิงกล่าวด้วยรอยยิ้มขณะที่มือเรียวเล็กของนางกำลังโบกพัดกำมะหยี่ที่นางถืออยู่
"ผู้อาวุโสหนิง ข้า ผู้อาวุโสฉี จะไม่มารบกวนหากข้าไม่มีเรื่องจะรบกวนถามท่าน ข้าขอถามอะไรท่านสักอย่าง ข้า ผู้อาวุโสฉี ได้ทำให้วิหารทักษิณครามสวรรค์ขุ่นข้องหมองใจกระนั้นรึ? "
"เรื่องขุ่นข้องหมองใจ ท่านกำลังพูดถึงอะไร ? " ดวงตาที่มีเสน่ห์ของผู้อาวุโสหนิงกว้างขึ้นอย่างไร้เดียงสา "รองจอมทัพฉีและข้ามีความสัมพันธ์ที่ยาวนานหลายปี และวิธีการที่ท่านรวบรวมและจัดการกับเรื่องต่าง ๆ ได้เป็นแบบอย่างที่ดีเสมอ"
ถ้าอย่างนั้นงั้น.... ฉีเทียนนานรู้สึกท้อแท้ "แต่เราต้องการการจัดส่งสินค้าจริง ๆ และการเรียกคืนเงินที่เราเป็นหนี้ท่านในวันพรุ่งนี้นั่นคือจริง ๆ. ... "
ผู้อาวุโสหนิงส่ายศีรษะ "ข้ายินดีที่จะช่วย แต่ไม่สามารถทำได้ในเรื่องนี้"
เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสหนิงกลายเป็นปฏิปักษ์แล้ว ฉีเทียนนานก็เข้าใจได้ว่าเขาได้ทำบางอย่างให้นางไม่พอใจ
"ผู้อาวุโสหนิง ท่านรู้ว่าข้า อาวุโสฉีเป็นคนยังไง กรุณาพูดอย่างตรงไปตรงมา ข้าได้กระทำสิ่งใดให้ท่านต้องขุ่นข้องหมองใจ? ถ้าเช่นนั้น ข้า ผู้อาวุโสฉี ยินดีที่จะขอโทษสำหรับการกระทำผิดของข้า แม้ว่าเราจะไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้อีกต่อไป แต่ความเมตตาและความยุติธรรมยังคงมีอยู่ ข้า ผู้อาวุโสฉีชื่นชมผู้อาวุโสหนิงเสมอมา "
"ท่านต้องการให้ข้าพูดอย่างตรงไปตรงมาจริง ๆ รึ?" ผู้อาวุโสหนิงถามอย่างไม่แยแส
"ได้โปรด ข้ารอที่จะฟังความอยู่"
"รองจอมทัพฉี ที่ท่านพูดมาถูกแล้ว แม้ว่าเราจะไม่สามารถทำธุรกิจต่อไปได้ แต่ความสัมพันธ์ของเรายังคงมีอยู่ อย่างไรก็ตาม ข้าได้ค้นพบว่าหน่วยเขี้ยวมังกรของท่านไร้ซึ่งน้ำใจหรือความยุติธรรมเลย ข้ามีสหายที่ถูกปล้นบนถนนและเขาได้ฆ่าโจรโดยไม่เจตนาเพื่อปกป้องตัวเอง หน่วยเขี้ยวมังกรโยนเขาเข้าไปในคุกมืดโดยปราศจากความคิด ข้าเขียนสาสน์ในนามของสหายของข้า แต่มันกลับถูกฉีกขาดและข้าต้องอับอายขายหน้า เกี่ยวกับตัวข้า ข้าเป็นเพียงผู้อาวุโสของวิหารทักษิณครามสวรรค์ ข้าไม่มีสิทธิ์ที่จะสอบถามคดีที่หน่วยเขี้ยวมังกรเป็นคนจัดการ”
ยิ่งนางพูดนางก็เริ่มโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ "ข้าต้องการจะถาม นี่คือวิธีที่หน่วยเขี้ยวมังกรจัดการกับคดีความงั้นรึ? การป้องกันตัวเองที่เป็นธรรมกลายเป็นเรื่องฆาตกรรมและส่งผลให้เกิดการกักขังในคุกมืด เอาล่ะ เพราะสมองของข้าไม่สามารถเข้าเหตุผลของท่าน และคำวิงวอนของข้าก็ไม่มีประโยชน์อะไร นี่เป็นเรื่องง่าย ข้าไม่สนใจเรื่องนี้ หน่วยเขี้ยวมังกรก็อย่าได้มาร้องขอข้า ถ้าเราจะต้องแตกหักกัน เราก็ต่างคนต่างเดินในอนาคต! "
"อะไรนะ?" ฉีเทียนนานไม่ได้เป็นคนใจเย็นอีกต่อไป เขาเบิกตาขึ้น "เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริง ๆ รึ?"
เซี่ยวไป๋ฉีใส่ไฟเพิ่มให้ลุกโชน "ท่านคิดว่าผู้อาวุโสหนิงจะกล่าวหาว่าท่านลอย ๆ โดยไม่มีเหตุผลอย่างนั้นหรือ? ชายแซ่หลู่ไม่เพียงแต่ฉีกสาสน์ของผู้อาวุโส แต่เขายังทำให้ผู้อาวุโสของข้าต้องอับอาย รองจอมทัพฉี หากเป็นศิษย์ของวิหารทักษิณครามสวรรค์ของข้าที่โง่เขลาเบาปัญญา ท่านจะรู้สึกสบายใจขึ้นไหม? "
"แซ่หลู่รึ? หลู่วูจิงั้นรึ? " ฉีเทียนนานคิดถึงใครบางคนขึ้นทันทีและดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างในขณะนั้น หลู่วูจิ เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องกฎหมายและกฎระเบียบ ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับคนอื่น ฉีเทียนนานอาจจะไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่ แต่มันเกี่ยวข้องกับหลู่วูจิ เขาเลยค่อนข้างมั่นใจเจ็ดถึงแปดส่วนว่าเป็นเรื่องจริง.
หลู่วูจิเป็นที่รู้จักในหน่วยเขี้ยวมังกรว่าชอบข่มเหงผู้อื่น เนื่องจากลุงของเขาเป็นหนึ่งในรองจอมทัพของหน่วยเขี้ยวมังกร
"ข้าไม่รู้ว่าเขามีนามว่าอะไร แค่ว่าหน่วยเขี้ยวมังกรเรียกเขาว่าแม่ทัพหลู่ ชื่อของเขาคือหลู่วูจิหรือ? เขาเป็นเหมือนชื่อของเขา วิ่งอย่างป่าเถื่อนและอาละวาด " เซี่ยวไป๋ฉีเยาะเย้ยอย่างไร้ความปราณี
ฉีเทียนนานรู้สึกว่ามันยากที่จะนั่งนิ่ง ๆ ถ้าเรื่องนี้เป็นอย่างที่เขาพรรณนา หน่วยเขี้ยวมังกรทำตัวไม่สุภาพเกินไป.
ตามกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องมีการลงโทษใด ๆ สำหรับการฆ่าคนเพื่อการป้องกันตนเองที่ชอบธรรม
เมื่อการป้องกันตัวเองได้รับการปฏิบัติเป็นกรณีฆาตกรรมและถูกโยนเข้าไปในคุกมืด นี่เป็นความผิดพลาดที่เลวร้าย
ผู้อาวุโสหนิงได้ส่งสาสน์ไปให้เขาและไม่เพียงแต่หลู่วูฉีฉีกมันเป็นชิ้น ๆ แต่เขาก็ยังได้กล่าวอย่างไม่สุภาพว่าผู้อาวุโสหนิงเป็นผู้หญิงและเป็นเหตุให้นางอ่อนไหวและเห็นแก่ประโยชน์ของตัวเอง! ถ้าเป็นเขา ฉีเทียนนาน แทนที่นาง เขาเองก็คงไม่อาจจะยอมรับเรื่องนี้ได้
ผู้อาวุโสที่สูงศักดิ์ถูกทำให้อับอายเช่นนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมนางจึงโกรธมาก
"ผู้อาวุโสหนิง ข้าจะกลับไปสอบสวนเรื่องนี้ทันที ถ้าหลู่วูจิต่ำช้าเช่นนี้แล้ว ท่านจอมทัพก็จะมีคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ท่านจะให้เวลาข้าสักครึ่งวันได้หรือไม่? "
ผู้อาวุโสหนิงยกมือเรียวขึ้นปิดปาก "ข้าหลับไปสักพักแล้ว แต่ทำไมข้าถึงยังรู้สึกเหนื่อย?"
ฉีเทียนนานรีบลุกขึ้นยืน "ข้าขอตัวกลับก่อน เราจะทำให้แน่ใจว่าผู้อาวุโสหนิงได้รับการตอบสนองที่น่าพอใจสำหรับเรื่องนี้ภายในเวลาไม่กี่วัน "
…
วิหารหมื่นสมบัติ สวนของชีเซี่ยวหยาว
"ผู้อาวุโสซู ถ้าไม่ใช่เพราะท่านอาวุโส ข้าจะไม่ยอมให้ท่านดื่มสุราของข้าในวันนี้" ชีเซี่ยวหยาวคับแค้นใจมากและพูดพลางกัดฟัน
ซูคึนทำได้แค่เพียงทำหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส "อาวุโสชี อะไรที่ทำให้ท่านโกรธมากเพียงนี้? เราทั้งสองมีความสัมพันธ์กันด้วยดีเสมอมา “ทำไม....อย่างนั้นเหรอ!?.
"ทำไม?" ชีเซี่ยวหยาวหัวเราะเยือกเย็น "อาวุโสซู ท่านก็ใช้ชีวิตมานานแล้ว ถ้าหนึ่งในศิษย์ของวิหารของข้าตบหน้าท่าน ท่านจะคิดยังไง? "
"ตบหน้าข้าเหรอ?" ซูคึนงงงวย
"อย่ามาแกล้งโง่เลย หน่วยเขี้ยวมังกรมีความสามารถบางอย่างใช่มั้ย ? คว้าอำนาจทางทหารไว้ในมือของตนวิ่งไปรอบ ๆ อย่างบ้าคลั่ง ไม่เคารพแม้แต่กับองค์ราชา พวกเจ้าจับกุมและฆ่าคนที่ต้องการ พวกเจ้าตัดสินคดีตามอำเภอใจตัวเอง พวกเจ้าคิดว่าตัวเองเป็นกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในราชอาณาจักร"
ยิ่งได้ฟังมากเท่าไหร่ ซูคึนก็มีเหงื่อเย็นไหลท่วมตัวมากขึ้น คำพูดของชีเซี่ยวหยาวเป็นถ้อยคำที่เย็นชาและการเสียดสี นี่หมายถึงอะไร?. นั่นหมายความว่าภายในตัวเขามีไฟโกรธที่ร้อนระอุ
"อาวุโสชี ได้โปรดอย่าได้อ้อมค้อม การฆ่าคนแน่นอนว่ามันต้องเป็นไปตามกฎ พี่ชาย ข้ามาด้วยความจริงใจมากในเพื่อทำความเข้าใจกับสถานการณ์ มีทหารไร้สมองของข้าคนใดที่ทำให้ท่านไม่พอใจหรือไม่ ? เพียงแค่บอกข้าและข้าจะจัดการลงโทษเขาอย่างเหมาะสมเมื่อข้ากลับไป"
“เฆี่ยนรึ? ลงโทษรึ? ข้าจะกล้าได้อย่างไร? ข้าจะกล้าถามเรื่องของหน่วยเขี้ยวมังกรได้อย่างไรกัน? ข้าจะกล้าเข้าไปสาระแนแทรกแซงได้อย่างไร? ข้าอาจถูกโยนเข้าไปในคุกมืดแทนก็เป็นได้ " ชีเซี่ยวหยาวขยายเรื่องให้เกินจริง
ซูคึนพยายามรวบรวมความหมายจากทั้งหมดที่เขาได้ยิน ดูเหมือนว่าลูกน้องคนหนึ่งของหน่วยเขี้ยวมังกรได้กระทำการไร้ความปราณีและทำให้ชีเซี่ยวหยาวเดือดดาล
"อาวุโสชี โปรดพูดตรง ๆ ไอ้หน้าโง่คนใดที่ทำให้ท่านขุ่นเคืองใจ ? ข้าจะลากเขามาหาท่าน และถ้ามันเป็นความผิดของเขา หากท่านต้องการ ท่านก็สามารถเฆี่ยนหรือฆ่าเขาได้ "
"เฆี่ยนหรือฆ่าเขา? อาวุโสซู ท่านคิดว่าข้าเป็นหนึ่งในหน่วยเขี้ยวมังกรของท่านหรือ? ข้าไม่มีอำนาจและศักดิ์ศรี ตัวแทนที่ข้าส่งไปเกือบจะถูกสังหารโดยหน่วยเขี้ยวมังกร "
แม้จะดูเหมือนว่าชีเซี่ยวหยาวตีและสาปแช่งคนของเขาตามอำเภอใจ เขามักจะเมตตาพวกเขาในบางกรณี เฟิงหยางคือคนที่เขาส่งไปและเป็นตัวแทนศักดิ์ศรีของชีเซี่ยวหยาว
หลู่วูจิเกือบทุบตีเฟิงหยาง - นี่คือการตบหน้าชีเซี่ยวหยาวอย่างไม่ต้องสงสัย
"ท่านอาวุโสซู ในฐานะที่ข้าเป็นเพียงศิษย์ ข้าไม่มีสิทธิ์พูด ถึงอย่างนั้นก็เถอะ หลู่วูจิหนึ่งในทหารหน่วยเขี้ยวมังกรของท่านทำตัวอุกอาจมากเกินไปแล้ว เขาไม่ได้มองไปที่หลักฐานเลยเมื่อเขาจัดการคดี และบิดเบือนการป้องกันตัวเองที่ถูกต้องให้กลายเป็นคดีฆาตกรรม ในฐานะผู้เห็นเหตุการณ์ ข้าถูกนับได้ว่าเป็นพยาน แต่เมื่อข้าไปคุยกับเขาตามคำสั่งของรองประมุขชี เขาเกือบทำร้ายข้า "
เฟิงหยางรู้สึกไม่พอใจและพูดต่อว่า "ถ้าท่านต้องการที่ทำร้ายข้า ข้าก็จะไม่โกรธเลย ข้าเป็นเพียงศิษย์กระจ้อยร่อย แต่เขากล้าพูดอย่างหยาบคายและบอกว่าไม่มีใครอาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้เมื่อหน่วยเขี้ยวมังกรจัดการคดีเพียงเพราะพวกเขาต้องการ นี่หมายความว่าผู้อาวุโสของเราก็ไม่สามารถแม้แต่จะไปหารือเรื่องนี้กับเขาได้หรือ ? เขาทำคดีที่เกี่ยวข้องกับสหายของผู้อาวุโสผิดพลาด และเราไม่สามารถแม้แต่จะถามหลังจากนั้นหรือ "
ในที่สุดซูคึนก็เข้าใจว่าประเด็นสำคัญของปัญหาคืออะไร หลู่วูจิ!
ซูคึนมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมกับชื่อนี้ เขายกจอกขึ้นมา "อาวุโสชี ข้าขอลงโทษตัวเองด้วยสุราจอกนี้ และขอโทษท่านล่วงหน้า ข้าจะกลับไปตรวจสอบเรื่องนี้ทันที ถ้าเรื่องนี้เป็นจริงอย่างที่ศิษย์ของท่านคนนี้พูด ข้าจะไม่นิ่งเฉย หน่วยเขี้ยวมังกรของข้าจะให้คำอธิบายที่น่าพอใจแก่ท่าน "
หัวใจของเรื่องนี้ ชีเซี่ยวหยาวยังคงจดจ่ออยู่กับศักดิ์ศรี ซูคึนไม่กล้าที่จะรอช้า เขารู้ว่าหลู่วูจิเป็นคนที่ไม่เคารพกฎหมาย ถ้าเขาใช้อำนาจในทางที่ผิดและทำให้คนตายในคุกมืด เรื่องนี้จะระเบิดชื่อเสียงของพวกเขาออกเป็นส่วน ๆ มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะคืนดีกับวิหารหมื่นสมบัติ แม้ว่าพวกเขาจะต้องการก็ตาม
…
ฉีเทียนนานและซูคึนนั้นโชคดีมาก เช็นกังยี่ได้รับการปฏิบัติที่เลวร้ายยิ่งกว่าพวกเขาเสียอีก ผู้อาวุโสพิลึกมีอารมณ์ที่เดือดดาลยิ่งกว่าชีเซี่ยวหยาว เช็นกังยี่ยังไม่ทันผ่านประตูห้องของเขา ผู้อาวุโสเฟยได้ให้ลูกน้องส่งผ่านข้อความไว้ "ถ้าผมของเจี้ยงเฉินร่วงแม้แต่เพียงเส้นเดียว เขาก็จะทำให้หน่วยเขี้ยวมังกรหมื่นคนหัวขาด !"
"เจี้ยงเฉิน?" เช็นกังยี่เคยถามถึงแต่คดีความสำคัญกับนายทหารของเขา และเขาก็ไม่ค่อยคุ้นเคยกับชื่อนี้เลยเมื่อเทียบกับเหล่าทหาร
ถึงกระนั้น ระดับปัจจุบันของเจี้ยงเฉินอยู่ในระดับต่ำเกินไปสำหรับเขา เขายังไม่ถึงระดับที่เช็นกังยี่จะกังวลกับตัวเอง
"เจี้ยงเฉิน? ชื่อนี้ฟังดูเหมือนจะคุ้น ๆ เขาเป็นญาติพี่น้องของอาวุโสเฟยหรืออะไร? โอ้ เป็นได้ว่าทหารของข้าจับตัวเจี้ยงเฉินคนนี้และ ... "
เมื่อคิดคำตอบได้เช็นกังยี่เริ่มวิตกกังวล