หน้าแรก > ราชันสามภพ
ตอนที่ 150

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

"ศิษย์เฟิงหยางทำความเคารพรองประมุขชี ศิษย์รู้สึกกลัวเพราะศิษย์ได้ขอเข้าพบคนที่อยู่เหนือระดับ ศิษย์ขอให้ท่านรองประมุขยกโทษให้ในเรื่องความไม่สุภาพของศิษย์ผู้นี้" เฟิงหยางรีบคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความหวาดกลัวเมื่อเดินเข้ามา,เขาได้แสดงถึงความถ่อมตน

เขารู้ดีว่ารองประมุขมีอารมณ์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ และเขาก็มีชื่อเสียงในเรื่องของนิสัยที่ไม่ค่อยเป็นมิตร เขากำลังเสี่ยงชีวิตตัวเองในการขอเข้าพบอย่างเป็นทางการครั้งนี้ ถ้าเขาทำให้รองประมุขหัวเสีย การใช้ชีวิตต่อไปคงไม่ใช่เรื่องง่ายเป็นแน่

"หยุดพร่ำเพ้อได้แล้ว ข้าไม่เชื่อ" ชีเซี่ยวหยาวสะบัดแขนเสื้อและยกตัวเฟิงหยางขึ้น "ยืนขึ้น และอธิบายให้ข้าฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับหอคอยสมปรารถนา ? ถ้าเจ้ากล้าที่จะหลอกลวงข้า ฮึ ฮึ เจ้าเชื่อไหมว่าข้าจะถลกหนังเจ้าทั้งเป็นและดึงเส้นเอ็นออก ตรงนี้และตอนนี้ ? "

นี่ไม่ใช่การขู่ การหลอกลวงรองประมุขนับว่าเป็นอาชญากรรมร้ายแรงและน่ารังเกียจ ถ้าเขาถูกฆ่าตายก็จะไม่มีแม้แต่งานศพ

ตำแหน่งของเฟิงหยางในวิหารหมื่นสมบัตินั้นไม่สูงนัก และเขาก็ไม่มีผู้สนับสนุน หากไม่เป็นเช่นนั้น เขาคงจะไม่ไปที่พื้นที่ทำธุรกรรมเพื่อทำธุรกิจ ศิษย์ทุกคนล้วนใฝ่ฝันที่จะทำให้ตัวเองมีชื่อเสียงในวิหาร

เป็นเรื่องจริงที่เฟิงหยางไม่มีสถานะและไม่มีผู้อุปถัมภ์ เขาชอบที่จะเสี่ยง เขาเชื่อว่าเงินนั้นมาจากอันตราย

เขาได้พูดคุยกับเจี้ยงเฉินส่วนหนึ่งเพราะมีความเห็นตรงกัน เขาต้องการที่จะมุ่งสู่อนาคตผ่านการปฏิสัมพันธ์กับเจี้ยงเฉิน

ชีเซี่ยวหยาวพูดไปแล้ว เฟิงหยางรู้ว่าเขาเป็นลูกธนูที่ถูกปล่อยออกจากคันธนูไปแล้ว และนั่นก็หมายความว่าเขาไม่มีทางหวนกลับไปได้แล้ว

เขาเพิ่มความกล้าหาญและพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า "นายท่าน ข้าน้อยได้พบกับบุคคลที่ไม่เหมือนใครในงานนิทรรศการของวิหารทักษิณครามสวรรค์ เขาได้ให้กระดาษม้วนนี้แก่ข้าเพื่อให้ข้ามอบมันให้กับท่าน เขากล่าวว่าให้กล่าวถึงหอคอยสมปรารถนาหากท่านปฎิเสธการเข้าพบ ศิษย์ได้รับการร้องขอจากผู้อื่นเพื่อทำสิ่งนี้ และศิษย์เองยังคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องน่าขัน แต่บุคคลนี้ได้นำโอสถอันล้ำค่าโอสถแห่งท้องทะเลลึกออกมาสำหรับเขาราวกับว่ามันไม่มีค่าอะไรเลย ทำให้ศิษย์ไม่สามารถที่จะเลิกสนใจเรื่องนี้ได้ "

"โอสถแห่งท้องทะเลลึก?" แม้แต่ชีเซี่ยวหยาวก็รู้สึกทึ่งกับเรื่องนี้ "ในราชอาณาจักรนภาจันทร์มีอะไรเช่นนี้จริงหรือ ?"

"ศิษย์มีความรู้เพียงเล็กน้อย และมันก็เป็นครั้งแรกที่ศิษย์ได้เห็นอะไรอย่างนั้น นั่นเป็นระดับสูงสุดของโอสถแห่งท้องทะเลลึก และสามารถฟื้นพลังลมปราณฉีได้เกือบเจ็ดในสิบส่วน"

ชีเซี่ยวหยาวโบกมือ "นี่ไม่นับว่าเป็นความรู้อันน้อยนิด ข้าใช้ชีวิตมายาวนานและไม่เคยเห็นโอสถเม็ดที่สามารถฟื้นฟูลมปราณฉีได้ถึงเจ็ดในสิบส่วนในด้านโอสถที่ใช้ฟื้นฟูพลังลมปราณฉี. เจ้าพูดมามันก็น่าฟังแต่ไม่ว่าโอสถแห่งท้องทะเลลึกนี้จะดีเพียงใดมันก็มีประโยชน์เฉพาะในอาณาจักรปราณแท้จริง มันยังคงมีค่าน้อยในอาณาจักรปราณจิตวิญญาณ "

"คำพูดของท่านประมุขมีเหตุผล" เฟิงหยางทำได้แค่คล้อยตามชีเซี่ยวหยาวเท่านั้น

"กระดาษม้วนรายการที่เจ้าพูดถึงอยู่ที่ไหน?" ชีเซี่ยวหยาวเริ่มสนใจ เขาได้ไปยังสถานที่นับไม่ถ้วนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เคยได้จิบสุราน้ำค้างเก้าแดนสรวงอีก

เขาไม่คิดว่าคนที่เฟิงหยางได้บังเอิญพบจะสามารถตอบสนองความต้องการของเขาได้

เฟิงหยางหยิบกระดาษม้วนออกมาและมอบมันให้กับประมุขอย่างสุภาพ

ชีเซี่ยวหยาวหยิบรายการขึ้นมา เขาเหลือบมองดูมัน เมื่อเขาเปิดออกคิ้วของเขาก็เลิกขึ้นเล็กน้อย

ขณะที่เขายังคงอ่านต่อไป เขายังคงขมวดคิ้วโดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อเขาอ่านถึงครึ่งหน้ากระดาษ ชีเซี่ยวหยาวก็ลุกพรวดขึ้นมาและยื่นมือออกไปคว้าคอเฟิงหยาง

"บอกข้ามาบัดเดี๋ยวนี้ว่าชายคนนี้อยู่ที่ไหน? เขาอยู่ที่ไหน? รีบพูดออกมา! "

การจู่โจมที่ไม่คาดคิดทำให้เฟิงหยางตกใจมาก เขาคิดว่าชีเซี่ยวหยาวต้องการฆ่าเขา

เมื่อเห็นว่าน้ำลายไหลออกจากปากของชีเซี่ยวหยาว เขารีบหาว่าเจี้ยงเฉินอยู่ไหน เฟิงหยางก็เข้าใจได้ชัดว่าบางทีอาจมีบางเรื่องที่ผิดปกติเกี่ยวกับรายการนี้

ชีเซี่ยวหยาวตระหนักว่าการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันและฉับพลันของเขาอาจทำให้เฟิงหยางกลัว เขารีบปล่อยมืออย่างลังเลและพึมพำว่า "อย่าขี้ขลาดนักสิ? ข้าสามารถจัดการเจ้าได้ด้วยการสะบัดนิ้ว หากข้าต้องการ ไม่เลวเลย เจ้ามีนามว่าเฟิงหยางใช่หรือไม่? ครั้งนี้เจ้าทำดีมาก ข้าจะทำให้เจ้าเป็นผู้จัดการหลังจากนี้ "

ราวกับว่าคำพูดสั้น ๆ ทำให้เฟิงหยางถูกไฟฟ้าดูด เขาถึงกับพูดไม่ออก ตอนที่รองประมุขชีบีบคอเขา เขาก็คิดว่าทุกอย่างจบสิ้นแล้ว ใครจะคิดว่าคำพูดถัดไปของเขาคือการมอบตำแหน่งผู้จัดการให้กับเขา?

การขึ้นลงของชีวิตเกิดขึ้นอย่างฉับพลันเสมอ

การมอบตำแหน่งของผู้จัดการให้แก่ศิษย์ธรรมดาในทันทีทันใดก็เท่ากับการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่า 3 ระดับ เช่น ปลาหลี่ฮื้อที่กำลังว่ายทวนน้ำขึ้นไปบนน้ำตกหวังจะกลายเป็นมังกร

"อะไรกัน? เจ้าตกใจจนไร้สติ หรือกำลังมีความสุข? " ชีเซี่ยวหยาวยกมือขึ้น เตรียมที่จะตบ

เฟิงหยางตื่นขึ้นอย่างกะทันหันขณะที่รีบพูด "เขา ... เขาถูกหน่วยเขี้ยวมังกรจับตัวไปขอรับ"

เจ้าพูดว่าอะไรนะ?     ชีเซี่ยวหยาวเตะเก้าอี้ข้าง ๆ ลอยออกไป "บ้าจริง ๆ ไอ้สวะตัวไหนกล้าทำเช่นนี้? เจ้าไม่ได้บอกพวกมันหรือว่าชายคนนี้มีความสัมพันธ์กับข้า? "

"ข้า ... ศิษย์ไม่กล้าพูดเช่นนั้น เกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเป็นคนหลอกลวง?. มันจะไม่เป็นการทำลายชื่อเสียงอันสูงส่งของท่านหรือ? " เฟิงหยางก็รู้สึกเสียใจมากในตอนนี้ ทำไมเขาถึงไม่ค่อยมีทัศนคติที่แข็งในตอนแรก และพูดอะไรออกไปสักอย่างเพื่อปกป้องเจี้ยงเฉิน?

ชีเซี่ยวหยาวกระโดดขึ้นยืนและสาปแช่งเสียงดัง "โง่เง่าไร้สาระ ! ไปเดี๋ยวนี้ ไปจัดการไอ้หน่วยเขี้ยวมังกร ! บอกให้พวกเขาปล่อยตัวชายคนนั้นทันที!

ประมุขของวิหารหมื่นสมบัติเป็นที่นับหน้าถือตาในราชอาณาจักรนภาจันทร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองหลวง คำพูดสั้น ๆ ของชีเซี่ยวหลาวก็เพียงพอที่จะส่งผลกระทบให้สั่นสะเทือนไปทั่วเมืองหลวง แม้กระทั่งแม่ทัพของหน่วยเขี้ยวมังกรยังให้เกียรติเขาเลย

เห็นได้ชัดว่าหน่วยเขี้ยวมังกรดูแลเฉพาะเรื่องของพระราชวงศ์ ขณะที่วิหารหมื่นสมบัติดูแลสิ่งต่าง ๆ ไว้สำหรับนิกายพฤกษาสวรรค์.

แม้ว่าราชอาณาจักรนภาจันทร์จะยิ่งใหญ่ แต่ก็ยังคงเป็นอาณาจักรที่ขึ้นอยู่กับนิกายพฤกษาสวรรค์ หากปราศจากการอุปถัมภ์ค้ำจุนของนิกายพฤกษาสวรรค์ คงไม่มีสิทธิ์ที่จะถูกรวมอยู่ในจำนวนอาณาจักรที่สำคัญที่สุดในกลุ่มอาณาจักรพันธมิตร 16 แห่ง.

เมื่อได้รับคำสั่งของชีเซี่ยวหยาว เฟิงหยางก็มั่นใจอย่างมาก เขารู้ว่านี่เป็นโอกาส ถ้าเขาสามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้อย่างเหมาะสม ตำแหน่งผู้จัดการอาจเป็นจริงได้ ต้องขอบคุณเจี้ยงเฉิน

"ศิษย์จะไปเดี๋ยวนี้ และถ่ายทอดคำพูดของท่าน"

"ไสหัวไปตอนนี้เลย !"

แม้ว่าเขาจะถูกด่าตลอด แต่ใจของเฟิงหยางก็หวานราวกับว่าเขาเมาน้ำผึ้ง เขารู้ว่าหลังจากที่เขาได้รอคอยมาเป็นเวลาหลายปี เขาก็เห็นโอกาสส่องประกายมา

"เจี้ยงเฉินเขียนอะไรในรายการนี้กัน? เหตุใดจึงเหมือนกับว่ารองประมุขเห็นโอสถชีวาอมตะเมื่อเขาอ่านมัน? " แม้ว่าเฟิงหยางอยากรู้อยากเห็น แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะถามคำถามมากเกินไป เขารู้ดีว่าเขาควรทำให้งานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จสิ้น เขาไม่ควรถามเกี่ยวกับเรื่องที่เขาไม่ควรรู้

เมืองหลวง หนึ่งในฐานที่มั่นของหุบเขาชิงหยาง

"เด็กโง่ เจ้าควรจะดูให้ดีว่าที่นี่ที่ไหน ถ้าเจ้าอยากสร้างปัญหา ดินแดนแห่งหุบเขาชิงหยางไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าจะทำอะไรได้ตามใจชอบ " ศิษย์แห่งหุบเขาชิงหยางกล่าวด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย

"หยุดไร้สาระ ข้าจะพูดอีกครั้ง ข้ามาที่นี่เพื่อส่งข้อความ " หยูตงทำหน้าผากย่น

"ทำไมเจ้าไม่หยุดล้อเล่นและมองตัวเองในกระจก คนอย่างเจ้านะหรือส่งข้อความถึงผู้อาวุโสเฟย? เจ้ารู้มั้ยว่าผู้อาวุโสเฟยเป็นใคร? เขาเป็นอาจารย์ใหญ่ของวิหารชิงหยาง เขาไม่ใช่คนที่เจ้าอยากจะเจอแล้วสามารถเจอได้ทันที? "

หยูตงผวา พวกเขารู้ว่าชายชราคนแปลกหน้าที่เป็นผู้บริหารอาวุโสในวิหารชิงหยาง แต่พวกเขาไม่เคยคิดว่าเขาจะเป็นอาจารย์ใหญ่!

ตอนนี้เอง เว่ยซูฉีได้ทักทายอย่างสุภาพ "พี่ใหญ่ เรามาที่นี่เพื่อส่งข้อความให้กับผู้อาวุโสเฟย เราจะทำให้ท่านเชื่อเราได้อย่างไร? "

"เราจะเชื่อเจ้าได้อย่างไร?" เสียงของศิษย์คนนั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นว่าเว่ยซูฉีทั้งงดงามและอ่อนโยน "เขาเพิ่งพูดไปว่าพวกเจ้าทุกคนได้ผ่านหุบเขาชิงหยางก่อนหน้านี้และได้พูดคุยกับผู้อาวุโสเฟย พวกเจ้าเป็นใครกันถึงได้กล้าพูดล้อเล่น? ชาวต่างถิ่นต้องเป็นทาสโอสถเป็นเวลา 20 ปีเมื่อเข้าสู่หุบเขา นั่นคือกฎ. แต่ข้าเห็นว่าพวกเจ้าไม่มีใครที่อายุถึง 20 ปี? "

เว่ยซูฉียิ้มเศร้า ๆ ไม่น่าแปลกใจที่คนอื่นไม่เชื่อ นั่นคือกฎ!.

พวกเขาไม่สามารถโทษเขาได้ ไม่มีใครอายุเกิน 20 ปี ไม่มีใครจะเชื่อพวกเขา หากพวกเขาบอกว่าพวกเขาเคยเป็นทาสโอสถเป็นเวลา 20 ปีแล้ว

"พี่ใหญ่ นายน้อยของข้าไม่ใช่คนธรรมดา เขามีข้อตกลงกับผู้อาวุโสเฟย นอกจากนี้ผู้อาวุโสเฟยยังมีเด็กชายสองคนที่ชื่อว่าดื้อใหญ่และดื้อรอง นี่เป็นความจริงใช่ไหม ? "

"เจ้ารู้จักดื้อใหญ่และดื้อรอง?" ศิษย์คนนั้นตกใจ ดื้อใหญ่กับดื้อรองอยู่ในหุบเขาตลอดเวลาและไม่เคยออกไปข้างนอก คนที่ไม่เคยเข้ามาในหุบเขาจะไม่รู้จักพวกเขา กลุ่มคนกลุ่มนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้อาวุโสเฟยจริงหรือไม่?

เมื่อเห็นว่าเขาลังเล เว่ยซูฉียิ้มเล็กน้อย "ข้ายังรู้ด้วยว่าผู้อาวุโสเฟยได้พยายามตามหาหญ้าชะตาลี้ลับมาตลอดหลายปีแล้ว นี่ก็เป็นความจริงใช่ไหม? "

"ให้ตายสิ?" เขาเริ่มขวัญหนีดีฝ่อ "เจ้ารู้เรื่องนี้ด้วยรึ"

"เราไม่เพียงแต่รู้เรื่องนี้ แต่เรายังรู้ด้วยว่าผู้อาวุโสเฟยต้องการที่จะไปกลั่นเป็นโอสถกล่อมจิตอัศจรรย์ เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่หญ้าชะตาลี้ลับนั้นหายาก ผู้อาวุโสเฟยเลยยังเศร้าใจจนถึงทุกวันนี้ "

"นี่ ... นี่ ... นี่พวกเจ้า ... "

เซี่ยวชานเป็นคนใจร้อนและไม่สามารถทนได้อีกต่อไป. "นี่,นี่,นี่อะไรล่ะพูดมาสักทีสิ? เจ้าเป็นคนที่ไร้ประโยชน์มาก นายน้อยของเราบอกว่า ถ้าผู้อาวุโสเฟยยังคงคิดถึงสิ่งที่เขาต้องการอยู่ ก็ให้รีบสะบัดก้นเข้าเมืองหลวง ถ้าเขามาช้า เขาอาจต้องเสียน้ำตาไปตลอดชีวิต "

เซี่ยวชวนทุบโต๊ะและตะโกนเสียงดัง "เจ้าได้ยินมั้ย? รึต้องให้เราพูดซ้ำอีกรอบ? นายน้อยของข้าเป็นสหายของผู้อาวุโสเฟย ผู้อาวุโสของเจ้าคลานมาขอร้องนายน้อยของเรา อย่าได้คิดไปว่านายน้อยของเราเสนอหน้าเข้าไปหาผู้อาวุโสเฟย ไม่งั้นเจ้าจะโดนหมัดของข้า? "

พี่น้องทั้งสองคนนี้ท่าทางดูโกรธแค้น พวกเขาเดินออกไปทางประตูหลังจากได้พูดสิ่งที่อัดอั้น

ในฐานะหัวหน้า หยูตงได้แต่หัวเราะและยักไหล่ และพูดกับศิษย์ว่า "พี่น้อง 2 คนของข้าดูหยาบไปหน่อย แม้ว่าคำพูดของพวกเขาจะไม่ค่อยน่าฟังแต่พวกเขาพูดความจริง เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่สำคัญ ถ้าผู้อาวุโสเฟยต้องการสิ่งที่เขาใฝ่หา เขาจะต้องรีบเข้าไปในเมืองหลวงทันทีและบอกกับหน่วยเขี้ยวมังกรให้ปล่อยตัวนายน้อย "

"โปรดจำไว้ว่า ความล่าช้าทำให้เสียความสัมพันธ์ที่สำคัญ เจ้าจะไม่สามารถไถ่ตัวเองได้แม้ว่าเจ้าะมี 10 หัวก็ตาม " กุยจินถอนหายใจเบา ๆ และเดินสั่นศีรษะออกไป

สาวกของหุบเขาชิงหยางชะงักในขณะที่เขาเฝ้าดูกลุ่มวัยรุ่นต่างถิ่นเดินออกไป เขายืนอึ้งอยู่เป็นเวลานาน

เมื่อเขาพยายามเรียบเรียงลำดับความ ในที่สุดความรู้สึกของเขาเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด "เรื่องนี้ไม่ได้การ คนเหล่านี้รู้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องของผู้อาวุโสเฟย เรื่องที่พวกเขารู้ก็เป็นเรื่องจริง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับหน่วยเขี้ยวมังกร มันอาจเป็นไปได้ว่านายน้อยของพวกเขาทำผิดต่อหน่วยเขี้ยวมังกร และพวกเขากำลังรอให้ผู้อาวุโสเฟยไปช่วยเขา ?! "

"มันอาจเป็นได้ว่านายน้อยของพวกเขามีสิ่งที่ผู้อาวุโสเฟยต้องการ?".

"เรื่องนี้ไม่ได้การ เปิดใช้งานทักษะการส่งผ่าน1,000 ลี้ และขอให้ผู้อาวุโสเฟยเดินทางไปที่เมืองหลวงโดยเร็วที่สุด!"

เขตคุกมืดของหน่วยเขี้ยวมังกร

แม่ทัพหลู่กำลังเดือดดาล "เจ้าพวกโง่ กล้าที่จะแสร้งทำเป็นเห็นด้วยแต่ในใจคิดอีกอย่าง เจ้ากล้าให้เด็กคนนี้อยู่ในคุกเดี่ยว,ทั้ง ๆ ที่ข้าสั่งให้นำตัวมันไปไว้ในคุกมืดงั้นรึ? บัดซบ เจ้าคิดว่าข้าต้องการให้มันมาหาความสำราญในคุกมืดรึ? "

หน้าของพวกทหารหน่วยเขี้ยวมังกรทั้งหมดเหมือนขี้เถ้า พวกเขายืนก้มหน้ากลัวจนหัวหด

ผู้บัญชาการเทียนยืนหน้าซีดอยู่ด้านข้าง "แม่ทัพหลู่ ท่านอย่ามาพูดอ้อมค้อมเลย พวกเขาเป็นคนของข้า ข้าเป็นคนบังคับให้พวกเขาทำเช่นนั้น "

ผู้บัญชาการเทียนอาศัยชื่อเสียงตนในการปกป้องคนของเขา เขายืดอกเพื่อที่จะแบกความรับผิดชอบทั้งหมด ทำให้กองกำลังหน่วยเขี้ยวมังกรคนอื่น ๆ รู้สึกปลื้มปีติ

"เทียนโช ที่เจ้าพูดหมายความเช่นไร? ข้าเป็นแม่ทัพ แต่ไม่สามารถสั่งคนที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของท่านได้หรือ ?" น้ำเสียงของแม่ทัพหลู่แข็งกร้าว

"รองแม่ทัพหลู่ ข้าจำไม่ได้ว่าท่านเป็นหนึ่งในผู้บังคับบัญชาของข้า แม่ทัพของข้าใช้แซ่เคียว และรองแม่ทัพก็แซ่เฉิน ข้าไม่รู้ว่าทำไมรองแม่ทัพหลู่ถึงมาสั่งคนของข้า "

เทียนโชพูดอย่างสุขุม เขาไม่ได้ยโสและก็ไม่ได้หวั่นเกรงในอำนาจของแม่ทัพหลู่ แต่เขาโต้ตอบอย่างมีเหตุมีผล

Back  /  Next

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.